ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 548
ตอนที่ 548 งานเทศกาลทั้งที นายทิ้งฉันให้อยู่คนเดียวได้ลงคอเหรอ
“ทำไมเธอโง่ขนาดนี้?”
ทันทีที่ประตูเปิดออก ร่างบางเล็กๆของเจิ้งซิ่วหยาก็บุกเข้าไปในสายตาของถังจิ้นเหยียนในพริบตา ก่อนที่เขาจะรู้ตัว มือเรียวๆที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็คว้ามือเขาไว้
ความเศร้าและความหมดหนทางในดวงตาของถังจิ้นเหยียนแทบจะไหลออกมา เขายืนตัวตรงโดยไม่ขยับหรือพูด
เจิ้งซิ่วหยาควบคุมการเคลื่อนไหวของเขา แล้วหมุนตัวเข้าประตูไปจากด้านข้าง
เธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว โดยมีเพียงลมกระโชกผ่านไป ถังจิ้นเหยียนก็ถูกเธอควบคุม คนตรงหน้าเดินไปด้านหลังเขาไปแล้ว และนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างราบรื่น
“แขกมาบ้านเจ้าของบ้านก็ควรมาดูแลต้อนรับใช่ไหม?” เจิ้งซิ่วหยาโยนกุญแจรถลงบนโต๊ะเสียงดังก้อง
ถังจิ้นเหยียนหายใจเข้าลึก ๆ หันเข้าบ้านมาแล้วปิดประตู
“ฉันโดดงานมาและยังไม่ได้กินข้าว ตอนนี้ไม่ว่าคุณอยากจะพูดอะไรกับฉัน ทางที่ดีที่สุดขณะที่ฉันหิว ไม่ควรพูดอะไรสักคำ ปล่อยให้ฉันกินอิ่มก่อน แล้วค่อยๆคุยกัน ตอนนี้เวลา 08.30 น. เพิ่งจะเริ่มต้นกลางคืน เราไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ”
เจิ้งซิ่วหยานั่งไขว่ห้าง และกางมือวางบนที่วางแขนของโซฟา เธอใช้นิ้วจิ้มไปที่โซฟา นิ้วที่บางและยาวจิ้มเป็นจังหวะ
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว“ ซิ่วหยา ขอโทษ มันเป็นความผิดของผมเอง แต่ … ”
“ ซู!”
เจิ้งซิ่วหยายกนิ้วขึ้นเพื่อให้เขาหยุด และเขย่าเท้าที่ลอยอยู่นั้น รองเท้ามาร์ตินสีดำหล่อมาก “ปกติแล้วฉันชอบฟังแค่ครึ่งแรกเท่านั้น ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องพูดครึ่งหลังออกมา ฝีมือการทำอาหารของคุณหมอถังเก่งมาก แต่อาหารมื้อเดี๋ยวคงไม่ยากสำหรับคุณใช่ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนงง เกิดอะไรขึ้นกับเจิ้งซิ่วหยา? เธอเปลี่ยนเร็วเกินไปไหม?
แน่นอนว่าเขาจะไม่รู้ ว่าใจของเจิ้งซิ่วหยาซับซ้อนแค่ไหนตอนที่เธอเคาะประตู สุดท้ายแล้วเธอถึงยอมทนต่อความเจ็บปวดเลือกที่จะเงียบ เพื่อนที่จะได้ผล
“ ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่มานานแล้ว ที่บ้านไม่มีอาหารเลย ฉันคงทำอาหารให้คุณไม่ได้” น้ำเสียงที่อ่อนโยนของถังจิ้นเหยียน ถ้าฟังดีๆสามารถได้ยินเสียงแหบๆได้
เจิ้งซิ่วหยาตบที่ต้นขาของเธอเอง กางเกงยีนส์พันขายาวของเธอให้บางเรียวและยาวมาก “ มันง่ายมาก ไปซื้อของเดี๋ยวนี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตปิดตอนสิบโมง เดินจากบ้านคุณไปห้างสรรพสินค้าใช้เวลาแค่5นาที B1 คือซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ตอนนี้ไปผักเถอะ ”
ถังจิ้นเหยียนถอนหายใจออกมา เขารู้ว่าเจิ้งซิ่วหยาไม่ต้องการให้เขาทำอาหารจริงๆ เขาจึงเดินเข้าไปหาเธอแต่ไม่ได้นั่งลง “ซิ่วหยา ฉันคิดทบทวนแล้ว เราไม่เหมาะสมกัน และฉันไม่สามารถให้ความสุขที่คุณต้องการได้ การแยกทางคือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว อีกอย่าง จริงๆแล้วระหว่างเรา … ”
ไม่นับว่าเคยรักกันจริงๆด้วยซ้ำ
ถังจิ้นเหยียนไม่ได้พูดครึ่งหลังของประโยคนี้ออกมา
เพราะเจิ้งซิ่วหยาแย่งเขาพูด เธอหัวเราะหึๆๆ อย่างภาคภูมิใจ “อะไรที่เรียกว่าไม่เหมาะสม?ฉันเจิ้งซิ่วหยาเปลี่ยนได้72สิ่ง ฉันเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก อ่อนโยนและแข็งแกร่งกล้าหาญ หรือชอบแบบนี้อ้อน นายพูดมาว่านายชอบแบบไหน ฉันเป็นให้ได้”
ถังจิ้นเหยียน: “…….. ”
เจิ้งซิ่วหยาตบต้นขาของเธอแล้วยืนขึ้น และวางมือไว้ด้านหลังแล้วเดินวนถังจิ้นเหยียนไปหนึ่งรอบ “อะไรคือไม่สามารถให้ความสุขที่ฉันต้องการได้? ฉันไม่ต้องการความสุข ฉันแค่ต้องการคุณเท่านั้น!”
เวลาที่เธอพูดคำเหล่านี้ เธอไม่มีความเศร้าและร้องขอความเมตตาแบบผู้หญิงตัวเล็กๆเลย ในทางกลับกันเธอดูมีอำนาจและมั่นใจมาก เธอเงยหน้าขึ้นมองดวงตาที่นุ่มนวลของถังจิ้นเหยียนและยิ้ม “เข้าใจไหม?”
หน้าอกของถังจิ้นเหยียนเต็มไปด้วยกระแสลมของความอึดอัด เขาหลับตาลงด้วยความรำคาญ “สิ่งที่คุณต้องการคือผู้ชายที่รักคุณ”
เจิ้งซิ่วหยาพยักหน้า แสดงความเห็นด้วยกับข้อสรุปของเขา “ใช่ ถ้าเป็นไปได้ ใครๆก็ชอบที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่บางคนกลับชอบอะไรที่มันทรมาน คนอื่นเขาไม่รัก เธอก็จะพยายามเซ้าซี้ คนอื่นเขาไม่อยากสนใจ เธอก็ชอบที่จะร้อนรนใส่คนที่เย็นชา คนอื่นที่มีคนในใจแล้ว เธอก็พยายามอยากเข้าไปยุ่งด้วย คุณว่ามันน่าอายไหม?”
เธอพูดประโยคสุดท้ายอย่างสนุกสนาน ล้อเล่นเหมือนเด็ก ริมฝีปากสีชมพูเม้มขึ้น และดวงตาของเธอโค้งไปด้วยรอยยิ้ม
เห็นได้ชัดว่าลูกกระเดือกของถังจิ้นเหยียนขยับ ทำไมคำพูดเหล่านี้ดูเหมือนจะหมายถึงเขา
“ ซิ่วหยา ผมขอโทษ … ”
“ถ้าขอโทษหรืออะไรก็ช่างมันเถอะ ฉันเป็นตำรวจ โลกของตำรวจให้ความสำคัญแค่กับกฎหมายที่ยุติธรรมเท่านั้น”
เธอไม่เห็นเขามาหนึ่งวัน ตอนเช้าที่ออกจากบ้านไป เขายังคงเป็นแฟนของเธอ เธอยังจับมือเขาแล้วอ้อนได้ว่า “ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าคุณอยากเลิกกัน!” แต่พอผ่านไปหนึ่งวัน จู่ๆคน ๆ นี้ก็ไม่ได้เป็นของตัวเองแล้ว มันตลกมาก!
ถังจิ้นเหยียนใช้นิ้วลูบคิ้วของเขา “คุณต้องการอะไร? ฉันตัดสินใจเลิกกันแล้ว อีกอย่างฉันจะกลับไปที่สหรัฐอเมริกาในเดือนหน้า และอาจจะไม่กลับมาที่นี่อีก”
หัวใจของเจิ้งซิ่วหยาเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทง เธอแรงที่หนักและเย็นชามาก แต่เธอยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนหน้า “คุณยอมไปหรอ? คุณยอมทิ้งคุณหมอฉู่ไว้ที่นี่เหรอ”
ถังจิ้นเหยียนตกตะลึง จ้องมองเจิ้งซิ่วหยาด้วยสายตาที่ลอยๆ“ คุณ … ”
“คุณคิดว่าฉันเป็นคนโง่เหรอ? ไอคิวของฉันไม่ได้ต่ำขนาดนั้น คุณชอบคุณหมอฉู่ และรักปางตายหลายปีมานี้คุณเกือบตายเพราะเธอ ตอนที่คุณอยู่กับฉัน ตอนคุณทำอาหารคุณชอบทำปลา แต่ว่าคุณอาจไม่รู้ว่าฉันไม่ชอบกินปลา คุณชินกับการวางดอกพุดดิ้งไว้ในห้องนั่งเล่น สดใหม่ทุกวัน แต่ฉันชอบดอกคัตเตอร์ ตอนที่คุณป่วยคุณสลบชื่อที่คุณเรียกคือลั่วหาน … ”
เจิ้งซิ่วหยาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา และเธอก็ยิ้มกว้างขึ้น “ คุณคิดว่า ครั้งที่แล้วที่คุณเป็นไข้ ทำไมฉันถึงขอให้คุณหมอฉู่มาดูแลคุณ? คุณคิดว่าบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ ที่เธอมาแล้วฉันต้องกลับไปเข้าเวรพอดี? ฉันมันเป็นบ้า ฉันเป็นห่วงคุณ คุณคิดถึงเธอ ฉันก็สร้างโอกาสให้พวกคุณ ฉันรักคุณจนถึงจุดนี้แล้ว คุณไม่รู้สึกเลยเหรอ? ”
ที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง! ครั้งที่แล้วที่เขาเป็นไข้และสลบไป ลั่วหานอยู่ดูแลเขาที่บ้าน ความจริงมันเป็นแบบนี้นี่เอง? !
ถังจิ้นเหยียนรู้สึกเป็นห่วงเธอ เขารู้สึกผิดและพูดเบาๆว่า “หยุดพูดได้แล้ว ผมผิดเอง ผมคิดว่าผมทำได้ แต่ผมทำไม่ได้ ผมขอโทษซิ่วหยา เราอย่าทรมานกันและกันอีกเลย”
เจิ้งซิ่วหยาส่ายหัว“ ไม่ ฉันไม่รู้สึกทรมานเลยแม้แต่น้อย คุณมอบความรักทั้งหมดของคุณให้กับลั่วหาน หัวใจของคุณว่างเปล่า เพราะฉะนั้นเลยไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับฉัน ไม่เป็นไร ความกระตือรือร้นของฉันมีมาก ฉันให้คุณได้”
ถังจิ้นเหยียนวางมือทั้งสองไว้ที่ข้างกาย แต่ปลายนิ้วของเขาดูเหมือนจะแช่ในน้ำแข็ง มันเย็นขึ้นมาทันที เขากำนิ้วขึ้นมา และปล่อยมันออก “ซิ่วหยา คุณดีมาก คุณควรมีผู้ชายที่ดีที่รักคุณ รักคุณสุดใจ เลิกยึดติดเถอะ ได้ไหม?”
เจิ้งซิ่วหยายิ้ม “คุณลืมลั่วหานได้ไหม?”
ถังจิ้นเหยียน: “……. ”
“ คุณช่วยปล่อยวางได้ไหม”
ถังจิ้นเหยียน: “…….. ”
เจิ้งซิ่วหยาเบะปาก “ตัวเองยังทำไม่ได้เลย มีสิทธิ์อะไรมาขอร้องให้ฉันทำให้ได้?”
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว มันมีเหตุผลแบบนี้ด้วยเหรอ
เจิ้งซิ่วหยาพูดเก่งมาก ถังจิ้นเหยียนรู้ แต่ช่วงนี้เธอพูดน้อยมาก ไม่น่าเชื่อว่ายังคงพูดเก่งเช่นเดิม
“ผมกับคุณเราไม่เหมือนกัน”
เจิ้งซิ่วหยามองเวลาและสัมผัสท้องของเธอ“ อะไรคือความแตกต่าง กินวันละสามมื้อมีอารมณ์ 7 ความปรารถนา 6 อย่าง อีกอย่าง ฉันหิวจริงๆนะ ถังจิ้นเหยียน เราจะหยุดทะเลาะกันได้ไหม? วันนี้เป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ พ่อแม่ของฉันไม่ได้อยู่เคียงข้างฉันแล้ว คุณอดใจทิ้งฉันไว้คนเดียวเหรอ ? ”
ถังจิ้นเหยียน: “…….. ”
เจิ้งซิ่วหยาตระหนักด้วยว่าเธออาจจะไร้ยางอายมากเกินไป เธอไอแล้วพูด “ ทำกับข้าวที่บ้านไม่ได้ ออกไปกินปูขนกันไหม ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ฉันเลี้ยงคุณ”
เธอดึงแขนของถังจิ้นเหยียนไว้ ทั้งดึงทั้งลาก เธอก็พาชายร่างสูงนี้ออกจากประตูไปได้
หลังจากลงจากลิฟต์ เจิ้งซิ่วหยาก็หัวเราะเบา ๆ “ฉันลืมกุญแจรถไว้ที่บ้านคุณ คุณขับดีกว่า”
ดวงตาที่อ่อนโยนของถังจิ้นเหยียนมืดลง “ฉันก็ไม่ได้เอากุญแจมาด้วยเหมือนกัน”
เจิ้งซิ่วหยาสะบัดมือของเธอและกระโดดลงบนพื้นไปสองสามครั้ง“ เดินกันเถอะ! ของอร่อยใกล้บ้านคุณมีอะไรบ้าง ฉันไม่เลือกกิน”
ถังจิ้นเหยียนสอดมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกง มือข้างหนึ่งห้อยอยู่ในอากาศข้างๆเจิ้งซิ่วหยา เขากลัวว่าเธอจะล้มลง เขาก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเธอทัน
“มีนะ อยู่ข้างหน้านี่เอง อาจจะใช้เวลาเดินสิบกว่านาที”
เจิ้งซิ่วหยาพยักหน้าพร้อมกับเลิกคิ้ว ใบหน้าที่อ่อนเยาว์และอยู่ยงคงกระพันของเธอผลิบานด้วยรอยยิ้มที่แข็งแกร่ง สดใสยิ่งกว่าฤดูใบไม้ผลิ “ ถังจิ้นเหยียน คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”
พวกเขาสองคนเดินไปด้วยและพูดคุยไปด้วย เดินช้ามาก เจิ้งซิ่วหยาเตะก้อนหินขนาดเล็กไปมา
“31”
บนทางเท้าในช่วงก่อนเทศกาล มีแสงไฟนีออนหลากสี ซึ่งประดับประดาต้นไม้อย่างสวยงาม แสงกระทบลงบนใบหน้าของพวกเขาริบหรี่และสลัว
เจิ้งซิ่วหยายิ้มหึหึ “ ฉันอายุ24ปี อีก18ปีฉันจะอายุ42 เมื่อ ฉันอายุ 42 คุณอาจจะยิ่งไม่ชอบฉันกว่านี้อีก
ถังจิ้นเหยียนกลัวเธอล้มลงไปมากๆ มือของเขาก็เลยยกข้างไว้ที่หลังของเธอตลอด “ทำไมล่ะ?”
เจิ้งซิ่วหยาหยุดเดิน แล้วกระโดดไปตรงหน้าเขา เงยหน้าแล้วพูดอย่างจริงจังว่า “คุณเป็นจินเย่วหลินของคุณหมอฉู่ คุณกลายเป็นนกน้อยที่เปลี่ยนถิ่นอยู่เรื่อยๆ แถวยังไม่แต่งงานไปตลอดชีวิตเพื่อเธอ ส่วนฉันจะเป็นหวางเป่าชวนของนาย จะรอนาย18ปี ถ้า18ปีผ่านไป นายบินจนเหนื่อยแล้ว ก็กลับมาหาฉันนะ”
เท้าขวาของถังจิ้นเหยียนที่เพิ่งก้าวออกไปก็เบรกทันที และเขาเดินต่อไปไม่ได้ ดวงจันทร์ที่กำลังจะเต็มดวงส่องแสงไปบนแก้มของเธอ ริมฝีปากของเธอเป็นสีแดงและฟันของเธอเป็นสีขาว รอยยิ้มของเธอเหมือนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความปรารถนา
ในใจของเขาเหมือนพลิกคลื่นราวกับว่าตกลงไปในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่“ ซิ่วหยา ฉันไม่สมควรได้รับสิ่งนี้จากเธอ”
เจิ้งซิ่วหยาเห็นถนนหนึ่ง มีร้านอาหารมากมาย และมีสัญลักษณ์มงคลแขวนอยู่บนป้าย “ถังจิ้นเหยียน แม่ของฉันบอกว่าฉันเป็นคนที่รักใครได้ไม่นาน และฉันทำอะไรก็อดทนได้แค่แปปเดียว เมื่อก่อนฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ตอนนี้ฉันรู้แล้ว เซลล์อัจฉริยะของฉันมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องวันนี้ ดังนั้นฉันจึงเก็บความอดทนมา24ปีแล้ว ใช้เวลาพวกมันมารอคุณทั้งหมด ถังจิ้นเหยียนถ้าคุณต้องการบินไป ก็บินไปเถอะ ถ้าคุณมันเป็นนกอพยพ เมื่อถึงฤดูหนาวแล้ว คุณต้องบินกลับมานะ ”
ใช้มันมารอคุณทั้งหมดเลย…………..
ถังจิ้นเหยียนก้มลงอย่างลับๆ เขาไม่รู้ว่าทำไมเจิ้งซิ่วหยาถึงรักเขามากเช่นนี้
มีน้ำตาอยู่ในดวงตาของเธอ แต่ในที่สุดเธอก็กลั้นมันไว้ได้ มันยากแค่ไหนที่จะทำหัวใจที่ตายในใจของคนอื่นหวั่นไหว!
แค่น้ำตาจะเพียงพอได้อย่างไร?
เจิ้งซิ่วหยาจับแขนเสื้อเขาไว้ และเดินเข้าไปในถนนที่มีเสียงดังสนุกสนาน คนเดินเท้าส่วนใหญ่เป็นคู่กัน เธอดึงถังจิ้นเหยียนให้แน่นขึ้น “ ฉันหวังว่าคุณจะเป็นบูมเมอแรง แม้ว่าคุณจะบินไปไกล แต่สุดท้ายคุณก็กลับมาหาฉัน”
ถังจิ้นเหยียนพูดไม่ออก
เจิ้งซิ่วหยาตะโกนราวกับว่าเธอได้ค้นพบโลกใหม่ “ขนมหวาน! ถังจิ้นเหยียนคุณซื้อให้ฉันหนึ่งอันสิ!”
ถังจิ้นเหยียนพยักหน้าเบา ๆอย่างอ่อนโยน แต่โชคดีที่เขามีกระเป๋าสตางค์อยู่ในกระเป๋าเสื้อ “อืม รอฉันอยู่ที่นี่นะ”
“ ถ้าฉันหลงทางไป คุณจะตามหาฉันไหม?” เจิ้งซิ่วหยาถามอย่างกะทันหัน
ถังจิ้นเหยียน: “……. ”
“โอเค ถ้าคุณหลงทางไป ฉันก็จะไม่หาคุณเช่นกัน แต่ฉันเป็นตำรวจและฉันสามารถออกหมายจับได้ออกหมายจับคุณไปทั่วโลก” เธอยิ้มอย่างร้ายๆ
ถังจิ้นเหยียน: “…….. “