ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 505
ตอนที่ 505 ผมสร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
ลั่วหานเดินเข้าไปในลิฟต์ กดเลข8 ถึงกดรับโทรศัพท์
ตอนนี้หลงถิงกับหลงเซียวจากสู้กันลับหลังเป็นมาเผชิญหน้ากันแล้วมั้ง? เขาโทรมาหาเธอ คงไม่มีสาเหตุอื่น
คิดไป ลั่วหานก็ก่อกำแพงขึ้นในใจ “พ่อ มีเรื่องอะไรไหมคะ?” ลั่วหานมองดูเลยลดลงทีละตัว ใกล้ถึงแล้ว
เวลาเดียวกัน หลงถิงที่อยู่ในห้องทำงานประธานMBK ซึ่งอยู่ชั้นบนสุด มือหนึ่งถือโทรศัพท์ อีกมือหนึ่งจับปากกาสีทองเล่นในมือ ปากกาโดนพลิกไปมา
“ลั่วหาน เธอกับหลงเซียวไม่ได้กลับบ้านนานแล้ว คืนนี้พี่ชายกับพี่สะใภ้พวกเธอกลับมา เธอกับหลงเซียวกลับมากินข้าวที่บ้าน”
ออ? กลับบ้านกินข้าว?
ลั่วหานกะพริบตา เดินไปหน้าลิฟต์สองก้าว เตรียมตัวลงลิฟต์ “หนูยังมีงานที่โรงพยาบาลค่ะ กลัวว่าเวลาคงไม่ทัน ไว้วันหลังนะคะ”
สมองลั่วหานสั่งการให้ปฏิเสธคำขอของเขา ตอนนี้เธอสงสัยว่าตัวเองตั้งท้อง ต้องเตรียมตัวไปตรวจให้แน่ใจ อย่างน้อยจนกว่าพรุ่งนี้เช้าห้ามมีอะไรเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าจะมีลูกจริงหรือไม่ เธอต้องทำหน้าที่ที่ดีที่แม่คนหนึ่งควรทำ
หลงถิงกลับหัวเราะคิกคิก เขาวางปากกาลง เปลี่ยนเป็นเคาะโต๊ะทำงาน “งานที่โรงพยาบาลยุ่งขนาดไหน? งานไม่มีวันทำหมด งานในมือเอาให้คนอื่นทำ ครอบครัวยากที่จะมีโอกาสกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน กลับบ้านก่อนหนึ่งทุ่ม”
ประตูลิฟต์เปิดออก ลั่วหานก้าวออกไป ฝ่ามือปกป้องหน้าท้อง “พรุ่งนี้นะคะ พรุ่งนี้หนูกับหลงเซียวจะไปแต่เช้า วันนี้รีบเกินไป”
“ลั่วหาน พ่อให้เธอกลับมากินข้าว ยังต้องลงทะเบียนล่วงหน้าใช่ไหม? ทำไม เป็นหมอจนป่วยเป็นโรคบ้างานแล้วเหรอ ขนาดพ่อเรียกกลับบ้านกินข้าว ยังเชิญไม่มาเลยเหรอ?” หลงถิงพูดจาเสียดสี เพราะเสียงลมจากจมูก ฟังผ่านสายก็รู้ว่าไม่พอใจ
ลั่วหานจับหน้าท้องไว้ อย่างปกป้อง หลงยี่กับโจวหยู่เช่นก็กลับมา บ้านตระกูลหลงบรรยากาศอึดอัด เธอไม่อยากไป แต่หลงถิงยืนยันหนักแน่น ถ้าเธอยืนยันไม่ไปก็คงเป็นที่ครหา
คืนนี้ก็ระมัดระวังหน่อย อีกอย่างหลงเซียวก็อยู่ คงไม่มีเรื่องอะไร
หลงถิงเริ่มใจร้อน “ฉู่ลั่วหาน เธอเป็นคุณผู้หญิงตระกูลหลง ยังไม่ได้ไปถึงตำแหน่งคุณนาย วางตัวหยิ่งให้ใครดู”
“พ่อพูดเกินไปค่ะ หนูกับหลงเซียวไปคืนนี้ คืนนี้เจอกันค่ะ”
ฝั่งโน้นวางสายแล้ว หน้าจอแสดงผลว่าวางสาย ลั่วหานถอนหายใจ ตระกูลหลงเหรอ สถานที่เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวาย
วางสายหลงถิงแล้ว ลั่วหานก็โทรกาหลงเซียวทันที เสียงโทรศัพท์ดังไปสองครั้งก็มีคนรับสาย
ครั้งนี้ก็เหมือนทุกครั้ง
เมื่อโทรศัพท์ถูกรับแล้ว ฝั่งโน้นก็กดเสียงพูดเบา “ลั่วลั่ว มีอะไร?”
“คุณประชุมอยู่?” ฟังเสียงเขา และเสียงเปิดเอกสารรอบด้าน ลั่วหานก็เดาออก
“อืม การประชุมของแผนกหนึ่ง ไม่สำคัญ คุณพูดเลย” หลงเซียวถือโทรศัพท์พูดเหมือนรอบด้านไม่มีคน ยังบอกว่าไม่สำคัญ ยังไม่สนใจผู้จัดการแผนกที่กำลังอธิบายPPTอยู่
ชายที่ยืนอยู่หน้าจอภาพ ไม่รู้ควรหยุดหรือพูดต่อดี
ลั่วหานยิ้ม เคยชินกับความรู้สึกแบบนี้ของเขา เธอรู้ดี ไม่ว่าหลงเซียวจะมียุ่งเรื่องอะไร ขอแค่เธอโทรไป ต้องไม่เป็นไร ไม่สำคัญตลอด เพราะฉะนั้นเธอจึงพูดสั้นๆ
“พ่อให้เราไปกินข้าวที่บ้านหนึ่งทุ่มคืนนี้ หลงยี่สองผัวเมียกลับมา บอกว่านัดรวมตัวครอบครัว ฉันตอบตกลงไปแล้ว”
พูดจบ ลั่วหานก็ตั้งใจฟังฝั่งโน้นตอบ ตามที่คิดไว้ หลงเซียวสบถเสียง เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ “ได้ เลิกงานแล้วผมไปรับ ไปด้วยกัน”
ผู้ชายที่ยืนอธิบายPPT อยู่กลืนน้ำลาย แต่คนรอบด้านก็เลือกที่จะทำเป็นไม่ได้ยิน
“ไม่ต้อง คุณเลิกงานแล้วรับฉัน รีบเกินไป ฉันขับรถไปเอง เราเจอกันที่คฤหาสน์เลย” คิดว่าเขาทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ลั่วหานไม่อยากให้เขาเป็นคนขับรถ
หลงเซียวเปลี่ยนมืออีกข้างถือโทรศัพท์ เวลาเดียวกันก็พยักหน้าบอกผู้จัดการพูดต่อ “เราแยกกันไป ระหว่างทางไปกลับก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน วิธีนี้ผมไม่เห็นด้วย”
เหอะ
คุณหลงนี่งอแงจังเลย
“ได้ รอคุณมารับฉัน รีบประชุมเถอะค่ะ” ลั่วหานปิดปากหัวเราะ ความรักความห่วงใยจากเขา ทำให้เธอมีความสุขที่สุด
หลงเซียววางโทรศัพท์ “ตัวเลขเมื่อกี้ ลดลงร้อยละสาม”
ผู้จัดการมองเส้นบนกราฟ ถึงกับอึ้ง “ท่านประธาน ท่าน……หมายถึงอันไหน?”
หลงเซียวชี้ตำแหน่งระหว่างเส้นแดงกับเส้นเขียว
ผู้จัดการยิ่งงง เมื่อกี้ตอนเขาพูดถึงตรงนี้ เขากำลังคุยโทรศัพท์อย่างตั้งใจอยู่ไม่ใช่เหรอ?
ไอคิวท่านประธานอะไรเนี่ย? สายตาอะไรเนี่ย?
——
ลั่วหานพักผ่อนในออฟฟิศสักพัก ดูเอกสารคนไข้เสร็จ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกๆคักๆ ดังมาจากบนทางเดิน
“ว้าว เป็นผู้ช่วยให้หมอถังน่าตื่นเต้นมากเลย ฮาๆ ฉันเพิ่งเคยเห็นหมอถังผ่าตัดเป็นครั้งแรก ฝีมือชำนาญมาก นับว่าเป็นแพทย์ชายศัลยแพทย์เบอร์หนึ่งเลย”
เป็นเสียงของหลินซีเหวิน ดูแล้วการผ่าตัดสำเร็จอย่างราบรื่น
หวาเทียนถอนหายใจ “ใช่ หมอถังเก่ง ถ้าไม่ใช่เพราะหมอถังเก่ง เธอนึกว่าการผ่าตัดครั้งนี้เธอจะผ่านไปได้? ตอนเย็บขั้นสุดท้ายก็หมอถังช่วยเธอ อย่าเอาความดีใส่ตัว”
ถ้าแบบนี้ หลินซีเหวินยังไม่ผ่านหมด ก็ยังคงต้องฝึกฝนต่อไป
เสียงพูดของทั้งสองใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สักพักก็เข้าไปในออฟฟิศ
ลั่วหานตลบมือ “เธอสองคนวันนี้ร่วมมือกับหมอถังเหมือนจะใช้ได้นะ น่าชื่นชม”
หลินซีเหวินขยับแว่นตา หัวเราะด้วยความเขิน “ที่จริงแล้ว เป็นเพราะหมอถังชี้แนะดี ไม่อย่างนั้นลำพังหนูทำไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉะนั้นเราก็ยังไม่จากไอดอลไม่ได้ หมอเป็นเสาหลักของเรา เป็นแรงบันดาลใจของเรา”
“พอแล้ว แสดงได้เวอร์ไปแล้ว ไม่แค่ฝีมือการแพทย์ต้องพัฒนา เรื่องการแสดงก็ด้วย ถ้าการผ่าตัดสำเร็จแล้ว เขียนรายงานอย่างละเอียด พรุ่งนี้ตอนทำงานเอามาส่ง ไม่มีปัญหานะ?” ลั่วหานหันไปดูเวลา “ยังเหลือเวลาอีกสิบกว่าชั่วโมง พอสำหรับการเขียน”
“หา? รีบขนาดนี้เลย? ไอดอล ต้องเขียนตัวหนังสือกี่ตัว?” หลินซีเหวินพนมมืออ้อน
“อย่างน้อยสามพันตัว รายงานอย่างละเอียด ตั้งแต่สาเหตุอาการป่วยจนถึงการดูแลหลังผ่าตัด”
“หา? เยอะขนาดนี้? จะเขียนออกมาได้ยังไง ไม่ใช่เขียนนิยายสักหน่อย” หลินซีเหวินขอร้องอย่างออดอ้อน แต่ก็ไม่ได้ผล
“น้อยไปเหรอ? ถ้าอย่างนั้นสี่พันเป็นไง?”
“ไม่เอา ไม่เอา ไม่น้อย ไม่น้อย สามพันพอแล้ว กำลังดี เหมาะสำหรับพวกเราพอดี”
คำขอของหมอฉู่ ไม่มีการเจรจาลดหย่อนแต่อย่างใด มีแต่เพิ่ม ยังไม่จำอีก
ถึงเวลาเลิกงาน ลั่วหานเปลี่ยนเสื้อ คำนวณเวลาที่หลงเซียวออกจากMBKมาถึงโรงพยาบาล น่าจะใกล้แล้ว จึงถือกระเป๋าเตรียมลงไป
เดินถึงหน้าห้องโถงโรงพยาบาล ก็เห็นคณบดีกับรองคณบดีลงลิฟต์พอดี ทั้งสองเหมือนกำลังเถียงอะไรกันอยู่ พอเห็นลั่วหานก็เงียบทั้งสองคน
“เสียวฉู่ เลิกงานแล้วเหรอ เดินทางปลอดภัยนะ”
“เหอะๆ เดินทางปลอดภัย พวกเราไปก่อนนะ”
ลั่วหานขมวดคิ้ว นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เดินถึงหน้าประตู ลงบันได มือถือก็ดังขึ้น กะเวลาได้พอดีเลย หลงเซียวมาแล้ว
ลั่วหานไม่ได้รับ และไม่ได้ตัดสาย มือถือสั่นอยู่ในมือ รีบเดินไปที่ประตู เห็นRolls-Royce สีดำจอดอยู่ข้างหน้า
กระจกรถเลื่อนลง เห็นหลงเซียวกำลังโทรศัพท์
ใบหน้าด้านข้างที่สมบูรณ์แบบ สีหน้าแห่งการรอคอย แสงแดดส่องใบหน้าเห็นขนตางอนยาว น่าดูที่สุด
ลั่วหานก้มลงไปที่กระจกรถ “เฮ้ สุดหล่อ สะดวกติดรถไปด้วยไหมคะ?”
หลงเซียวได้ยินก็หัวเราะ “คนสวยจะนั่งรถไปด้วย ก็ต้องสะดวกซิครับ”
ลงจากรถ เปิดประตูที่นั่งข้างคนขับ มือวางอยู่ด้านบนรถให้เธอนั่งเข้าไป “ทำไมไม่รอโทรศัพท์ผมก็ลงมาก่อน?”
ลั่วหานยื่นมือรัดเข็มขัด มือใหญ่ข้างหนึ่งก็ช่วยเธอรัดเรียบร้อย
“ฉันกับคุณใจตรงกันไง สัมผัสได้ว่าคุณมาแล้ว”
หลงเซียวอ้อมไปด้านคนขับ ขึ้นรถ สตาร์ทรถหรู “ทำงานเหนื่อยไหม?”
ลั่วหานพยักหน้า “เหนื่อย” แล้วส่ายหัว “แต่ตอนนี้ดีเลย คุณเป็นยาหอมของฉัน เป็นยาชูกำลังของฉัน เหอะๆ”
หลงเซียวเลี้ยวรถ ผ่านสี่แยกเดินขับต่อไป “เหอะ ยาหอมกับยาชูกำลัง คุณค่าของผมไม่น้อยเหมือนกันนะเนี่ย”
ลั่วหานเอียงตัวพิงที่เบาะ “ แบบแพง อีกอย่างสั่งทำพิเศษระดับวีไอพี จำนวนจำกัด แบบเดียวในโลก”
หลงเซียวพยักหน้าอย่างเต็มใจ “อืม และสั่งทำพิเศษเฉพาะคุณ เหมาะสมทุกด้าน ลองใช้มาแล้วเจ็ดปี ไม่มีปัญหา”
“……” ลั่วหานตัดสินใจดูวิวนอกรถ “คิดไปถึงไหนเนี่ย ขับรถดีๆ”
หลงเซียวหัวเราะ “ไม่แค่นั้น ยังบริการหลังการขายตลอดชีพ เรียกเมื่อไหร่ถึงเมื่อนั้น”
ลั่วหานกัดริมฝีปาก ขนตางอนยาว “ถ้าฉันคืนสินค้าละ?”
“ไม่ได้ เปิดใช้งานแล้ว ไม่รับคืนไม่รับเปลี่ยน”
หลงเซียวพูดเหมือนเซลล์ขายของ มันช่าง……ฮาๆ รู้สึกเข้ากันดี
ลั่วหานหัวเราะ “ออ? กลัวกระทบการขายรอบสอง?”
หลงเซียวยื่นมือไปกับมือเธอมาจูบ “สั่งทำพิเศษเฉพาะคนเดียว ไม่เปลี่ยนเจ้าของ”
“ฮาๆ ตามติดฉันเหรอ”
“คิกคิก”
รู้สึกว่า เอาร่างสูงใหญ่อย่างท่านเซียวมาล้อเล่น ก็สนุกดี เธอพูดอะไร เขาก็รับได้หมด มีแต่ความสนุก ไม่น่าเบื่อตลอดทาง
ไม่นาน รอก็ขับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลหลงด้วยความสุข ใกล้หนึ่งทุ่มแล้ว ภายในคฤหาสน์แสงไฟสว่าง
หลงเซียวจอดรถ ก็เปิดประตูให้ลั่วหานลงรถ อากาศเริ่มเย็น เขายื่นแขนกอดลั่วหานไว้ “เดี๋ยวถ้าไม่อยากอยู่ต่อ ก็บอกผมนะ เรากลับบ้านกันเร็วหน่อย”
“ฉันว่าครั้งนี้หลงถิงจัดงานเลี้ยงเปิดศึก เราคงถอนตัวได้ยาก?” เดินเข้าไปภายในบ้านทีละก้าวทีละก้าว ยิ่งเดินก็เหมือนเถ้ายิ่งหนัก
“ตอนนี้ถึงรู้ว่างานเลี้ยงเปิดศึก ความฉลาดของหมอฉู่ช้าลงแล้วนะ วางใจได้ ไม่ว่าเขาจัดงานอะไร ผมอยู่กินเป็นเพื่อนคุณ”
ลั่วหานกับเขาจับมือกันแน่น ขึ้นบันไดคฤหาสน์ “ไหนๆก็มาแล้ว เข้าไปดูว่างานเลี้ยงเขาเตรียมของอร่อยอะไรกัน อาหารไร้โทษ กินให้คุ้มเลย”
หลงเซียวรู้สึกดีใจขึ้นมา “ได้ ตามใจคุณเลย”