ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 534
ตอนที่ 534 หล่อมากน่ารักมากมีสไตล์มาก
หลังจากเข้ามาขัดจังหวะคนอื่นแล้ว โจวโร่หลินยิ้มจนตาทั้งสองข้างหยีเป็นเสี้ยวพระจันทร์ จงใจหันหน้าเอกสารไปทางพวกเขา ชี้แนะให้พวกเขาเปลี่ยนโฟกัสจากใบหน้าของเธอไปยังเอกสาร และกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา
กู้เยนเซินลงมาจากโต๊ะ ท่าทางสบายๆและจับเนกไทของเขาสองทีราวกับว่าเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอสองทีเพื่อปกปิดความอึดอัดใจที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว สอดมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกง วางมาดของผู้นำ พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “เสี่ยวโจวนี่เอง มีอะไร?”
เหี้ย!
ไป๋เวยบ่นอยู่ในใจ กู้เยนเซินคุณก็พอเลยจริงๆ เปลี่ยนหน้าได้เร็วกว่าพลิกหน้าหนังสือเสียอีก
โจวโร่หลินยิ้มให้กับกู้เยนเซิน แล้วก็ยิ้มให้กับไป๋เวย แล้วถึงได้ผลักประตูให้เปิดกว้างขึ้นอีก เดินเข้าไปในห้องทำงาน
หญิงสาวตัวสูงตรงหน้า สวมชุดกระโปรงสไตล์สาวออฟฟิศสีเบจ ชายกระโปรงอยู่เหนือเข่า ทำให้ขาทั้งสองข้างของเธอดูเรียวยาว ช่วงขาที่เรียบเนียน ล้วนเป็นผิวหนังที่ขาวผ่อง ภายใต้เท้าสวมรองเท้าส้นสูงสีชมพูครีมความสูงประมาณหกเซนติเมตร รองเท้าส้นสูงหัวมนดูคล่องแคล่วน่ารัก
ผมยาวของเธอประบ่าอย่างเป็นธรรมชาติ มีความไร้เดียงสาและความน่ารักของเด็กผู้หญิง และมีความน่ารักและมีเสน่ห์ของผู้เข้างานใหม่ โจวโร่หลินในตอนนี้ ต่างจากตอนแรกที่มาอย่างชิ้นเชิง
“ประธานกู้ให้ฉันจัดระเบียบข้อมูลด้านบัญชีของอาทิตย์นี้ ฉันจัดระเบียบร้อยจนหมดแล้วแล้ว แผนกการตลาดและแผนกประชาสัมพันธ์ก็ไปมาแล้ว ด้านล่างมีใบเสร็จสำหรับขอเบิกเงินคืนบางส่วน ฉันแบ่งตามรายจ่ายในด้านต่างๆ เพราะเพิ่งจะมีกิจกรรมการออกนอกสถานที่ของแผนก ดังนั้นค่าเดินทางก็จะมากขึ้น รายละเอียดข้อมูลอยู่ด้านในทั้งหมดแล้ว ประธานกู้คุณ……”
โจวโร่หลินมองไปที่กู้เยนเซิน แล้วมองไปที่ไป๋เวย ไม่รู้ว่าควรจะให้ใครถึงจะเหมาะสม
กู้เยนเซินยื่นมือไปโดยตรง“ให้ผมเถอะ”
“ได้ค่ะ ประธานกู้”
กู้เยนเซินเปิดแฟ้มเอกสารพลิกไปมา ในใจชื่นชมเป็นอย่างไม่สิ้นสุด เฮ้ย สาวน้อยทำงานมีประสิทธิภาพมากเกินไปหรือเปล่า?เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็สามารถทำงานได้มากขนาดนี้?
ใช้กลโกงหรือเปล่า!
โจวโร่หลินรอคำสั่งจากกู้เยนเซินอย่างเป็นกังวลและอย่างใจจดใจจ่อ กลัวว่าตนเองจะโดนตำหนิเพราะทำได้ไม่ดี อย่างไรกู้เยนเซินก็เป็นหัวหน้าของเธอ ถ้าทำให้เขาไม่พอใจก็จะอยู่ลำบากในอนาคต
หลังจากกู้เยนเซินอ่านจนจบก็พับเก็บแฟ้ม พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ทั้งหมดนี้คุณเป็นคนทำคนเดียวเหรอ?”
โจวโร่หลินตกใจจนเบิกตากว้าง รีบตอบรับ “อืม ฉันทำเองคนเดียวทั้งหมด ประธานกู้คิดว่าตรงไหนไม่เหมาะสมหรือเปล่า?ถ้าไม่เหมาะสมฉันสามารถแก้ไขได้”
แมวป่าตัวน้อยเก็บกรงเล็บไว้ เปลี่ยนเป็นแมวบ้านที่เชื่อฟังในทันทีกู้เยนเซินกลับรู้สึกไม่ค่อยชินจริงๆ!
ไป๋เวยเหล่มองกู้เยนเซินแวบหนึ่ง หยิบเอกสารมาไว้ในมือตัวเอง พลิกดูไปมา ข้อมูลถูกจัดระเบียบอย่างเข้มงวดและเป็นระเบียบ แบ่งลำดับความสำคัญไว้อย่างชัดเจน แม้แต่หลักฐานการขอเบิกเงินคืนจากการเดินทางไปทำงานต่างสถานที่บางอย่างที่ปกติเธอไม่ได้ใส่ใจก็จัดระเบียบได้อย่างเรียบร้อย
อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองไปที่โจวโร่หลิน ตอนที่มองเธออย่างละเอียด ก็นึกถึงคำพูดที่ลั่วหานเคยพูดไว้ โจวโร่หลินเป็นคนที่มีความสามารถซ้อนอยู่ ในอนาคตธุรกิจด้านการเงินจะต้องก้าวไกลแน่นอน
แน่นอน การที่ให้เธอเริ่มฝึกงานที่แผนกบัญชีนั้น ค่อนข้างประเมินค่าเธอต่ำไปหน่อย
“ไม่มีปัญหา คุณทำได้ดีมาก แต่ว่าคุณเคยทำงานด้านการเงินมาก่อน คุณไม่ต้องทำงานด้านบัญชีและงานเกี่ยวกับสถิติต่อแล้ว ต่อไปคุณรับผิดชอบการวิเคราะห์ข้อมูลและการค้นหาข้อมูลเป็นหลัก แล้วฉันจะให้คนจัดหาตำแหน่งที่เหมาะสมให้กับคุณในภายหลัง”
โจวโร่หลินแทบจะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ดวงตาใสคู่นั้นเบิกกว้าง “ประธานไป๋ ประธานกู้บอกว่าให้ฉันทำงานที่แผนกบัญชีก่อนสามเดือน ช่วงเวลาทดลองงานของฉันยังไม่หมด ไปที่แผนกการเงินโดยตรงจะไม่เหมาะสมหรือเปล่า?”
เรื่องนี้……
ไป๋เวยในเวลานี้อยากจะทุบตีกู้เยนเซินสักรอบหนึ่ง กลอกตามองบนหนักกว่าเดิม “ไม่เป็นไร เรื่องเวลาไม่ได้มีกำหนดที่เข้มงวด ฉันคิดว่าโอเค”
กู้เยนเซินถูสันจมูกของตัวเอง เขาไม่ได้บอกกับโจวโร่หลินแน่นอน ตอนนั้นที่ให้เธอไปช่วยงานที่แผนกบัญชีก่อน เพราะงานของเขาเยอะเกินไป ต้องการผู้ช่วยที่เชื่อฟัง ฉลาดและสะดวกที่จะสั่งงาน โจวโร่หลินหัวสมองปราดเปรียว ซึ่งเป็นตัวเลือกผู้ติดตามตัวน้อยที่ดีที่สุด
โจวโร่หลินดีใจมากจนอดไม่ได้ที่จะแสดงออกมา ยังคิดว่าตัวเองได้เจอของล้ำค่า จึงรีบก้มตัวกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณคุณมากจริงๆ ประธานไป๋ ฉันจะตั้งใจทำงานที่แผนกใหม่อย่างแน่นอน”
ไป๋เวยพยักหน้า “อืม คุณเรียนรู้งานกับประธานกู้ที่บริษัทฉู่ซื่อก่อน จากนั้นไม่นานฉันจะจัดการให้คุณไปที่อาคารสำนักงานของบริษัทโม่ซื่อ ธุรกิจด้านการเงินของบริษัทหลักๆแล้วอยู่ที่บริษัทโม่ซื่อ”
ตอนนี้โจวโร่หลินดีใจมากขึ้นไปอีก อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “เยี่ยมมาก ในที่สุดก็สามารถหลุดพ้นจากคนที่น่ารำคาญคนนั้นแล้ว!”
กู้เยนเซินและไป๋เวยมองตากันแวบหนึ่ง “ใครกัน?”
โจวโร่หลินรีบส่ายหน้า “อา?เปล่าเปล่า ฉันออกไปทำงานก่อนนะคะ หัวหน้าทั้งสองท่าน”
หลังจากคนจากไป กู้เยนเซินเลิกคิ้วและพูดว่า “คิดไม่ถึงจริงๆเลย เด็กน้อยที่ฉู่ลั่วหานเก็บได้จะเก่งขนาดนี้ งานนี้ถ้าให้คนอื่นทำ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสามวัน เธอทำวันเดียวก็เสร็จแล้ว ผมไม่อยากให้เธอจากไปเลยจริงๆ!”
ไป๋เวยบิดหูของเขาไว้ และออกแรงหมุน “เหอะเหอะ ประธานกู้ เมื่อกี้มองขาของสาวน้อย มองอย่างมีความสุขมาก ฮืม?”
กู้เยนเซินเจ็บจนแสยะยิ้ม“พูดอย่างไม่ละอายใจเลย ผมก็แค่ดูว่าการแต่งกายของพนักงานเหมาะสมหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง ไม่ใช่แบบที่คุณคิดแน่นอน!โอ๊ย หูหู!”
ไป๋เวยปล่อยมือ พูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งว่า “คนน่ารำคาญที่โจวโร่หลินพูดเมื่อกี้ คงไม่ได้หมายถึงเกาจิ่งอานใช่ไหม?ช่วงนี้ฉันมักจะเห็นรถของเกาจิ่งอานวนอยู่ด้านล่างตึกบริษัท เมื่อวานยังเห็นเขารอคนอยู่ที่ห้องโถงอีก”
กู้เยนเซินเบ้ปาก “ช่างเถอะ คุณชายเจ้าชู้อย่างเกาจิ่งอาน จีบหญิงก็ไม่เคยกระตือรือร้นเกินสามวัน ถ้าจีบไม่ติดในครั้งแรกก็จะปล่อยมือแล้ว ยังจะเสียเวลามาจนถึงตอนนี้เหรอ?อีกอย่าง โจวโร่หลินเธอไม่มีทางที่จะไม่ชอบเกาจิ่งอาน ไม่จำเป็นต้องหลบหน้าเขาหรอก”
ไม่จำเป็นเหรอ?
โจวโร่หลินคิดว่า จำเป็นอย่างมากเลยแหละ!
ตอนนี้เธอได้รวมเกาจิ่งอานเป็นหนึ่งในสิบอันดับบนบัญชีดำแล้ว เมื่อเห็นชื่อของเขา ตัวของเขา รถของเขา ก็อยากที่จะเดินอ้อมไปเลย
——
ห้องทำงานประธาน MBK
จี้ตงหมิงผลักประตูเข้ามา พูดด้วยความเคารพนอบน้อมว่า “เจ้านาย มีข่าวส่งมาจากสถานีตำรวจ ท่านประธานและเสิ่นคั่วกำลังช่วยผ่อนผันอยู่จริงๆด้วย ต้องการจะช่วยเสิ่นเหลียวออกมา”
หลงเซียวหันหลังให้เขา หันหน้าออกไปทางหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศส มือทั้งสองข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงชุดสูท ร่องเสื้อสูทเปิดออกเล็กน้อย ทำให้เขาดูไหล่กว้างเอวเล็กรูปร่างสูงยาวมีสไตล์มาก
หลงเซียวอยู่ภายใต้แสงแดดส่อง รอยยิ้มลึกลับมิอาจคาดเดาได้ “ผมคิดอยู่แล้วว่าพวกเขาจะต้องทำแบบนี้แน่นอน”
จี้ตงหมิงไม่สามารถที่จะไม่ชื่นชมที่เจ้านายของตนเองคาดเดาได้เทพมาก แล้วพูดต่อว่า “ถ้าเสิ่นเหลียวออกมาจะต้องเอาคืนเราอย่างหนักแน่ๆ เจ้านายมีอะไรเตรียมการไว้ล่วงหน้าหรือไม่?”
หลงเซียวมองลงไปที่ฝูงชนมากมายด้านนอก ตึกสูงระฟ้า เสพสุขรสเงินทองและน้ำเมา เมืองที่หรูหราแบบนี้ ไม่รู้ว่ามีความลับที่มีลับลมคมในมากมายเพียงใด
“ยังไม่ต้องเป็นห่วงบริษัทในขณะนี้ เสิ่นคั่วและ MBK กำลังร่วมมือกัน เสิ่นเหลียวไม่กล้าลงมือในทันที คนที่เขาจะจัดการคือผม……”คิดมาถึงตรงนี้ ดวงตาสีดำสนิทของหลงเซียวก็หรี่ลงในทันที “ส่งคนไปปกป้องคุณหญิงอย่างลับๆ วันละยี่สิบสี่ชั่วโมงห้ามขาด ตอนนี้เธอท้องแล้ว ต้องระวังให้มากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว”
ห๊ะ?คุณหญิงท้องแล้ว!ทำไมเขาไม่รู้ข่าวเลยแม้แต่น้อย?เจ้านายคุณเก็บความลับได้ดีเกินไปแล้ว!ยอมแล้ว!
จี้ตงหมิงพยักหน้า แต่ในใจดีใจจนอยากจะกระโดดอยู่กับที่แล้ว เยี่ยม!ในที่สุดเจ้านายก็จะเป็นพ่อคนแล้วเจ้านายเป็นพ่อคนจะต้องหล่อมากน่ารักมากมีสไตล์มากแน่ๆ!
วู้ฮู้ว!
หลังจากตัวเองคิดเพ้อเจ้อไปสักพัก เขาก็พูดอย่างสุขุมว่า “ครับ เจ้านายไม่ต้องห่วง ผมจะเพิ่มจำนวนคนในการปกป้องคุณหญิงให้มากขึ้นแน่นอน”
“อืม”หลงเซียวพยักหน้า แล้วพูดต่อว่า“ลั่วลั่วตั้งท้องยังไม่ถึงสามเดือน ณ ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงที่ไม่มั่นคง ดังนั้นเรื่องที่เธอตั้งท้องอย่าเพิ่งบอกใครในตอนนี้ เข้าใจไหม?”
จี้ตงหมิงตอบรับอย่างติดๆ “เข้าใจแล้ว เจ้านายคุณไม่ต้องห่วง!”
ตามธรรมเนียมแล้ว คนตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์น้อยกว่าสามเดือนนั้นปกติจะไม่บอกใคร กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกอย่าง ลั่วหานตั้งท้องเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้ามีคนที่คิดไม่ดีรู้เข้า ก็จะทำให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือเก็บไว้เป็นความลับก่อน
“ไปจัดการเถอะ”
หลังจากสั่งจี้ตงหมิงให้ไปแล้ว หลงเซียวมองดูเวลา ขมวดคิ้ว โทรศัพท์ให้หยังเซิน
“เตรียมรถ ผมจะออกไป”
หยังเซินขับรถ ตอนเที่ยงหลงเซียวจะทานอาหารกับประธานกรรมการบริหารของกลุ่มอุตสาหกรรมเฟยเสียงของเมืองหลวงระหว่างทาง ในมือของหลงเซียวถือและดูเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมมือกันกับกลุ่มอุตสาหกรรมเฟยเสียง
หยังเซินมองไปที่หลงเซียวผ่านกระจกมองหลัง พบว่าเจ้านายท่าทางดูผ่อนคลาย คนทั้งคนท่าทางดูสบายมาก จึงยิ้มและถามอย่างกล้าหาญว่า “ท่านประธาน ช่วงนี้มีข่าวดีอะไรเหรอ?”
หลงเซียวพลิกเอกสารหนึ่งหน้า สายตากวาดมองตัวเลขและกราฟแท่งบนนั้นอย่างรวดเร็ว “ทำไม?”
เขาแสดงออกชัดเจนขนาดนั้นเลยหรือ?
หยังเซินตั้งใจขับรถ และไม่กล้าถามให้ชัดเจนจนเกินไป “ผมเป็นคนขับรถให้คุณมาตั้งหลายปี ทุกครั้งที่เห็นคุณท่าทางแบบนี้ก็จะต้องมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่นอน”
และส่วนใหญ่ก็มักจะเกี่ยวข้องกับคุณหญิง
หลงเซียวเป็นคนที่ไม่แสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้า แต่ในเรื่องของลั่วหานนั้น ความสุขและความหงุดหงิดของเขา ความกังวลและความห่วงใย ก็มักจะไม่สามารถปกปิดได้ ดังนั้นแม้แต่คนขับรถก็สามารถสรุปจากประสบการณ์ได้แล้ว
“อืม มีธุระเล็กน้อย” เขาพูดอย่างลวกๆ โดยไม่พูดอะไรเพิ่มเต็มอีก
หยังเซินเม้มริมฝีปากและยิ้ม ขอแค่ท่านประธานอารมณ์ดีแค่นั้นก็พอ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นเขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะสอบถามได้
“เอี๊ยด——”
ล้อหน้าของรถโรลส์-รอยซ์ลื่นอย่างกะทันหัน เพราะการเบรกกะทันหันจึงทำให้ตัวรถเกิดการไถล ร่างกายของหยังเซินถลาไปด้านหน้าอย่าโซซัดโซเซ
หยังเซินรีบเงยหน้าขึ้น “ท่านประธาน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”
หลงเซียวขมวดคิ้ว ร่างของเขานั่งอยู่ที่เบาะหลังอย่างไม่ขยับ มีเพียงขาทั้งสองข้างที่วางซ้อนกันเท่านั้นที่วางลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายมั่นคง
“เกิดอะไรขึ้น?”
หยังเซินตกใจจนเหงื่อแตก มองไปที่รถคันข้างหน้าและพูดว่า “เมื่อกี้มีรถคันหนึ่งวิ่งฝ่าไฟแดงอย่างกะทันหัน รถ Mercedes-Benzสีขาวคันข้างหน้านั้น”
หลงเซียวหรี่ตา เมื่อเห็นรถคันข้างหน้า เขาจำป้ายทะเบียน Mercedes-Benzคันนั้นได้ เป็นรถของเกาจิ่งอาน
ในเวลานี้สัญญาณไฟแดงทางด้านนี้ได้สว่างขึ้นพอดี หยังเซินจอดรถ “อยากตายหรืออย่างไรกัน เมื่อกี้รถเยอะมากขนาดนั้นถึงได้กล้าฝ่าไฟแดง หรือจะเป็นมือใหม่หัดขับกัน?”
เหอะเหอะ มือใหม่?เกาจิ่งอานนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญแน่นอน
หลงเซียววางเอกสารลง เงยหน้าขึ้นมองไปด้านหน้า ประตูรถของเกาจิ่งอานเปิดออก เขาเดินก้าวเท้าไวและกว้างเดินไปหลายเมตร ยื่นมือออกไปเพื่อจับเด็กผู้หญิงที่กำลังเร่งฝีเท้าอย่างเร็วเพื่อเดินทาง
ดวงตาที่ดำสนิทของหลงเซียวหรี่ลง จนตาหยีเป็นเส้นเดียว “เหอะ!”
ที่แท้ก็ไล่ตามผู้หญิง
เกาจิ่งอานคว้ามือของโจวโร่หลินไว้ เนื่องจากแรงทางร่างกายของตนนั้นเหนือกว่า จึงสามารถดึงคนเข้ามาด้านข้างตัวเองได้อย่างง่ายดาย
โจวโร่หลินหันหลังอย่างสง่า ผมยาวสะบัดไปบนใบหน้าของเขา ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความโกรธ“คุณเกา คุณต้องการอะไรกันแน่?เข้างานก็ดักรอ เลิกงานก็ไล่ตาม ทานอาหารกลางวันก็ยังจะแสดงการดริฟท์รถบนถนนอีก คุณต้องการทำให้ประเทศจีนซาบซึ้งเหรอ?!