ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 501
ตอนที่ 501 สามีเก่งเกินไป เก่งจนน่ากลัว
ท้องฟ้าจากสีเทากลายเป็นมืดสนิท และท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ
บนวางเต็มไปด้วยอาหารที่หลงเซียวทำเองกับมือ กับข้าวหกอย่าง ล้วนเป็นอาหารจีน รสชาติไม่ปรุงแต่งมาก สีสันก็เป็นสีผักใบเขียวเป็นหลัก
ลั่วหานชมเหมือนกับดูงานศิลปะ “คุณ……แน่ใจเหรอว่าคือกับข้าว แต่ไม่ใช่ของตั้งโชว์”
ทำได้สวยขนาดนี้
หลงเซียวดึงเก้าอี้ให้ลั่วหานนั่ง ร่างสูงยืนอยู่ข้างเธอ แนะนำกับข้าวทีละอย่าง “ไม่ใช่ของตั้งโชว์แน่ เป็นกับข้าวให้ภรรยาผมครับ”
ลั่วหานหยิบตะเกียบ ไม่รู้จะลงมือยังไง รู้สึกกินคำหนึ่ง ก็ทำลายของสวยงาม “กับข้าว? ลดคุณค่ามันเกินไปแล้ว อาหารที่ท่านเซียวทำเหมือนอาหารในวังเลย”
ท่านเซียวของฉัน ช่างวิเศษที่สุด
หลงเซียวนั่งตรงข้ามเธอ คีบผักวางในถ้วยเธอ “อืม เพื่อราชินีของผม พูดว่าเป็นอาหารในวางก็ไม่เลว ราชินีเชิญชิมครับ”
ลั่วหานรู้สึกเสียดายไม่กล้ากิน แค่ดูก็รู้สึกไม่เคารพอาหารที่จัดได้สวยขนาดนี้
ผัดบร็อกเคอรี่ เขาไม่แค่ผัดได้สีสันสวยงาม กลิ่นหอม ยังหั่นได้ชิ้นเท่ากันทุกชิ้น แทบหาชิ้นที่ไม่เท่ากันไม่ได้เลย
มันฝรั่งอบเนื้อ เขาทำได้ดีพิถีพิถันมาก มันฝรั่งหั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมเท่ากัน รอบล้อมอยู่รอบเนื้อวัว ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือสีสัน ล้วนดูสวยงาม และกลิ่นหอมเย้ายวน
หอยแมลงภู่ผัดมันเทศ ไก่ผัดผักกาด เกาลัดผัดเห็ด อีกจานคือยำสาหร่ายทะเล โอ้โห อาหารบนโต๊ะนี้มันช่างสวยงามดูพิถีพิถันทุกจาน ยิ่งกว่าในภัตตาคารอีก
อาหารล้วนเป็นอาหารพื้นบ้านทั่วไป ไม่ได้ใช้วัตถุดิบราคาแพง แต่ผ่านมือเขาแล้ว อาหารทุกงานก็ดูสวยสง่าเหมือนตัวเขา
หลงเซียวเห็นเธอแค่ดูไม่ขยับตะเกียบ ก็ยิ้มอย่างรักใคร่ “แค่ดูไม่อิ่มนะ”
ลั่วหานสายตาแปร่งประกายแห่งความสุข ปากกัดตะเกียบไว้ “ที่รัก ฉันสงสัยว่า เมื่อกี้คุณอยู่ในครัว แอบหาเซียนที่ไหนมาช่วยรึเปล่า หรือเปิดระบบพลังพิเศษอะไรรึเปล่า ทำไมถึงทำอาหารได้ดีขนาดนี้”
หลงเซียวถูกเธอชมจนดีใจอย่างพูดไม่ถูก นิ้วเรียวสวยนั้นจับตะเกียบแน่น คีบมันเทศยื่นเข้าปากเธอ “เปิดระบบพลังวิเศษจริง พลังแห่งรัก”
มองเธอด้วยสายตาอันอ่อนโยน เหมือนท้องฟ้าที่ไร้ขอบเขต เหมือนจักรวาลที่เต็มไปด้วยฝูงดาว นุ่มนวล และเต็มไปด้วยความรัก
ลั่วหานมองจนเหม่อ จนลืมเคี้ยวอาหารในปาก ได้แต่ยิ้ม “หลงเซียว ฉันสงสัยจังว่า ฉันแต่งงานกับคนอะไรเนี่ย น่ากลัวมาก เก่งทุกอย่าง”
แขนยาวของหลงเซียวยื่นไปจับผมของเธอ จับผมไปไว้หลังหูเธอ “ไม่ต้องชมแล้ว รีบกินตอนอาหารยังร้อนอยู่ เดี๋ยวเย็นแล้วรสชาติเปลี่ยน แล้วก็น้ำซุปนี้ ผมใส่แครอท บำรุงตา คุณกินเยอะๆ”
ลั่วหานมองเขาอย่างรักใคร่ ไม่อยากละสายตาแม้แต่นาทีเดียว เพราะมีความสุขมาก มีความสุขจนเหมือนฝัน “หลงเซียว คุณช่างเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดเลย พาออกงานก็ได้ เข้าครัวก็ดี ถ้าชาติหน้ามีจริง ฉันต้องเกิดมาเป็นผู้ชาย แล้วขอคุณแต่งงาน”
คิดถึงภาพที่หลงเซียวใส่ผ้ากันเปื้อนเข้าครัว แล้วนึกภาพว่าถ้าตัวเองเป็นผู้ชาย เขาเป็นผู้หญิง อย่างนั้น……ฮาๆ ต้องสนุกแน่เลย
หลงเซียวยิ้มปากโค้ง ยิ้มอย่างอบอุ่นเหมือนสายลมแรกของฤดูร้อน “ได้ ถ้าชาติหน้ามีจริง ผมเป็นผู้หญิง คุณเป็นผู้ชาย”
“แต่ถ้าคุณเป็นผู้หญิง ต้องสวยแน่เลย ถ้าเกิดโดนผู้ชายคนอื่นแย่งไปทำยังไง?” ลั่วหานพูดและเคี้ยวแครอทไป นุ่มเคี้ยวได้พอดีไม่เละเกินไป รสชาติดีมาก
หลงเซียวก็กำลังเคี้ยวอาหาร ปากขยับไปมา “ไม่ ผมจะจำคุณได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แล้วจะตามติดคุณ อีกอย่างผมจะไม่ให้คนอื่นเจอคุณก่อน”
“ฉันไม่เชื่อว่า ฉันจะไม่เจอผู้ชายอื่นเลย”
“ถ้าอย่างนั้นผมก็จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่เจอคุณ เกิดที่เดียวกับคุณ”
ลั่วหานเอามือค้ำคางไว้ สาวสวยยิ้มจนโค้งงอ “หลงเซียว……”
“อือ?” เขาตอบเสียงนุ่ม
“เมื่อก่อนเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนไหม?” เธอรู้ว่าไม่มี แต่แกล้งถาม
“ไม่มี” เขาตอบอย่างมั่นใจ
ลั่วหานเคี้ยวผักคำโต “ออ……”
หลงเซียวมองเธออย่างลึกซึ้ง “คุณสวยขนาดนี้ ถ้าเมื่อก่อนเคยเจอ ผมต้องจำได้แน่นอน”
ลั่วหานยอมเขาแล้ว จึงกินข้าวดีๆ
——
วันถัดไป คฤหาสน์ตระกูลหลง
หลงถิงลืมตา ถอนหายใจอย่างอึดอัดหันไปมองข้างกายที่ว่างเปล่า ความรู้สึกอ้างว้าง
นอนด้วยกันมาสามสิบปีแล้ว เขาเคยชินกับการตื่นมามีเธออยู่ข้างกายแล้ว หรือบางทีเขาตื่นเช้า ก็จะนั่งอ่านหนังสือริมหน้าต่างชมวิว
เธออยู่ในชุดนอน ดูสง่าสวยหรู จากความทรงจำ สวยงามมาตลอด ไม่เคยเปลี่ยน
หลงถิงจับขอบเตียงลุกขึ้น เสมือนเห็นหยวนชูเฟินนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมหน้าต่าง หันข้างมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมยาวคลุมไหล่ สวยงามทุกเส้นผม
แต่เมื่อเขารวบรวมสายตามองไป ก็เห็นแค่ผ้าม่านที่ปลิวไปมา
ผ่านไปสักครู่ ก็มีเสียงเคาะประตู
หลงถิงสวมใส่รองเท้าเตะ ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ริ้วรอยบนหน้าผากเป็นร่องชัดเจนบนผิวหนัง “เข้ามา”
คนที่ผลักประตูเข้ามา คือหลงเซิ่ง
“น้องรอง”
หลงถิงหันไปเห็นคนที่เข้ามาคือหลงเซิ่ง ก็รู้สึกแปลกใจ “นายทำไมถึงมาได้?”
“หลายวันนี้ ที่บ้านรู้สึกผิดปกติ พี่มีเรื่องอยากคุยกับนาย” หลงเซิ่งเดินเข้ามา แล้วปิดประตูและล็อกเรียบร้อย
หลงถิงจัดคอเสื้อชุดนอน นั่งลง “เรื่องอะไร?”
หลงเซิ่งอายุมากกว่าหลงถิงหลายปี แต่ดูแล้วแก่กว่าเขามาก เวลายิ้มมีริ้วรอยเต็มหน้า “น้องรอง เรื่องบางอย่าง พี่รู้ว่านายไม่อยากฟัง แต่ว่าเราเป็นพี่น้องแท้ๆ พี่ไม่อยากเห็นน้องทุกข์ทรมาน”
หลงถิงใช้หางตามองเขาอย่างรำคาญ “พี่อยากพูดอะไรกันแน่?”
“น้องรอง หลายวันนี้อาเฟินไม่อยู่บ้าน เธอไปไหน?” หลงเซิ่งดูสีหน้า ที่จริงแล้วเขากลัวทำให้หลงถิงโกรธมาก
“เมียผมจะไปไหน น่าจะไม่ใช่เรื่องที่พี่ควรถาม” หลงถิงรู้สึกรำคาญใจ ไม่อยากคุยเรื่องนี้
หลงเซิ่งรีบแก้ต่าง “ใช่ พี่ไม่ควรถาม แต่น้องรอง พวกน้องก็แต่งงานกันมาสามสิบปีแล้ว พี่ดูพวกเธอเดินด้วยกันมาทุกก้าว นายคิดดู พวกเธอนอกจากหลงเซียวแล้ว ยังเหลืออะไรอีก? คนอื่นอาจไม่รู้ แต่คนในตระกูลหลงมีใครดูไม่ออก อาเฟินไม่รักนาย”
“พอแล้ว” หลงถิงตบลงที่โซฟาอย่างแรง คิ้วเข้มทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน บีบเป็นร่องลึก
หลงเซิ่งก็ไม่ได้คิดจะหยุด ถามต่ออีก “น้องรอง พี่ไม่รู้ว่าตอนแรงนายกับอาเฟินคบหากันยังไง ใช่ พี่ไม่ควรถาม แต่ตั้งแต่เธอกลับมาจากต่างประเทศกับนาย เข้ามาในตระกูลหลง พี่ไม่เคยเห็นเธอยิ้มจากใจเลย”
สายตาแดงก่ำของหลงถิงจ้องไปที่หลงเซิ่งด้วยความโกรธ อยากใช้สายตาคู่นั้นยิงทะลุร่างนั้น
แต่เขากลับพูดโดนจุดเจ็บของเขา
พวกเขาคบหากันยังไง……อยู่ด้วยกันยังไง?
มือที่เปลี่ยนรูปของหลงถิงกำหมัดแน่น หลังมือเส้นเลือดเห็นชัด “พี่จะไปรู้อะไร”
“พี่ไม่รู้ แต่น้องรอง ตอนนี้เป็นช่วงสำคัญของตระกูลหลง พี่หวังว่านายจะรู้จักแยกแยะ อย่าให้คนอื่นมีโอกาสแทรกแซง อีกอย่าง จากวิธีการของนายแล้ว นายกับอาเฟินในอดีต ก็คงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด?”
หลงเซิ่งถามจบ ก็ยังคงสังเกตสีหน้าของเขาอย่างระมัดระวัง และแน่นอน สีหน้าแสดงอารมณ์บนใบหน้าเขาแสดงว่าเขาเดาถูกแล้ว
สำหรับความเป็นพี่น้องแล้ว วิธีการของเขาแล้วเขาก็พอรู้บ้าง สามสิบปีก่อนเขายังเป็นนักธุรกิจหนุ่มมือใหม่อารมณ์ร้อน แต่วิธีการโหดเหี้ยม เฉียบขาด สำหรับคู่แข่งของเขาไม่มีคำว่าเห็นใจ
เขาไม่เชื่อ ว่าผู้หญิงที่เก่งจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จะแต่งงานกับเขา ไม่มีวันเชื่อ
หลงถิงใช้นิ้วโป้งถูหมัดที่กำแน่น สายตาเหมือนสัตว์ดุร้ายที่หิวโหย “พี่ใหญ่ วันนี้พี่พูดมากไปแล้วนะ ออกไปได้แล้ว” ไล่หลงเซิ่งออกไปแล้ว หลงถิงก็นั่งคิดอยู่คนเดียว
ครั้งนั้น…….
เขาไม่มีวันลืมครั้งแรกที่เขาเจอเธอ ไม่มีวันลืม
ปีนั้นเขาอายุแค่ยี่สิบห้า พกพาความฝันที่ยิ่งใหญ่ของเขาบุกเบิกไปถึงอเมริกาคนเดียว แต่เขาไม่รู้จักผู้คน เจอแต่อุปสรรค เรื่องราวไม่ราบรื่น แต่กลับเดินเข้าไปในงานศิลปะโดยไม่ได้ตั้งใจ
งานแสดงภาพศิลปะครั้งนี้ เขาเห็นหยวนชูเฟินในชุดกี่เพ้าสีเขียว ปีนั้นเธอยังอายุน้อย ดูเป็นนักศึกษามหาลัย
เธอกำลังแนะนำภาพวาดให้กับแขกในงาน รอยยิ้มเธอสวยงาม น้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง ทุกก้าวเหมือนเดินอยู่ในใจเขา
เขาเคยเห็นสาวงามมาเยอะ แต่แบบที่น่าจดจำอย่างเธอ เขายังไม่เคยเจอ
ปีนั้น เขากำลังอยู่ในช่วงสับสนกับชีวิต หยวนชูเฟินเหมือนทางสว่าง สองแสงให้เขา
เขาเตรียมตัวจะจีบเธอ และสาบานว่าต้องจีบเธอให้ได้ แต่ว่า วันนั้นทำให้เขาผิดหวังมาก
ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน เขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกับหยวนชูเฟินท่าทางรักใคร่ ที่แท้หยวนชูเฟินมีคนรักแล้ว
ความอิจฉา ความโกรธ เกลียด ไม่พอใจ
ทุกก้าวทุกรอยยิ้มของเธอเหมือนยาพิษ ทำให้เขาติดอย่างเลิกไม่ได้
ตั้งแต่ครั้งนั้น ในใจเขาก็คิดว่าเขาต้องแย่งให้ได้ ไปไม่ถึงเป้าหมาย เขาจะไม่ยอมหยุดมือเด็ดขาด
จากนั้นเขาได้รู้มาว่า ผู้ชายคนนั้นคือมู่เส้าเอิน เขากำลังเปิดบริษัทที่อเมริกา และกำลังเตรียมหาเงินขายกิจกรรม
โอกาสที่หายากขนาดนี้ เรื่องยิงนัดเดียวได้นกสองตัว
นี่เป็นโอกาสที่สวรรค์ให้เขา สวรรค์เป็นคนให้ โทษใครไม่ได้ เป็นความหมายของสวรรค์ ของสวรรค์
“พ่อ เตรียมตัวเสร็จรึยังครับ?”
เสียงหลงจื๋อดังขึ้น ตัดขาดเรื่องที่หลงถิงกำลังคิด
“อืม เตรียมกินข้าว”
หลงจื๋อพยักหน้า แล้วมองเข้าไปข้างใน ถามขึ้นเสียงเบา “พ่อ แม่จะกลับมาเมื่อไหร่?”
“ถามเรื่องพวกนี้ทำไม?” น้ำเสียงเขาเย็นชา ทำให้หลงจื๋อไม่กล้าถามอีก
ผ่านไปสักครู่ หลงถิงกับหลงจื๋อลงไปชั้นล่างพร้อมกัน หลงถิงถามขึ้น “ลูกพี่กับพี่ชายเหรอ ว่าจะไปอเมริกาสักพัก?”
“พ่อรู้ได้ยังไง?” หลงจื๋อแปลกใจ เรื่องนี้ไม่น่าจะมีคนรู้
“เหอะ พ่อรู้ได้ยังไง? พ่อเพิ่งรู้ ว่าลูกเชื่อฟังพี่ชายทุกอย่าง ได้เรื่องจริงๆ เลยนะ” หลงถิงพูดเสียดสีอย่างรังเกียจ
ตกหลุมพรางแล้ว
“พ่อ เขาเป็นพี่ชายผม”
“ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เขาไม่ได้เป็นแค่พี่ชาย ยังเป็นคู่แข่งด้วย ถ้าให้พ่อรู้อีกว่าเอาเรื่องที่พ่อบอกไปบอกเขาอีก ไม่แค่ลูก แม่ของลูกก็ไม่พ้น คำพูดเดียวกัน อย่าบังคับให้พ่อพูดครั้งที่สอง ไม่อย่างนั้นลูกจะต้องชดใช้”
หลงจื๋อรู้สึกใจหวั่น “พ่อ ทำไมพ่อ……”
“อยากรู้เพราะอะไร? เธอเป็นลูกของพ่อ เป็นผู้สืบทอดMBK นี่ก็คือเหตุผล”