ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 440
ตอนที่ 440 คุณนายหลง เราสองคนไปเที่ยวกัน
นานๆทีเมืองเจียงเฉิงจะอากาศแจ่มใสติดต่อกันหลายวัน แสงอาทิตย์ส่องจ้า พลอยทำให้ผู้คนอารมณ์ดีขึ้นไปด้วย
เพราะงั้น เขาที่ไม่ต้องเครียดกับงาน ส่วนเธอก็ไม่มีคนไข้และการผ่าตัดมารัดตัว ช่างเป็นวันที่สบายตัวจริงๆ
หลงเซียวยังคงตื่นเช้าออกไปทำงาน ช่วงบ่ายพอถึงเวลาเลิกงานก็กลับบ้านตรงเวลาเช่นทุกวัน ตลอดสามวันที่ผ่านมา ทันทีที่เลิกงานกลับมาถึงโรงแรมก็พาลั่วหานออกไปหาของอร่อยๆกินไม่ซ้ำ ไม่ก็ไปดูการแสดงดนตรีสด หรือดูหนัง
ส่วนลั่วหานจะเข้าโรงพยาบาลไปเยี่ยมเป่ยเป่ยบ้าง พอว่างแล้วก็จะออกไปเดินเล่นชมวิวรอบๆเมืองเจียงเฉิง
เวลาในแต่ละวันผ่านไปอย่างเรียบง่าย พระอาทิตย์ขึ้นออกไปทำงาน ตะวันตกดินก็กลับมาพักผ่อน ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตเหมือนอย่างคู่สองสามีภรรยาทั่วไป ถึงขนาดที่ว่ามีอารมณ์ไปนั่งกินชาบูด้วยกันมาแล้วครั้งนึง
แต่ภายใต้ชีวิตที่แสนสงบสุข กลับเหมือนรอเวลาที่ระเบิดจะปะทุ
ในช่วงเช้าของวันที่สี่ ลั่วหานไปตรวจร่างกายหลังผ่าตัดให้เป่ยเป่ยที่โรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้าย หลงเซียวหยุดงานพักผ่อนอยู่ที่โรงแรม ด้วยเหตุผลคือวันนี้ขี้เกียจ
อย่างนี้แหละนะ คนเป็นเจ้านาย วันไหนเกิดไม่อยากทำงานก็แอบอู้ซะดื้อๆ
หลังจากลั่วหานออกจากโรงแรมไปแล้ว หลงเซียวโทรหาจี้ตงหมิง
จี้ตงหมิงกำลังจัดการปัญหาของแผนกบัญชีจนหัวหมุน รวมถึงเตรียมการประชุมของหลงจื๋อที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า แต่เมื่อเห็นเบอร์โทรของเจ้านาย จี้ตงหมิงก็หยุดงานทุกอย่าง
“เจ้านาย เชิญสั่งงานมาได้เลยครับ” จี้ตงหมิงถือเอกสารกองโตให้มั่น อะไรที่เรียกว่าว่ายุ่งจนไม่ได้หายใจ อะไรที่เรียกว่ายุ่งจนโลกทั้งใบวุ่นวาย ภาพที่อยู่ตรงหน้าตอบได้อย่างดี
หลงเซียวนั่งอยู่ตรงระเบียงในห้องชั้นสูงสุดของโรงแรม “เรื่องที่ฉันให้ไปทำ เรียบร้อยหรือยัง?”
จี้ตงหมิงใช้เวลานึกเล็กน้อยว่าช่วงนี้เจ้านายใช้ให้เขาไปทำอะไรบ้าง ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆแล้วตอบ “ครับ เกือบจะเรียบร้อยดีแล้ว ยังเหลือเก็บงานที่เมืองหลวงอีกนิดหน่อยครับ”
หลงเซียวจิบชาอ่อนๆสบายอารมณ์ หลายวันมานี้เขาค้นพบว่าชาอ่อนๆหรือชาเขียวดื่มสบายคอกว่ากาแฟเข้มๆเยอะเลย “ไม่รีบ ที่ฉันจะถามไม่ใช่เรื่องนี้หรอก พาสปอร์ตกับวีซ่าทำเสร็จหรือยัง?”
จี้ตงหมิงหลงเข้าใจว่าเขาจะถามเรื่องงาน แต่พอไม่ใช่เขาจึงถอนหายใจโล่งอก “ด่านตรวจคนเข้าเมืองโทรมาแจ้งว่าจัดการเรื่องให้เรียบร้อยแล้วครับ เพิ่งดำเนินเรื่องเสร็จวันนี้เอง แต่เพราะเจ้านายทำเรื่องหลายประเทศ…ผมเลยยังไม่คิดว่าจะต้องไปเอา เจ้านายรีบใช้ไหมครับ?”
หลงเซียวเม้มปากลิ้มรสชา คิ้วหนาคลายออกสบายๆยักขึ้นข้างนึงโดยไม่ตั้งใจ แสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มอารมณ์ดีไม่น้อย “ใช่ ฉันต้องการเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องส่งพัสดุมา ให้คนนั่งเครื่องรอบบินที่เร็วที่สุดเอามาให้ฉันที่โรงแรม ก่อนห้าโมงเย็นวันนี้ฉันต้องได้ครบทั้งหมด”
จี้ตงหมิงกลัดกลุ้ม เขาถามขึ้นไม่เข้าใจ “เจ้านายครับ ช่วงนี้คุณมีทำงานนอกสถานที่หรอครับ? ไหนจะวีซ่าของคุณนายหญิง…”
“ไม่ใช่งานนอกสถานที่ แต่เป็นพักร้อน” หลงเซียวตอบไปที ท่าทางของชายหนุ่มผ่อนคลาย ประหนึ่งกำลังนอนอาบแดดอยู่มัลดีฟก็ไม่ปาน
จี้ตงหมิงพูดไม่ออก มือของเขาเริ่มสั่นเบาๆ กองเอกสารในมือค่อยๆเอียงก่อนจะร่วงหล่นบนพื้น
“แต่เจ้านายครับ ตอนนี้คุณชายหลงยี่เข้ามาเป็นใหญ่ในเจียงเฉิง สาขาใหญ่ที่เมืองหลวงตอนนี้ก็วุ่นวาย โครงการที่อเมริกาก็ดูเหมือนจะไปไม่สวยนัก ไหนจะบริษัทฉู่ซื่อกับโม่ซื่อกำลังดำเนินการรื้อระบบใหม่ เจ้านาย…จะพักร้อนในเวลาแบบนี้หรอครับ?”
จี้ตงหมิงเป็นคนซื่อๆ เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าเจ้านายกำลังคิดอะไรอยู่
นิ้วเรียวยาวของหลงเซียวหมุนแก้วชาเล็กๆสีเขียวในมือเล่น ชายหนุ่มมองตามแสงอาทิตย์นอกหน้าต่างที่ห่างออกไปไกลหลายไมล์ “เพราะแบบนั้นฉันถึงอยากไปพักร้อนน่ะสิ มองไม่เห็นก็ไม่ปวดสมอง แล้วก็ระหว่างที่ฉันพักร้อนฉันจะไม่เปิดโทรศัพท์ ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญไม่ต้องติดต่อฉัน ถ้าจนถึงที่สุดแล้วยังจัดการไม่ไหวค่อยส่งเมลล์มา แต่แน่นอนว่าฉันคงไม่สามารถจะเปิดอ่านเมลล์นายได้ทันที หรือบางทีที่ที่ฉันไปอาจจะไม่มีสัญญาณเน็ต”
จี้ตงหมิงหายใจไม่ออก เขาก้มลงเก็บเอกสารขึ้นมาถือ ขาข้างนึงคุกเข่าลงกับพื้น เขาเอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่า “เจ้านาย…จะไปไหนหรอครับ? ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับบริษัทจะทำยังไงครับ? อาจจะเกิดสงครามโลกครั้งใหม่เลยก็ได้นะครับ”
หรอ? เขากลัวก็แต่จะไม่เกิดสงครามนี่สิ
“ฉันให้นายไปทำวีซ่า นายลืมแล้วหรอ?”
จี้ตงหมิงกลืนน้ำลายยากลำบาก “แต่…เจ้านายให้ผมไปทำตั้งยี่สิบประเทศเลยนะครับ”
“ก็เดามาสักหนึ่งในยี่สิบสิ มันเดายากมาก? แล้วก็นะ สงครามเริ่มต้นเมื่อไหร่ รีบหลบไปให้ไกลๆ แล้วก็ จำคำพูดของฉันเมื่อกี้ให้ได้ มันจะมีประโยชน์กับนาย”
หนึ่งในยี่สิบ โอกาสถูกแค่ห้าเปอร์เซ็นต์ มันเดาง่ายหรอ?
แน่นอนว่าไม่! ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลายประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าอีก
จี้ตงหมิงชะงักนิดหน่อย “เอ่อ…ครับ ผมจะจำไว้ครับ”
จี้ตงหมิงงงจนไม่รู้จะพูดอะไร ความคิดของเจ้านายเหมือนเข็มในมหาสมุทร ที่ไม่มีวันเดาได้
หลังวางสายไปแล้ว จี้ตงหมิงยังคงเหม่อลอย หรือว่าเจ้านายกำลังทำการใหญ่? แค่คิดก็ขนลุกซู่ แต่ก็น่าลุ้นมาก!
หลงเซียวกดเบอร์อีกเป็นครั้งที่สอง รอไม่นานปลายสายก็รับ “เตรียมเครื่องบินให้พร้อม เก็บเที่ยวบินทั้งหมดเป็นความลับ แล้วก็เดินทางตามเส้นทางในแผนที่ที่ฉันวางไว้ ทุกสถานที่ที่ลงจอดเตรียมรถให้พร้อม ส่วนที่เหลือคงไม่ต้องให้ฉันพูดละเอียดหรอกใช่ไหม?”
ปลายสายตอบกลับด้วยเสียงอ่อนน้อม “สบายใจได้ครับท่าน ทางเราจะดำเนินแผนตามที่ท่านต้องการ ขอให้ท่านเที่ยวให้สนุกครับ”
สนุก สนุกแน่นอน
แน่นอนว่าในเวลาบ่ายสามโมง ทั้งพาสปอร์ตและวีซ่าก็ส่งถึงมือหลงเซียวเป็นที่เรียบร้อย เอกสารเดินทางบรรจุเต็มกระเป๋า ให้ความรู้สึกอลังการอยู่ไม่น้อย
เวลาสี่โมงกว่า โทรศัพท์ของหลงเซียวก็ดังขึ้น
เป็นกู้เยนเซินวีดีโอคอลมา
“คุณชายหลง แผนรื้อระบบของโม่ซื่อผ่านอนุมัติแล้ว คาดว่าอีกสิบวันหลังจากนี้ เงินทุนก้อนแรกจะไหลเข้าสู่เมืองA หลังจากนั้นจะมีเงินทุนก้อนใหญ่ส่งเข้าไปอีกสามก้อน เราจะร่วมมือกับบริษัทหรงเหยียนก่อน ถึงหรงเหยียนจะเป็นบริษัทลูกของบริษัทเซิ่งซื่อ แต่แผนพัฒนาขนาดใหญ่ เหมาะสมกับการทดสอบมากที่สุด”
หลงเซียวพยักหน้าให้กู้เยนเซินผ่านวีดีโอ “บริษัทหรงเหยียนเน้นทำอิเล็กทรอนิกส์ระดับไฮเอนด์เป็นหลัก นอกจากนี้ยังทำอาหารสำเร็จรูป แต่ยังไงซะก็ไม่ใช่บริษัทการลงทุน ลองดูก่อนแล้วกัน ถึงยังไงก็มีเซิ่งซื่อคอยหนุนหลังอยู่”
กู้เยนเซินฟังก็คล้อยตามที่เขาพูด “คุณชายหลง ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของหรงเหยียนกับเซิ่งซื่อ เหมือนฉู่ซื่อกับMBKสุดๆ จุ๊ๆ เหมือนกันตรงที่เป็นของขวัญที่สามีทำให้ภรรยา เหมือนตรงที่สามีเป็นคนคอยหนุนหลัง”
หลงเซียวค่อยหัวเราะเบาๆ “ไม่เหมือนกัน เจ้าของบริษัทเซิ่งซื่อเป็นลูกแท้ๆ”
“ฮะ?” กู้เยนเซินไม่เข้าใจที่เขาพูด “เหอๆๆ ไม่ว่าจะยังไง เอาเป็นว่าผมทำตามนี้แล้วกัน”
“อีกไม่นานหลังจากนี้ฉันจะหายตัวไปสักพัก เมื่อถึงเวลาฉันจะโผล่ตัวออกมาเอง ส่วนรายละเอียดฉันคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องบอกนาย”
“ทำไม?”
“ไม่ทำไม”
กู้เยนซินรู้สึกว่าตัวเองถูกมองข้ามไปซะงั้น!
เมื่อเรื่องสำคัญสองเรื่องจัดการเป็นที่เรียบร้อย หลงเซียวจึงวางสาย
ลั่วหานแน่ใจแล้วว่าการผ่าตัดของเป่ยเป่ยฟื้นสภาพเข้ากับร่างกายของเธอได้ ในที่สุดก็สามารถโล่งใจได้อย่างร้อยเปอร์เซ็น
ระหว่างขากลับโรงแรม ลั่วหานรับสายของหลินซีเหวิน
ทันทีที่กดรับสาย เสียงของอีกฝ่ายก็ดังโพล่งขึ้น
“ไอดอล!! ไอดอล!! คุณเป็นเทพธิดาสุดเพอร์เฟคของฉันจริงๆนะ!! คุณดังแล้ว คุณดังแล้วรู้ตัวหรือเปล่า? ตอนนี้ทั้งเมืองหลวงมีแต่คลิปของคุณ สุดยอด เป็นครั้งแรกที่เห็นรายการสุขภาพเป็นกระแสขึ้นมาได้ขนาดนี้!”
ลั่วหานนวดขมับเบื่อหน่าย เธอพูดขึ้นอย่างไร้อารมณ์ “โทรมาเพราะเรื่องนี้เนี่ยนะ?”
ลั่วหานตั้งใจปิดทุกช่องทางไม่ว่าจะทีวีหรืออินเตอร์เน็ต เพราะไม่อยากเห็นคลิปนั่น เธอรู้สึกแปลกๆเวลาเห็นตัวเองในคลิป ทำใจดูไม่ลง
“แน่นอนว่าไม่ใช่! ทำไมจู่ๆคุณก็ประกาศจะหยุดถ่ายล่ะคะ? แถมการถ่ายทำของอีพีหน้าก็ยังไม่ระบุแน่ชัด ทำไมล่ะคะ?”
“อะไรนะ?”
“แล้วก็นะ ทางโรงพยาบาลบอกว่าจะให้ฉันกับหวาเทียนรับงานของคุณไปอีกสักระยะ เพราะคุณจะไม่เข้าร่วมการผ่าตัดใดๆอีก ทำไมหรอคะ?”
“ว่าไงนะ?”
ลั่วหานไม่รู้เลยแม้แต่นิดเดียว “ฉันไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวฉันขอถามให้แน่ใจก่อนค่อยว่ากัน”
หลินซีเหวินยิ้มคิกคัก “หรือว่าอยู่กับเทพบุตรหลงเซียวจนไม่อยากกลับมาแล้วคะ? ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันกับหวาเทียนเอาอยู่ แต่ช่วงนี้หวาเทียนก็แปลกๆ ดูมีลับลมคมใน เมื่อวานอยู่ๆก็ซื้อดอกกุหลาบมาช่อนึง ไม่ใช่ว่ามีแฟนหรอกนะ?”
“ห้ะ?”
ลั่วหานอึ้งหนักกว่าเดิม
“ค่อยคุยกันนะคะ ฉันไปดูคนไข้ก่อน”
และโทรศัพท์ก็ตัดสายไปแบบงงๆ ลั่วหานมึนไปหมด เธอไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง
เมื่อรถขับมาถึงโรงแรม ลั่วหานจอดรถ ตั้งใจจะกลับไปถึงห้องแล้วค่อยโทรไปสอบถาม แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามา เธอก็ต้องตกใจอีกครั้ง
ตกใจกว่าเมื่อกี้อีก!
ร่างของชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก สายตามองเธอยิ้มๆ ห้องทั้งห้องของพวกเขาถูกพนักงานเก็บข้าวของทำความสะอาดแล้ว
“คุณ…คืนห้องแล้วหรอ?”
สวรรค์ นี่เธอเพิ่งออกไปได้แค่ครึ่งวัน มันเกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย?
หลงเซียวลุกขึ้น แขนแข็งแรงคว้าเอวบางของเธอเข้ามาซุกไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง “ที่รัก พวกเราไปเที่ยวกัน”
ไม่ใช่คำว่า พวกเราไปเที่ยวกันเถอะ?
ไม่ใช่คำว่า พวกเราไปเที่ยวกันดีไหม?
ไม่ใช่คำว่า พวกเราไปเที่ยวกันได้ไหม?
แต่เขากำลังบอกกับเธอว่า เรากำลังจะไปเที่ยวกัน
“ห้ะ?” วันนี้เธอเจอแต่เรื่องแปลกๆเต็มไปหมด
หลงเซียวหัวเราะอย่างมีความสุข “ใช่ ไปเที่ยว ไปที่ที่เธออยากไป ไปดูสิ่งที่เธอชอบ ไปกินของที่เธออยากกิน โลกใบนี้รอให้เธอเดินทางไปหามันอยู่ เธอเดินนำฉัน ฉันคอยซัพพอร์ตอยู่ข้างหลัง”
“คะ?” ลั่วหานเบิกดวงตากลมๆใสๆกว้าง “ตอนนี้?”
“ใช่ ไปตอนนี้”
ลั่วหานหัวเราะแหะ ตามความคิดเขาไม่ทัน “วีซ่าล่ะ?”
“มีแล้ว”
“ตั๋วเครื่องบินล่ะ?”
“ฮ่าๆ! เด็กโง่ เราจะไปเที่ยว ต้องจองตั๋วเครื่องบินด้วยหรือไง?”
อ้อ จริงสิ เขามีเครื่องบินส่วนตัวนี่นา พร้อมไปได้ทุกที่บนโลก
“งั้นงานของคุณจะทำยังไง?”
“ไม่ทำ”
“…” ลั่วหานพูดไม่ออก
หลงเซียวจับมือเธอขึ้นมา “คำถามเธอเยอะมากเลยนะ เดี๋ยวฉันจะค่อยๆตอบทีหลัง เอาล่ะ ตอนนี้ออกเดินทางกันเถอะ”
“ห้ะ?!! ตอนนี้หรอ? ไม่ต้องเก็บของหรือไง?”
“เก็บเรียบร้อยแล้ว ของทั้งหมดย้ายไปอยู่บนเครื่องตั้งแต่ก่อนเธอจะมาถึงซะอีก”
“อ้ะ? แต่งานของฉัน?”
เดี๋ยวนะ ทั้งหมดที่หลินซีเหวินพูด เป็นฝีมือของหลงเซียว?
หลงเซียวจูงลั่วหานออกจากห้องพัก ทั้งคู่ลงลิฟต์VIP “ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ไม่ต้องคิดถึงงานหรือใครอีก ผ่อนคลายหน่อย OK?”
ลั่วหานเบลอ ตามความคิดของชายหนุ่มไม่ทันอีกต่อไป “มันกะทันหันเกินไปนะหลงเซียว ฉันตั้งตัวไม่ทัน”
“ไม่เป็นไร ระหว่างทางเธอค่อยๆปรับตัวก็ได้”
“แต่…”
“ไม่มีแต่ ต่อจากนี้จนกว่าการเดินทางของเราจะสิ้นสุด ภรรยาของฉัน กรุณาพักสมองอัจฉริยะของเธอเก็บไป แล้วฟังแค่ฉัน”
“แต่…”
“คุณนายหลงพูดมากซะจริง ฉันควรจะจัดการกับปากของเธอยังไงดี?”
“ฉัน…”