ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 424
ตอนที่ 424 จ้าวฟางฟางถูกทุบตีอย่างโหดร้ายทารุณ
คำพูดที่แสดงความรักของเขามันลึกซึ้งอย่างถอนตัวไม่ได้ มันลอยเข้าไปในหัวใจของเธออย่างอ่อนโยน ถูกมือใหญ่ๆของเขาโอบกอดเอาไว้ อากาศหนาวเย็นข้างนอกพัดแผ่กระจาย
“ของขวัญสามชิ้นที่คุณส่งให้พวกเขาในคืนนี้ ตั้งใจสรรหามากเลยนะคะ ทำเอาน้องสาวของฉันกับจ้าวฟางฟางสีหน้าเปลี่ยนไปเลย ฉันรู้ที่มาของของขวัญของฉู่ซีหราน แต่ของขวัญของจ้าวฟางฟาง ทำไม?”
หลงเซียวปล่อยเอวของเธอ เกี่ยวมือของเธอที่อยู่วางไว้ที่เอวของตัวเอง ทั้งสองเดินไปยังที่ที่รถจอดอยู่“จ้าวฟางฟางกับฉีซือหนานแอบมีความลับที่บอกคนอื่นไม่ได้อยู่ ของขวัญที่ให้เธอไป ก็คือเป็นการเตือนยังไงล่ะ”
คนสองคนที่ทั้งดูสวยงามทั้งผู้ดีเดินจับมือกัน สัมผัสบางเบาในอากาศพัดโอบร่างกายของทั้งสองเอาไว้
“แสดงว่า ของขวัญที่คุณให้จ้าวฟางฟางมันไม่ธรรมดาเลยน่ะสิ? คุณอยากจะช่วยยึดสิทธิ์ในการดูแลลูกสาวคืนให้กับหวังเค่ยใช่ไหม? ใช้วิธีการข่มขู่เพื่อให้จ้าวฟางฟางยอมวางมือลง?”
การคาดเดาของลั่วหานเพิ่งจะเสร็จ นิ้วมือเรียวยาวของหลงเซียวก็แตะแนบไปที่ริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยน สกัดกั้นคำพูดที่เธอจะพูดออกมาต่อ
แล้วก็ยิ้มขึ้นทันที“คุณภรรยา คิดได้ แต่พูดไม่ได้”
ลั่วหานปัดมือของเขาออก“ที่แท้แผนการของคุณเป็นแบบนี้นี่เอง ดูไม่ออกเลยนะเนี่ย!”
หลงเซียวเปิดประตูรถออก“นี่ไม่ได้เรียกว่าข่มขู่ แค่เอาวิธีการเดียวกับที่เธอทำกับคนอื่นมาทำกับเธอบ้าง จ้าวฟางฟางไม่ใช่ผู้หญิงที่จิตใจขาวสะอาดอยู่แล้ว จะไปใช้กฎหมายใช้คุณธรรมกับเธอไม่ได้หรอก มีวิธีที่ง่ายกว่านั้นในการจัดการ ไม่ต้องไปใช้วิธีที่มันยุ่งยากซับซ้อนหรอก”
ลั่วหานยกปาก ริมฝีปากแดงๆยิ้มอย่างชม้อยชม้ายสะท้อนกับโคมไฟแบบบาโรกที่หรูหราตรงบริเวณบ้าน แสงสว่างไสว ทำให้ที่หน้าของเธอเป็นเงา ขนตายาวโค้งงอน ดูจากด้านข้างแล้วเหมือนกับผีเสื้อที่กระพือปีกบิน
หลงเซียวค้ำประตูรถด้วยมือข้างเดียว มืออีกข้างโอบกอดเอวของเธอไว้อยู่ ริมฝีกปากที่เซ็กซี่ยกขึ้น“ลั่วลั่ว คืนนี้คุณสวยมากเลย”
คำพูดชื่นชมลอยผ่านหู มาพร้อมกับลมหายใจที่มีกลิ่นของเตกิล่า ตอนที่พ่นเข้ามาบนหน้าทั้งตัวก็อ่อนระทวยลง ลั่วหานขาสั่น เอนเอียงล้มไปบนอกของเขา“คุณหลง ถ้าคุณทำแบบนี้อีก คืนนี้พวกเราได้อยู่ที่ลานบ้านของตระกูลเสิ่นแน่ๆ”
หลงเซียวสูดลมหายใจ พูดออกมาด้วยเสียงที่ไพเราะน่าฟัง“อื้ม กลับไปที่ของพวกเรากันเถอะ”
ลั่วหานนึกขึ้นมาได้ทันที“ฉันนั่งรถของคุณไม่ได้ ฉันขับรถมาเอง”
“หือ? คุณเพิ่งมาอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง จะมีรถได้ยังไง?”
ลั่วหานแกว่งๆกุญแจรถ“แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว แถมรถหรูด้วย รุ่นลิมิเต็ดของโลก”
Logoบนกุญแจที่แกว่งอยู่สะดุดตามาก รถหรู ไม่ต้องดูการใช้งานก็รู้แล้วว่าราคาไม่เบาเลย
“ได้ นั่งรถคุณแล้วกัน”
ทางนี้ทั้งสองตัดสินใจกันเสร็จเรียบร้อย ทางด้านของแขกที่อยู่ข้างในก็ทยอยกันออกมาอย่างต่อเนื่อง ต่างพากันทักทายคู่ของหลงเซียวอย่างเกรงอกเกรงใจ ยังมีบางคนใช้สองมือยื่นนามบัตรมาให้กับหลงเซียวย่างกระตือรือร้น พอออกมาจากห้องโถงรับรองแขกของเสิ่นเหลียว พวกเขาในตอนนี้ก็เปลี่ยนฝั่งทันที
เอนเอียงมาฝั่งของหลงเซียว
หลงเซียวยื่นมือไปรับมาสองสามใบ จากนั้นก็จูงลั่วหานเดินไปยังข้างๆรถไมบัคด้วยความขี้เกียจ
บรรดาผู้คนมองดูสองสามีภรรยาขึ้นรถไป มองรถที่แล่นจากไปด้วยความประหลาดใจ พูดซุบซิบขึ้นเบาๆ“รถคันนี้ เหมือนกับว่าผมเคยเห็นประธานเถาขับมาแล้วเลย”
“ใช่น่ะสิ ทั่วโลกนี้มีจำนวนจำกัด เมืองเจียงเฉิงก็มีคันนี้คันเดียว คิดไม่ถึงว่าหลงเซียวกับประธานเถาก็แอบมีติดต่อกันลับๆด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นประธานเถาจะยอมเอารถที่แสนรักแสนหวงให้พวกเขายืมทำไมกันล่ะ?”
“ดังนั้นพูดได้ว่า ถ้าเกิดหลงเซียวมีอิทธิพลมากขึ้นในเมืองเจียงเฉิง พวกเราก็คงต้องปรับตัวและยืดหยุ่นกันสักหน่อยแล้วล่ะเสิ่นคั่ว……จุ๊ๆ แก่แล้ว ลูกชายก็ติดคุก แถมพวกเด็กๆก็แบกรับภาระไม่ไหว ส่วนผู้หญิงน่ะเหรอ……เหอะๆ!”
รถไมบัคขับออกถนนใหญ่ของชานเมือง หลงเซียวจับพวงมาลัยพลางหันไปมองหน้าด้านข้างของลั่วหาน“มาถึงเมื่อไร?”
ลั่วหานยกมือข้างเดียวขึ้นมาจับคาง“คุณเดาสิ”
“มาเมื่อไรไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ ก่อนจะมาทำไมไม่บอกผมก่อน ผมจะได้ไปรับคุณที่สนามบิน”
พอคิดถึงตรงนี้ แล้วเมื่อวานที่เธอถามที่อยู่ของโรงแรม……เอาเถอะ เมื่อวานเขาควรจะตระหนักได้ด้วยตัวเอง
“ฉันถามตารางงานของคุณแล้ว คุณยุ่งทั้งวัน ไม่มีเวลามารับฉันหรอก”
“เวลาอื่นน่ะเลื่อนได้ แต่การไปรับภรรยามันคือสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ครั้งหน้าทำแบบนี้อีกไม่ได้นะ”
ลั่วหานพิงหัวไปที่เก้าอี้ หลับตาลงอย่างรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์มากนัก“ครั้งหน้า? คุณหลงยังคิดว่ามีครั้งหน้าอีกเหรอ? ฉันไม่ได้กะที่จะมาครั้งที่สองอยู่แล้ว คุณหลงอยู่ที่นี่การงานราบรื่นไปหมด สาวสวยรุมล้อม ฉันไม่กล้าไปขัดอารมณ์สุนทรีย์ของคุณหรอก พอกลับไปเจิ้งซินก็……อา……คุณทำอะไร?”
——
“ตุ้บ!!”
เสิ่นคั่วใช้แรงฟาดไม้เท้าไปที่หลังของจ้าวฟางฟางอย่างไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลยแม้แต่น้อย หลังของจ้าวฟางฟางเจ็บจนล้มไปกองที่พรมพร้อมกับร้องโอดโอยออกมา
“สามี ฉันกับเสิ่นเหลียวไม่มีอะไรกันเลย ไม่มีอะไรกันเลยจริงๆ!คุณเชื่อฉันนะ!สามี!”
จ้าวฟางฟางลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ น้ำตาตรงขอบตาของเธอเลอะเปื้อนอายไลเนอร์และอายแชโดว์ที่ตั้งใจแต่งมาในค่ำคืนนี้ เครื่องสำอางสีดำหมองแปดเปื้อนทำให้ดูดำเขรอะไปเกือบทั้งหน้า สีหน้าดูกระอักกระอ่วนใจราวกับผีสาวยามเที่ยงคืน
ยื่นมือออกมากอดไม้เท้าที่กำลังจะทุบลงมาอีกของเสิ่นคั่วไว้แน่น จ้าวฟางฟางพยายามใช้แรงทั้งหมดประคับประคองร่างครึ่งบนของตัวเองเอาไว้ เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเธอทำให้หน้าอกของเธอยืดขึ้นลงอย่างรุนแรง สภาพดูน่าเวทนาอย่างเห็นได้ชัด
เสิ่นคั่วใบหน้าดูโหดเหี้ยมน่ากลัวเนื่องจากความโกรธและอับอายเกินกว่าจะรับได้ ริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เป็นร่องลึกบนใบหน้าของเขาดูทับซ้อนไปมา รอยย่นที่หน้าผากก็เห็นได้ชัดเจน ที่แท้ใบหน้าแก่ๆก็เป็นแบบนี้นี่เอง บวกเข้ากับความสยองของคนแก่ โดยเฉพาะเวลายืนย้อนแสงไฟ แสงส่องผ่านหัวของเขาลงมา ทำให้หน้าของเขาแบ่งเป็นสองด้าน ด้านสว่างกับด้านมืด ราวกับปีศาจที่กินมนุษย์เป็นอาหาร
“เชื่อเธอ? นังชั้นต่ำ!เธอนึกว่าฉันไม่รู้อะไรเลยเหรอ เธอถือว่าฉันแก่ตาพร่ามัว!เธอแอบไปคบชู้กับหลงเหลียวอยู่เป็นประจำ นึกว่าฉันไม่รู้อย่างนั้นเหรอ!นังชั้นต่ำ!วันนี้ฉันจะตีเธอให้ตาย!”
หลังจากที่เขาด่าด้วยความโกรธแล้วก็ใช้แรงง้างไม้เท้าขึ้น ฟาดลงไปอย่างสุดแรงไม่สนสถานที่อยู่ ไม้เท้ากระหน่ำฟาดไปยังเงาสีดำอย่างเร็วและแรง ตามด้วยเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวช!
“อา!!ขอร้อง อย่าตีฉันเลย……อย่าตีฉัน ฉันกับเขาไม่มีอะไรกันจริงๆ แต่ไหนแต่ไรฉันไม่เคยเข้าหาเขาก่อนเลย มีแต่เขาที่เข้ามาอ่อยฉันทั้งนั้น สามี……ฉันบริสุทธิ์จริงๆ ถ้าไม่เชื่อคุณไปถามเขาได้ คุณไปถามลูกชายตัวดีของคุณเอง!ฉันอยู่ที่ตระกูลเสิ่นดูแลปกป้องตัวเอง แล้วก็คลอดลูกชายเลี้ยงลูกสาวให้คุณ ทำแทนคุณทุกอย่าง ฉันไม่ดีตรงไหน?”
“ฮือๆ!!สามี ฉันไม่ดีตรงไหน? คุณถึงทำกับฉันขนาดนี้? ไม่ใช่ความผิดของฉัน ไม่ใช่ความผิดของฉัน……”
“อา!”
คำขอร้องวิงวอนด้วยความกลัวด้วยวิตกกังวลและเสียงร้องโอดโอยด้วยความเศร้าเสียใจดังขึ้นอยู่เรื่อยๆ เสียงของไม้เท้าที่กระทบลงที่เนื้อหนังดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน จ้าวฟางฟางถูกเสิ่นคั่วดีจนช้ำเขียวช้ำม่วงไปทั้งตัว เจ็บจนลงไปนอนขดตัวอยู่ที่พื้น
“ขอร้องล่ะ ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว ไม่กล้าทำอีกแล้ว……”
ตามด้วยคำอ้อนวอนของจ้าวฟางฟาง ในที่สุดเสิ่นคั่วก็ตีจนเหนื่อยหอบ
ค้ำไม้เท้านั่งลงบนโซฟา จ้องเขม็งจ้าวฟางฟางที่นอนขดกอดตัวเองบนพื้นด้วยสายตาเหี้ยมโหดเยือกเย็น น้ำเสียงเย็นชาราวกับผีเนื่องจากความอับอาย“นังสารเลว!ถ้าเกิดให้ฉันรู้ว่าเธอแอบไปทำเรื่องไม่ดีอะไรลับหลังฉันอีกล่ะก็ ครั้งหน้าจะทรมานเธอจนตายเลย!”
“จะไม่มีอีกแล้ว! จะไม่มีอีกแล้ว!!ฉันสาบาน!ฉันอยู่เคียงข้างคอยดูแลคุณแค่คนเดียวเท่านั้น!ฉันสาบาน!”
ฉู่ซีหรานยืนกอดอกอยู่ข้างนอกประตู สีหน้าชอบใจขณะที่มีเสียงร้องอย่างน่าอนาถใจดังออกมา ปากพ่นลมออกมาเบาๆ“สมควร!ควรจะตีให้ตายไปตั้งนานแล้วนังสารเลว!ไม่ใช่แค่แกที่สมควรตาย ลูกของแกยิ่งสมควรตาย!รีบๆตายซะ ลูกของฉันก็จะได้มีศัตรูที่แย่งมรดกทรัพย์สินน้อยลงไปอีกหนึ่งคน!ไอ้ชั้นต่ำ!”
จ้าวฟางฟางกลั้นความเจ็บปวดรวดร้าวทั้งร่างกายไว้ ค่อยๆพยุงตัวขึ้นมา ลุกไปยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าพูดอะไร
“ของที่หลงเซียวให้เธอ มันคืออะไร?”ความโกรธของเสิ่นคั่วยังไม่ลดละลงไป น้ำเสียงยังคงเยือกเย็นเข้ากระดูก ไม้เท้าในมือของเขาชี้ไปที่กล่องของขวัญไม้ประดู่ พร้อมกับถามขึ้น
สีหน้าของจ้าวฟางฟางขาวซีดลงทันที ไม่มีเลือดเลยแม้แต่น้อย รูปปั้นแกะสลักของฉีซือหนานที่หลงเซียวส่งให้ มันเป็นสัญญาณเตือนเธอแล้วว่า เขารู้เรื่องของเธอกับฉีซือหนานแล้ว ดังนั้น……ของในกล่องของขวัญนั้น จะต้องเกี่ยวข้องกับเธอแน่ๆ
เธอยึดอำนาจในการเลี้ยงดูลูกสาวไป ฉู่ลั่วหานแอบช่วยอยู่อย่างลับๆ ดังนั้น……จ้าวฟางฟางก็ทำตาโตขึ้นทันที จบแล้ว!เขาจะต้องข่มขู่เธอแน่นอน!
“เอ่อ……ข้างในนี้เป็นแค่พวกของใช้สำหรับผู้หญิง เป็นน้ำหอมหนึ่งขวด……”จ้าวฟางฟางพยายามกัดฟันเอาไว้ แต่ความตื่นกลัวที่มากเกินไปนั้นทำให้เธอปากสั่นอย่างช่วยไม่ได้
“เปิดออก!”
“…!!”ร่างกายของจ้าวฟางฟางราวกับถูกไฟช็อต ขยับไม่ได้อยู่สักพัก
“อ้ำอึ้งอะไร!เปิดออก!ฉันบอกให้เปิดออก!!”
“ตึ้งๆๆ!!”เนื่องจากความโมโห เขาใช้ไม้เท้ากระแทกลงที่พื้นทำให้เกิดเสียงที่กระชากหัวใจดังขึ้น จ้าวฟางฟางนิ่งอึ้งไปโดยสิ้นเชิง!
“ปึ้งๆ”ในขณะนี้ มีคนมาเคาะประตูพอดี
“ใคร!”เสิ่นคั่วหันไปถามหนึ่งคำ
ฉู่ซีหรานยิ้มอย่างอ่อนโยน“พ่อ ฉันเอง”
จ้าวฟางฟางถอนหายใจเบาๆหนึ่งเฮือก ทั้งตัวได้ผ่อนคลายความเกร็งลงไปบ้างเล็กน้อย
“มีเรื่องอะไร?”
“พ่อ มีเรื่องอยากจะพูดกับพ่อนิดหน่อย ถ้าเข้าไปจะสะดวกไหมคะ?”
เสิ่นคั่วจ้องมองจ้าวฟางฟางด้วยสายตารังเกียจ“จัดการกับตัวเองให้เรียบร้อย อย่าให้ต้องอับอายขายหน้า!”
จ้าวฟางฟางหน้าตาสวยงาม บุคลิกท่าทางก็ไม่ได้แย่ เพียงแต่เสิ่นคั่วเห็นฉู่ลั่วหานในค่ำคืนนี้แล้ว ก็รู้สึกตราตรึงอยู่ในใจทันที ตอนนี้ไม่ว่าจะเห็นผู้หญิงคนไหนก็รู้สึกว่าจมอยู่ในโคลนตมทั้งนั้น มีเพียงแค่ดอกบัวที่สดใสเจิดจรัสราวกับหยกขาวนั่นเท่านั้นที่สะอาดสะอ้านไม่เลอะไม่เปื้อนสิ่งสกปรก
การมาของฉู่ซีหรานทำให้การถามบังคับขู่เข็ญที่เสิ่นคั่วทำกับจ้าวฟางฟางจบสิ้นลง ฉู่ซีหรานหาเหตุผลที่ไม่หนักไม่เบาเกินไป เบี่ยงเบนความสนใจของเสิ่นคั่ว
ต่อมาเสิ่นคั่วก็ไม่ได้สนใจของขวัญอีกแล้ว
หลังจากที่เสิ่นคั่วออกจากห้องไปแล้ว ฉู่ซีหรานก็กอดอกชำเลืองตามองจ้าวฟางฟางที่บวมเขียวไปทั้งหน้าทั้งตัว“แม่น้อย เมื่อตะกี้ฉันช่วยชีวิตคุณไปหนึ่งชีวิตแล้วนะ คุณจะขอบคุณฉันยังไง?”
จ้าวฟางฟางที่ถูกเสิ่นคั่วทุบตีไปจนตกใจขวัญเสียหมดแล้วเมื่อตะกี้ ตอนนี้จะเอาปัญญาที่ไหนมาตอบคำถามของเธอ กัดฟันพูดขึ้น“เธอต้องการอะไร?”
ฉู่ซีหรานพอตาหันไปเห็นกล่องของขวัญบนโต๊ะ ก็รีบไปยึดมาไว้ในมืออย่างรวดเร็ว “แม่น้อยของที่อยู่ในนี้ เป็นความลับที่บอกคนอื่นไม่ได้ใช่ไหม?”
“เธอ!เธอคืนมันมาให้ฉันนะ!”จ้าวฟางฟางเริ่มลนลานแล้ว ของในนั้นไม่ถูกเสิ่นคั่วพบ แต่ถ้าตกไปอยู่ในมือของฉู่ซีหรานล่ะก็ เธอก็จบไม่สวยเหมือนกัน
ฉู่ซีหรานทำปากมุ่ย พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องอะไร“แม่น้อย คุณกลัวอะไร? เป็นแค่น้ำหอมขวดหนึ่งไม่ใช่เหรอ? น้ำหอมที่หลงเซียวให้กับคุณ หรือว่าใส่ของอย่างอื่นเพิ่มไปด้วย? ฉันล่ะอยากรู้จริงๆ”
ใบหน้าช้ำเขียวช้ำม่วงของจ้าวฟางฟางค่อยๆมืดมนลง“ซีหราน เอามาให้ฉัน เธออยากได้อะไรฉันให้เธอได้หมด”
ฉู่ซีหรานส่ายหัว ความหิวกระหายของเธอไม่ได้จะถูกเติมเต็มง่ายๆขนาดนั้น!
“แม่น้อย รูปปั้นแกะสลักของฉีซือหนาน ฉันอยากรู้อยากเห็น ว่าคุณกับเขามีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?”
มือที่อ่อนแรงของเธอกำแน่น ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง เครื่องสำอางที่เลอะเปรอะเปื้อน สภาพเธอในตอนนี้ก็คือภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่ถูกสามีทอดทิ้ง
“ไม่มีความสัมพันธ์อะไร!ฉันไม่รู้จักเขาเลยแม้แต่นิดเดียว!”
“อ๋อ? อย่างนั้นเหรอ? ไม่เป็นไร ฉันแค่ดูในกล่องของขวัญก็ได้แล้ว……ไม่รู้ว่าพี่เขยสุดที่รักของฉัน จะส่งของอะไรที่หายากมาให้กันนะ!”
“อย่านะ!!”
เธอตะโกนด้วยเสียงที่แหลมและรันทด ท่าทางการกระทำของเธอรวดเร็ว!
ฝาของกล่องของขวัญถูกเปิดออก ของในกล่องไม้ประดู่สั่นอย่างแรงแล้วตกลงบนพื้น