ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 304
ตอนที่ 304 หมอถึงจะไปดูตัว
หญิงสาวค่อยๆ สักตัวขึ้นหลังอยู่ใน ภาวะหมดสติไปหลายวัน เธอรู้สึกปวดหัว เหมือนจะระเบิด คิ้วสวยสั่นระริกหมวดเข้าหา กัน “อ๊ะ…”
ยังไม่ทันลืมตา ก็รู้สึกได้ถึงความปวดร้าว ไป งกะโหลก วินาทีต่อมาความเจ็บปวดก็ ค่อยๆแผ่ซ่านไปทั้งรางกาย ลามไปจนถึง ปลายนิ้ว
“ลิ่วล้ว เธอเป็นยังไงบ้าง?
ได้ยินเสียงร้องเบาๆของหญิงสาว หลง เขียวก็จับมือเธออย่างเคร่งเครียด น้ำเสียง ร้อนใจที่ปนไปด้วยความห่วงใยลอยเข้ามาใน
“หลงเขียว คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ลั่วหานค่อนๆลืมตาขึ้น ภาพแรกที่เห็น เป็นใบหน้าหล่อเหลาที่ตื่นตระหนกของหลง เขียวอยู่ใกล้ๆ หญิงสาวกระพริบตาเมื่อปรับ โฟกัส ม่านดาต้าของเธอค่อยๆเก็บสีต่างๆเขา มาจนมองเห็นเป็นภาพชัดปกติ
“เธอฟื้นแล้ว!”
เขาไม่ตอบคําถาม หัวใจทั้งดวงของหลง เขียวพะวงไป สุขภาพร่างกายของเธอ เห็น วหานฟันแขนแข็งแรงก็รีบกอดเธอเข้าแผงอก คางของชายหนุ่มแนบลงข้างใบหน้า “พื้นก็ ดีแล้ว เธอฟื้นก็ดีแล้ว”
ล้วหานหรีดา เสียงยังแหบอยู่บ้าง เธอ พยายามคิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่ตัวเองจะ หมดสติไป ไม่สิ ตอนที่เธอสลบไปยังอยู่ใน ห้องผ่าตัดอยู่เลย ทําไมตอนนี้มานอนอยู่ตรงนี้ ได้? แถมมีหลงเขียวอยู่อีก?
“ฉันหลับไปนานแค่ไหน?
ลัวหานมองดูห้องที่มีแสงอาทิตย์ส่อง เข้ามา จากระดับความสว่างในตอนนี้ น่าจะ เป็นเวลาเกินสิบโมงเช้า นี่เธอหมดสติไปนาน แค่ไหนกัน?
หลงเขียวไม่ตอบ เขายังกอดเธอแน่นไม่ ยอมปล่อยด้วยความรู้สึกเหมือนได้คนรักที่สูญ เสียไปกลับมา “อย่าทําอะไรงี่เง่าแบบนั้นอีก ฉันตกใจแทบแย่
เสียงอู้อี้ของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความ เจ็บปวด เหมือนเพิ่งผ่านการจากลามาอะไร ทํานองนั้น เสียงเจ็บปวดที่ทําเอาคนฟังอย่าง เธอต้องพลอยปวดใจตามไปด้วย
“ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่นา คุณหลง กลายเป็นคนหน่อมแน้มขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คะ ฉันว่าผู้ชาย แสนเปราะบางอ่อนไหวใน ตอนนี้ ไม่ใช่สไตล์คุณเลยสักนิด” ล้วหานเก็บ ความปวดใจเอาไว้เบื้องลึก เธอรู้ว่าเขากลัว เพราะเขาห่วง ห่วงมากถึงได้หวาดกลัวแบบนี้
ในที่สุดหลงเขียวก็ปล่อยเธอออก แล้ว จ้องตาเธอ อยู่ในสภาพนี้แล้วยังมีอารมณ์มา ต่อปากต่อคํากับฉันอีกนะ? เดี๋ยวฉันจะไปตาม หมอมาตรวจอาการให้ เธอนอนต่ออีกหน่อย เถอะ
ล้วหานกลับเป็นฝ่ายยื่นมือไปจับนิ้วของ เขา แม้จะรู้สึกหมดแรงแต่กลับจับมือเขาไว้ แน่น เธอสายหน้าแล้วแหงนหน้ามองชาย หนุ่ม “อย่าไป อยู่กับฉัน”
หัวใจของหลงเซียวเต้นแรง ก่อนจะยิ้ม ตามใจ “โอเค ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น จะอยู่กับ เธอที่นี่แหละ”
เขากดกริ่งเรียกหมอ จากนั้นก็เทน้ำร้อน ใสแก้วแล้วเป่าหลายที “ดื่มน้ำหน่อยเถอะ
“ค่ะ”
หมอกับพยาบาลได้ยินเสียงกริ่ง ก็ กุลีกุจอวิ่งมาที่ห้องคนไข้ภายในไม่ถึงหนึ่ง นาที หมอตรวจอาการล้วนานตั้งแต่หัวจรดเท้า
เมื่อหมอจากแผนกประสาทและออร์โธ ปี กส์ศัลยกรรมเห็นลั่วหาน ทุกคนต่างก็ กระตือรือร้นเป็นพิเศษ จนแทบไม่เรียกว่า เป็นการตรวจร่างกายให้กับคนทั่วไป แต่ เป็นการตรวจพระวรกายให้ฮองเฮาท่ามกลาง สายตาจับจ้องของฮ่องเต้ซะมากกว่า ใครบ้าง จะไม่กดดัน
ปกติเธอที่มีหน้าที่ตรวจร่างกายคนไ แต่วันนี้กลายเป็นผู้ถูกตรวจซะเอง กลับรู้สึก สบายอย่างบอกไม่ถูก จะมีก็แต่ทุกครั้งที่เงีย หน้าสายตาก็พลันไปเห็นใบหน้าเย็นเฉียบเป็น นําแข็งของหลงเขียว ก็อดดลกไม่ได้ “หมอ เฉิน จะเกร็งทําไม? คุณเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญ ตำแหน่งใหญ่สุดในแผนกศัลยกรรมประสาท ไม่ใช่นักศึกษาแพทย์ ผ่อนคลายหน่อย
หมอเฉินเช็ดเหงื่อที่ผุดออกมาจากหน้า ผาก ครับ…ได้ครับ”
สีหน้าของหลงเขียวยังคงไม่เปลี่ยน ความจริงจังและเย็นชาที่กำลังบอกให้รู้ว่า หากพวกหมอพูดอะไรไม่น่าฟังออกมาแม้แต่ คําเดียว เขาพร้อมจะลากคอไปประหารได้ทุก เมื่อ
ในที่สุด การตรวจร่างกายก็เสร็จสิ้น “คุณหลงครับ…ผลจากการสแกน กะโหลกศีรษะของหมอ จะเห็นได้ว่าก้อน เลือดไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในทางลบ ยาที ใช้รักษาอาการก็ยังใช้ได้ผลดีอยู่ ดังนั้นตอนนี้ ไม่มีอะไรน่ากังวล เพียงแต่..” เขาแอบมอง หลงเขียวผ่านเลนส์แว่น สีหน้าของชายหนุ่ม น่ากลัวจนเขาไม่กล้าพูดต่อ
“เพียงแต่อะไร?” เสียงเย็นยะเยียบ พร้อมฆ่าคนให้ตายทั้งเป็น
หมอหวังเช็ดเหงื่อ “เพียงแต่แผลเก่าที่
มือขวาของหมออู่ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง จากการ ใช้งานอย่างหนักหน่วงเกินไป อาจจะต้องนอน รักษาตัวสักหนึ่งอาทิตย์ ระหว่างนี้ต้องให้ ความร่วมมือในการนวดเพื่อช่วยสมานแผล
ใบหน้าเย็นยะเยือกของหลงเขียวก็ดีขึ้น เล็กน้อย “อืม ออกไปได้
“ครับ งั้น….หมอ พักผ่อนเยอะๆนะครับ จากนั้นกลุ่มหมอก็สลายตัวไปทันที ห้อง ผู้ป่วยVIPกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง ใน ขณะที่ใบหน้า แข็งของชายหนุ่มก็ค่อยๆ ละลายจนกลายเป็นอบอุ่น เหมือนอากาศใน ช่วงฤดูใบไม้ผลิ
“ฉันประคองเธอลุกขึ้นมาดื่มน้ำหน่อยดี
กว่า”
“ค่ะ”
เขาค่อยๆประคองลั่วหานลุกขึ้นด้วย ความนุ่มนวล ก่อนจะหยิบแก้วน้ำมาป้อนเธอ หมดไปครึ่งแก้ว “ค่อยๆ ม
เห็นมีท่าทางชายหนุ่มตื่นเต้น ล้วหานก็ อดมาไม่ได้ “ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ คุณไม่ ต้องตื่นเต้นขนาดนั้น เห็นคุณเกร็งฉันก็เกร็ง ตามไปด้วยแล้ว ผ่อนคลายหน่อย OK?”
หลงเขียวผ่อนลมหายใจ “ก็มีเมียอยู่แค่ คนเดียว ถ้าไม่ห่วงเธอจะให้ไปห่วงใครล่ะ?”
ได้ยินเขาพูดแบบนั้น ในใจของลัวหาน ชื้นขึ้นจนพูดไม่ออก ม าจนหมดแก้ว หลงเซียวจึงถามเธอ ว่าอยากกินอะไร ล้วหานรู้สึกเวียนหัวหนักจน ไม่รู้สกอยากอาหาร แต่ก็กลัวว่าถ้าตัวเองไม่ กินอีกคนก็จะพลอยไม่ยอมกินไปด้วย เลย เลือกอาหารที่ปกติหลงเซียวชอบกิน
ผ่านไปไม่นาน ก็มีเสียงเคาะประตู คนที่ เข้ามาใหม่เป็นหวาเทียนและหลินเหวิน
หลินซีเหวินรายงานสถานการณ์ของ คนไข้ให้ฟัง สุดท้ายสรุปต่ออีกสั้นๆ “สุดท้าย หอมถังก็รับมือต่อจากคุณ ดังนั้นการผ่าตัดเป็น ไปอย่างไม่ขาดตอน ตอนที่คนไข้ออกจาก ห้องผ่าตัด ซีพจรกับอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นไปอย่างปกติ ตอนนี้ยังนอนอยู่ในห้องICU เกรงว่ากว่าจะฟื้นคงต้องใช้เวลานานหน่อย
“เข้าใจแล้ว คอยสังเกตอาการของ คนไข้อย่างใกล้ชิด ช่วงนี้ฉันคงออกไปดู อาการเองไม่ได้ พวกเธอสองคนเอางานของ ฉันไปจัดการแบ่งกันทำ มีปัญหาอะไรรีบมาบ อกฉันทันที” หลิน เหวนลอบมองหลงเขียว ทุกครั้งที่ เห็นเขา เธอก็รู้สึกว่าออกซิเจนแถวๆนี้จู่ๆก็มีไม่ พอให้หายใจ
หลงเขียวเหล่หางตาไปยังหวาเทียนที ยืนนิ่งเงียบตั้งแต่ต้นจนจบ โดยในสายตาไม่ แสดงความรู้สกใดๆ ผ่านไปสักพักจึงดึง สายตากลับ
“หมอจู่ มีอะไรจะให้พวกเราทำไหมคะ?” หลินซีเหวินถามขึ้น
ล้วหานสายหน้า แต่ทันใดนั้นก็คิดอะไร บางอย่างออก ผู้ช่วยหลิน พรุ่งนี้เย็นว่าง ไหม?”
หลิน เหวินงงๆ “ว่างค่ะ มีอะไรหรอคะ?”
ล้วหานยิ้มมุมปาก “ว่างก็ดี อีกเดี๋ยวฉันมี อะไรจะให้เธอช่วยจัดการให้หน่อย
“ได้คะ! หมอมีอะไรให้ช่วยบอกฉันได้ ทุกเรื่อง ”
ทั้งคู่เดินออกจากห้องคนไข้ หลงเขียว เลิกคิ้วขึ้นอย่างมีคําถาม “เรื่องที่เธอจะสั่งให้ นํา เกรงว่าจะไม่ใช่รองงานละมั้ง?”
ลั่วหามส่งยิ้มแปลกๆให้ชายหนุ่ม “ตอน นี้ยังบอกคุณไม่ได้”
หลินซีเหวินดูชื่อร้านกับเวลานัดบนหน้า จอโทรศัพท์ แล้วกอดโทรศัพท์แน่นยิ้มอารมณ์ ดีอยู่อย่างนั้นนานหลายสิบนาที
“หมอฉสมกับที่เป็นไอดอลฉัน! เยี่ยมไป เลย! ฉันรักหมอที่สุด! อ๊ากๆๆๆ! รักมากๆ เลย!”
หวาเทียนเอามืออุดหู คิ้วหนาขมวดเขา หากันอย่างหงุดหงิด “หลินซีเหวินเป็นบ้าอะไร ของเธอ? ถ้าหูฉันเป็นอะไรเธอต้องรับผิด ชอบ”
หลินซีเหวินยังคงกอดโทรศัพท์แน่น ไม่ รับผิดชอบ! วันนี้นายกลับไปเถอะ ฉันเข้าเวร แทนให้ แต่พรุ่งนี้ฉันต้องกลับเร็วหน่อย นาย คอยมาเข้าเวรแทนแล้วกัน”
หวาเทียนเลิกคิ้วน เขานั่งกอดอกพิง
เก้าอี้ “อ้อ? มีเคท?”
“ไม่ต้องยุ่ง! ”
“หน้าเธอแป้นแล้นขนาดนี้ ไม่ต้องบอกก็ รู้ แต่ว่านะคุณหลินเหวิน อย่าบอกนะว่ามีชีวิต อยู่มายี่สิบกว่าปี เธอไม่เคยมีแฟนเลยน่ะ ดู หน้าตากระหายอยากจะมีสามีของเธอแล้ว ฉัน คงเข้าใจได้แค่ว่าเธอกังวลเรื่องขึ้นคานของ ตัวเองมาก”หลิน เหวินเซ็นชื่อด้วยลายเซ็น อย่างคล่องแคล่ว “ผิด! เห็นแบบนี้ฉันเนื้อหอม จะตายย่ะ! แค่ที่ผ่านมายังไม่เจอคนที่ใช่!
แต่พรุ่งนี้เย็น เธอจะต้องมัดใจหมอถึงให้ จงได้!
เป็นคืนที่ยากจะข่มตาหลับ วันต่อมาที่ โรงพยาบาลไม่ได้มีเหตุด่วนเหตุร้ายอะไรเป็น พิเศษ หลิน เหวินเอาแต่มองนาฬิกานับเวลา ถอยหลังจนผ่านไปครึ่งค่อนวัน ถังจนเหยียนคิดถึงเดทในเย็นนี้ แล้วก็ คิดไปถึงลั่วหานที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล เขาก็ อยากจะบ้าตาย
เขาขบคิดอยู่ว่าจะหาเหตุผลในการเลื่อน นัดเย็นนี้ดีไหม แต่แล้วล้วหานก็ส่งข้อความมา
“จิ้นเหยียน เย็นนี้จะมีคนช่วยนายรับมือ กับการเดท รับรองว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่าง ราบรื่น ขอให้สนุก
ถังจิ้นเหยียนไม่อยากจะเชื่อ ราบรื่น? เขากลับไม่คิดว่ามันจะราบรื่น
สายตาเหลือบไปดูนาฬิกาเป็นเวลาเล็ก งาน ดังจิ้นเหยียนเปลี่ยนมาใส่สูท สูทสีดำเข้า กันกับเน็กไทสีน้ำเงินลายขวาง ถึงจิ้นเหยียน ในวันนี้เป็นหนุ่มหล่อสไตล์ผู้ชายแดนมังกร อย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะที่กำลังเดินไปลานจอดรถ หลินซีเห วินก็เจอกับถังจิ้นเหยียนเข้าโดยบังเอิญ ทั้งคู่ ต่างมองการแต่งกายของอีกฝ่าย คนนึงที่อยู่ ในชุดสูทสง่าสวมไทด์ ส่วนอีกคนมาในเดรส ยาวคอ อวดรูปร่าง
หลินซีเหวินมองถังจิ้นเหยียนอยู่หลาย ครั้ง หัวใจเต้นแรงจนอยากจะลอยไปอยู่กับ ชายหนุ่ม “หมอถึงมีนัดเย็นนี้หรอคะ?”
ถังจิ้นเหยียนยิ้มสุภาพ “จะว่างั้นก็ได้” “ฉันก็มีนัดเหมือนกัน บังเอิญจัง!”
ถังจิ้นเหยียน มขืนอีก “งั้นก็ดีเลย มิน่า ล่ะเย็นนี้หมอหลินแต่งตัวสวยเชียว
“จริงหรอคะ? หมอถังว่าชุดที่ฉันสวมสวย หรอคะ?” หลินซีเหวินพูดพร้อมกับจับชุด กระโปรงสะบัดไปมา เป็นสาวน้อยเริงร่า
“อืม สวย ”
ถังจิ้นเหยียมชมไปตามมารยาท โดยที่ ลึกๆไม่ได้รู้สึกอะไร
“ค่ะ! ขอบคุณนะคะหมอถัง!”
ทั้งคู่ต่างคนต่างขึ้นรถของตัวเอง รถสีดำ ทั้งสองคันขับออกจากโรงจอดรถตามกันไป อืดๆ เบนซ์ ค่าของถังจีนเหยียนขับนำไปก่อน ตามมาด้วยบีเอ็มดับบลิวส์ ของหลินเหวิน ที่ขับรักษาระยะห่างอยู่ด้านหลัง
ดีสุดๆไปเลย! หมอถึงรู้สึกว่าชุดที่เธอใส
สวย!
มือที่บังคับพวงมาลัยก็จับแน่นขึ้นไม่รู้ตัว แค่คิดว่าเย็นนี้จะต้องแสดงเป็นแฟนของถังจิ้น เหยียน เธอก็รู้สึกตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก! อยาก ให้ถึงเร็วๆจัง!
รถของถังจิ้นเหยียนขับมาจอดหน้าร้าน อาหาร แต่เพราะเวลาหลังเลิกงานคนมากิน ข้าวทีนี่ค่อนข้างเยอะ ที่จอดรถจึงหายาก เขา ตั้งใจจะเข้าเกียร์จอดในช่องที่เหลือของ สุดท้าย แต่จู่ๆเบนซ์สีขาวคันนึงก็ขับเข้ามา หวังจะจอดในเวลาเดียว รถทั้งสองกันแหย่ด เข้ามา และคานิ่งสนิทอยู่กลางทาง
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว เขาลดหน้าต่าง ลง ก่อนจะโบกมือให้เบนซ์สีขาว เป็นสัญญาณ ว่ารอสักครู่ ให้เขาได้ถอยรถออกก่อน
จากนั้นหน้าต่างของเบนซ์สีขาวก็ลดลง ตามมาติดๆ “คุณ คุณมาทีหลังนะ!’
ใครจะคิด เสียงสัญญาณเพิ่งจะดังขึ้น รถ ของถังจิ้นเหยียบถอยหลังไปได้ครึ่งเมตร ชาย หนุ่มเปิดไฟท้าย แต่รถด้านหลังขับเดินหน้า เข้ามาราวกับมองไม่เห็นเสียอย่าง น
“ปัง!”
ท้ายรถของถังจิ้นเหยียนชนเข้ากับหัวรถ ของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง รถคาดิลแลคที่อยู่ ด้านหลังไฟหน้ารถล่วง ก่อนจะถูกเหยียบจน แตกละเอียด
ถังจิ้นเหยียนรีบเปิดประตูลงมาจากรถ แต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปาก คนด้านหลังก็ตะโกน ด่าสวนมาก่อน
“ไอคนข้างหน้ามันมีตาหรือเปล่าวะ! ขับ รถเป็นปะเนี่ย!”
คู่สามีภรรยาอายุประมาณสามสิบลงมา จากรถด้านหลัง ฝ่ายภรรยาชนิ้วค่าถังจิ้นเห ยียน ไม่สนใจว่านี่เป็นสถานที่สาธารณะ
คิ้วเข้มเรียงสวยของถังจิ้นเหยียนขมวด แน่น “เมื่อครู่ผมกำลังกลับรถไม่ทันได้มอง ขอโทษทีครับ”
“เหอๆ! ขอโทษแล้วจะจบหรือไง!? แหก ตาดู รถฉันเพิ่งมอมาใหม่ คุณชนไฟหน้าจน แตกละเอียดขนาดนั้น บอกมา ว่าจะเอายัง ไง!”