ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 461
ตอนที่ 461 ข้อหาการจ้างฆ่าคน
ลั่วหานเพิ่งใส่เสื้อคลุมสีขาวแล้วเดินเข้าห้องทำงานไป หลินซีเหวินก็กอดลั่วหานไว้
“ไอดอล! สมกับที่เป็นไอดอลที่สุดยอดสุดๆของฉันเลย ฉันรักคุณมากสุดๆ ทำไมคุณถึงเลือกผู้ชายได้เก่งจัง สามีของคุณหล่อมาก!”
เมื่อ ลั่วหานได้ยินเธอพูดครึ่งแรกของประโยค เธอก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน แต่หลังจากฟังไปฟังมาความรู้สึกของเธอก็เปลี่ยนไป ปรากฏว่าสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเธอคือการที่เธอเลือกหลงเซียวเป็นสามีของเธองั้นเหรอ?
ลั่วหานขมวดคิ้วยื่นมือออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วเอามือหลินซีเหวินออกไป “คุณหมอหลิน ใจเย็น ๆหน่อยนะคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
หลินซีเหวินปล่อยมือออก “ ไอดอล ช่วงนี้คุณยุ่งมากเลยไม่ได้สังเกตเหรอ? เทพบุตรของฉัน คุณหัวหน้าหลงเซียวเขาหล่อมาก ตอนนี้มีแฟนคลับสาวเต็มโตเกียวไปหมด ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น”
ลั่วหานยุ่งมากจริงๆ หลังจากกลับจากท่องเที่ยว เธอต้องตรวจเช็คคนไข้ทุกคนอีกหนึ่งรอบ นอกจากนี้ตอนนี้โครงการกลับมาดำเนินต่อ เธอต้องเผชิญกับผู้ป่วยใหม่จำนวนมากที่ถูกย้ายเข้ามา เธองานยุ่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ กลับบ้านไปเธออาบน้ำเสร็จก็หลับไปเลย อย่าว่าแต่ข่าวเลย แม้กระทั่งหลงเซียวเธอก็ไม่ได้เจอด้วยซ้ำ
เธอยุ่งมาก เขายุ่งมากกว่าเธออีก บ่อยครั้งที่เธอนอนตื่นขึ้นมากลางดึก แต่เขายังอยู่ในห้องอ่านหนังสือ
จะมีใครรู้ว่าสามวันที่ผ่านมานี้ สองคนนี้ผ่านมันมายังไง
“เกิดอะไรขึ้น?” มีเส้นเลือดสีแดงขึ้นอยู่ในดวงตาของลั่วหาน การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้สีหน้าเธอดูซีดเหลืองเล็กน้อย
แฟนคลับเบอร์หนึ่งหลินซีเหวินตะโกนขึ้นมา จนคนครึ่งหนึ่งของแผนกผ่าตัดหัวใจต่างก็รู้สึกตื่นเต้น “ไอดอลคะ คุณดูข่าววันนี้สิ”
ลั่วหานเหลือบมองที่หน้าจอโทรศัพท์ของหลินซีเหวิน ดวงตาสีดำขาวของเธอเป็นประกายขึ้นมา
“ คุณชายใหญ่MBKรั้งสุดแรง ดึงหุ้นที่ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดของMBK กลับมาได้ภายใน 3 วัน วันนี้หุ้น MBK พุ่งขึ้นถึงขีดจำกัดอย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึงห้านาที และอีกไม่นานก็คงกลับไปสู่ความรุ่งโรจน์เช่นเดิม”
หลินซีเหวินหัวเราะเสียงดัง “ไอดอลคะ หัวหน้าใหญ่นี่น่าทึ่งจริงๆเลยนะคะ คุณไม่รู้หรอกว่าข่าวก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร เราทุกคนคิดว่า MBK กำลังจะล้มละลายซะแล้ว และเทพบุตรนี้คือฮัวโต๋กลับชาติมาเกิดอย่างแท้จริง!”
ลั่วหานหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และเปิดNetease Newsหัวข่าวในหน้าแรกคือข่าวการฟื้นตัว 72 ชั่วโมงที่หลงเซียวทำไว้ หน้าแรกมีรูปหลงเซียวสวมชุดสูทสีดำ เห็นเพียงใบหน้าเพียงด้านเดียว มีตัวหนังสือเขียนไว้ข้างๆใบหน้าที่สวยงามว่า นักธุรกิจคนใหม่ได้โชว์สกิลอีกครั้ง ความพยายามสิบปีทำให้เกิดตำนาน
ต่อไปนี้เป็นบทสรุปของผู้สื่อข่าวที่เขียนเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางธุรกิจทั้งหมดของหลงเซียวในช่วงสามวันที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสได้ทำการสำรวจเชิงลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของหลงเซียว คำศัพท์ทางวิชาชีพที่เต็มหน้าข่าว ลั่วหานไม่เข้าใจคำศัพท์ทางวิชาชีพด้านการขาย การตลาดและตลาดรอง แต่ดูจากที่ผู้เชี่ยวชาญยกย่องเขา เธอก็พอจะเดาอะไรบางอย่างได้แล้ว
เขาไม่ได้พักผ่อนมาเกือบสามวันแล้ว แต่กลับประสบความสำเร็จที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง ลั่วหานถอนหายใจออกอย่างโล่งอก ดูเหมือนว่า คุณหลงของเธอจะควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว
แต่เมื่อมองไปที่หลงเซียวที่สง่างาม ลั่วหานก็รู้สึกเจ็บใจอีกครั้ง สิ่งที่คนอื่นเห็นคือด้านที่สวยหรูของเขา มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าคุณชายหลงของเธอไม่ได้ทำได้หมดซะทุกอย่าง แต่เขาสร้างตำนานของเขามาด้วยตัวเองแบบทีละก้าวทีละก้าว
ตอนเที่ยงการตรวจห้องเสร็จสิ้น ลั่วหานได้ออกจากงานล่วงหน้าครึ่งวัน
คุณชายหลงของเธอทำงานหนัก เธอต้องให้รางวัลเขาหน่อย
ขณะที่ลั่วหานขับรถไปที่วิลล่า แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ไม่คาดคิด แค่มันก็อยู่ในความเป็นไปได้ หยวนชูเฟินเป็นคนโทรมา
“แม่คะ” ลั่วลั่วถือโทรศัพท์ไว้และดึงกุญแจรถออก
ดูเหมือนว่าหยวนชูเฟินจะอยู่ในร้านกาแฟ ซึ่งรายล้อมไปด้วยเสียงเปียโนที่ไพเราะ
“ลั่วหานเราไม่ได้เจอกันมานานแล้ว ตอนนี้สะดวกไหม ฉันอยากเจอเธอ”
ลั่วหานยังไม่ทันได้เปิดประตูรถออก คำถามของหยวนชูเฟินก็มาขัดจังหวะของมือของเธอไว้
“ได้ค่ะ”
เธอสตาร์ทรถอีกครั้ง ลั่วหานตรงไปที่ร้านกาแฟที่หยวนชูเฟินบอก ร้านกาแฟระดับไฮโซในเกียวโตตั้งอยู่บนถนนอู๋ถง ซึ่งรายล้อมไปด้วยร้านค้าสั่งทำของขวัญพิเศษระดับไฮโซ ซึ่งสอดคล้องกับสไตล์ของหยวนชูเฟินมาก
ลั่วหานเดินเข้าไปในร้าน และหยวนชูเฟินนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง เธอสวมชุดสไตล์พื้นๆสีดอกบัวชมพู มันไม่ใช่ชุดกี่เพ้าและไม่ได้รัดรูป น้อยครั้งที่จะเห็นหยวนชูเฟินใส่ชุดแบบนี้ บ้างครั้งเธอใส่เสื้อสบายๆแบบนี้ ความเย็นชาของเธอก็ดูอ่อนลงมามาก แต่ความสง่างามไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย
“ลั่วหาน นั่งลงสิ ฉันสั่งกาแฟให้เธอแล้ว เอาเป็นคาปูชิโน่ได้ไหม?” เธอถือถ้วยกาแฟเล็กๆที่ดูสวยงามไว้ที่มือ และสวมแหวนมรกตไว้ที่นิ้ว
“แน่นอนค่ะ หนูทานได้หมดเลยค่ะ” ลั่วหานนั่งลง และบริกรก็นำกาแฟมาเสิร์ฟ คาปูชิโน่มีรสหวานเล็กน้อยแต่หวานติดปากได้ไม่นาน และมีรสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อยหลังทาน
ลั่วหานจิบไปสองสามคำ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “แม่เรียกให้หนูออกมา มีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ?”
หยวนชูเฟินบีบแก้วกาแฟไว้และมองไปที่เธอ ดวงตาของเธอดูอ่อนโยน “ นี่เป็นครั้งแรกที่เราสองคนนั่งดื่มกาแฟด้วยกันแบบนี้ใช่ไหม?”
ลั่วหานกระพริบตา “อืม ครั้งแรกค่ะ”
หยวนชูเฟินดื่มกาแฟอย่างช้าๆ ช้อนเงินของเธอไม่สัมผัสกับผนังด้านในของแก้วเลยสักครั้ง เธออมยิ้ม ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่นของแสงแดดยามบ่าย “เมื่อก่อนฉันเคยมีอคติกับเธอมามาก เธอต้องเกลียดฉันมากแน่ๆเลย”
มือของลั่วหานที่สวมแหวนแต่งงานไว้จับไปที่แก้วกแฟ แต่ไม่ได้ขยับ “มันเป็นเรื่องของอดีตไปแล้วค่ะ”
หยวนชูเฟินส่ายหัว มีความเศร้าที่มองไม่ชัดปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ แล้วหายไปในพริบตา มันเร็วมาก แต่ก็เพียงพอที่จะแสดงความรู้สึกของเธอออกมา “คุณยังไม่ได้เป็นแม่คน คุณไม่เข้าใจเจตนาของแม่ที่มีต่อลูกหรอก เซียวเอ๋อเป็นแก้วตาดวงใจของฉัน เป็นญาติคนเดียวของฉันที่เหลืออยู่ในโลกนี้ ฉันไม่อยากให้เขาได้รับอันตรายใด ๆ ฉันอยากให้เซียวเอ๋อของฉันปลอดภัยและโชคดีไปตลอด”
ลั่วหาน จ้องไปที่หยวนชูเฟินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มือของเธอกวนกาแฟอยู่ตลอดเวลา การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆของเธอพิสูจน์ได้ว่า ในใจของเธอขัดแย้งกันมาก และเธอมีความในใจที่ยากที่จะพูดมันออกมา
“ หนูเข้าใจค่ะ แม่รักเขามาก ความในใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ ฉันเข้าใจได้”
หยวนชูเฟินจิบกาแฟไปหนึ่งคำและส่ายหัวช้าๆ “เธอไม่เข้าใจหรอก สำหรับเซียวเอ๋อแล้ว จะแพ้ไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเขาแพ้เขาจะสูญเสียทุกอย่างไป” เธอพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปและจับมือของลั่วหานไว้และตบเบา ๆ “ ที่ฉันเลือกโม่หรูเฟยไม่ใช่เพราะฉันชื่นชมเธอ แต่เป็นเพราะเธอสามารถช่วยและปกป้องเซียวเอ๋อได้ เรือที่เซียวเอ๋อกำลังนั่งอยู่ สักวันมันอาจจะไม่ได้เป็นของเขาอีกต่อไป เขาต้องการเรือสำรองที่ใหญ่พอ ที่จะช่วยให้เขาสามารถถอยกลับมาได้”
ลั่วหานคิดถึงสิ่งที่หยวนชูเฟินพูด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าเธอกำลังจะพูดถึงอะไร “คุณแม่กังวลมากไปรึเปล่าคะ? แม้ว่าหลงเซียวจะไม่ได้เป็นประธานของMBK ในอนาคต แต่เขาก็เป็นสมาชิกของตระกูล หลง”
หยวนชูเฟินยิ้มๆ แล้วมีรอยตีนกาตื้น ๆ สองจุดที่มุมดวงตาของเธอ “ลั่วหาน เรื่องหลายอย่างจะใช้แค่ตามองไม่ได้ สิ่งที่เธอเห็นอาจจะไม่เป็นความจริง เธอต้องเรียนรู้ที่จะใช้ตรงนี้มองและคิดดู”
เธอชี้ไปที่ตำแหน่งของหัวใจของตัวเอง รอยยิ้มสุดท้ายของเธอดูขมขื่นเล็กน้อย แสงอาทิตย์สอดส่องไปบนใบหน้าของเธอ วันนี้หยวนชูเฟินดูแตกต่างไปจากเดิม เธอที่เคยหยิ่งยโสในอดีต แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย
“ คุณแม่อยากพูดอะไรกันแน่คะ? คุณแม่บอกหนูมาตรงๆเลยค่ะ”
กาแฟในแก้วของหยวนชูเฟินเย็นลง และกาแฟที่เย็นลงก็ยิ่งขมและกลืนยากมากขึ้น “ สักวันเธอก็จะรู้เอง วันนี้ฉันยังมีเรื่องอีกเรื่องหนึ่งมาขอให้เธอช่วย ฉันหวังว่าเธอจะตอบตกลง”
ลั่วหาน รู้สึกแปลก ๆเมื่อฟังเธอพูด “โอเคค่ะ คุณแม่พูดได้เลยค่ะ”
“ตอนนี้ในมือเธอมีคุณมีบริษัทตระกูลฉู่ และที่สหรัฐฯก็มี บริษัท ของพ่อบุญธรรมของเธออยู่ เซียวเอ๋อได้ซื้อโม่ซื่อให้เธอไว้แล้ว ตอนนี้คุณมีทรัพย์สินมากมาย ต่อไป…..ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเซียวเอ๋อ ฉันหวังว่าเธอจะสนับสนุนและช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ เธอสัญญากับฉันได้ไหม?”
ลั่วหานไม่สามารถดื่มกาแฟได้อีกต่อไป หยวนชูเฟินทำให้เธอรู้สึกสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม แต่เธอดันไม่ยอมพูดประเด็นสำคัญ เอาแต่พูดอ้อมไปอ้อมมา
“คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ หลงเซียวเป็นสามีของฉัน และฉันจะอยู่ในเรือลำเดียวกับเขา เราจะแบ่งปันความทุกข์ยากไปด้วยกัน”
“โอเคโอเคแบบนี้ก็ดีเลย ฉันเชื่อว่าเธอจริงใจกับเซียวเอ๋อ และเขาก็จริงใจกับเธอเช่นกัน ตอนนี้ฉันวางใจได้แล้ว”
ดวงตาที่อ่อนล้าของลั่วหานล้อมรอบไปด้วยความสงสัยอย่าหนัก ดูเหมือนว่าเธอถูกหยวนชูเฟินโยนเข้าไปในที่หมอกหนาๆขนาดใหญ่ เธอมองไม่เห็นระยะทางไกลๆและทำได้เพียงคลำดูทีละก้าว “แม่คะ คุณแม่มีเรื่องอะไรที่พูดออกมาไม่ได้รึเปล่าคะ? ที่เกี่ยวกับหลงเซียว?”
“ฮิฮิ จะไปมีได้ยังไง ฉันแก่แล้วชอบคิดมากหน่ะ กินขนมสิ เค้กเฮเซลนัทนี้ไม่เลวนะ แป๊บๆเวลาก็ผ่านไป 20 กว่าปีแล้ว ตอนที่เซียวเอ๋อยังเป็นเด็ก ฉันชอบพาเขามาทานขนมที่นี่ เขาไม่ชอบกินขนมหวาน แต่ก็ไม่อยากทำให้ฉันผิดหวัง เขาเลยพยายามยัดขนมเข้าปากทุกครั้งเลย เด็กคนนี้ …… ตอนเด็กๆไม่เป็นแบบนี้นะ หลังจากนั้นเขาก็ถูกพ่อสั่งสอนให้กลายเป็นเครื่องมือในการกอบโกยเงิน ภายนอกเขาอาจจะดูเย็นชา แต่ในความเป็นจริง ในใจเขานั้นรู้ร้อนรู้หนาว เป็นห่วงคนอื่นๆมาก”
พูดไปหยวนชูเฟินก็เกือบจะร้องไห้ เธอรีบปิดตาด้วยผ้าเช็ดหน้า “โอ้ ช่วงนี้ตาของฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีน้ำตาตลอดเลย”
ลั่วหานสังเกตเห็นสีหน้าบนใบหน้าของเธอ และพูดอย่างเป็นห่วงว่า “คุณแม่นอนไม่ค่อยหลับใช่ไหมคะ การนอนไม่หลับระยะยาวมันจะทำร้ายร่างกายมาก โดยเฉพาะตับและดวงตา วันหลังหนูจะเอายามาให้นะ ให้คุณแม่เอาไปทานเพื่อสุขภาพหน่อย”
หยวนชูเฟิน มองไปที่ ลั่วหานอย่างไม่ละสายตา มือของเธอถูไปที่มือเธออย่างขอบคุณ “ถ้าฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบนี้ บางทีเราสองคนอาจจะไม่เดินมาถึงจุดนี้ก็ได้ แต่ว่าหลายสิ่งหลายอย่าง …… ถ้าเราไม่เดินอ้อมสักหน่อย เราจะรู้ได้ไงว่าจุดเริ่มต้นนั้นดีที่สุด?”
ลั่วหานยิ่งงุนงงไปกว่าเดิมอีก ทุกประโยคที่เธอพูดมันดูมีเหตุผล แต่มันก็ไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิงเมื่อเอามารวมกันทั้งหมด
“ คุณแม่คะ อย่าคิดมากเลยค่ะ หลังจากหลงเซียวยุ่งเสร็จ คราวนี้เราจะกลับไปที่บ้านของตระกูลหลงเพื่อเยี่ยมพวกคุณ”
หยวนชูเฟินหลับตาลง “โอเค กลับบ้านมาดูบ้างก็ดี อ้อ อันนี้ให้เธอเป็นของขวัญ”
เธอถอดแหวนมรกตออกจากมือและวางไว้ในฝ่ามือของลั่วหาน “ฉันไม่เคยให้ของขวัญเธอเลย อันนี้เธอเก็บไว้”
“นี่มัน …….ของชิ้นนี้มันมากเกินไปแล้วค่ะ และคุณแม่ใส่มันไว้ตลอดเวลาด้วย หนูรับไว้ไม่ได้ค่ะ”ลั่วหานไม่กล้ารับไว้ เธอไม่ได้ช่วยอะไรเลย เธอก็ไม่กล้ารับของไว้ เธอกลัว
หยวนชูเฟิน ยิ้มและกล่าวว่า “ลูกชายคนโปรดและมีค่าที่สุดของฉัน ฉันก็ให้เธอไปแล้ว แล้วฉันเสียดายกับของชิ้นนี้ได้ยังไง?”
ลั่วหานไม่รู้จะตอบอะไร ก็ทำได้แค่รับมันไว้
จากนั้นเธอก็ กินเค้กเฮเซลนัทชิ้นเล็ก ๆชิ้นนั้นภายใต้การจ้องมองของหยวนชูเฟิน หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงเธอก็ออกจากร้านกาแฟไป
พอรถลั่วหานขับออกไปไกล หยวนชูเฟินถึงถอนหายใจที่หน้าต่างพาโนราม่า
ไม่มีใครรู้ชะตากรรม ถ้าไม่ได้หลงทางมานาน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ามีวิธีการใช้ชีวิตอีกแบบที่แตกต่างกัน?
แต่ถ้าอยากหันกลับไปอีกครั้ง เวลาก็ไม่ได้รอใครแล้ว
กาแฟที่ไม่มีอุณหภูมิแล้ว เค้กที่เหลือเพียงเล็กน้อย เสียงเปียโนที่ยังคงดังก้องอยู่ วินาทีนี้มันดูเยือกเย็นมาก
หยวนชูเฟินจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วนั่งลงโดยไม่แสดงสีหน้าอะไร
เงาของเจิ้งซิ่วหยาเผยออกมาจากด้านหลัง คนที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำหยุดอยู่ตรงหน้าหยวนชูเฟิน เธอหยิบบัตรประจำตัวของตำรวจออกมาจากกระเป๋าของเธอ “คุณนายหลง ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจเกียวโต ตอนนี้มาจับกุมคุณในข้อหาจ้างผู้อื่นก่ออาชญากรรม โปรดให้ความร่วมมือกับการสืบสวนของเราด้วยค่ะ”
หยวนชูเฟินเงยหน้าขึ้น ใบหน้าที่งดงามดูสว่างมากขึ้นภายใต้การสอดส่องของแสงแดด
“ฉันรู้”