ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 506
ตอนที่ 506 ฉันท้องแล้ว
เห็นหลงเซียวสองสามีภรรยาเดินเข้ามา หลงยี่กับโจวหยู่เช่นก็เดินไปต้อนรับ เหมือนพวกเขาเป็นเจ้าของบ้าน ผู้มาเยือนเป็นแขก
“หลงเซียว น้องสะใภ้ รีบเข้ามา” โจวหยู่เช่นไม่ได้แค่พูด ยังเข้าไปดึงแขนลั่วหาน ลั่วหานเอียงตัวหลบมือของเขา
“พี่สะใภ้เกรงใจไปค่ะ”
มือโจวหยู่เช่นไม่โดนลั่วหาน จึงจับกระโปรงตัวเองอย่างเสียหน้า
งานเลี้ยงกินข้าวภายในบ้านวันนี้ โจวหยู่เช่นแต่งตัวสวยงาม กระโปรงยาว ผมยาว หน้าก็แต่งอย่างสวยงาม
หลงยี่พูดทั้งหัวเราะ “หลงเซียว เราก็ไม่ได้เจอกันนานแล้ว วันนี้ต้องดื่มด้วยกันสักหน่อย”
เขาตั้งใจทำเป็นใกล้ชิดสนิทสนมกับหลงเซียว แต่ในใจไม่มั่นใจเลย หลงเซียวไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย
“เหล้าไม่ต้องแล้ว ช่วงนี้ผมเลิกเหล้า” ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“เลิกเหล้าเหรอ? เมื่อก่อนทำไมไม่เคยได้ยินนายพูดเลย ดื่มกระชับความสัมพันธ์หน่อย เราดื่มกันหน่อย” หลงยี่พูดไปก็เดินเข้าไปในบ้าน ไม่นานหนุ่มสาวทั้งสี่ก็เดินเข้าไปถึงห้องรับแขก
มือขวาหลงเซียวปกป้องลั่วหานตลอดทาง ไม่ได้ละห่างแม้แต่วินาทีเดียว “ช่วงนี้ยุ่งกับเรื่องใหญ่อยู่ ไม่เหมาะที่จะดื่มเหล้า”
ลั่วหานฟังเข้าใจ เพราะฉะนั้นหน้าเริ่มแดงก่ำ
หลงยี่ก็ไม่กล้าถามต่อ จึงหัวเราะพูดต่อ “อย่างนั้น ก็ไม่ดื่มละกัน กินกับข้าวเยอะๆ วันนี้ในครัวเตรียมแต่อาหารที่นายชอบ เพราะพวกเธอจะกลับมา น้ารองตั้งใจจัดให้”
เหอะ ใครจะเชื่อ?
หลงเซิ่งกับหลงถิงนั่งอยู่ในห้องรับแขก แน่นอนผู้ใหญ่ทั้งสองก็ไม่ได้ลุกไปต้อนรับ หลงเซียวจูงลั่วหาน ทักทายง่ายๆ
ทุกคนต่างอดกลั้น แสดง บรรยากาศในห้องรับแขกดูหดหู่
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ พวกพี่กลับบ้านกันแล้ว ฮาๆ ผมรอพวกพี่ตั้งนาน ได้ยินพ่อว่าคืนนี้พวกพี่จะกลับมากินข้าว ผมไม่กล้าเชื่อเลย เยี่ยมเลย”
ทั้งบ้านก็มีแต่หลงจื๋อที่ลงมาจากชั้นสองคนเดียวที่เสียงดัง เขาใส่ชุดสูทที่ไม่ได้ผูกไท เสื้อเชิ้ตสีขาวคอปกตั้ง เห็นคอขาว ทำให้บรรยากาศเหมือนบ้านนี้มีลูกชายเพิ่งโตเป็นหนุ่ม
หลงเซียวพยักหน้า “รีบลงมา”
“ได้เลย พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้กลับมา วันนี้ผมรู้สึกต้องกินได้เยอะแน่ๆ คืนนี้ผมจะกินเยอะๆ เลย”
หลงจื๋อมีความสามารถแน่นอน ลั่วหานอดไม่ได้ที่จะชมเขาแล้ว
งานเลี้ยงตระกูลหลง ขาดหยวนชูเฟินเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป โต๊ะอาหารยาวนี้มีคนจิตใจคิดไม่ดีนั่งอยู่หลายคน
อาหารพร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะ อาหารแบบตะวันตก แบ่งเป็นเจ็ดอย่าง ตรงหน้าทุกคนจัดเตรียมงานไว้7-8อย่าง ทุกคนนั่งห่างกัน ถึงจะบอกว่าเป็นงานเลี้ยงกินข้าวครอบครัว แต่ไม่มีบรรยากาศความอบอุ่นของครอบครัวแม้แต่น้อย
หลงเซียวหั่นสเต๊กในจานตัวเองเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วยื่นไปที่จานลั่วหาน ลั่วหานยิ้มอย่างอบอุ่น
ลั่วหานเม้มปาก รับความรักความห่วงใยจากเขา
หลงจื๋ออมสเต๊กไว้ในปากอย่างอิจฉา ทำหน้าเบ้ปาก “พี่ใหญ่ พี่กับพี่สะใภ้แต่งงานกันตั้งนานแล้ว ยังรักกันขนาดนี้ สามีภรรยาตัวอย่างเลย”
หลงยี่กับโจวหยู่เช่นกินข้าวอย่างเงียบๆ ทั้งสองสบตากัน แล้วมองไปที่หลงเซิ่งกับหลงถิง
หลงถิงสีหน้าสลด “หลงเซียว ดีกับเมียตัวเองขนาดนี้ แต่ตัวเองตอนนี้ไม่มีข่าวคราวเลย ทำไมไม่เห็นถามอะไรสักคำ?”
ตั้งแต่พวกเขาเดินเข้ามา หลงถิงก็รอหลงเซียวถามถึงเรื่องหยวนชูเฟิน แบบนี้เขาจะได้เริ่มคุยอย่างราบรื่น แต่ที่แปลกคือ หลงเซียวไม่ถามสักคำ
หลงเซียวลิ้มรสอาหารอย่างเชื่องช้า “ข้างกายแม่มีพ่อคอยดูแล ผมยังต้องเป็นห่วงอะไร ผมเชื่อว่าพ่อดูแลแม่ได้เป็นอย่างดี หรือไม่ใช่?”
สายตาหลงถิงเย็นชา ยกแก้วไวน์ขึ้น เขย่าไปมาแต่ไม่ดื่ม “แม่หายตัวไป ไม่รู้เลยเหรอ?”
“ออ? แม่ผมหายตัวไป? ตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมพ่อไม่บอกผมแต่แรก?” ผักที่กำลังจะเข้าปาก วางกลับไปที่จาน แล้วหันไปมองหลงถิง
หลงยี่กับหลงเซิ่งสบตากัน จากนั้นหลงเซิ่งยิ้มพูด “หลงเซียว แม่นายออกไปหลายวันก่อน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวอะไรเลย ก่อนไป คือ……เหอะๆ ลั่วหานมารับไป พ่อนายเขาไม่วางใจ ถึงได้ถาม”
ลั่วหานกินสเต๊กกับสลัดอยู่ “เรื่องนี้หนูอธิบายกับพ่อแล้ว หนูไม่รู้ว่าแม่ไปไหน”
ช้อนส้อมของหลงถิง “ปัง” กระทบกับจาน เสียงดังแสบหู “ฉู่ลั่วหาน ยังไม่พูดความจริงอีก? บอกมา เธอเอาคนไปซ่อนไว้ไหน”
หลงถิงกัดฟันเชื่อว่าคือลั่วหาน อีกอย่างคืนนี้ถ้าไม่แย่งคนมาจากมือเธอ เขาไม่ยอมแน่
“พ่อ วันนี้เรียกเรากลับมากินข้าว เพื่อจะใส่ร้ายให้โทษพวกเราเหรอ?” หลงเซียวมือกับมีดซ่อม สายตาเฉียบขาด
หลงถิงก็ไม่ได้อ้อมค้อมอีก พูดตรงไปตรงมา “วันนี้คนที่บ้านอยู่กันพร้อมหน้า ก็พูดกันให้ชัดเจน ช่วงนี้เกิดอะไรบางอย่างขึ้น แม่พวกเธอหายตัวไป สายการบินก็ไม่มีข่าว ชื่อก็ไม่มีการลงชื่อเข้าพักในโรงแรม แม่เขายังอยู่ในเมืองหลวง เธอสองคนรู้ว่าแม่อยู่ไหน ใช่ไหม?”
ลั่วหานมุมปากขยับ ความฉลาดของเธอ “เพราะฉะนั้นพ่อก็เดาจากเหตุผลพวกนี้ เชื่อว่าหนูเอาแม่ไปซ่อน?”
“มันคือความจริง ฉู่ลั่วหาน เธออย่าอวดดี ตำแหน่งคุณนายตระกูลหลงเธอไม่มีสิทธิ์เตะ” หลงถิงพูดหน้าดำคอแดงจนเห็นเส้นเลือด ชี้หน้าลั่วหาน
หลงเซียวขมวดคิ้ว “คุณนายตระกูลหลงเตะไม่ได้ คุณหญิงตระกูลหลง ยิ่งเตะไม่ได้”
หลงยี่พูดขึ้น “หลงเซียว อย่าว่าพี่พูดตรงไปตรงมาเลยนะ น้ารองหนีออกจากบ้านมันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ เขาเป็นคุณนายตระกูลหลง มีงานมากมายที่ต้องการให้เขาไปร่วมออกงาน พวกเธอเอาคนกลับมาเถอะ”
หลงจื๋อเคี้ยวผักในปาก กลืนลงไป “พี่ พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ผมก็พูดแล้วไง พวกเขาไม่รู้ พวกพี่อยากดูการ เสกร่างคน ก็ไปดูที่การแสดงกายกรรม”
หลงถิงขึงตาใส่ “ผู้ใหญ่คุยกัน เป็นเด็กอย่าพูดแทรก กินข้าวไป”
“พ่อ ผม……”
หลงจื๋ออยากพูดต่อ แต่หลงถิงกวาดสายตามองมาอีก เขาจึงเงียบ
สายตาหลงถิงต้องอยู่ที่ตัวลั่วหาน อย่างงูพิษ “ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอจะใช้วิธีไหน หาคนของฉันกลับมาให้ได้ เธอสองคนมีความสามารถไม่น้อย เรื่องประสานงานทั้งในและนอกพวกนั้น นึกว่าฉันไม่รู้จริงๆหรือ? เฮอะ”
โจวหยู่เช่นหัวเราะ “ลุงรอง หลงเซียวกับน้องสะใภ้มีความสามารถอยู่แล้ว เป็นคนมีชื่อเสียงในเมืองหลวง ให้พวกเขาหาน้าสะใภ้กลับมา ไม่ยากหรอกค่ะ”
“เหอะๆ” หลงเซียวหัวเราะ สายตาเย็นชาเฉียบคม “พี่สะใภ้พูดเกรงใจไป ผมกับลั่วลั่วไม่ได้มีความสามารถอะไร แต่จะให้สืบเรื่องอะไรนิดหน่อยก็ไม่ยาก อย่างเช่น” เขายกน้ำอุ่นขึ้นจิบ “ผมได้ยินว่าช่วงนี้พี่สะใภ้จดทะเบียนที่โรงแรมหวาเม้า กำลังเล่นหุ้นอยู่ หุ่นที่พี่เล่นอยู่แนวโน้มไม่ค่อยดี เดี๋ยวผมแนะนำตัวอื่นให้”
เล่นหุ้น? โจวหยู่เช่นเล่นหุ้น?
สีหน้าหลงยี่ไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้น ช่วงนี้โจวหยู่เช่นขอเงินกับเขาบ่อยๆ เพราะกำลังเล่นหุ่น?
แต่ทำไมหลงเซียวถึงรู้? ยังรู้ละเอียดขนาดนี้
สีหน้าโจวหยู่เช่นซีดไปทันที “หลงเซียว นาย……นายอย่าพูดไปเลื่อย ฉันก็แค่ลงทุนเล่นๆ เท่านั้น ช่วงนี้กำลังจะขายทิ้งแล้ว”
ลั่วลั่วก็รู้สึกแปลกใจ หลงเซียวรู้กว้างขนาดนี้ ขนาดโจวหยู่เช่นยังอยู่เป็นหมากในเกมของเขา
หลงเซียวหัวเราะ “พี่สะใภ้สมกับเกิดในตระกูลใหญ่จริงๆ สามร้อยล้านเรียกนิดเดียว แค่เล่นๆ”
อะไร?
สามสิบล้าน
“แต่ว่า……” หลงเซียวหัวเราะ อย่างเห็นใจ “ตอนนี้คงตกจนเหลือไม่เท่าไหร่แล้วมั้ง? พี่สะใภ้”
คำว่าพี่สะใภ้ของเขา เสียงดังฟังชัด อย่างเสียดสี
หลงถิงเห็นเขาเอาเรื่องโจวหยู่เช่นมาเปลี่ยนเรื่อง รีบพูดกลับเรื่องเดิม “หลงเซียว วันนี้เรื่องที่เราจะพูดคือเรื่องแม่เธอ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง กลับไปแล้วหาวิธีหาคนกลับมาให้ได้ ไม่ต้องนั้นรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง”
หลงเซียวใช้ผ้าเช็ดปาก “แม่จากไปโดยไม่บอกกล่าวก็ต้องเป็นเพราะพ่อแน่นอน พ่อก็รู้นิสัยแม่ ถ้าไม่ใช่พ่อทำให้แม่โกรธ แม่จะไปได้ยังไง? พ่อก็ลองคิดดูเอง ว่าช่วงนี้ไปทำอะไรไว้ จนทำให้เมียหนีออกจากบ้าน”
ตั๊ก
หลงถิงยืนขึ้นมา “หลงเซียว วันนี้กล้าโกหกฉันในที่ประชุมคณะกรรมการ อยู่ในบ้านยังไม่รู้จักเปลี่ยน อย่าบังคับให้ฉันไม่เห็นแก่ความเป็นพ่อลูกนะ”
เหอะ ช่างน่าเสียดสีเหลือเกิน ระหว่างเขาเคยมีความสัมพันธ์พ่อลูกตั้งแต่เมื่อไหร่?
หลงเซียวโน้มตัว ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ลั่วลั่ว กินอิ่มรึยัง? เรากลับบ้านเถอะ”
ลั่วหานเช็ดปาก “อืม กินอิ่มแล้ว”
“ได้”
พูดแค่คำว่าได้คำเดียว หลงเซียวจูงมือลั่วหาน ร่างสูงของทั้งสองเมื่อเทียบกับคนอื่นแล้วก็สูงไม่น้อย “วงการธุรกิจไม่มีพ่อลูก พ่อกับผมต้องชำระกันอย่างละเอียด สำหรับแม่แล้ว เหอะ ถ้าเป็นเพราะพ่อทำร้ายแม่จนต้องจากไปโดยไม่ล่ำลา ผมก็ต้องชำระเหมือนกัน อาหารเย็นอร่อยมาก ลุง พี่กินกันให้สนุกนะครับ”
“หลงเซียว ลูกอกตัญญู แกกล้าก้าวออกจากประตูนี้ ก็อย่ากลับมาอีก” หลงถิงตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ และไม่เหลือเยื่อใย
ลั่วหานจับมือหลงเซียวไว้ หันกลับไปยิ้มแล้วพูด “พ่อ อย่าโมโหแบบนี้ พ่อลูกไม่มีแค้นข้ามคืนหรอกค่ะ พ่ออย่าติดใจกับหลงเซียวอะไรคะ? เดี๋ยวเราจะหาเวลากลับมาเยี่ยมพ่อ แล้วก็ลุง”
หลงจื๋อโบกมือ “ได้ครับพี่สะใภ้ ผมจะรอพวกพี่กลับมา”
“เสี่ยวจื๋อ หุบปาก” หลงถิงตะโกนเย็นชา กัดฟันหน้าบึ้ง “ไม่ต้องเรียกพี่สะใภ้ พี่สะใภ้ เจ็ดปีแล้วไม่เห็นมีหลานให้ตระกูลหลงสักคน อะไรสะใภ้ แกขึ้นห้องไป ฉันไม่เรียกไม่ต้องลงมา”
หลงถิงด่าหลงจื๋อ แต่คำพูดท่อนกลางที่กดเสียงต่ำนั้น ลั่วหานได้ยินอย่างชัดเจน แต่ละคำเหมือนทิ่มลงในใจ เจ็บไม่หายใจไม่ออก
หลงเซียวกอดลั่วหานไว้แน่น สายตาเฉียบคมนั้นไม่ซ่อนอารมณ์อีก “ทำร้ายผมได้ แต่ถ้าทำร้ายลั่วลั่ว ไม่ว่าจะเป็นใคร ผมคืนให้ร้อยเท่าแน่”
“นายไม่มีปัญญานั่นหรอก”
“เหอะ พ่อรู้ดีกว่าคนอื่น”
ลั่วหานรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน ไม่สบายจนรู้สึกคอบวม เธอดึงเสื้อหลงเซียว “ที่รัก พาฉันกลับบ้าน”
หลงเซียวเก็บสายตาเฉียบคมนั้น อุ้มลั่วหานขึ้นมาอย่างอ่อนโยน ร่างสูงเดินออกจากห้องรับแขก
ท่ามกลางสายตาทุกคน อุ้มไปแบบนี้เลย หลงจื๋อรู้สึกพี่ชายหล่อที่สุด
“สารเลว กล้าขู่ฉันเหรอ” หลงถิงเขวี้ยงแก้วในมือ
หลงเซิ่งพูดจาใส่ไฟ “น้องรอง ดูท่าหลงเซียวจะปีกแข็งแล้ว ควบคุมไม่ได้แล้ว น่าจะต้องตัดปีกเขารึเปล่า?”
“ มันเหรอจะมาท้าทายผม? เฮอะ”
โจวหยู่เช่นพูดตาม “ลุงรอง ลุงอย่าโกรธนะคะ โกรธคนแบบนั้นมันไม่คุ้มค่ะ”
หลงถิงมองเธออย่างอารมณ์เสีย “เธอก็เบาๆ หน่อย เธอก็ไม่ได้ดีกว่าเขาหรอก”
แต่งงานหลายปีเหมือนกันก็ไม่มีลูกสักคน
หลงยี่รีบดึงโจวหยู่เช่นไม่ให้เธอพูดอีก
หลงจื๋อหัวเราะเยาะ “พี่สะใภ้ อีกหน่อยก็ดูตาม้าตาเรือบ้าง มีชีวิตอยู่ดีแค่ไหน ทะนุถนอมดีๆ”
ข้างนอก ลั่วหานขึ้นรถแล้ว ใบหน้าซีดเซียว เธอไม่สบายจนจับหน้าอกไว้ พูดเสียงแตก “หลง หลงเซียว รีบกลับบ้าน ฉันรู้สึกไม่สบาย”
เธอบอกว่าไม่สบาย หลงเซียวรู้ใจตกไปถึงตาตุ่ม รีบเช็กร่างกายเธอย่างตกใจ “ไม่สบายตรงไหน? ผมพาคุณไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”
ลั่วหานดึงมือเขาส่ายหัว “ฉัน……ไม่……อ้วก”
ยังพูดไม่จบ อาการคลื่นไส้ก็ขึ้นมาถึงคอ ลั่วหานผลักประตูออก วิ่งไปหลายก้าว อ้วกที่ริมถนน
หลงเซียวขมวดคิ้วอย่างเป็นห่วง ตบหลังลั่วหานเบาๆ “ของที่กินเมื่อกี้ทำลายกระเพาะเหรอ? ไม่ได้ ผมต้องส่งคุณไปโรงพยาบาล”
เมียอาเจียนขนาดนี้ เขาเป็นห่วงจนใจจะสลายแล้ว
ลั่วหานอาเจียนเสร็จ ใบหน้าแดงก่ำ กลั้นอาการไม่สบายไว้ส่ายหัว “ไม่เป็นไรแล้ว อ้วกเสร็จก็ดีขึ้นเยอะแล้ว”
หลงเซียวหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาช่วยเธอเช็ดปาก เป็นห่วงเธอจนขมวดคิ้วเป็นก้อน สายตาห่วงใย “ห้ามดื้อ เชื่อฟังนะ เราไปโรงพยาบาลกัน”
พูดจบ เขาก็อุ้มลั่วหานขึ้นมา “ไปโรงพยาบาลตอนนี้”
“ไม่”
มือลั่วหานดึงปกเสื้อเขา แนบชิดอยู่กลางอกเขาอย่างเขินอาย ครั้งนี้เธอกล้าเดาว่า จากสถานการณ์แล้ว ต้องไม่ผิดแน่ ต้องใช่แน่
“หลงเซียว ฉัน……ฉันท้อง”