ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 299
ตอนที่ 299 ต้องดูสีหน้าเธอคนเดียว
ลั่วหานกลับถึงโรงพยาบาล เป็นเวลา ประชุมพอดี เหมือนการประชุมทุกครั้ง ลั่วหาน หยิบสมุดบันทึกการประชุม เข้าลิฟต์ไปกับ หมอคนอื่นๆ เพื่อเตรียมตัวไปห้องประชุม
แต่บรรยากาศวันนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ ผ่านมา
ก้าวขาออกจากออฟฟิศ หมอจ้าวกับ หมอเฉียนของแผนกผ่าตัดหัวใจเดินเข้ามา ทักทายอย่างกระตือรือร้น
หมอจ้าวหัวเราะชอบใจ “หมอฉู่ คุณ ได้ยินเรื่องหัวหน้าเกาหรือยัง? คนเรานี่รู้หน้า ไม่รู้ใจจริงๆ”
“เห้อ เมื่อก่อนก่อนที่คุณมา หมอเล็ก หมอใหญ่ในโรงพยาบาลเรา พยาบาล ไม่ว่า ใครเห็นเธอก็เหมือนเห็นเทวดา ต่างต้อง ทักทายอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะพยาบาลที่ ร่วมงานกับเธอ ต่างก็กลัวจนปางตาย ตอนนี้ดี เลย…..คึกคักคึก
หมอเฉียนถือสมุดบันทึกไว้ พยักหน้า เห็นด้วย “ถ้าให้ฉันพูด จะร้ายจะดีก็มีที่มาที่ไป เมื่อก่อนเราไม่รู้เลยว่าหัวหน้าเกาเป็นคนแบบ นี้ นึกไม่ถึงเลย คุณหนูของตระกูลเกาแท้ๆ คน ร่ำรวยมีเงินขนาดนี้ยังทำเรื่องแบบนี้ได้ พวก คุณว่า นี่ถ้าติดคุกจากคดีผิดพลาดทางการ รักษาก็แล้วไป แต่นี่ค้าขายตลาดมืด………ห้อ ชื่อเสียงจะเหลืออะไรอีก”
“เพราะฉะนั้น คนเราเนี่ย ตายเป็นเพราะ โลภแท้ๆ”
“คิกคิกคิก หมออู่ ตอนนี้หมอที่คำนึงถึงผู้ ป่วยจริงๆ จังๆ อย่างคุณไม่เยอะแล้ว ตอนนี้ คุณเป็นโฆษกของโรงพยาบาลเราเลยนะเนี่ย
“ใช่ๆ หมอจู่ อีกหน่อยแผนกศัลยศาสตร์ ของเราก็ต้องพึ่งคุณแล้ว”
ฉู่ลั่วหานฟังพวกเขาพูดโดยไม่แสดง ความคิดเห็นใดๆ ระหว่างทางก็มีหมดคนอื่นๆ เข้าร่วมไม่ตลอด เรื่องเกี่ยวกับเกาหยิ่งจ๊อก โดนขุดคุ้ยเอามาพูดกัน ตอนแรกยังคุยกันปกติ พอคุยไปก็เริ่มขุดคุ้ยเรื่องราวเก่าๆ ที่เกาหยิ่ง จ่อเคยทํา เคยให้แพทย์ฝึกงานอดหลับอด นอนเขียนรายงานสองวันสองคืน
ยังมีคนบอกว่าเกาหยิ่งจื่อเห็นใครคบกัน ในโรงพยาบาล ก็ไล่เขาออก
เรื่องซุบซิบนินทา คุยกันไม่หยุด ทำให้ลั่วหานได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ
ปกติเกาหยิ่งจ๋อสร้างศัตรูในโรงพยาบาล เยอะขนาดนี้เลย ทุกคนต่างโกรธแต่ไม่กล้า พูด ตอนนี้เรื่องราวก็จบลงแล้ว ทุกคนต่างก็ได้ ระบายความรู้สึกตัวเองออกมา
รวมถึง ความรู้สึกผิดเล็กน้อยในใจของลั่ วหานก็จางหายไปแล้ว
“หมอจู่ เกาหยิ่งจ๋อตกม้าตายแบบนี้ แผนกอายุรกรรมหัวใจต้องเลือกหัวหน้าใหม่ คุณคิดว่าจะเป็นใคร?” แพทย์หญิงคนหนึ่งถาม ขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น
ลั่วหานยืนอยู่ในลิฟต์ ร่างสูงในเสื้อคลุม สีขาวไม่แสดงอารมณ์ใดๆ พูดขึ้นอย่างเรียบ เฉย “เลือกหัวหน้าแผนกของสิทธิของเหล่าผู้ บริหาร ไม่ใช่เรื่องที่ฉันตัดสินใจได้ อีกอย่าง แผนกอายุรกรรมกับศัลยกรรมควบคุมคนละ ส่วน ทุกคนทําหน้าที่ตัวเองให้ดีก็พอ”
“เหอะๆ หมอฉู่ พวกเราก็แค่สงสัย ได้ยิน ว่าคุณกับหัวหน้าเการู้จักกันมาก่อน หัวหน้า เกาเคยรังแกคุณไหม? เมื่อก่อนตอนคุณอยู่ โรงพยาบาลกลาง รู้สึกว่าเป็นลูกน้องเธอ เธอ คงรังแกคุณไปไม่น้อยใช่ไหม?
เมื่อก่อนเหรอ?
ลั่วหานยิ้มหน้าเฉย “ความจำฉันไม่ค่อย ดี เรื่องนานแล้วจำไม่ค่อยได้
“โถ่หมอจู่ คุณ ใจกว้างจริงๆ”
เธอจะไปรู้อะไร หมอ ก็คือพลังแห่ง ความอ่อนโยน”
“ใช่ๆๆ พลังแห่งความอ่อนโยน บวกกับ บุคลิกความสวยงาม หมอ คือเทพธิดาของ โรงพยาบาลหวาเซีย
ลั่วหานไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้เข้าร่วม การสนทนา กับเทพธิดาหวาเซีย กับคำชื่นชม ความงาม มากน้อยก็มีส่วนที่เธอเป็นภรรยา ของหลงเซียว?
การสนทนาในลิฟต์ไม่ต่อเนื่อง พอถึงชั้น บน ประตูลิฟต์เปิดล้วหานก็ออกไปเป็นคนแรก
เวลาเดียวกัน ลิฟต์ด้านข้างก็เปิดออก คนที่ออกมาจากลิฟต์คือถังจิ้นเหยียนและ แพทย์แผนกศัลยกรรม และแพทย์แผนกอายุร กรรมอีกหลายคน
ทุกคนต่างพยักหน้าทักทายกัน พูดคุย กันกี่คำก็เดินเข้าห้องประชุมกัน
ถังจิ้นเหยียนเดินไปเรื่อยๆ ก็เดินอยู่ข้าง ล้วหาน ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน “เป็นยังไง บ้าง?”
พูดจบก็หัวเราะพร้อมกัน ถังจิ้นเหยีย นพูด “ผมสบายดี คุณละ?”
“เหมือนกัน”
ทักทายกันจบ ทั้งหมอก็ยิ้มให้กันในมุมที่ คนอื่นมองไม่เห็น เดินเข้าไปในห้องประชุม
การประชุมเริ่มขึ้น หัวข้อแรกคือ
โครงการช่วยเหลือหัวใจ ลั่วหานเป็นผู้รับผิด ชอบ จึงขึ้นรายงานความคืบหน้าของการ ทํางาน
หัวข้อที่สองคือ ตามคาดนั่นก็คือเรื่อง การเลือกหัวหน้าแผนกอายุรกรรมคนใหม่ ตามหลักแล้วการเลือกหัวหน้าแผนกต้อง เลือกจากผู้บริหารซึ่งดูการความสามารถใน การทํางาน แต่การเลือกโดยโหวตแบบนี้ ก็ เป็นเรื่องน่าแปลกใจ
หางตาลั่วหานมองไปเห็นซุนเจียลี่ที่นั่ง ในโซนแผนกอายุรกรรม ฝั่งโน้นก็กำลังมาที่ เธอพอดี สายตาคู่นั้นมองมาอย่างเย็นชาและ ดุดัน เหมือนอยากจะฆ่าลั่วหานให้ตายในห้อง ประชุมให้ได้
ล้วหานหันกลับมา ไม่อยากมองเธอ แม้แต่น้อย
คณบดียิ้มแล้วพูดขึ้นอย่างเกรงใจ “ทุก ท่านรู้ดี หมอเกาหยิ่งจื้อถูกจับเนื่องจากเรื่องที่ ตัวเองก่อขึ้นและทำร้ายชื่อเสียงโรงพยาบาล ตอนนี้ตาแหน่งหัวหน้าแผนกอายุรกรรมว่าง เพราะฉะนั้นการประชุมวันนี้ พวกเราจะทำการ เลือกหัวหน้าแผนกอายุรกรรม ทุกคนสามารถ เสนอชื่อได้หนึ่งชื่อ ยุติธรรม เปิดเผย
ลั่วหานมองคนในห้องประชุมที่ต่างโต้ แย้งกันอย่างเรียบเฉย หมุนปากกาในมือเล่น ไม่พูดอะไรสักคํา
“หมอจู่ ไม่ทราบว่าคุณมีความเห็นยังไง? ผมอยากฟังความเห็นของคุณ
รอคณบดีหันไปถามความเห็นลั่วหาน ทันใดนั้นสายตาทุกคนก็มองไปที่ล้วหาน
ปากกาในมือลั่วหานหมุนช้าๆ วิธีเอาใจ เธอของรองคณบดี ไม่ค่อยดูดีเท่าไหร่นัก
“ท่านรองคณบดีคะ ฉันเป็นผู้รับผิดชอบ โครงการ ถึงแม้เป็นโครงการของโรงพยาบาล หวาเซี่ย ถึงแม้จะเกี่ยวข้องกับทั้งอายุรกรรม และศัลยกรรม ดิฉันไม่สะดวกเข้าร่วมมั้งคะ?”
รองคณบดียิ้ม รีบสายมือ “ได้ยังไงครับ? แผนกอายุรกรรมหัวใจกับอายุรกรรม ครอบครัวเดียวกัน ความเห็นของหมอมีค่า มาก หมอฉู่ เชิญพูดครับ
ลั่วหามเข้าใจทันที คณบดีเลือกหัวหน้า ด้วยวิธีเปิดเผย ยังถามความคิดเห็นของเธอ อีก คือกลัวว่าเธอจะกดดันหัวหน้าคนใหม่ใช่ ไหม?
ความคิดนี้ทําให้เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือ ร้องไห้ดี
สายตาจั่วหานมีความรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ก็ยังยิ้ม “ท่านรองคณบดีให้ดิฉันตอบยาก แล้ว? ทุกท่านที่นั่งอยู่ในนี้ล้วนเป็นศูนย์กลาง ของโรงพยาบาลหวาเซี่ย ไม่ว่าใครได้รับ ตำแหน่งหัวหน้าก็ทำได้ดีทุกคน ท่านให้ดิฉัน พูดยังไงดีคะ? รองคณบดีกับท่านคณบดีเป็น เสาหลักของหวาเซีย พวกท่านตัดสินว่าใคร เหมาะ คนนั้นก็เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดค่ะ ดิฉัน จะคอยช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานให้ เขา”
คำพูดล้วหานเหมือนยาเสริมความมั่นใจ ภรรยาผู้บริหารพูดแล้ว คณบดีก็เหมือนยก ภูเขาออกจากอก
“ถ้าอย่างนั้น ก็ตามปกติ รองหัวหน้า เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้า เป็นยังไง?”
ทางคณบดีดูอย่างระวัง รองคณบดีก็คอย ดูสีหน้า ตอนนี้ทั้งกลุ่มผู้บริหารของหวาเชี่ย ต่างก็ต้องดูสีหน้าของลั่วหาน
เธอยิ้ม โรงพยาบาลก็ท้องฟ้าแจ่มใส เธอโกรธ ทั้งโรงพยาบาลก็เหมือนพายุ กระหนํา
ลั่วหานสังเกตเห็นจุดนี้แล้ว ความรู้สึกใน
ใจรู้สึกวุ่นวาย
ลั่วหานยิ้ม
ทุกคนต่างก็สบายใจ
“ถ้าอย่างนั้น ตำแหน่งรองหัวหน้า ผม ว่า…….หมอเห้อมีประสบการณ์ในด้านอายุร กรรมมานาน ตามอายุความสามารถในการ ทํางานสามารถรับผิดชอบงานนี้ได้ ทุกคนว่า ยังไง?”
ปากบอกทุกคน แต่สายตามองแค่ลั่วหา นคนเดียว
ลั่วหานยิ้มอีก
“คึกคิกคิก ถ้าอย่างนั้นแล้ว แผนกอายุร กรรมก็ตามนี้นะครับ”
การประชุมต่อจากนั้นก็เป็นการรายงาน ของหมอแต่ละท่าน ลั่วหานฟังจนเหม่อลอย ฟังจนเริ่มง่วงก็ได้ยินคำว่า “แยกย้าย”
การประชุมจบลง ในกลุ่มคนก็ได้ยินคำว่า “ยินดี ยินดี” จากนั้นก็เป็นภาพที่ต่างพากัน แยกย้ายออกจากห้องประชุม ลั่วหานปิดสมุด และเดินออกไป
ถังจิ้นเหยียนลุกจากเก้าอี้รีบเดิน ขวางลั่ วหานไว้
“ลั่วหาน มีเวลาไหม? ผมอยากคุยกับ คุณ”
ล้วหานยักไหล่ พยักหน้าด้วยอาการง่วง “อืม ได้”
ร้านกาแฟภายในโรงพยาบาล เวลานี้คน ไม่เยอะ ทั้งสองนั่งที่นั่งริมหน้าต่าง ถังจิ้นเหยี ยนหมุนกาแฟในแก้ว คนไปเรื่อยๆ เหมือนกับ รวบรวมความกล้าอย่างเต็มที่กว่าจะพูดออกมา ได้ “คุณน่าจะรู้ว่าผมจะพูดเรื่องอะไร?”
“เกาห ง อ?” ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าอย่างเอือมระอา รู้สึกเสียดาย “ผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะทำเรื่อง แบบนี้ ถ้ารู้แต่แรก ผมคงห้ามเธอได้”
“จิ้นเหยียน คุณคิดว่าวิธีที่คนอย่างเกา หยิ่งจือเข้าคุก กับเข้าคุกด้วยคดีฆ่าคน อัน ไหนหนักกว่ากัน?”
ถังจิ้นเหยียนมองหน้าเธออย่างสงสัย ถามขึ้นด้วยความสงสัย “สองเรื่องนี้เกี่ยวข้อง อะไรกัน?”
ล้วหานสายหัว แล้วพยักหน้าแล้วยิ้ม “ฟังแล้วก็เหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน แต่คุณคิดดู ทำไมเกาหยิ่งจื้อถึงเข้าคุก? ทำไมเรื่องถึงเกิด ขึ้นเร็วขนาดนี้ และแล้วทำไมคนฐานะอย่าง เกาจึงอานอย่างเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ยังไม่รู้จะทำ ยังไง?”
ในหัวถังจิ้นเหยียนเหมือนมีอะไรระเบิด เขาเรียบเรียงเรื่องราวแล้วก็คิดออกแล้ว ใช่ แล้ว ต้องเป็นเพราะแบบนี้แน่นอน หลงเซียวอยากจัดการกับเกาหยิ่งจื้อ ไม่ ต้องการเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นตอนนี้ ไม่ว่าใครที่อยากช่วยเกาหยิ่งจือ ผลลัพธ์ก็มี อยู่แบบเดียวคือเป็นศัตรูกับหลงเขียว
ล้วหานมองสีหน้าของถังจิ้นเหยียนมื การเปลี่ยนแปลง หางตาตกเล็กน้อย “ดูแล้ว คุณน่าจะเข้าใจแล้ว”
ถังจิ้นเหยียนสูดหายใจเข้าแรงๆ ตามมา ด้วยเสียงหัวเราะ “หลงเชียวนี่เป็นคนไม่ยอม ให้มีอะไรขวางทางได้เลย ทุกคนที่ทำร้ายคุณ เขาไม่ปล่อยไว้สักคน”
คําพูดยาวเหยียดของเขา ไม่มีค่เสียดสี แม้แต่น้อย สีแต่ความนับถือ ตอนนี้ถึงจิ้นเหยี ยนนับถือหลงเซียวมาก
เขาสามารถช่วยล้วหานได้ในฐานะสามี อย่างเปิดเผย ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน
ลั่วหานพูดล้อม “ฉันก็คิดเหมือนกัน ว่า ฉันแต่งงานกับผู้ชายแบบไหนกันเนี่ย? “ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายแบบไหน แต่ดูออกว่า เขารักคุณอย่างจริงใจ ถ้าไม่รักคุณจริง ทำ เรื่องพวกนี้ไม่ได้หรอก เขาแบกรับความเสี่ยง ไว้เองหมด ก็ไม่ยอมให้คุณลำบาก ลั่วหาน ผม ดีใจกับคุณจริงๆ คุณเลือกถูกแล้ว”
ลั่วหานฟังออกว่าในคำพูดเขายังมีอื่น ซ่อนอยู่ ในใจก็ยังรู้สึกผิด “จิ้นเหยียน นี่ก็ถึง เวลาหาใครสักคนให้ตัวเองแล้วนะ โรง พยาบาลเราก็มีแพทย์หญิงตั้งเยอะ ต้องมีแบบ ที่คุณชอบแน่นอน หรือว่า ฉันช่วยคุณดูสักคน
ถังจิ้นเหยียนทำปาก ขยี้คิ้วอย่างทำอะไร ไม่ถูก “พูดถึงเรื่องนี้ ผมมีเรื่องปวดหัวจะขอ ความช่วยเหลือจากคุณ
“หือ? เรื่องอะไร?”
ถังจิ้นเหยียนมีเรื่องให้ช่วยลั่วหานต้อง
ช่วยแน่นอน
“พ่อแม่ผมนัดผู้หญิงคนหนึ่งให้ผมไป เจอ บอกว่าจะถึงเมืองจีนในสองวันนี้ และ กําชับว่าผมต้องไปให้ได้ คุณช่วยผมขวางไว้ หน่อยได้ไหม?”
หา? ฉันช่วยคุณขวาง? ขวางยังไง?
แต่ว่าเรื่องนัดบอด ถ้าเกิดขึ้นในตัวของ ถังจิ้นเหยียน แค่คิดก็น่าสนุกดี
ถังจิ้นเหยียนจับขมับ ใบหน้าอันหล่อ เหลาดูตึงเครียด “ตอนนี้ผมยังไม่อยากคิด เรื่องนี้ แต่ผู้หญิงเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อแม่ ผม ไม่ไปเจอก็ไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้นคุณช่วย แสดงเป็นแฟนผมหน่อยได้ไหม?”
วิธีนี้จะเก่าไปไหม
แต่ว่ายากที่ถังจิ้นเหยียนจะขอให้เธอ
“ได้ ฉันช่วยคุณ” คิดแล้ว ลั่วหานก็นึกขึ้น ได้ “ไม่ใช่ จิ้นเหยียนเมื่อกี้คุณบอกจะคุยกับฉัน เรื่องเกาหยิ่งจ๋อ ก็เพราะจะพูดเรื่องไปนัด บอด? คุณไปฝึกลูกไม้แบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่