ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 545
ตอนที่ 545 ให้ดอกไม้ต้องมีเหตุผลด้วยหรือ
“คุณไม่ล้อเล่นใช่ไหม? ฉันไม่ได้แตะแก้วนั้นเลยด้วยซ้ำ ปฏิกิริยาของคุณรุนแรงเกินไปแล้ว” ลั่วหานรีบคว้าแขนเสื้อของหลงเซียวไว้ ก้มตาลงและแลบลิ้นออกมาอย่างเขินๆ
หลงเซียวเอียงมุมริมฝีปาก และยิ้มอย่างร้ายๆ “ฉันรู้”
“คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ลั่วหานเอ่ยปากและตระหนักได้ว่า เธออาจจะถามคำถามผิดไป
หลงเซียวงอข้อมือและมองไปที่นาฬิกา “ประมาณยี่สิบนาทีที่แล้ว”
“ห้ะ?”
หลงเซียวจับมือเธอไว้ และพาเธอออกจากร้านกาแฟไป พวกเขาจากไปอย่างสง่างามท่ามกลางสายตาอิจฉาและความชื่นชมของทุกคน
“ผมไปหาคุณที่โรงพยาบาลมา ยังไม่ทันได้ลงจากรถผมก็เห็นรถของคุณขับออกมา ผมก็เลยตามคุณไป ฝีมือการจอดรถของคุณดีมาก เหลือที่จอดรถไว้ให้ผมหนึ่งที่ไม่เช่นนั้นผมอาจจะมาไม่ทันเวลา”
ตอนที่ลั่วหานขับรถเธอไม่ได้สนใจรถข้างหลัง เธอไม่รู้ว่าเขาตามมาอยู่ข้างหลัง
เดินออกมาจากร้านกาแฟ ข้างๆเป็นร้านอาหารฝรั่ง บังเอิญเป็นเวลาอาหารกลางวันพอดี หลงเซียวกับลั่วหานก็ตรงไปที่ร้านอาหารเลย
ทั้งสองนั่งลงและสั่งอาหาร
ลั่วหานวางดอกกุหลาบไว้บนเก้าอี้อย่างระมัดระวัง ดอกไม้ช่อใหญ่มาก เป็นร้อยดอก “ทำไมคุณถึงให้ดอกไม้ให้ฉันกะทันหันล่ะ”
หลงเซียวนั่งตรงข้ามกับเธอ เขานั่งไขว้ขามองเธอด้วยดวงตาที่ลึกซึ้ง“ มันไม่ใช่วันพิเศษอะไร แต่ฟ้าหลังฝนมันสดใจ อารมณ์ดีมันเหมาะมากที่จะวางช่อดอกไม้ในห้องทำงาน”
แบบนี้ก็ได้เหรอ? ยอมใจจริงๆ
“ มีกลเยอะแยะมากมาย ท่านเซียวคุณชนะแล้ว!” ลั่วหานเยาะเย้ยเขา จากนั้นก็หยิบดอกกุหลาบจากช่อนั้นมาหนึ่งดอก และหักก้านดอกไม้ออกและสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของหลงเซียว ชุดสูทสีดำคู่กับดอกกุหลาบสีแดงสด ก็ให้ความสดชื่นที่แตกต่างกันไป
“ยืมดอกไม้มาถวายพระ คุณชอบไหม?” ลั่วหานถามด้วยรอยยิ้ม
“ภรรยาของผมให้มา ถึงผมไม่ชอบผมก็จะใส่มันไว้ ” เขามองลงไปที่กระเป๋าของตัวเอง มีดอกกุหลาบเสียบอยู่ เหมือนเจ้าชายน้อยในไนต์คลับ
เอ่อ……
“หึ!”
หลังจากการซุบซิบเสร็จ ลั่วหานกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่า ตู้หลิงเซวียนแอบแย่งธุรกิจของบริษัทฉู่ซื่อไปงั้นเหรอ?”
ตอนแรกหลงเซียวไม่อยากให้เธอรู้ แต่ตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว “ ใช่ งานร่วมมือระหว่างฉู่ซื่อและบริษัทไห่ลุนถูกตู้หลิงเซวียนแย่งไปแล้ว เขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อเข้าสู่ตลาดในประเทศ”
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ์ ลั่วหานก็หยิบมีดและส้อมมาหั่นสเต็ก “แต่มันแปลกๆหรือเปล่า อยากจะเข้ามาในตลาดในประเทศก็ซื้อ บริษัท โดยตรงเพื่อเป็นตัวรอง แล้วค่อยเริ่มร่วมมือกับ บริษัท อื่น ๆก็ได้หนิ เขาไม่จำเป็นต้องหาบริษัทไห่ลุน เพื่อร่วมงานกัน เขาเดินอ้อมขนาดนี้ ท้ายที่สุดแล้วเงินที่เอามาลงทุนก็นับว่าเป็นการลงทุนต่างประเทศ ”
ริมฝีปากบางของหลงเซียวยกขึ้น และยิ้มอย่างแฝงความหมายมากมาย “สิ่งที่คุณรู้ก็เยอะนะเนี่ย”
“คนที่อยู่ใกล้คนดีก็จะดี อยู่ใกล้คุณก็จะเลว” เธอเลิกคิ้วขณะที่เคี้ยวสเต็กเนื้อนุ่มอยู่ในปาก
“ฮ่าฮ่า!” หลงเซียวยิ้มอย่างมีความสุข “แต่ว่า คุณนายหลงผู้รอบรู้ลองคิดดูอีกทีนะว่า จะซื้อ บริษัท มาหนึ่งบริษัทได้ต้องใช้เงินเท่าไหร่?”
“เงินจำนวนมาก แล้วแต่ขนาดของ บริษัท ”
“โอเค ถ้าเราลงทุนเงินส่วนหนึ่งก่อน ให้ตัวเองได้เข้าไปมีส่วนร่วม ส่งคนที่ความสามารถทางเทคนิค ความสามารถในการจัดการเข้าไปเจาะลึกวัฒนธรรมของบริษัทนี้ จากนั้นก็เอามันมา สุดท้ายก็กลายเป็นของเราเอง ต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่?”
ลั่วหานเบ้ปากและเคี้ยวไป “ไป่เวยเคยบอกว่า ทุนที่ฉู่ซื่อจะลงทุนในบริษัทไห่ลุนคือ 300 ล้าน”
“ตู้หลิงเซวียนลงทุนประมาณ 3.5 ร้อยล้านหยวน และเขาขอลดสัดส่วนกำไรเอง คุณคิดว่าผู้นำของบริษัทไห่ลุนจะเจอเรื่องดีๆแบบนี้ฟรีๆเหรอ?” หลงเซียวดื่มน้ำผลไม้สดไปหนึ่งคำ
อย่างงี้นี่เอง!
“เข้าใจแล้ว ตู้หลิงเซวียนต้องการเป็นหน่อนบ่อนไส้ในบริษัทไห่ลุนเขาจะเอาบริษัทไห่ลุนมาทั้งหมด ให้ตายเถอะ ฉันเกือบจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้แล้ว ไม่คาดคิดว่าเขาจะเลวขนาดนี้ ” ลั่วหานกัดฟัวกราส์อย่างแรงและเคี้ยวมันลงไป
เมื่อหลงเซียวเห็นเธอไม่พอใจกับตัวตู้หลิงเซวียนอย่างมาก เขาก็พูดอย่างพึงพอใจว่า “แต่ว่า มีสิ่งหนึ่งที่ตู้หลิงเซวียนพูดถูก การแข่งขันทางการค้าและเรื่องส่วนตัวเป็นคนละเรื่องกัน ตู้หลิงเซวียนจะใช้วิธีแบบนี้เพื่อเอาราคาต่ำๆมาแย่งบริษัทไห่ลุนไป พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นคนฉลาดมากในการทำธุรกิจ และวิธีของเขามีคนเคยใช้มาแล้ว”
วิธีแบบนี้ก็เห็นได้บ่อยในการแข่งขัน ก็อยู่ที่ว่าทั้งสองฝ่ายนี้ใครจะถอนตัวได้ก่อนกัน
หลังจากที่ฟังจบ ลั่วหานก็รู้สึกไม่สบายใจ การแข่งขันในตลาดที่ไม่ดีแบบนี้ จะทำให้ธุรกิจในตลาดนั้นวนเวียนไปในทางที่ไม่ดี มันไม่ยุติธรรมต่อธุรกิจ เพราะฉะนั้นเธอถึงถาม
“แล้วคุณล่ะ? ถ้าเป็นคุณ คุณจะใช้วิธีนี้ไหม?”
แม้ว่าเขาจะตอบว่าใช่ เธอก็ไม่แปลกใจหรอก อัจฉริยะด้านการบริหารที่เป็นตำนานในสมัยนั้น ต้องมีวิธีการที่น่าอับอายมากมายอยู่แล้ว
“ผม? แน่นอนว่าผมจะไม่ทำแบบนี้ มีคนจำนวนมากที่พยายามอยากร่วมมือกับผม ผมไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาคิดวิธีการเหล่านี้ อีกอย่างร่วมงานกับคนที่ไม่มีแม้แต่ความสามารถในการคัดคน ก็เหมือนทำงานร่วมกับหมู ไม่กลัวศัตรูที่เก่งเหมือนเทพ แต่กลัวเพื่อนร่วมทีมที่โง่เหมือนหมูซะมากกว่า ” เขาพูดจบอย่างเย็นชาและหยิ่งยโส แล้วเสียบเอาปลาแซลมอนใส่เข้าปาก
ลั่วหาน: “คนหลงตัวเอง! คุณคิดว่าตู้หลิงเซวียนเป็นคู่ต่อสู้ที่เก่งเหมือนเทพไหม?”
“เขาเหรอ?” หลงเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และไม่ได้ตอบตรงๆ “เขาจะต้องกลายเป็นคู่แข่งของผมก่อน ถึงจะจัดอันดับให้เขาได้”
“หึ !! หลงเซียว นายนี่มันหลงตัวเองจริงๆ!”
ใช่ เขาหลงตัวเองมากไม่ใช่เหรอ? แต่เธอก็ชอบความหลงตัวเองของเขาด้วยไม่ใช่เหรอ?
หลังทานอาหารเสร็จ หลงเซียวส่งลั่วหานขึ้นรถและพูดว่า “วันนี้ตู้หลิงเซวียนจะบินไปที่เมืองหนิงไห่ คุณชายกู้กับไป่เวยไปก่อนแล้ว ถ้าคุณกับ ตู้หลิงเซวียนเป็นเพื่อนกันจริงๆ คุณภรรยาคุณต้องระวังตัวมากๆนะ”
ลั่วหานคาดเข็มขัดนิรภัย “ทำไมล่ะ”
“ เขาอาจจะมายืมเงินกับคุณ”
ลั่วหาน “คุณทำอะไรกับบริษัทไห่ลุนไว้ก่อนแล้วใช่ไหม?”
หลงเซียวปิดประตูให้เธอ เขายื่นนิ้วออกมาวางตรงริมฝีปาก ยิ้มอย่างมีเล่ห์กล เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ
เรื่องบางเรื่อง คิดได้แต่พูดไม่ได้
——
ลั่วหานกลับไปที่โรงพยาบาลพร้อมถือดอกกุหลาบไปด้วย ดึงดูดสายตาที่อิจฉาริษยามากมายจากพยาบาลสาวๆตลอดทาง แน่นอนว่ายังมีคนจำนวนมากที่พูดถึงเธอ นี่ท่านเซียวทำร้ายคนโสดอย่างเราอีกแล้วเหรอ สามีแบบอย่างมาหวานใส่กันอีกแล้วจ้า ประธานผู้เอาแต่ใจตามใจภรรยาเก่งเหลือเกิน!
ทุกคนต่างพูดเช่นนี้กันอย่างสนุกสนาน
“ว้าว คุณหมอฉู่โชคดีจัง แค่ออกไปทานข้าวก็ได้ดอกไม้มาช่อหนึ่ง ร้านอาหารร้านไหนทำกิจกรรมเหรอ ฉันก็อยากร่วมสนุกด้วย”
หลินซีเหวินมองดอกกุหลาบในอ้อมแขนของเธออย่างอิจฉาพลางยักคิ้ว
ลั่วหานดึงออกมาหนึ่งดอกและมอบให้กับเธอ “เธอนี่เล่ห์กลเยอะจริงๆ”
หวาเทียนมองไปที่เธอผ่านหลังคอมพิวเตอร์และเห็นดอกกุหลาบ เขาทำปากยิ้มๆ
หลินซีเหวินเหวี่ยงดอกกุหลาบสีแดงไปมา“ คุณหมอหวาคุณเห็นไหม แฟนเนี่ยต้องตามใจแบบนี้แหละ คุณได้ให้ดอกไม้กับพี่ซวงซวงไหม?”
ลั่วหานเอาดอกไม้ที่เหลือทั้งหมด 97 ดอกให้กับหวาเทียนและวางไว้บนโต๊ะทำงานของเขา มันกินพื้นที่มาก “ตอนเย็นเลิกงานนัดซวงซวงมาทานอาหารเย็น เอาดอกไม้นี้ให้เธอ ซวงซวงใจง่าย แค่ดอกไม้หนึ่งช่อเธอก็มีความสุขได้นานมาก”
หวาเทียนขมวดคิ้ว“ คุณหมอฉู่ล้อเล่นกับผมใช่ไหม? ผมจะเอาดอกไม้ของคุณไปให้คนอื่นได้ยังไง ผมจะซื้อให้เธอหนึ่งช่อ”
ลั่วหานเบะปาก “แค่ให้ดอกไม้งั้นเหรอ?ไม่ให้อย่างอื่นเหรอ?”
ลั่วหานตั้งใจวางแหวนไว้บนดอกไม้ แหวนแต่งงานก็เปล่งประกายใต้ดวงอาทิตย์ สะท้อนให้เห็นความสดใสเล็กๆน้อย ๆ
หวาเทียนขมวดคิ้ว ที่จริงแล้วเขาเข้าใจความหมายของลั่วหาน“ ผมคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาครับ”
ลั่วหานอยากตบเขามาก และตบเขาให้ตายแทนลู่ซวงซวง!
“ หมายความว่ายังไง? แล้วเมื่อไหร่ถึงจะถึงเวลา”
หวาเทียนก้มมองลงไปที่ประวัติการรักษา เขาพลิกไปหนึ่งหน้าและเซ็นชื่อของตัวเองลงไป “เมื่อตอนที่ผมได้จับมีดผ่าตัดในโรงพยาบาลหวาเซี่ย เมื่อที่ผมได้เป็นแพทย์ผ่าตัดหัวใจจริงๆ ไม่ใช่ผู้ช่วยของคุณหมอฉู่”
ไอ้บ้าเอ๊ย!
ลั่วหานกัดฟันไว้ “ ที่นายสมองมีปัญหาเหรอ? เป็นผู้ช่วยของฉันมันน่าอายมากเหรอ? นี่นายดูถูกตำแหน่งนี้มากเลยเหรอ? ตอนนั้นที่ฉันเป็นผู้ช่วยในสหรัฐอเมริกา ฉันก็แต่งงานในสถานการณ์แบบนี้ ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก”
หวาเทียนดื้อมาก แต่ความดื้อรั้นก็ต้องแบ่งเวลาแบ่งสถานการณ์แบ่งเรื่อง ไอนี่แม่งมีปัญหามากไหม
“ คนแต่ละคนมันต่างกัน ดอกกุหลาบของคุณหมอฉู่สวยมาก เอาไปที่ห้องทำงานของคุณเถอะ” หวาเทียนยังคงดูบันทึกทางการแพทย์ต่อและหยุดพูดไป
หลินซีเหวินดึงแขนเสื้อของลั่วหาน และพูดเบาๆ “คุณหมอฉู่คะ เราออกไปกันเถอะ”
หลังจากออกจากห้องไป หลินซีเหวินกล่าวว่า “คุณหมอฉู่ ตอนนี้ฐานะของหวาเทียนไม่ค่อยดีนัก พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เด็กๆ เขาอาศัยอยู่กับป้าของเขา เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ของป้าของเขาตกอยู่ในภาวะวิกฤต เขาจึงขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดของตัวเอง เพื่อช่วยป้าของเขา เขาไม่มีบ้านไม่มีเงินและแน่นอนว่าเขายังไม่ต้องการแต่งงาน คุณคิดดูสิว่า หวาเทียนแคร์ตัวเองขนาดนี้ เขาจะแต่งงานโดยไม่มีอะไรเลยได้ยังไง? อีกอย่างพี่ซวงซวงถือว่าเป็นครอบครัวใหญ่ในเมืองหลวงเลยใช่ไหม?”
ลั่วหานถึงกับผงะ “มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย บริษัทของป้าของเขาเป็น บริษัท อะไร? เกิดอะไรขึ้น?”
หลินซีเหวินเบะปากแล้วทำท่าคิด “ฉันได้ยินแม่ของฉันพูดว่า อุตสาหกรรมหลักของครอบครัวป้าของเขาอยู่ในเจียงเฉิง ชื่อบริษัทเครื่องหนังซิงกวางอะไรสักอย่าง ช่วงนี้ตระกูลเสิ่นทำกิจกรรมอะไรสักอย่างที่เจียงเฉิง บริษัทขนาดเล็กหลายแห่งได้รับความเดือดร้อนไปด้วย”
บ้าเอ๊ย!
ตระกูลเสิ่นในเจียงเฉิง ไอ้เสิ่นคั่วไอ้เลว!
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
เมื่อ หลินซีเหวินเดินจากไป ลั่วหานก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดดูบันทึกการโทร เวลานี้ฟางหลิงหยู้ต้องเจอกับฉู่ซีหรานแล้วแน่นอน
เธอกดหมายเลขและโทรออก เสียงดังไปสองสามครั้งก่อนที่จะมีการรับสาย เสียงของอีกฝั่งดังขึ้นก่อน
“ลั่วหานฉันกำลังจะโทรมาขอบคุณเธอเลย ปรากฏว่าเธอโทรมาทันทีฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหลิงหยู้ยิ้มและฟังดูแล้วเหมือนว่าอารมณ์ดีมาก
แต่เดี๋ยวก่อน หึหึ อยากขอบคุณงั้นเหรอ? หลายวันที่กลับมานี่ไปทำอะไรที่ไหน?
ลั่วหานไม่อยากเสียเวลากับเธอและพูดตรงๆว่า “ตอนนี้คุณกลับไปที่ตระกูลเสิ่นแล้ว คุณคงรู้เรื่องภายในมามากใช่ไหม ?”
ขณะนี้ฟางหลิงหยู้อยู่ในบ้านของเธอเอง เธอไปบ้านตระกูลเสิ่นได้ที่ไหน “ฉันกำลังสืบอยู่ คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
ถามอะไรไร้สาระ ไม่มีเรื่องอะไรใครจะโทรหาเธอ?
ลั่วหานพยักหน้า “ใช่ ช่วงนี้ตระกูลเสิ่นเพิ่งขยายธุรกิจในเจียงเฉิง และการแข่งขันที่ประสงค์ร้ายได้ทำลาย บริษัท ขนาดเล็กไปจำนวนมาก เธอไปหาบริษัทเล็ก ๆที่ชื่อว่าเครื่องหนังซิงกวางและไม่ว่าเธอจะใช้วิธีใดก็ตาม ให้แยก บริษัท นี้ออกไป”
ฟางหลิงหยู้เคยจัดการดูแลฉู่ซื่อมาก่อน เธอรู้กลทางธุรกิจมากมาย “ฉันลองดูได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เสิ่นคั่วและภรรยาสาวของเขาไปเมืองหลวงแล้ว เธอระวังตัวด้วย”
หื้ม?
เรื่องนี้?
“ฉันจะดูแลตัวเอง อีกอย่าง ครั้งที่แล้วที่เธอบอกว่าเธอจะบอกฉันเกี่ยวกับพ่อของฉัน หาเวลามาเมืองหลวง ฉันอยากให้เธออธิบายให้ฉันฟังด้วยตนเองให้ชัดเจน”
ฟางหลิงหยู้ตอบว่าอืม ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะฝ่าฝืนคำสั่งของลั่วหาน “ลั่วหาน เราต่างก็เป็นคนที่มีชีวิตทุกข์ยาก สิ่งที่เธอทำดีกับฉัน ……. ”
“ เอาล่ะ คุณฟาง หลังจากได้พบเธอแล้ว ฉันก็เป็นคนที่มีชีวิตทุกข์ยากจริงๆ แต่ตอนนี้เธอเป็นห่วงตัวเองให้มากๆดีกว่า”