ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 426
ตอนที่ 426 ความรับผิดชอบของสามี
“ฉันอยากรู้……ว่าคุณหลงเปลี่ยนเป็นคนเจ้าเล่ห์ เผด็จการ เจ้าแผนการขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
มือนุ่มละมุนของเธอยังคงดึงเนกไทของเขาอยู่ นิ้วมือขยับไปแตะที่คอของเขาเหมือนกับตั้งใจแต่ก็ไม่ตั้งใจ
หลงเซียวย่อสองมือที่ค้ำอยู่ที่หน้าต่างเข้าไปอีก ค่อยๆลดระยะห่างให้ใกล้ขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้แคบลงจนมีที่สำหรับเธอแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น“เพราะว่าคุณยังไงล่ะ”เขาประกบริมฝีปากของตัวเองลง ห่างจากริมฝีปากของเธอไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร
ลมหายใจของลั่วหานบางเบา รูปร่างที่ผอมสูง กลิ่นเตกีล่าที่อบอวลอยู่ทั่วร่างเขา อากาศที่เธอสูดเข้าไป ล้วนแต่เป็นกลิ่นของเขาเต็มๆ“ขี้โกง ฉวยโอกาสตอนฉันเผลอ”
เธอผลักเขาออกอย่างไม่พอใจ แต่กลับถูกเขาคว้ามือไว้แน่น“เพราะว่าอยากให้คุณนายหลงรักผมแค่คนเดียวเท่านั้น ก็เลยต้องเจ้าเล่ห์ อยากให้คุณนายหลงของผมไม่ถูกใครหน้าไหนกลั่นแกล้งรังแก ก็เลยต้องเผด็จการ อยากที่จะปกป้องคุณนายหลงของผมไม่ให้ติดกับดักของศัตรู ก็เลยต้องเจ้าแผนการ อธิบายขนาดนี้ คุณนายหลงพอใจแล้วหรือยัง?”
แต่ละคำที่หลงเซียวพูดออกมาจากความรู้สึกลึกๆข้างใน ทุกคำล้วนแต่ออกมาพร้อมกับลมหายใจของเขา ลอยมากระทบที่ริมฝีปากของเธอ รู้สึกคันๆชาๆในลำคอ
“ถ้าเกิดไม่พอใจล่ะ?”
พูดจบ จู่ๆก็ถูกหลงเซียวดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาทันที กลายเป็นคนโปรดปรานในอ้อมกอดของเขาโดยสมบูรณ์“ถ้าเกิดพูดแล้วยังไม่ได้ผลอีก ผมก็คงต้องลงมือแล้วล่ะ”
ร่างกายอ่อนระทวยลง ทั้งเนื้อทั้งตัวถูกหลงเซียวกอดรัดเอาไว้ รู้สึกแค่ว่าพอหลังอ่อนระทวยลง คิดไม่ถึงว่าจะถูกหลงเซียวเอาวางไว้บนขอบหน้าต่างแล้ว
ด้านหลังของเธอ ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวกว้างใหญ่ไพศาลทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา ดวงดาวที่อยู่หลังกลุ่มเมฆกระพริบระยิบระยับ เมฆและดาวที่เคลื่อนไหวไปมา กลายเป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุด
“คิดถึงฉันแล้วเหรอ?”
ลั่วหานอ่อนระทวยไปทั่วร่างกาย พิงซบไปในอ้อมกอดของเขาพร้อมกับพูดขึ้น“อื้อ……ก็นิดหน่อย”
“แค่นิดหน่อย?”หลงเซียวไม่พอใจกับคำตอบนี้อย่างเห็นได้ชัด
“เอาเถอะ มันมากกว่านิดหน่อยอยู่แล้วล่ะ ดังนั้นช่วงหลายวันนี้ฉันจะอยู่ที่เมืองเจียงเฉิง หลานสาวของเฉินว่านเหนียนต้องเข้ารับการผ่าตัด ฉันให้โรงพยาบาลติดต่อโรงพยาบาลประชาชนอันดับหนึ่งของนี่ที่แล้ว ฉันเป็นหมอผ่าตัดหลัก รอเด็กสาวตัวน้อยพ้นขีดอันตรายก่อนค่อยกลับไป”ลั่วหานตัดสินใจไม่เล่นอ้อมค้อมกับเขาต่อแล้ว ไม่อย่างนั้นทั้งคืนก็พูดกันไม่จบ
หลงเซียวพยักหน้า นิ้วมือเรียวยาวลูบๆเส้นผมของเธอ“จนกว่าจะผ่าตัดเสร็จสิ้น ใช้เวลานานแค่ไหน?”
“ประมาณสิบวัน ตอนผ่าตัดเร็วมาก หลักๆแล้วคือการพักฟื้นหลังจากผ่าตัด ขอแค่ช่วงระยะหลังผ่าตัดไม่มีปัญหาอะไร ฉันก็กลับได้แล้วล่ะ ถึงยังไงฉันก็ไม่ใช่หมอของเมืองเจียงเฉิงอยู่แล้วด้วย ทางฝั่งของหวาเซี่ยมีเรื่องมากมายที่จำเป็นต้องให้ฉันกลับไปจัดการ ดังนั้น อยู่ที่นี่ได้มากสุดแค่สิบวัน”ถึงลั่วหานจะพูดไปแบบนั้น แต่เธอรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องถึงสิบวัน โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดมีทั้งเคสหนักและเบา ถ้าการผ่าตัดราบรื่นล่ะก็ แค่อาทิตย์เดียวก็พอแล้ว
หลงเซียวครุ่นคิดแผนการของตัวเอง“โอเค ผมจะเร่งให้เร็วขึ้น จะได้กลับไปด้วยกันกับคุณ”
“ค่ะ”
ทั้งสองคุยกันอยู่ที่ระเบียงสักพัก ลั่วหานหันไปเห็นดอกตูมของดอกคามิเลีย ริมฝีปากยกขึ้น“หลงเซียว เจิ้งซินคิดจะใช้แผนการนี้กับคุณอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด คุณดูสิ”
หลงเซียวโค้งไปดูกระถางต้นไม้ที่อยู่บนขอบหน้าต่าง ดอกตูมที่หุบสนิทอยู่ก่อนหน้านี้ คิดไม่ถึงว่าจะบานออกมาไม่น้อยเลย ผ่านไปอีกสักชั่วโมงก็น่าจะบานออกจนหมดแน่นอน
ลั่วหานสบถ หึ ออกมา ยิ้มอย่างเย้ยหยัน“เคยมีคนกินยาตัวนี้เกินขนาด ทำให้ตายกะทันหันทันที ยาประเภทนี้ จะไปกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนของต่อมหมวกไตอย่างรุนแรงในระยะเวลาอันสั้น ทำให้คนตื่นตัวอารมณ์พุ่งสูงขึ้นในเวลาสองชั่วโมง ถึงขนาดที่ทำให้คนคล้อยตามอารมณ์จนสูญเสียสติเลยก็มี ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างสิ้นเชิง เจิ้งซินไม่เพียงแต่อยากจะได้คุณ เธอถึงขนาดที่อยากได้ชีวิตของคุณด้วยเลยนะ”
ลั่วหานแววตาเป็นประกายอย่างมีปัญญา ถ้าเกิดคืนนี้เธอได้มา แล้วถ้าเกิดเธอสบโอกาสได้อยู่กับหลงเซียวสองต่อสองล่ะก็……
หลงเซียวหรี่ตาลงอย่างอันตราย“เจิ้งซินเหอะ!”
ลั่วหานตบๆลงที่ไหล่ของหลงเซียว“คุณหลง อย่าไปเด็ดดอกไม้ป่าที่อยู่ระหว่างทางล่ะ เพราะดอกไม้ป่าอาจจะมีพิษ ถ้าเกิดไม่ทันได้ระวังเผลอไปโดนพิษนั่นล่ะก็ จะถึงแก่ชีวิตได้”
หลงเซียวโอบเอวเธอไว้แน่น“ได้ ไม่เด็ดหรอกดอกไม้ป่า ต้องการแค่คุณ!”
“เดี๋ยวก่อนๆ!”
ลั่วหานใช้สองมือสกัดอ้อมกอดของเขาไว้“ฉันยังมีอีกเรื่องที่อยากจะพูด คุณกับหลงจื๋ออยู่ที่บริษัท ทะเลาะกันเรื่องเปลี่ยนตำแหน่งงานเหรอ?”
พอนึกถึงคืนที่หยวนชูเฟินมาเยี่ยม ลั่วหานจึงต้องถามให้มั่นใจสักหน่อย
“ไม่มีเรื่องอะไร ผมกับเสี่ยวจื๋อไม่มีปัญหาอะไร ผมจะจัดการให้เรียบร้อยเอง”หลงเซียวนิ่งขรึมกว่าเมื่อตะกี้เนื่องจากรู้สึกอัดอั้นใจ ถ้าเธอปฏิเสธอีกล่ะก็ เขาจะจัดการเธออย่างไม่เกรงใจเลยทันที!
ลั่วหานไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่พยักหน้าเท่านั้น“เอาเถอะ แบบนี้ก็ดี ฉันไม่อยากเห็นพวกคุณสองคนมาทะเลาะกันเรื่องสิทธิ์ในมรดกอะไรแบบนั้น”
“อื้อ ผมเชื่อฟังคุณ”
“เชื่อฟังง่ายขนาดนี้เชียว?”
“แล้วมีรางวัลไหมล่ะ?”
“อา……ฉันไม่ได้บอกว่ามีรางวัล!”
ร่างกายถูกยกลอยขึ้น เธอถูกเขาอุ้มจากระเบียงมาไว้บนเตียงใหญ่ในห้องนอน“ฟุ่บ”เสียงตกลงบนเตียงดังขึ้น ลั่วหานถูกเขากดลงนอน……
“คิดถึงฉันขนาดนี้เชียว?”ลั่วหานเงยหน้ามองเขา แววตาสวยงามคลุมเครือ
“คิดถึงมาก ผมจะพิสูจน์ให้คุณดูแล้วกัน”เขาหัวเราะ หึ ออกมาเบาๆ “ไปอาบน้ำกันเถอะ”
“ค่ะ”เธอพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
หลงเซียวไหลลงมา ถอดรองเท้าส้นสูงของเธอด้วยตัวเอง แต่หลังจากถอดรองเท้าไปได้ข้างเดียว ม่านตาของหลงเซียวก็หดลงอย่างรุนแรง!
“ฝ่าเท้าเป็นอะไร? ไปได้รับบาดเจ็บตอนไหน?”พูดตะโกนขึ้นด้วยความโมโห รูม่านตาเจ็บปวดด้วยความเป็นห่วง หลงเซียวเริ่มรู้สึกโมโหแล้ว
มากๆ มากสุดๆ
ลั่วหานตระหนักขึ้นมาได้ แทบจะเป็นลม เธอลืมแผลที่เท้าเธอจนสนิท“เอ่อ ไม่ทันได้ระวังเผลอไปเหยียบหินเท่านั้นเอง”
หลงเซียวไม่เชื่อ ถอดรองเท้าอีกข้างของเธอออก ฝ่าเท้าก็ยังคงช้ำอยู่“คุณคิดว่าผมจะเชื่อเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ใครทำคุณ?!”
น้ำเสียงเข้มงวด หงุดหงิด แปรเปลี่ยนความรักใคร่อ่อนโยนเมื่อตะกี้ไปโดยสิ้นเชิง
ลั่วหานเริ่มรู้สึกกดดัน“ไม่มีอะไรจริงๆ รักษาอย่างดีแล้วค่ะ”
หลงเซียวโค้งตัวลงมา จับข้อเท้าของเธอไว้พร้อมกับถามต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดละ“บอกมาตรงๆ ว่าใครเป็นคนทำ เกิดเมื่อไร เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ”
ลั่วหานหมดหนทาง ทำได้แค่สารภาพไป“หลายวันมาแล้ว ฉันกับศาสตราจารย์ส้งไปทานข้าวกัน หลังจากนั้น……”
ลั่วหานเล่าอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนวันนั้นไปหนึ่งรอบ สายตามองสำรวจปฏิกิริยาตอบกลับของหลงเซียวตลอดเวลา เขาดูเหมือนแทบจะฆ่าคน
พอฟังจบ หลงเซียวก็กอดขาที่เรียวยาวนวลละมุนของเธอด้วยความเป็นห่วง“โง่หรือเปล่า? ถึงไล่ตามไปแบบนั้น? ถ้าเกิดเขาหันกลับมาตีคุณ ลำพังตัวคุณแค่คนเดียวจะทำยังไง?”
“ฉันต้องจับตัวฆาตกร ฆาตกร……”
“เรื่องอะไรก็ไม่สำคัญไปกว่าตัวคุณเอง ความปลอดภัยของคุณมาเป็นอันดับแรกเสมอ ต่อจากนี้ถ้าทำเรื่องที่ไม่คิดแบบนี้อีก ผมไม่มีทางยอมให้คุณแน่นอน”
ความรักของเขา กลายเป็นการข่มขู่ที่เผด็จการ แน่นอนว่าขู่ได้อย่างอบอุ่นมาก
“รู้แล้วค่ะ ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว”
หลงเซียวตรวจดูฝ่าเท้าของเธออย่างละเอียด ไม่สนใจเลยว่าเธอเดินไปเดินมามาไม่ได้ล้างเท้ามาทั้งวันแล้วแม้แต่น้อย ปัดๆฝ่าเท้าเธออย่างเบาๆ“แผลลึกขนาดนี้……ตอนที่ผมกลับไปหาคุณที่เมืองหลวง ทำไมถึงไม่ยอมบอก?”
“คุณอยู่ที่เมืองหลวงแค่ไม่กี่ชั่วโมง จะให้ฉันทำให้คุณเป็นห่วงอีกหรือไง?”เธอพูดออกมาตรงๆ
หลงเซียวตาเป็นประกาย“ผมเป็นสามีของคุณ ถ้าผมไม่เป็นห่วงคุณ คุณจะให้ใครเป็นห่วง?”หยุดไปสักแป๊บ เขาพูดขึ้นต่อ“แล้วจับตัวฆาตกรได้แล้วยัง?”
ลั่วหานส่ายหัว“ยัง ฉันถามเจิ้งซิ่วหยาแล้ว แต่เธอบอกว่ากล้องวงจรปิดพัง บนรถก็ไม่มีลายนิ้วมือ ลงมือได้สะอาดหมดจดขนาดนี้ จะต้องมีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้าอยู่แล้ว เธอยังกำลังตรวจสอบคดีการยิงคนตายอยู่ ก็เลยยุ่งมาก”
คดียิงคนตาย……หลงเซียวแววตานิ่งลึก
ลั่วหานยิ้มอย่างเย้ยหยันพร้อมกับพูดขึ้น“สารภาพไปหมดแล้ว ตอนนี้ฉันไปอาบน้ำได้แล้วใช่ไหม?”
ใครจะไปรู้ หลงเซียวอุ้มเธอขึ้นมาทันที“เท้าเจ็บอยู่ ผมอุ้มคุณไปเอง”
“ฉันดีขึ้นแล้ว ฉันไปเองได้”ลั่วหานต้องไปด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะดูดัดจริตจนเกินไป
หลงเซียวจ้องเขม็งเธอด้วยสายตาเคร่งขรึม“คุณภรรยา ตอนที่ผมไม่ได้อยู่กับคุณ คุณจะอะไรก็ได้ แต่ถ้าผมอยู่ที่นี่ด้วยแล้ว คุณต้องเข้าใจว่าอะไรคือความรับผิดชอบของสามี อย่าขยับ ผมอุ้มคุณไปอาบน้ำ ไม่สิ ผมช่วยคุณอาบน้ำต่างหากล่ะ”
“……!!!”
“……!!!”
อุ้มเธอจากห้องอาบน้ำกลับมายังห้องนอน เริ่มรู้สึกอุ่นขึ้น ผ้าห่มผ้าไหมปกคลุมรูปร่างที่นุ่มนวล
“หลงเซียว วันนี้ที่คุณอุ้มลูกของจ้าวฟางฟาง ดูเหมือนไม่ค่อยจะชอบใจเท่าไรนะ คุณไม่ชอบเหรอ?”เธอหายใจอ่อนละมุนอย่างไม่มีแรง สองมือกุมอยู่ที่หัวของเขา พร้อมกับถามขึ้นอย่างช้าๆและหมดแรง
“ผมชอบแค่ลูกของตัวเองเท่านั้น ลูกของคนอื่น ทำไมจะต้องชอบด้วย?”
มือของลั่วหานกำผ้าห่มไว้แน่น ค่อยเลื่อนๆจากผ้าห่มไปที่เอวของเขา“ฉัน……”
ในเวลานี้ คนที่ไม่รู้จักดูเวล่ำเวลาก็โทรศัพท์มาหาหลงเซียว มือถือดังขึ้นทำลายความสุขใต้ผ้าห่ม
“โทรศัพท์ของคุณ……”ลั่วหานกลืนน้ำลาย พูดขึ้นอย่างยอมรับความยากลำบากของเขา
หลงเซียวยื่นมือออกมาจากในผ้าห่ม พอคลำเจอมือถือ มองยังไม่ทันได้มอง โยนมือถือออกไปทันที “ปึ้ง”มือถือไม่รู้ว่าถูกโยนทิ้งไปอยู่ที่มุมไหน
ดีมาก ในที่สุดก็ได้ทำอย่างสุดจิตสุดใจ ได้ดื่มด่ำกับงานเลี้ยงที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยมานานแสนนานสักที
หน้าจอมือถือที่ตกอยู่ตรงมุมห้อง หลังจากที่สั่นอยู่สักพัก หน้าจอก็ดับลง
สีสันยามค่ำคืนราวกับสายน้ำ ดวงดาวส่องประกายวิบวับ ค่ำคืนนี้ช่างมีความสุขและแสนยาวไกล