ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 530
ตอนที่ 530 คุณนี่ลามกจริงๆ
ตอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ดูเหมือนกับว่าโลกนี้อบอุ่นขึ้นมาทันที และแทบไม่มีความรู้สึกกังวลอะไรเลย สามารถผ่อนคลายตัวเอง และตกอยู่ในอ้อมกอดความรักของเขา
“ฉันไม่ควรพึ่งพาคุณในทุกเรื่อง? อีกอย่างฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของคุณ ดังนั้นฉันสามารถตัดสินใจทุกเรื่องด้วยตัวเองได้”
พูดตามความจริงคือ เธอไม่ชอบถูกปฏิบัติเหมือนดั่งเจ้าหญิง เธอก็มีรูปแบบวิธีการจัดการของตัวเอง ถึงแม้ชื่อของหลงเซียวมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถกลบเกลื่อนแสงสว่างของเธอได้ จริงไหม?
หลงเซียวไม่โต้เถียง แต่ยื่นมือลูบปลายจมูกของเธออย่างเอ็นดู แล้วยื่นมืออีกข้างโอบหน้าท้องของเธอ “คุณฉู่ผู้มีความฉลาดหลักแหลม แต่ดูเหมือนคุณจะลืมไปแล้วว่า ตอนนี้คุณไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว บนตัวคุณยังมีลั่วลั่วน้อยของพวกเราอยู่”
ประโยคสุดท้าย เขาตั้งใจพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์และไม่จริงใจเลียนแบบเหมือนส้งชิงเซวี๋ยน
ลั่วหานตกใจเล็กน้อย พูดตามความจริง เธอลืมไปแล้วจริงๆ เพราะลูกน้อยมีอายุครรภ์ไม่มาก เธอเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก เธอไม่มีอาการได้กลิ่นเหม็นคาว และไม่มีอาการอาเจียนอย่างรุนแรงเลย ดังนั้นที่เธอละเลยก็ถือว่ามีเหตุผลใช่ไหม?
เอาล่ะ ดูจากสีหน้าของคุณหลงแล้วคงไม่ให้อภัยอย่างแน่นอน
“คุณรู้ได้ยังไงว่าจะเป็นลั่วลั่วน้อยหรอ? ถ้าหากเป็นหลงเซียวน้อยล่ะ?” ลั่วหานลูบหน้าท้องเหมือนกัน ระหว่างการเจริญเติบโตเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์จริงๆ เพียงแค่พวกเขาเห็นลูกน้อยเติบโตแต่ละวัน พวกเขาก็รู้สึกปลื้มใจมากแล้ว
หลงเซียวประคับประคองเธอเดินลงบันได ขณะเดียวกันก็ช่วยเธอสะพายกระเป๋าด้วย เขามีรูปร่างสูงใหญ่ กระเป๋าเลยห้อยลงมาไม่ต่ำมาก อีกอย่างเขาสะพายกระเป๋าสีดอกกุหลาบชมพูแล้ว ไม่ดูมีกลิ่นอายของผู้หญิงเลย ในทางกลับกันกลับดูเหมือนกับผู้ชายที่เอาอกเอาใจภรรยามากกว่า
เขาประคับประคองลั่วหานอย่างระมัดระวัง ไม่ยอมให้เธอประสบกับอันตรายแม้แต่นิดเดียว
“ไม่ว่าจะเป็นลั่วลั่วน้อยหรือเซียวหลงน้อยล้วนดีทั้งสอง แต่เขาหวังอยากให้เป็นลั่วลั่วน้อยมากกว่า “เมื่อเดินลงสุดทางก็จะถึงห้องโถงใหญ่”
พนักงานเคาน์เตอร์ผู้หญิงไม่กี่คนเบิกตากว้างจ้องมองหลงเซียว ในใจคิดอยู่ว่า โอ้พระเจ้าช่วย หลงเซียวคงไม่ใช่คนมีสองบุคลิกใช่ไหม? ตอนที่วิ่งเข้ามาซักถามภรรยาเมื่อกี้มีท่าทางเหมือนจะไปฆ่าคนเลย แถมเดินขึ้นบันไดสามสิบขั้นเหมือนกับเขาเดินขึ้นสามก้าวเลย
ตอนนี้เขาทำให้พวกเธอถึงกับนิ่งอึ้งไปเลย และนึกว่าหลงเซียวจะถือมีดไปฆ่าฟันคน!
แต่ตอนนี้กลับ…..เป็นท่านประธานหลงที่อ่อนโยน ก้าวเดินอย่างมั่นคง แทบไม่มีท่าทางตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย
“เพราะคุณชอบลูกสาวมากกว่าหรอ? ฉันจำได้ว่า ดูเหมือนคุณจะชอบลูกสาวมาก” ลั่วหานรู้สึกกังวลเล็กน้อย หากคลอดเป็นลูกชาย คุณหลงคงไม่ปฏิบัติตัวแตกต่างหรอกใช่ไหม?
หลงเซียวยิ้มและพูดว่า “อาจจะใช่ และอาจจะไม่ใช่ครับ เมื่อคลอดลูกชายทั้งครอบครัวก็จะร่วมฉลองยินดี สิ่งสำคัญคือมีคนสืบทอดทายาท แต่ไม่ได้ยินดีกับการมาของชีวิตใหม่เลย ผมอยากให้คุณรู้ ผมรักลูกของพวกเรา ไม่ใช่ต้องการคนที่สามารถสืบทอดธุรกิจ
ฮ่าฮ่า ผู้ชายคนนี้จริงๆเลย
ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ดวงจันทร์ลอยค้างอยู่กลางท้องฟ้า บรรยากาศในตอนกลางคืนสวยงดงามมาก ลั่วหานเงยหน้ามองทิวทัศน์แวบหนึ่ง และพูดขึ้นว่า “มีผู้ชายสุดหล่ออยู่เคียงข้างฉัน แถมยังพูดจาหวานกับฉันด้วย แบบนี้ฉันเป็นคนที่ชนะในใช้ชีวิตหรือยัง?”
หลงเซียวเปิดประตูให้เธอนั่ง จากนั้นก็ก้มตัวช่วยเธอคาดเข็มกลัดนิรภัย “ครับ แต่คนที่ชนะในการใช้ชีวิตมีการแบ่งระดับนะครับ แต่ในอนาคตคุณต้องเลื่อนขั้นแน่ครับ”
สามารถเลื่อนขั้นหรอ? งั้นต้องเลื่อนขั้นถึงระดับไหนหรอ? เธอรู้สึกเฝ้ารอคอยมาก
เมื่อสตาร์ทรถยนต์เสร็จ หลงเซียวไม่ได้ขับไปทางเส้นทางกลับรีสอร์ทหยีจิ่ง แต่กลับรถไปทางถนนเฟิงเฉียว
“คุณจะไปไหนหรอ?”
หลงเซียวเปิดเพลงให้เธอฟังผ่อนคลาย “ตอนบ่ายคุณยังไม่ได้กินข้าว ไม่รู้สึกหิวหรอ? หรือดีใจที่ได้รับใบอนุญาตผ่านเข้าเมืองของฟางหลิงหยู้จนไม่รู้สึกหิวหรอ?”
ลั่วหานขมวดคิ้ว “คุณรู้เรื่องใบอนุญาตผ่านเข้าเมืองได้ยังไงหรอ?”
หลงเซียวยิ้มจางๆ “ทักษะการได้ยินของผมดีมาก”
กั้นแค่ประตูก็ยังสามารถได้ยิน
ลั่วหาน : “……”
เอาล่ะ คำถามที่สอง “คุณกำลังจะไปไหนหรอ?”
บนหน้าจอการเดินทางของหลงเซียวไม่มีการระบุจุดหมาย “ไปร้านอาหารหรงเหยียน ผมจองอาหารค่ำที่เหมาะกับคนท้องแล้ว เมื่อไปถึงสามารถกินได้เลย”
คุณหลงมีเส้นสายกว้างขวางจริงๆ ลั่วหานรู้สึกเลื่อมใสจริงๆ!
“คุณจองตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?”
หลงเซียวจ้องมองเธอ “ตอนที่คุณดื่มหมดแก้วเพื่อทำความเคารพ”
ลั่วหาน : “……”
เป็นตอนที่เธอได้รับใบอนุญาตผ่านเข้าเมือง เลยขอดื่มชาเพื่อทำความเคารพต่อหัวหน้าหวัง
คุณหลงช่างร้ายกาจจริงๆ จะไม่ให้เลื่อมใสได้ยังไงกันล่ะ!
ทั้งสองคนดื่มด่ำการทานอาหารค่ำที่เงียบและผ่อนคลายที่ร้านอาหารหรงเหยียน อาหารสำหรับคนท้องมีรสชาติจืดเป็นหลัก เน้นสารอาหารที่มีประโยชน์ และเป็นอาหารที่ย่อยง่ายด้วย
หลังจากกินข้าวเสร็จ ทั้งสองคนก็กลับบ้าน เมื่อลั่วหานนึกถึงเรื่องศาสตราจารย์จู ก็พูดขึ้นว่า “ที่วันนี้สามารถผ่านไปอย่างราบรื่น ต้องยกความดีความชอบให้กับศาสตราจารย์จู เขาเคยรักษาตัวที่โรงพยาบาลหวาเซี่ย และพวกเราเคยพูดคุยกันด้วย”
“อืม ผมรู้จักเขาเหมือนกัน”
แน่นอนว่า หลงเซียวไม่มีทางบอกลั่วหานแน่ว่าเขารู้เรื่องที่เธอประสบปัญหาแล้ว อีกทั้งเขายังสืบประวัติของศาสตราจารย์จู ด้วย เมื่อถูกยืนยันว่าเขาคนนี้ไม่มีพิษภัยจึงจะสบายใจ
ลั่วหานยิ้มหวานหยาดเยิ้มขึ้น “ที่รัก ต่อไปทำเรื่องดีๆกันเยอะๆเถอะ เผื่อจะได้รับการตอบแทนที่ดี”
อย่างเช่นวันนี้
“อีกอย่างการเป็นคนต้องยืนหยัดหลักการที่ตัวเองยึดไว้ ทำชั่วได้ดีแต่ชั่วเวลานั้น แต่เป็นคนดีจะสามารถได้รับมิตรภาพที่ดีที่ยาวนาน”
หลงเซียวพูดขึ้นว่า “คุณเจอกับหัวหน้าหวังครั้งเดียว แต่กลับสามารถเรียนรู้ได้เยอะขนาดนี้เลยหรอ? ดูเหมือนต่อไปผมคงต้องแนะนำข้าราชการให้คุณรู้จักไม่กี่คนแล้ว ไม่เกินครึ่งปี ภรรยาของผมต้องสามารถเป็นศาสตราจารย์ได้แน่”
“ไม่ ไม่ต้องหรอก ฉันมีตำราเรียนที่ดีที่สุดแล้ว หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเปี่ยมล้นด้วยความรู้รอบตัว อ่านเท่าไหร่ก็ไม่น่าเชื่อ!” ขณะที่เธอพูดก็จ้องมองเขา และทุกประโยคที่พูดก็เข้าใกล้เขามากขึ้นด้วย จนสุดท้ายจะแนบชิดใบหน้าของเขาแล้ว
“อ่านเท่าไหร่ก็ไม่น่าเบื่อหรอ…..” เขาลากเสียงยาวเล็กน้อย “ผมไม่น่าเบื่อหรอก ผมกลัวแค่ลั่วลั่วน้อยไม่พอใจ”
ลั่วหาน : “……”
คุณหลงคิดลามกจริงๆ!
——
ผ่านหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่หลงจื๋อเดินบนถนนเป็นเพื่อน โฉหวั่นชิงบนถนนนิวยอร์กที่หรูหรามีร้านค้าตลอดทาง และมีสินค้าหลายประเภทมากจนน่าละลานตา ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ผลิตจากจีน แต่เมื่อแขวนอยู่ในตู้กระจกที่อเมริกากลับมีรูปแบบหรูหราอีกแบบทันที
หลงจื๋อพา โฉหวั่นชิงไปเดินที่ถนนแมนฮัตตัน แล้วไปที่ลานยุคสมัยปากทางสี่แยก
ลานยุคสมัยเป็นศูนย์กลางช็อปปิ้งระดับสูงที่สุดในเมืองนิวยอร์ก ข้างในมีสินค้าแบรนด์ดัง ล้วนเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งสถานที่รวบรวมสินค้าทุกอย่างนี้กลายเป็นความใฝ่ฝันของคนจำนวนมากด้วย
“เสี่ยวจื๋อ พวกเราไปที่อื่นกันเถอะ สินค้าในนี้….ไม่เหมาะกับแม่หรอก แม่อายุมากขนาดนี้แล้ว จะให้แต่งตัวเหมือนหญิงสาวได้ยังไงล่ะ?”
โฉหวั่นชิงอยากพาลูกชายไปสถานที่อื่น
หลงจื๋อพูดอย่างหนักแน่นว่า “แม่ครับ แค่ซื้อเสื้อไม่กี่ตัวเท่านั้นเอง แม่กังวลอะไรหรอ? ใครบอกแม่อายุมากแล้ว? แม่ยังคงอายุสิบแปดปีตลอดไป และยังคงสวยไม่มีเปลี่ยน!”
หลงจื๋อเคยดูตู้เสื้อผ้าของเธอแล้ว เห็นเสื้อผ้าของเธอแล้วเขารู้สึกปวดใจ แต่เสื้อผ้าของหยวนชูเฟินผลิตจากอิตาลี ทุกฤดูกาล ทุกเดือน แม้กระทั่งทุกสัปดาห์มีเสื้อหลากหลายประเภทตัดให้เธอโดยเฉพาะตลอด
แต่แม่ของตัวเอง หากพูดตามความจริงคือล้วนเป็นเสื้อของปลอมหมด
หลังจากที่ โฉหวั่นชิงถูกลูกชายพูดเกลี้ยกล่อมก็ยินยอม “โตขนาดนี้แล้วยังพูดเล่นอีก”
เมื่อเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็เห็นป้ายร้านมากมายละลานตามาก
“แม่ครับ แม่ชอบแบบไหนก็เลือกได้เลยครับ” หลงจื๋อเกลี้ยกล่อมให้เธอเลือกซื้อ
โฉหวั่นชิงตอบรับอย่างเต็มปาก แต่เมื่อหยิบเสื้อคลุมผ้าแรดคูนสีม่วงเข้ม แล้วเห็นราคาบนป้าย เธอก็วางเสื้อคลุมลง แล้วลากลูกชายออกจากร้านทันที
“อันที่จริงเสื้อเหล่านี้ก็ไม่ได้สวยอะไรมากหรอก เหมือนกับเสื้อผ้าบนแอพเถ้าเป่าเลย บนแอพเถ้าเป่าแค่ราคาสามสี่ร้อยก็มีเสื้อสวยแล้ว! ไปกันเถอะ”
หลงจื๋อรู้สึกผิดเล็กน้อย
ทุกวันเขาสามารถกินอาหารหรู สวมเสื้อผ้าดีๆ แต่แม่ของเขากลับใช้สินค้าในแอพเถ้าเป่า!
หลงจื๋อรู้สึกคับแค้นในใจ “แม่ครับ แม่รอสักครู่นะครับ”
พูดจบ หลงจื๋อก็หันหลังกลับเดินไป
ส่วน โฉหวั่นชิงเดินไปร้านกระเป๋าแบรนด์โคลอี๋ร้านด้านข้าง เธอหยิบกระเป๋าผู้หญิงรูปทรงครึ่งวงกลมสีน้ำตาลใบหนึ่งขึ้น
กระเป๋าที่วางบนตู้ที่เห็นชัดเจนเป็นคอลเลคชั่นลิมิเตดใหม่ของซีซั่นนี้ ตอนนี้มีจำหน่ายแค่ในทวีปยุโรป ถือเป็นสินค้าที่ผู้คนต่างแย่งชิงกัน
โฉหวั่นชิงหยิบกระเป๋าขึ้นมาลองสะพาย พร้อมกับส่องตัวเองในกระจก และนึกในใจว่า สะพายกระเป๋าใบนี้แล้วดูอ่อนเยาว์ขึ้นมากเลย
พนักงานบริการเดินมาข้างเธอ เพราะกลัวเธอทำกระเป๋าเสียหาย เธอพูดเตือนเป็นภาษาอังกฤษว่า “คุณผู้หญิงค่ะ กระเป๋าใบนี้ผลิตจากหนังนกกระจอกเทศ ดังนั้นช่วยระมัดระวังหน่อยนะค่ะ”
โฉหวั่นชิงเผยสายตาลำบากใจเล็กน้อย แล้วเงยหน้ายิ้ม และพูดว่า “ค่ะ ขอบคุณค่ะ”
ใครจะไปรู้ จู่ๆเธอก็ลื่นมือเผลอทำกระเป๋าใบราคาเจ็ดพันสามร้อยดอลล่าสหรัฐร่วงตกลงบนพื้น
ตึง! ตึง!
กระเป๋าและโซ่สีทองตกลงบนพื้นพร้อมกัน จนเกิดเสียงดังสนั่นทั่วทั้งร้าน
“ว๊าย! คุณผู้หญิง ทำไมคุณถึง…..ฉันเพิ่งบอกคุณเองว่าให้คุณช่วยระมัดระวัง กระเป๋าใบนี้ราคาตั้งสี่ห้าหมื่นหยวนเลยนะค่ะ แล้วคุณก็ไม่มีปัญญาซื้อด้วย…..เอาล่ะ คุณลุกขึ้นมาก่อน เดียวฉันจัดการเอง”
พนักงานบริการหยิบกระเป๋าขึ้น แล้วตรวจดูอย่างละเอียด “ถ้าหากได้รับความเสียดาย คุณจะรับผิดชอบไหวหรอ?”
เมื่อ โฉหวั่นชิงเหลือบเห็นหลงจื๋อเดินมาจากด้านข้างก็รีบก้มหน้ากล่าวขอโทษอย่างรีบร้อนใจ “ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ เดียวฉันช่วยเช็ดให้สะอาดให้นะค่ะ”
เธอดึงเสื้อของตัวเองจะเช็ดกระเป๋า อันที่จริงบินพื้นก็สะอาดอยู่แล้ว ไม่มีฝุ่นเลย
พนักงานอารมณ์ขึ้นทันที “คุณผู้หญิงค่ะ! เสื้อของคุณผู้หญิงผลิตจากผ้าคุณภาพต่ำ หากเช็ดจะทำให้หนังกระเป๋าเสียดายนะค่ะ! คุณไม่ต้องทำอะไร เดียวฉันจัดการเอง!”
โฉหวั่นชิงยิ่งรู้สึกละลายใจ “ขอโทษด้วยนะค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
ในตอนนี้สีหน้าของหลงจื๋อมืดครึ้มแล้ว!
“แม่ครับ! เกิดอะไรขึ้นครับ?”
หลงจื๋อเดินเข้ามาในร้านกระเป๋าด้วยสายตาแหลมคม เหมือนจะเข้ามาบีบคอคนให้ตายเลย
โฉหวั่นชิงดึงแขนเสื้อลูกชายด้วยท่าทางไม่สบายใจ แล้วพูดขึ้นว่า “เสี่ยวจื๋อ อย่าทำแบบนี้ แม่เป็นคนทำกระเป๋าเสียดายเอง”
หลงจื๋อกัดฟันแน่น “กระเป๋าอะไร? ไหนเอาให้ผมดูหน่อย!”
พนักงานมึนงงเล็กน้อย “คุณผู้ชายค่ะ เมื่อกี้คุณผู้หญิงคนนี้ทำกระเป๋าใบใหม่ของเราเสียหาย……”
หลงจื๋อคว้าจับกระเป๋า แล้วขว้างลงบนพื้นด้วยสายตามืดครึ้ม พร้อมกับยกเท้าเหยียบกระเป๋าด้วยหนึ่งที
โฉหวั่นชิง: “……”
ทุกคน : “…….”
หลงจื๋อเหยียบกระเป๋าจนเปลี่ยนรูปทรงแล้ว จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า “ดูให้ดี กระเป๋าราคาถูกแบบนี้เหมาะแค่กับเท้าของผม! แม่ของผมแค่ลองกระเป๋าของพวกคุณ ซึ่งถือว่าให้เกียรติต่อพวกคุณ ไม่สำนึกอีกหรอ!”