ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 531
ตอนที่ 531 ผู้หญิงคนนั้นเรียกว่าแม่
กระเป๋าที่มีชื่อเสียงรุ่นหนึ่งราคา 40,000 ถึง 50,000 หยวน ก็ถูกหลงจื๋อเหยียบอยู่ใต้เท้าอย่างไร้ค่าแบบนี้ อีกทั้งยังบดขยี้อย่างแรง สิ่งที่เขาบดขยี้คือกระเป๋า แต่สิ่งที่กอบกู้ไว้คือหน้าและศักดิ์ศรีของคุณแม่!
พนักงานขายจ้องโดยดวงตาสีฟ้าของเธอด้วยความตกใจ และสองมือปิดปากที่อ้าปากค้างไว้ของเธอ ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก พูดภาษาอังกฤษอย่างขาดๆหายๆว่า “คุณผู้ชาย คุณ……คุณหมายความว่าอย่างไร?คุณทำกระเป๋าของเราเสียหาย ต้องชดใช้ตามราคา……”
น้ำเสียงของพนักงานขายเบาลงเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าหลงจื๋อโมโหมากขึ้น ดวงตาที่มืดสนิทดำกว่าการถูกย้อมด้วยสีของหมึกดำด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขามองไปที่เธอ ราวกับใบมีดอันแหลมคม แทบจะสามารถฆ่าคนให้ตายคาที่ได้เลย
“ชดใช้เหรอ?เหอะเหอะ!”หลงจื๋อหรี่ตาลงและนึกถึงพี่ใหญ่ขึ้นมาในใจทันที
ในตอนนั้นเนื่องจากพี่สะใภ้ถูกคนวางแผนทำร้ายที่โรงพยาบาลกลาง สุดท้ายจึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทำให้ทั้งสองคนต้องพลัดพรากจากความตาย เขาจึงทำลายโรงพยาบาลกลางด้วยความโมโห ไล่ทุกคนให้กระจายหายไป และสร้างโรงพยาบาลหวาเซี่ยขึ้นมาใหม่ เพื่อรำลึกถึงคนรักในหัวใจเขาด้วยบทกวี
ถ้าเป็นตอนนี้ คนที่ถูกทำให้อับอายคือพี่สะใภ้ และคนที่ออกตัวแทนคือพี่ใหญ่ เขาจะทำอย่างไรกัน?
เขาก็คงจะซื้อแฟลกชิปสโตร์แห่งนี้ให้พี่สะใภ้โดยตรงเพื่อไว้เป็นห้องเก็บกระเป๋า?อย่างนั้นถึงจะสามารถตบหน้าพวกเขาได้อย่างหนัก และระบายความโกรธแทนคนรักได้
มือซ้ายของหลงจื๋อถือถุงช้อปปิ้งไว้ ด้านในเป็นเสื้อโค้ทที่มีปกคอทำจากขนแรคคูน ทั้งห้านิ้วบนมือขวา กำเข้าหากันทีละนิ้ว และแทบจะได้ยินเสียงดังกรอดๆของข้อต่อกระดูก
ไม่ต้องสงสัย เขาไม่ใช่พี่ใหญ่ เขาทำไม่ได้
“เสี่ยวจื๋อ ลูกอย่าทำแบบนี้ กระเป๋าใบนี้แพงมาก”
โฉหวั่นชิงเป็นเหมือนผู้หญิงตัวเล็กๆที่ทำอะไรไม่ถูก อยู่ด้านหลังของหลงจื๋อ ต้องการความพึ่งพาและการปกต้องจากเขา ท่าทางถูกทำร้ายนั้นช่างน่าเห็นใจและน่าสงสารมาก
ยิ่งเธอพูดอย่างนี้ หลงจื๋อยิ่งรู้สึกว่าตัวเองในฐานะลูกชายนั้นน่าถูกตีเป็นอย่างมาก เขาช่างไร้ประโยชน์จริงๆ แม้แต่คุณแม่ของตัวเองก็ไม่สามารถปกป้องได้!
“แม่ แม่อย่างยุ่งเลย ผมจะให้พวกเขาเห็นอย่างชัดเจน จดจำในสิ่งที่พวกเขาทำและพูดในวันนี้ ว่าโง่เง่าแค่ไหน!”หลงจื๋อพูดเป็นภาษาจีนจนจบ ยกคางขึ้นและพูดเป็นภาษาอังกฤษที่สำเนียงถูกต้องอย่างคล่องแคล่ว “แพงมากใช่ไหม?ห่อกระเป๋าพวกนี้ให้ผมจนหมด!ผมจะเอามันกลับบ้านไปเช็ดรองเท้า!”
พนักงานขายอ้าปากกว้างกว่าเมื่อกี้อีก ได้ยินมาว่าทรราชท้องถิ่นของจีนนั้นรวยแต่โง่ ไม่คิดว่าจะเป็นความจริง!
“ได้ค่ะ คุณผู้ชาย ฉันจะห่อให้คุณเดี๋ยวนี้เลย!”
“รบกวนคุณผู้ชายรอสักครู่!”
พนักงานสี่ห้าคนลงมือพร้อมๆกัน ห่อกระเป๋าราคาแพงๆที่อยู่หน้าร้านให้เสร็จก่อน แล้วจึงห่อกระเป๋ารุ่นธรรมดาบนเคาน์เตอร์กระจกทีละใบ
หลงจื๋อพูดเสียงแผ่ว“พวกชอบดูถูกคนอื่น ต่อไปถ้าเจอเธออีก ลืมตาให้กว้างๆไว้ ถ้าให้ผมรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ผมจะไม่ให้โอกาสพวกคุณเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน!”
มีคนซื้อกระเป๋า พวกเธอก็จะสามารถรับค่าคอมมิชชั่นอย่างมีความสุข แน่นอนว่าพวกเขาปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นคุณชาย ต่างพากันประจบเขาอย่างขันแข็ง“ได้โปรดอย่ากังวลเลยค่ะคุณผู้ชาย พวกเราจะไม่ทำอีกแล้ว คุณหญิงดูดีมีออร่าขนาดนี้ พวกเราต่างหากที่มีตาหามีแววไม่!”
โฉหวั่นชิงควงแขนของลูกชายไว้และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เสี่ยวจื๋อ ลูก……ลูกใจร้อนเกินไปแล้ว กระเป๋าพวกนี้ราคาแพงๆทั้งนั้น จะต้องใช้เงินเท่าไหร่กัน?”
เงินอีกแล้ว!เงินอีกแล้ว!
ความโกรธของหลงจื๋อที่ยังไม่หายไปก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง “แม่ แม่เป็น……”เขาไม่สามารถพูดคำว่าคุณหญิงของตระกูลหลงคำนี้ออกมาได้ ปลายลิ้นของเขาก็สั่นสะท้าน“แม่เป็นคุณแม่ของผม!กระเป๋าพวกนี้เหมาะสำหรับแม่อยู่แล้ว!ต่อไปนี้แม่ชอบอะไร อยากได้อะไร ก็ซื้อมันทั้งหมดเลย สิ่งที่อยากได้ตั้งแต่เมื่อก่อน ตอนนี้ผมจะซื้อให้แม่ทั้งหมดเลย!”
โฉหวั่นชิงอายุน้อยกว่าหยวนชูเฟินไม่กี่ปี ตอนที่คบกับหลงถิงนั้นอายุเพียง20ปี ตอนนี้ก็เพิ่งจะอายุ40ต้นๆเท่านั้น แต่ละเลยที่จะแต่งตัวและแต่งตัวเรียบๆ จึงดูเหมือนจะแก่กว่าหยวนชูเฟิน หลงจื๋อเสียใจกับเรื่องนี้มาก
เมื่อก่อนเขาไม่สามารถอยู่ดูแลข้างกายได้ แต่ต่อไปนี้จะไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว เขาจะดูแลคุณแม่เหมือนดั่งสมบัติและปกป้องด้วยใจจริง
“เสี่ยวจื๋อ แม่ดีใจจริงๆ มีความสุขมากจริงๆ!แม่คิดว่าชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสแบบนี้แล้วเสียอีก ลูกไม่รู้หรอกว่าเมื่อก่อนแม่อิจฉาคุณแม่ของพี่ใหญ่ของลูกมากขนาดไหน แม่เคยเห็นเธอบนโทรทัศน์ เวลาผ่านไปหลายปีแล้วก็ยังดูเด็กมากอยู่เลย มันน่าอิจฉาจริงๆ……”เธอพูดพลางมองไปที่กระจกอย่างเยาะเย้ยตัวเอง ตัวเองด้านใน ใบหน้าดูซีดเซียว และไร้ออร่า
หัวใจของหลงจื๋อเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทง
เป็นผู้หญิงของหลงถิงเหมือนกันแท้ๆ แต่ต่างกันราวฟ้ากับดิน และเป็นแม่แท้ๆของเขาที่อยู่ในจุดที่แย่กว่า ความรู้สึกแบบนี้จะสามารถสงบลงได้อย่างไร?
“เอาล่ะ ไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว เราไปดูอย่างอื่นกันเถอะ แม่ชอบเครื่องประดับอะไร?ซื้อกำไลข้อมือสักหน่อยไหม?แล้วสร้อยคอล่ะ?”
โฉหวั่นชิงพูดอย่างเสียดาย“ไม่ซื้อดีกว่า?”
“ไม่ได้!ต้องซื้อ!”
หลงจื๋อทิ้งบัตรไว้หนึ่งใบ รูดไปในราคาที่มหาศาล “ห่อและส่งของพวกนี้ไปยังที่อยู่นี้”
รูดบัตรอย่างหล่อเหลา แล้วจากไป ท่าทางเช่นนี้ แน่นอนว่าเป็นที่น่าอิจฉาและน่าชื่นชม เด็กสาวหลายคนชื่นชมและหลงใหลในตัวหลงจื๋อ จ้องมองอย่างไม่อยากละสายตาไปไหน
โฉหวั่นชิงยิ้มอย่างเงียบๆ แสงก็ผ่านมาจากด้านในดวงตา ราวกับดาวตกนั้นที่หายไป โดยไม่มีใครสังเกตเห็น
หลังจากช้อปปิ้งมาทั้งวัน หลงจื๋อซื้อเสื้อผ้าให้โฉหวั่นชิงจนสามารถเก็บได้ในตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้หลายตู้ กระเป๋าก็เยอะจนแม้แต่ตู้เก็บกระเป๋าก็ไม่พอที่จะเก็บเข้าไปได้ ชั้นวางรองเท้าก็ยัดจนเต็มไปหมดกล่องเครื่องประดับก็ทำได้แค่วางซ้อนกันบนโต๊ะเครื่องแป้ง
ด้วยสิ่งต่างๆมากมาย ทำให้บ้านที่แต่เดิมกว้างขวางดูเล็กลง
“เสี่ยวจื๋อ ของเยอะขนาดนี้ บ้านเราก็ไม่สามารถเก็บได้ทั้งหมดหรอก หรือไม่พรุ่งนี้แม่เอาไปคืนทั้งหมดเลยดีไหม?วางไว้ที่ห้องนั่งเล่นแบบนี้ก็ไม่สะดวกที่จะเดินไปมา รองเท้าแค่สองสามคู่ก็พอใส่แล้ว”โฉหวั่นชิงอธิบายให้ลูกชายฟังอย่างเข้าใจสถานการณ์
หลงจื๋อนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับคิ้วขมวด บ้านตระกูลหลงเป็นคฤหาสน์เก่าแก่หลังหนึ่ง ทุกคนต่างมีห้องเสื้อขนาดใหญ่ เพียงแค่ห้องเสื้อของเขาก็ใหญ่กว่าห้องที่มีสามห้องนอนนี้แล้ว
คุณแม่ของเขา อยู่อย่างลำบากขนาดนี้
หลังจากครุ่นคิดแล้วหลงจื๋อพูด“ไม่ได้ พรุ่งนี้ผมจะไปที่สำนักงานอสังหาริมทรัพย์ เราซื้อบ้านหลังใหญ่กันเถอะ”
“ไม่ต้องหรอก!แม่อยู่คนเดียว แค่นี้ก็พอแล้ว”โฉหวั่นชิงรีบปฏิเสธ
“ผมอยู่กับแม่ ที่นี่เล็กเกินไป”
มันเล็กกว่าอสังหาริมทรัพย์ทุกที่ของคนตระกูลหลงที่อยู่ในเมืองหลวง ทุกครั้งที่นึกถึง เขาก็รู้สึกปวดใจ
โฉหวั่นชิงหยุดโต้กลับ หันหลังเดินไปที่ห้องครัว ล้างมือใต้ก๊อกน้ำ ใบหน้าสะท้อนอยู่บนกระจกอย่างตื้นๆ เธอยิ้มให้กับกระจก
กิเลสนั้น เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นทีละนิด เริ่มแรกต้องการเพียงความอิ่มท้องกับอาหารสามมื้อและความอบอุ่นของร่างกายจากเสื้อผ้า หลังจากได้ทานผักกาดขาวแล้วก็อยากที่จะทานเนื้อสัตว์ และเมื่อได้ลิ้มลองรสชาติของเนื้อสัตว์แล้วก็ไม่อยากทานผักกาดขาวอีก จากนั้น ทานเนื้อสัตว์จนเลี่ยนแล้ว ก็อยากที่จะทานปลิงทะเลและหอยเป๋าฮื้อ อยากทานอาหารที่หลากหลาย
เรื่องบางเรื่อง เมื่อทำแล้วไม่ก็สามารถย้อนกลับไปได้ ทำได้แค่เดินหน้าต่อไป
เด็กที่เติบโตจากครอบครัวอย่างตระกูลหลงนั้น นิสัยที่ใช้จ่ายแบบคนร่ำรวยนั้นอยู่ในสายเลือด จนไม่สามารถแก้ได้แล้ว
——
สามวันต่อมา
ลั่วหานและหลงเซียวอยู่เป็นเพื่อนหยวนชูเฟินในวอร์ดของเธอ
ในมือของหลงเซียวถือกรรไกรไว้หนึ่งเล่ม มีดโกนสำหรับโกนผม ผ้ากันเปื้อนสำหรับร้านตัดผม และมีอ่างน้ำอุ่นสะอาดวางอยู่ข้างๆ
หยวนชูเฟินนั่งอยู่บนเก้าอี้ หลังจากทำเคมีบำบัด สภาพจิตใจของเธอไม่ค่อยดีนัก แต่มีลูกชายและลูกสะใภ้อยู่ที่นั่น เธอมีความสุขมากและยิ้มตลอดเวลา
“หลังจากลงกรรไกรนี้ไป ผมของฉันก็ไม่มีแล้ว”เธอลูบไล้ปลายผมให้เรียบ ลูบเพียงหนึ่งครั้งก็มีหลายเส้นที่ร่วงลงมา พันอยู่บนนิ้วของเธอ
ลั่วหานจับไหล่ของเธอไว้และพูดปลอบใจว่า“ผมไม่มีแล้ว อนาคตก็จะงอกออกมาใหม่อีก และเส้นผมที่งอกออกมาใหม่จะดีกว่าตอนนี้มาก อีกอย่าง แม่สวยและบุคลิกดีขนาดนี้ ต่อไปนี้ก็เปลี่ยนทรงผมวันละทรงได้เลย คงจะน่าสนใจและน่าสนุกมากใช่ไหม?”
เปลี่ยนวิกผมทุกวัน จะเทียบกับเส้นผมจริงของตัวเองได้อย่างไรกันล่ะ?
หยวนชูเฟินกดมือของลั่วหานไว้ ตบเบาๆ “ตัดเถอะ อย่างไรก็ไม่สามารถเก็บไว้อยู่แล้ว”
หลงเซียวไม่ลงมือเป็นเวลานาน วางกรรไกรลง หันกลับไปหยิบโทรศัพท์มือถือ เปิดกล้องขึ้นมา “แม่ถ่ายรูปสักใบสองใบก่อนเถอะ”
“ใช่แล้ว ฉันลืมไปเลย แม่ เราถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันเถอะ แม่ถ่ายคนเดียวก่อน แล้วเดี๋ยวเรามาถ่ายร่วมกัน”ลั่วหานเกลี้ยกล่อมเธอเหมือนเด็กๆและพูดอย่างน่ารักว่า “ใช้แอพความงามหน่อย จะได้ถ่ายออกมาสวยๆ”
หยวนชูเฟินยิ้มอย่างนุ่มนวล ริมฝีปากซีดของเธอไม่มีสีเลือด “ให้มันเหมือนจริงหน่อยดีกว่านะ เผื่อว่าอนาคตแม่ไม่อยู่แล้วจริงๆ รูปที่ลูกๆเห็นเป็นตัวจริงของแม่”
ลั่วหานหัวใจกระตุกทีหนึ่ง ในดวงตาของหลงเซียวก็มืดมนลง
“แม่สวยแบบธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้แอพความงามหรอก!แต่ว่าทาลิปอีกสักหน่อยก็จะสมบูรณ์แบบกว่านี้!”ลั่วหานเปิดกระเป๋า หยิบลิปสติกสีส้มเข้มออกมา แล้วทาตามรูปริมฝีปากของเธอ
ลิปสติกสามารถทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ความซีดของปากถูกปกปิดไว้ ใบหน้าก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
หลงเซียวขอบคุณลั่วหานอยู่ในใจอย่างเงียบๆ ซาบซึ้งในความละเอียดอ่อนของเธอ และความเอาใจใส่ของเธอ
หยวนชูเฟินถ่ายภาพตัวเองสองสามภาพ ทุกท่าทางและการแสดงออกทางสีหน้า ล้วนมีเสน่ห์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ราวกับผู้หญิงที่ออกมาจากภาพวาดของราชวงศ์ถัง
ในส่วนของภาพหมู่นั้น หยวนชูเฟินโบกมือปฏิเสธ“รูปหมู่ไม่ถ่ายดีกว่า ถือสากัน ถ้าถ่ายรูปหมู่ก็มักจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น——เซียวเอ๋อ ลูกมาตัดผมให้แม่เถอะ”
หลงเซียวตั้งใจเรียนรู้เทคนิคการตัดผมจากช่างทำผม กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญครึ่งหนึ่งหลังจากฝึกฝนหลายครั้ง“แม่ไม่ต้องกังวลถึงแม้แม่จะไม่มีผมแล้ว ก็ยังสวยที่สุด”
หยวนชูเฟินมองเข้าไปในกระจกอย่างงมงาย“เมื่อก่อนเซียวเอ๋อไม่ชอบชมคนมากที่สุด ตอนนี้กลับรู้จักพูดกล่อมแม่แล้ว”
หลงเซียวตัดผมยาวของเธอให้สั้นทีละกำเล็กๆ และส่งให้ลั่วหาน ลั่วหานจัดวางผมไว้อย่างเรียบร้อย วางไว้บนผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาด
“เมื่อแม่หายป่วยแล้ว เราไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง อีกไม่กี่เดือนก็ฤดูหนาวแล้ว ฤดูหนาวเราไปดูหิมะตกกัน เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิในปีหน้า เราไปดูดอกคาโนลากันที่เต้าเฉิง แม่ถ่ายรูปที่นั่นสักอัลบั้มหนึ่ง ฉันว่ามันจะเป็นที่นิยมไปทั่วโลกแน่นอน!”ลั่วหานมองเส้นผมที่ร่วงลงของเธอ เผยให้เห็นหนังศีรษะสีขาว กลั้นน้ำตาไว้ แต่รอบดวงตาก็แดงขึ้นมา
“โอเค เมื่อลูกน้อยคลอดออกมาแล้ว เราก็พาลูกน้อยไปที่อังกฤษกัน ไปที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ให้ลูกๆได้เห็นที่ที่แม่และพ่อของลูกๆได้พบรักกัน”หยวนชูเฟินจมอยู่ในความทรงจำของความโรแมนติกอันแสนหวานอีกครั้ง นึกถึงความทรงจำเก่าๆและใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
ลั่วหานและหลงเซียวเห็นด้วยอย่างยิ่ง“แน่นอน เราต้องไปเที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งรักแรกของพ่อแม่อยู่แล้ว”
พูดไปยิ้มไป ผมยาวของหยวนชูเฟินก็ถูกตัดออกจนหมดแล้ว ศีรษะกลมๆนั้นก็ดูน่าวิตกอย่างไม่คาดคิด
ไม่มีเส้นผมแม้สักเส้น เผยให้เห็นหน้าผากและริ้วรอย ทุกรายละเอียดถูกขยายใหญ่ให้เห็นอย่างชัดเจน เส้นผมสามารถปกปิดจุดบกพร่องของรูปหน้า หน้าผากได้ เมื่อสูญเสียไป ก็จะถูกเปิดเผยให้เห็นจนหมดเปลือก
แต่ใบหน้าของหยวนชูเฟินนั้นได้มาตรฐานมาก ใบหน้ารูปไข่ เส้นโค้งมน
ลั่วหานหันหลังเช็ดตา ไม่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา “แม่ วันนี้เราจะทำทรงผมอะไรดีล่ะ?แซสซูน?ผมยาว?จะผมตรงหรือผมหยิกดี?”
หลงเซียวมองไปที่ผมสีดำที่ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้า เปลือกตาที่หนักอึ้งก็หลับตาลง กดทับเปลือกตาไว้ เป็นเวลานานกว่าจะลืมตาขึ้น
หยวนชูเฟินเลือกไปสักครู่ มองเห็นผมยาวสลวยที่ธรรมดาๆทรงหนึ่ง “อันนี้แล้วกัน”
“โอเคค่ะ!ผมจะใส่ให้เอง”
ลั่วหานจำได้ ในภาพถ่ายของเธอและมู่เส้าเอิน ก็ทรงผมนี้เหมือนกัน
ในใจของหยวนชูเฟินนั้น ความรักนั้นช่างเป็นสิ่งที่ยากจะลืมเลือน
เวลาหลายปีผ่านไป กาลเวลาตราตรึงอยู่บนใบหน้า แม้ว่ากาลเวลาที่สวยงามผ่านไปแล้ว แต่ผู้เป็นที่รักที่ถูกสลักไว้ในเส้นเลือดบนฝ่ามือ สามารถยืนยงและรุ่งเรืองได้ตลอดไป