ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 475
ตอนที่ 475 Shit ฟ้าจะต้องถล่มลงมา
หลงเซียวขับรถพาลั่วหานกลับคฤหาสน์ เวลาดึกมากแล้ว ทั้งสองลงจากรถ ลั่วหานมองเห็นท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยดวงดาว แสงจันทร์ลอดผ่านก้อนเมฆและกระจายอยู่ที่ลานภายในคฤหาสน์ พระจันทร์ทรงกลดสวยงามและสงบเงียบ
“สามี ฉันอยากจะรับแม่มาอยู่ด้วยกันกับเรา เธออยู่ตระกูลหลงฉันมักจะรู้สึกว่าจิตใจไม่สงบ”
หลงเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่ได้ แม่ออกมาตอนนี้ ทางนั้นจะเกิดความสงสัย หลงถิงขี้ระแวงสงสัยมาก หลายปีมานี้เขาระวังคนรอบข้างตลอด ตอนนี้ไม่ว่าแม่จะทำอะไรก็สามารถกลายเป็นสายจุดชนวนระเบิดได้”
ลั่วหานถอนหายใจอย่างเจ็บปวด จริงๆอากาศค่อนข้างเย็น หมอกจางๆปรากฏขึ้นในลมหายใจที่หายใจออกมา “ในใจแม่แอบซ่อนความลับไว้เท่าไหร่ กดดันอยู่คนเดียวช่วงหลายปีมานี้ รับความเสี่ยงยิ่งใหญ่ขนาดนี้และทิ้งคุณไว้ให้อยู่ตระกูลหลง เธอต้องลำบากมากอย่างแน่นอน”
หลงเซียวโอบไหล่เธอแล้วเดินเข้าไปในห้องโถงคฤหาสน์ อุณหภูมิเปลี่ยนเป็นอบอุ่นขึ้น คนในอ้อมกอดก็สบายขึ้นแล้ว “ฉันจะตรวจสอบความจริงในปีนั้นให้ชัดเจน จะไม่ให้เธอกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมไปโดยเปล่าประโยชน์”
ลั่วหานพยักหน้า “อืม ไม่ว่าจะยังไง เธอทำเพื่อคุณ วิธีการก่อนหน้านี้อาจจะสุดโต่งเกินไป แต่ตอนนี้คิดๆดูแล้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำเช่นนั้น เธอต้องการปกป้องคุณ”
หลงเซียวจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอ มองจ้องไปในดวงตาของเธอ “ลั่วหาน คุณมีเมตตาเหลือเกิน คุณลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนเธอทำร้ายคุณอย่างไร?”
เธอขมวดคิ้วกับเขาด้วยความปล่อยวาง “ฉันไม่คิดอะไรแล้ว ทำไมคุณยังคิดเรื่องเก่าๆอยู่อีก? ใจแคบเหลือเกิน”
“มีบางเรื่อง ฉันไม่สามารถใจกว้างได้ เรื่องเกี่ยวกับคุณ ยิ่งไม่ได้” เขาตอบกลับอย่างแน่วแน่มาก จุดยืนชัดเจน เด็ดขาดไม่ยอมแพ้
หลงเซียวก้มลงหยิบรองเท้าแตะสตรีคู่หนึ่งจากชั้นวางรองเท้า ขมวดคิ้วของเขาและใส่รองเท้าแตะเข้าไป เปิดตะแกรงและเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะผ้าฝ้ายเนื้อหนาคู่ใหม่เอี่ยมวางลงบนพื้น ไม่รอให้ลั่วหานโต้ตอบ เขาใช้มือเดียวประคองเธอ นำรองเท้าของเธอถอดออก แล้วสวมรองเท้าแตะเข้าไปที่เท้าของเธอ
ลั่วหานตกใจ ถูกความอ่อนโยนของเขาทำให้มีความสุขอบอุ่นไปทั้งตัว “หลงเซียว คุณไม่ต้องเอ็นดูฉันขนาดนี้ แขนขาฉันจะเป็นง่อยได้ จริงๆเลย”
“ไม่ได้ คุณทำงานหนักมาก ยังต้องช่วยดูแลแม่ของเรา ฉันควรปฏิบัติกับคุณให้ดีกว่านี้”
เท้าของลั่วหานอยู่ในรองเท้าแตะผ้าฝ้ายที่อบอุ่น จากฝ่าเท้าอบอุ่นตลอดไปจนถึงเส้นผมทุกเส้น เธอมีความสุขจนอยากจะร้องไห้!
“ฉันเป็นภรรยาของคุณ นี่เป็นสิ่งที่ควรจะทำ” ลั่วหานเปิดตะแกรงชั้นวางรองเท้า หารองเท้าแตะผ้าฝ้ายของผู้ชาย จ้องมองดู นิ่งไป เอ๊ะ……คาดไม่ถึงว่าจะเป็นคู่กันกับคู่นี้บนเท้าของเธอ
ทั้งสองอันเป็นลายตารางสีขาวเทา สไตล์เรียบง่ายมาก ต่างกันแค่ขนาดใหญ่เล็ก แต่อยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมาก รักมาก
หลงเซียวถอดรองเท้าหนัง เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะ “ฉันเป็นสามี สิ่งเหล่านี้ก็สมควรทำ ขึ้นชั้นบนเถอะ อาบน้ำเข้านอนเร็วหน่อย”
ลั่วหานพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “โอเค! เข้านอนเร็วหน่อย พรุ่งนี้ต้องรับแม่ไปโรงพยาบาล”
จูงมือของลั่วหานขึ้นบันไดวน ส่งเธอไปที่ห้องนอน มองดูเธอเดินไปที่ห้องน้ำ หลงเซียวจึงเปิดประตูไปที่ห้องหนังสือ
ปิดประตูห้องหนังสือ หลงเซียวใช้แรงบีบนวดหัวคิ้วที่ปวดตึง เส้นเลือดบนหน้าผากโผล่ขึ้นมา หายใจเข้าลึกๆ เขาจึงปรับตัวเองจากความเศร้าให้ดีขึ้นได้
ผ่านไปหนึ่งนาทีเต็ม หลงเซียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดหนึ่งหมายเลข สัญญาณดังขึ้นสักพัก ด้านนั้นก็รับสาย
กู้เยนเซินเปิดผ้าห่มออกเบาๆแล้วลงจากเตียง วางผ้าห่มไว้ดีๆอีกครั้ง ให้แน่ใจว่าไป๋เวยไม่สะดุ้งตื่น เดินเบาๆไปที่ระเบียงห้องรับแขก
“คุณชายหลง นิสัยชอบรบกวนความฝันตอนกลางคืนของคุณไม่ดีจริงๆเลย ตอนนี้ฉันไม่ใช่ชายโสดแล้วนะ คุณนึกถึงความรู้สึกของฉันด้วย OK?”
กู้เยนเซินหาว ถูกคนปลุกขึ้นมาจากความฝันอารมณ์เสียอย่างมาก
หลงเซียวมือกุมขมับ นั่งบนเก้าอี้ก้มศีรษะและหลับตา “คุณชายกู้ แผนมีการเปลี่ยนแปลง”
กู้เยนเซินปิดปากที่หาวอย่างช้าๆ ทำให้อดกลั้นน้ำเสียงกลับเข้าไป “ทำไมล่ะ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น? คุณยืนยันแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมต้องเปลี่ยนกะทันหัน?”
หลงเซียวไม่ได้เปิดไฟในห้องหนังสือ มีเพียงแสงจันทร์นอกหน้าต่างเท่านั้นที่ส่องไปยังพื้นที่เล็กๆที่เขานั่งอยู่ แสงสะท้อนสีเงินแผ่ปกคลุมเงาของเขา แต่งเติมให้ภาพเงาของเขาเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวลงเล็กน้อย
“คุณชายกู้ คุณฟังนะ สิ่งที่ฉันกำลังบอกคุณตอนนี้ ไม่ว่าใครคุณก็ห้ามเปิดเผยไป หลังจากฟังจบคุณก็เข้าใจ”
กู้เยนเซินถอนหายใจอย่างอึดอัด “คุณชายหลง คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? น้ำเสียงคุณไม่ค่อยจะดี ท้ายที่สุดแล้วเกิดอะไรขึ้น?”
“คุณฟังฉันพูดให้จบก่อน ตอนนี้ฉันต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ MBK มีสองสาเหตุ คุณเพียงแค่ต้องฟัง ให้ฉันควบคุมอารมณ์ให้ดีๆ”
กู้เยนเซินขนลุกตัวสั่น “เชี่ยยย คุณชายหลง คุณชายหลงคุณอย่าทำให้กลัว ดึกดื่นค่อนคืนน่ากลัวมาก คุณพูดมาตรงๆเถอะ”
หลงเซียวนวดๆหน้าผาก น้ำเสียงกดต่ำลง “อย่างแรก ฉันไม่ใช่ลูกชายแท้ๆของหลงถิง ฉันไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับหลงถิง”
“เชี่ยยย! !”
เขาเพิ่งพูดจบหนึ่งประโยค กู้เยนเซินก็โลดเต้นแล้ว!
“คุณล้อเล่นอะไร คุณไม่ใช่ลูก……ของ……หลงถิง?”
เชี่ยยย! อย่ามาล้อเล่นแบบนี้! เล่นแรงไปแล้ว!
หลงเซียวขมวดคิ้วมากขึ้น “ใจเย็นๆหน่อย ฉันยังพูดไม่จบ ดึกดื่นป่านนี้ คุณตะโกนอะไร?”
กู้เยนเซินอัดอั้นตันใจ “เชี่ยยย เรื่องใหญ่ขนาดนี้คุณยังไม่ให้ฉันตกใจ! ! หัวใจของฉันถูกคุณทำให้ตกใจจนแทบบิน! ยังมีอะไรอีก? คุณพูด……”
กู้เยนเซินกลืนน้ำลาย ยืนพิงหน้าต่าง สองขาสั่นอย่างชัดเจน สั่นโดยไม่ตั้งใจ!
“อย่างที่สอง แม่ของฉันตรวจวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมอง เวลาของเธอไม่มากแล้ว” หลงเซียวกุมหน้าผากแน่น ล็อคดวงตาทั้งสองไว้แน่น น้ำตาร้อนๆแผดเผาในเบ้าตา ดูเหมือนต้องการจะไหลออกมา ของเหลวร้อนๆรวมตัวจากความโศกเศร้าเสียใจ ถูกเขาหยุดไว้ในดวงตา เก็บไว้ไม่มีน้ำตาหยดลงมาสักหยด
พื้นที่ของหัวใจอยู่ในเวลาเงียบสงัด เช่นนั้นเจ็บปวดอย่างมาก!
กู้เยนเซินอ้าปากค้าง อ้าปากค้างอยู่สักพักไม่ได้หุบปาก อดกลั้นน้ำเสียงอยู่ในคอ ไม่ได้พูดเป็นเวลาสักพัก
“MBKเป็นกำลังกายกำลังสมองของหลงถิง แล้วก็เป็นกำลังกายกำลังสมองของฉัน ฉันต้องการทำลายตระกูลหลงทิ้ง ทำลายMBKทิ้ง จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในครึ่งปี” หลงถิงไม่ให้เวลาตอบสนองกู้เยนเซิน พูดข้อสรุปของตนเองออกมาตรงๆ
ปากของกู้เยนเซินเพิ่งจะปิดเข้าหากันก็เปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง “คุณชายหลง……ดึกๆดื่นๆคุณ มาล้อเล่นกับฉันใช่ไหม? คุณละเมอหรอ? คุณต้องการหยิกใบหน้าตนเองหน่อยไหม?”
“คุณรู้สึกว่าเหมือนล้อเล่นหรอ?” หลงเซียวหัวเราะเยาะตัวเอง ดวงตาดำขลับมองไปที่ดวงจันทร์นอกหน้าต่าง สายตาจับจ้องไปที่เงามืดของดวงจันทร์ เบ้าตาก็เจ็บปวดแสบร้อนอีกครั้ง
ได้ฟังข่าวการเจ็บป่วยของแม่ ปฏิกิริยาของเขาไม่ได้สบายไปกว่าลั่วหาน แต่เวลานั้นภรรยาร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว เขาจะสามารถแสดงความเศร้าโศกได้อย่างไรล่ะ? เขาเป็นสามีของเธอ เป็นแขนให้เธอเวลาขาดความช่วยเหลือ เขาจะล้มลงได้อย่างไร?
ตาปิดลงอย่างหนักๆ หลงเซียวบีบดั้งจมูกของเขาและนวดที่มุมตา
“ไม่……ไม่เหมือน ลั่วหานรู้ไหม?”
“รู้สิ”
กู้เยนเซินกัดๆมุมปาก ฝ่ามือค้ำระเบียงกระจก ขาสั่นออกมาไม่หยุด “คุณรู้ไหมว่าพ่อแท้ๆของคุณคือใคร? คุณต้องการถามแม่ของคุณไหม?”
หลงเซียวส่ายหัว “ไม่ได้ ฉันยังบอกให้เธอรู้เรื่องนี้ไม่ได้ ฉันจะไปอเมริกาเพื่อตรวจสอบบางเรื่องในอีกสองวัน จำเป็นต้องให้คุณช่วยเหลือ”
“โอเค คุณบอกมา ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ฉันจะช่วยอย่างแน่นอน ทางด้านอเมริกานั้นฉันมีเส้นสายมากมาย ด้านมืดด้านขาวได้หมด!”
“ฉันต้องการตรวจสอบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อแปดปีที่แล้ว ช่วยฉันหานักสืบเอกชนที่ดีที่สุดในอเมริกา เรื่องนี้ไม่สามารถรบกวนตำรวจได้ แล้วก็อย่าให้ตระกูลหลงรู้ เข้าใจไหม?”
“อืม เข้าใจ ฉันจะช่วยคุณติดต่อทันที”
“ยังมีอีก ฉันจำเป็นต้องติดต่อกับพ่อคุณ ถามเขาเกี่ยวกับบางเรื่องเมื่อ 30 ปีก่อน”
“โอเค! พ่อฉันก็เหมือนพ่อของคุณ คุณไปหาเขาได้ตามสบาย อยากถามอะไรก็ถาม”
“เพื่อนรัก ขอบคุณมาก”
ขอบคุณ? พระเจ้า หลงเซียวพูดขอบคุณเขา? ตกตะลึงอย่างมาก!
“อะไรกัน……คุณชายหลง คุณยังสบายดีใช่ไหม? เรื่องมากมายขนาดนี้มีผลกระทบต่อคุณไม่น้อย คุณ……จะสามารถทำได้หรอ?”
“คุณว่าไง?”
กู้เยนเซินไม่กล้าตอบตรงๆ แมร่ง สมองกลวงๆโง่ๆ จะสบายใจได้หรอ? จะไม่เจ็บปวดใจหรอ? จะรู้สึกดีไหม?
“ไม่ว่าอะไรคุณบอกฉันมาได้โดยตรง ฉันจะช่วยคุณอย่างแน่นอน!”
กู้เยนเซินถูกหลงเซียวทำให้ตกใจกลัว ตกตะลึงนั่งพิงระเบียงเป็นครึ่งชั่วโมง ไม่รู้ว่าโทรศัพท์ถูกวางสายไปเมื่อไหร่
เชี่ยย ใจสั่นเหลือเกิน คุณชายใหญ่ของตระกูลหลงนึกไม่ถึงว่าจะไม่ใช่ลูกชายของตระกูลหลง ฟ้าจะต้องถล่มลงมา
——
วันต่อมา
หลังจากลั่วหานตื่นนอนก็ช่วยหลงเซียวเก็บเสื้อผ้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบรรจุสิ่งของเรียบร้อยแล้ว จึงปิดกระเป๋าเดินทาง
“สามี ทางอเมริกาด้านนั้นจัดการดีแล้วใช่ไหม? ในใจฉันกลัวเล็กน้อย” ลั่วหานดึงที่ลากกระเป๋าเดินทาง จับไว้แน่นไม่ปล่อย
หลงเซียวบีบปลายจมูกของเธอ ยิ้มแล้วพูดว่า “จัดการดีหมดแล้ว จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น สองวันก็กลับมา ถึงเวลาฉันกับคุณจะไปโรงพยาบาลกับแม่ด้วยกัน”
ลั่วหานหัวใจพองโต กางแขนออกโอบกอดเขา “ฉันจะรอคุณอยู่ที่บ้าน ส่งแม่ให้ฉันก็ดี ฉันจะดูแลเธออย่างดี ตัวคุณเองก็ดีดี ระมัดระวังความปลอดภัย ขับรถระวัง ระวัง……”
หลงเซียวขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นมาปิดปากของเธอ “โอเค จำได้หมดแล้ว รอฉันกลับมา ฉันสามารถจัดการเรื่องราวให้ชัดเจน”
ลั่วหานเม้มปากพยักหน้า “อืม ถ้ามีเรื่องจำเป็น คุณไปหาพ่อแม่ฉันได้ พวกเขาอาศัยอยู่ในอเมริกาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เรื่องเมื่อก่อนบางทีอาจจะช่วยได้ ถึงอย่างไรก็ผ่านไป 30 ปีแล้ว คาดว่าจะสามารถตรวจสอบค่อนข้างยากลำบาก คนมากขึ้นก็เบาะแสมากขึ้น ดีกว่าสุ่มสี่สุ่มห้า”
หลงเซียวยิ้มขึ้นทันที ยินดีให้ลั่วหานกอด “ลั่วลั่ว คุณเป็นภรรยาที่ดีของฉันจริงๆ! ฉันนึกไม่ถึงว่าจะได้ไปหาพวกเขา ลืมพ่อตาแม่ยายตนเองไปซะแล้ว เป็นความผิดของฉันเอง”
ใช่สิ เขาไม่เพียงแต่ขอคำปรึกษากับพ่อของกู้เยนเซินได้ เฉียวหย่วนฟานก็เป็นหนึ่งประจักษ์พยานที่ดีมาก คิดไม่ถึงว่าเขาจะมองข้ามไป”
“โอเคโอเค รีบไป คุณไม่ไปอีกฉันจะไม่ปล่อยคุณไปแล้วนะ”
หลงเซียวจูบที่กะหม่อมของเธอ “รอฉันกลับมานะ”
มองหลงเซียวขึ้นรถ มองดูรถแล่นออกไป ลั่วหานถอนหายใจยาว ขอให้ทุกๆอย่างสงบลง ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างละลายหายไป หวังว่าเขาจะไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรก็ตาม……อย่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก
เวลานี้ จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เสียงเปียโนทำให้ลั่วหานตกใจ นำหน้าจอออกมาดูก็เห็นหมายเลขแปลกๆ
ไม่ทราบที่มา
ลั่วหานมองดูสักพัก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตนเองจำหมายเลขนี้ไม่ได้ ก็เลยตัดสายทิ้ง
ใครจะรู้ว่าเมื่อกี้เพิ่งตัดสายไป เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง
ลั่วหานจึงกดรับสายอย่างหงุดหงิด “ใครคะ?”
ทางด้านนั้น คุ้นเคยกับเสียงของผู้หญิงแปลกหน้า ถากถาง เย็นชา เยือกเย็น……
“ฉู่ลั่วหาน ไม่ได้ติดต่อกันนานมากแล้ว ยังจำฉันได้ไหม?”