ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 550
ตอนที่ 550 ความรู้สึกที่รวยข้ามคืน
“คุณแม่คะ”
“ข้อตกลง” ระหว่างหยวนชูเฟินกับหมอเพิ่งเจรจากันสำเร็จ ลั่วหานและหลงเซียวก็เข้ามาในห้องพักคนไข้
รอยยิ้มบนใบหน้าของหยวนชูเฟินกวาดล้างความเศร้าเมื่อกี้ออกไป เธอยิ้มและโบกมือ “ลั่วหาน มานี่สิ มาหาแม่เร็ว”
หลงเซียวกอดลั่วหานด้วยมือข้างเดียว ใบหน้าของเขาแสดงความไม่เต็มใจแบบเด็กน้อยออกมา ออร่าของเขาเปล่งประกายในห้องคนไข้ และเสียงโทนต่ำของเขาพูดอย่างมีความสุข “คุณแม่เรียกหาแต่ลั่วลั่ว ไม่ต้องการผมแล้ว?”
ลั่วหานหัวเราะเบา ๆ และผลักแขนของเขาไปข้างหน้า “โอเคโอเค คุณไปสิคุณไป”
เมื่อเห็นว่าความสัมพันธ์ทั้งคู่ดีมาก หยวนชูเฟินก็มีความสุขจากใจ เธอจับมือของลั่วหานและมืออีกข้างหนึ่งจับมือของหลงเซียวไว้ เอามือของทั้งคู่มาซ้อนเข้าด้วยกัน กดลงอย่างจริงจัง ในดวงตาที่อ่อนล้าของเธอส่องแสงแพรวพราว “ เอาทั้งคู่เลย เธอทั้งสองเป็นคนโปรดของแม่ มีความสำคัญเท่าๆกัน”
ลั่วหานพิงไหล่ของหยวนชูเฟินเบา ๆ อย่างอ้อนๆ ผมยาวนุ่มของเธอห้อยลงบนไหล่ของหยวนชูเฟิน “แม่ต้องปฏิบัติกับพวกเราเหมือนลูก ๆ เสมอนะคะ เมื่ออยู่กับคุณแม่ เราไม่จำเป็นต้องเติบโต มันดีจริงๆเลยค่ะ มีความสุขมากๆ”
หยวนชูเฟินเกลี่ยผมของเธอ แล้วทัดผมไว้ข้างหลังใบให้เธอ เผยให้เห็นใบหน้าที่บอบบางเธอ ช่วงที่เธอท้องเธอไม่ได้แต่งหน้า แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงสดใสเช่นเคย
“เป็นเด็กโง่จริงๆ จะเป็นพ่อเป็นแม่คนอยู่แล้ว ยังไม่อยากโตอีกเหรอ”
หลงเซียวลุกขึ้นเทน้ำมาสองแก้ว แล้วส่งให้หยวนชูเฟินและลั่วหาน“ ช่วงนี้ลั่วลั่วอ้อนเก่งมาก นี้คุณแม่ดูสิ ลูกสะใภ้คนนี้ยิ่งเลี้ยงยิ่งเด็กจริงๆ ผมว่าอีกไม่กี่เดือนหลังคลอดลูก ผมก็เลี้ยงพวกเขาราวกับลูกสองคนได้เลย ”
“ฮ่าฮ่า!” หยวนชูเฟินขำให้กับลูกชายที่ไม่ค่อยเล่าเรื่องตลก “ปากของเซียวเอ๋อพูดเก่งจริงๆ แต่ว่าฉันคิดว่าที่นายพูดก็ถูกนะ ถ้าแต่งงานกับคนที่เหมาะสม ผู้หญิงจะเด็กไปตลอดชีวิต ไม่ต้องโต เป็นแค่สาวน้อยที่ไร้เดียงสาก็พอ”
ลั่วหานเอียงศีรษะแล้วมองไปที่หลงเซียวและจงใจแกล้งเขา “เฮ้ คุณหลงคะ คุณได้ยินหรือเปล่า? ความหมายนั้นก็คือฉันแค่ทำตามที่แม่บอก เป็นเด็กต่อไป คุณห้ามรังเกียจฉัน”
หลงเซียวพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ทำอะไรไม่ได้ นิ้วเรียวของเขาปัดไปที่ใบหน้าด้านข้างของเธอและจุดที่นิ้วผ่านไปก็มีแต่ความอ่อนโยน “โอเค ตามใจคุณทุกอย่างเลย”
หยวนชูเฟินจิบชาและเมื่อเธอก้มศีรษะลง เธอก็เห็นดวงตาของตัวเองที่อยู่สะท้อนอยู่ในน้ำ ดวงตาคู่นี้สูญเสียความสดใสและจิตวิญญาณในอดีตไปแล้ว แต่มีความเงียบสงบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เขาทั้งสองอยู่เป็นเพื่อนหยวนชูเฟินในห้องคนไข้สักพักก็จากไป
ลั่วหานไม่มีงานในช่วงเช้า เธอออกจากโรงพยาบาลโดยตรงเลย
“ คุณสามี คุณกลับไปที่ บริษัทก่อนเลยนะ ฉันอยากไปดูที่ฉู่ซื่อกับโม่ซื่อก่อน ถึงยังไงนั้นก็เป็น บริษัทของฉัน บอสใหญ่ไม่ค่อยปรากฏตัว ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนักใช่มั้ย?”
ลั่วหานเอาบริษัท ให้ไป่เวยดูแล ส่วนด้านโม่ซื่อมีผู้จัดการมืออาชีพอยู่ เธอแทบจะไม่ได้สนใจเลย แต่ตอนนี้คุณชายกู้ และไป่เวยไม่ได้อยู่ที่นี่ทั้งคู่ ดังนั้นเธอต้องไปตรวจสอบดู
หลงเซียวจูงมือเธอไว้ แล้วเปิดประตูข้างคนขับ ส่งเธอขึ้นรถ “ฉันจะไปเป็นเพื่อนคุณ ตอนเช้าที่บริษัทไม่มีงานอะไร ฉันเป็นคนขับรถให้คุณ”
เขาใช้มือกันหัวของเธอไว้ และส่งเธอเข้าไปนั่งดีๆ
ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมองเขาขมวดคิ้ว “ไม่มีงานอีกแล้ว? บังเอิญขนาดนี้เลยเหรอ? ทำไมคุณถึงว่างทุกครั้งที่ฉันมีงาน?”
เขาว่างที่ไหนล่ะ ภรรยามาก่อนเสมอ
“ฉันคิดเกี่ยวกับคำถามนี้มาหลายปีแล้ว แต่ฉันรู้สึกสงสัย “ริมฝีปากบางๆของหลงเซียวเม้มขึ้น และเขาคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ
“เจ้าเล่ห์จริงๆ!” เธอโต้กลับ
“ ขอบคุณครับ” เขาแสยะยิ้มอย่างอารมณ์ดี
ลั่วหานและหลงเซียวไปที่อาคารสำนักงานของโม่ซื่อก่อน อาคารโม่ซื่ออันยิ่งใหญ่และสูงตระหง่านตั้งอยู่ในพื้นที่สำนักงานขนาดใหญ่ มันค่อนข้างโดดเด่น อาคารหลักของตึกโม่ซื่อซึ่งมีชื่อเสียงมาหลายปีมีทั้งหมด 15 ชั้น ซึ่งมีหลายชั้นได้เช่าออกไปเนื่องจากธุรกิจของโม่ซื่อหดตัวลง สำนักงานของโม่ซื่อตั้งอยู่ชั้น 7ขึ้นไป
ลั่วหานเงยหน้ามองไปที่โลโก้สีทองเงาขนาดใหญ่บนผนังของอาคารหลัก และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า “ตอนนั้นทั้งโม่ซื่อและ MBK เป็น บริษัท ที่เป็นโดดเด่นของเมืองหลวง ฉันไม่คาดคิดว่าจะถูก โม่หรูเฟยและโม่ล่างคุนทำลายจนหมดสิ้น ”
หลงเซียวยิ้มจนออกเสียง มือใหญ่ๆของเขาปิดตาเธอไว้อย่างอ่อน เขาปิดการมองเห็นของเธอไปหมด จากนั้นโอบกอดเธอแล้วเดินตรงไปข้างหน้า “เรื่องเก่าๆเราไม่พูดถึงเนอะ อีกอย่างฉันรู้สึกว่าโลโก้ของโม่ซื่อน่าเกลียดเกินไป เรามาเปลี่ยนอันใหม่กันเถอะ ”
ลั่วหานหักนิ้วของเขาออกหนึ่งนิ้ว และพูดด้วยความประหลาดใจ “คุณหมายความว่า คุณจะเปลี่ยนชื่อให้โม่ซื่อ?
เวอร์เกินไปหรือเปล่า?
ทั้งสองเดินขึ้นไปบันไดไป และเดินเข้าไปในประตูหมุน หลงเซียวพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ ถ้าเป็นสาขาย่อยของฉู่ซื่อ ก็ไม่จำเป็นต้องแขวนป้ายโม่ซื่ออีกต่อไป คุณชอบชื่ออะไรบอกมาได้เลย แล้วฉันจะให้ตงหมิงไปจดทะเบียน ”
“ชื่อของ บริษัท เป็นเรื่องใหญ่ คุณจัดการดีกว่า” ลั่วหานให้สิทธิ์แก่เขา
“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน”
“ประธานสวัสดีค่ะ”
เมื่อทั้งสองก้าวเข้ามาในล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่ง พนักงานต้อนรับหญิงในเครื่องแบบต่างพยักหน้าทักทายลั่วหาน
ลั่วหานผลักแขนของหลงเซียวและเตือนเขาด้วยเสียงเบาๆ “เฮ้ พวกเขาทักทายคุณน่ะ”
หลงเซียวยิ้มออกมาเล็กน้อย ดวงตาสีดำพราวระยับของเขาเปลี่ยนไปเป็นสีที่กระฉับกระเฉง “ใครเป็นประธานของโม่ซื่อกันแน่ ลองคิดใหม่”
ลั่วหานหลับตาลง และเธอก็แทบจะตบหัวตัวเอง “ โอ้พระเจ้า สมองของฉัน ฉันลืมไปเร็วขนาดนี้เลยเหรอ โอเค ฉันคุ้นเคยกับที่คุณถูกยกย่องอยู่เสมอ ผู้นำที่ระบบยอมรับอัตโนมัติ ”
ลั่วหานพยักหน้าให้แผนกต้อนรับ ส่วนพนักงานต้อนรับที่แผนกต้อนรับก็ทักทายหลงเซียวอีกครั้ง
หลงเซียวกอดลั่วหานไว้แล้วเดินไปที่ลิฟต์ VIP แล้วกดหมายเลขชั้นบนสุด “ลั่วลั่ว สักวันชื่อของคุณจะสะดุดตากว่าชื่อของฉัน และความสว่างบนร่างกายของคุณจะครอบงำฉัน”
ลั่วหานยิ้มอย่างไม่น่าเชื่อ “ชมคนแบบนี้ก็ได้เหรอ แบบนี้ประจบเกินไปไหม”
“ไม่ต้องรีบ เรารอดูกันได้”
ใช่ สักวันหนึ่ง เขาจะผลักให้เธอขึ้นไปสูงสุด และยืนอยู่เหนือผู้คนนับหมื่น เขาจะสู้เพื่อเธอ
เขาจะทำ
ทั้งคู่เดินดูที่แผนกการตลาด แผนกการเงิน แผนกการจัดการ แผนกประชาสัมพันธ์ แผนกส่งเสริมการขาย แผนกวิศวกรรมทางเทคนิคและแผนกหลักที่สำคัญสิบกว่าแผนก
ไม่ดูไม่รู้ แต่พอมาเช็คแล้วน่าตกใจ ลั่วหานเพิ่งจะรู้ว่าเธอมีห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งขนาดนี้
หลังจากฟังการรายงานจากแผนกการเงินและแผนกการลงทุนทางการเงินแล้ว ลั่วหานก็ตกตะลึง “ คุณสามี นี่ฉันรวยขนาดนี้เลยเหรอ?”
พระเจ้า จำนวนเงินหมุนเวียนของทุกๆเดือนน่ากลัวมาก เงินหมุนเวียนกระแสรายเดือนของที่นี่แทบจะตามจำนวนเงินหมุนเวียนทั้งปีของฉู่ซื่อในเมื่อก่อนได้แล้ว ความแตกต่างระหว่างฉู่ซื่อในอดีตกับลูกสาวของตระกูลฉู่ต่างกันกับโม่ซื่อมากขนาดนี้เลยเหรอ
ไม่น่าแปลกใจที่ โม่หรูเฟยมักจะทำตัวหยิ่งเหมือนเจ้าหญิง
บ้าเอ๊ย ตอนนี้เธอเป็นคนรวยแล้ว ผ่านตัวมาเป็นเจ้าของแล้ว
“ไม่เพียงแค่นี้ คุณรวยมากกว่าที่คุณคิดซะอีก”
อีกอย่าง แค่นี้ก็ทำให้เธอสงสัยสายตาตัวเองอย่างตื่นเต้น ถ้าในอนาคตเขาจะมอบอาณาจักรธุรกิจให้เธอด้วยมือของเขาเอง เธอจะมีการตอบสนองแบบไหนกัน?
หึหึ เขาอยากจะเห็นแล้ว
ออกมาจากโม่ซื่อ หลงเซียวขับรถพาลั่วหานไปที่อาคารฉู่ซื่อ
ลั่วหานนึกถึงตัวเลขที่แผนกการเงินเสนอมาตลอดทาง และอุทานว่า “หลงเซียว ฉันรวยขนาดนั้นเลยเหรอ? คุณหยิกฉันหน่อย ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย ฉันประหลาดใจมาก! ฉันประหลาดใจมากจริงๆ!”
เมื่อเห็นสีสันของดวงตาของเธอ หลงเซียวยิ้มๆ“ คุณรู้สึกร่ำรวยขึ้นในชั่วข้ามคืนใช่ไหม? รับไม่ได้ใช่ไหม?”
ลั่วหานกอดอกพร้อมกับสีหน้าที่ดูเหมือนคนรวย “ใช่ และก็ไม่ใช่ ฉันกลายเป็นคนรวยในชั่วข้ามคืนมานานแล้ว และรวยกว่าตอนนี้ซะอีก”
“ห๊ะ ประธานฉู่แอบมีคลังเงิน เหรอ?” หลงเซียวถามขณะจับพวงมาลัย
ลั่วหานยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ วันที่ฉันแต่งงานกับคุณ ฉันร่ำรวยขึ้นในชั่วข้ามคืน และภรรยาของหลงเซียว ค่าตัวพุ่งขึ้นทันที”
“หื้ม? คุณนายหลงที่ค่าตัวสูงลิ่วกลับไม่สามารถซื้อบ้านได้ ยังต้องเช่าบ้านอยู่?
เขากำลังพูดถึงอพาร์ตเมนต์ความโสดของเธอ
ลั่วหานยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ ย้อนกลับตอนนั้น เงินออมทั้งหมดของเธอเอามาช่วยฉู่ซื่อจนหมด ตกอยู่ในมือของฟางหลิงหยู้และ ฉู่ซีหราน
ฉันจะร้องไห้
ข้างหน้าคืออาคารฉู่ซื่อ ลั่วหานมองดูฉู่ซื่อที่พ่อแม่ของเขาสร้างขึ้นกับมือ พลางจับคางอย่างมีความสุขและพูดว่า “บ้านต้องให้ผู้ชายเป็นคนซื้อมันถึงจะมีความหมาย อีกอย่าง ตอนนั้นฉันใช้กลอุบายแกล้งน่าสงสาร ยินดีด้วยนี่นายโดนหลอก ยินดีด้วยที่นายพ่ายแพ้ ยินดีที่นายแพ้ให้กับฉัน”
ฮ่า
“เป็นเกียรติของผมครับ”
“ ดูเหมือนว่ากลอุบายน่าสงสารนี้จะใช้ได้อีกหลายครั้งนะ?”
หลงเซียวส่ายหัว “คุณใช้วิธีนี้มันช้าเกินไปสำหรับผม ครั้งต่อไปใช้แผนความงาม ฉันสัญญาว่าคุณจะได้ผลลัพธ์เป็นสองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว”
“ชิ!”
หลงเซียวจอดรถเสร็จ เงยหน้าขึ้นและมองเห็นร้านกาแฟชั้นล่างของตึกฉู่ซื่อ สายตาที่เขามองไปเห็นเงาคนสองคนที่นั่งตรงข้ามกันอยู่ตรงที่นั่งข้างหน้าต่างพอดี
ลั่วหานก็เห็นทั้งสองคนเช่นกัน เธอดึงนิ้วของหลงเซียว “หวังเค่ย และ กับจ้าวฟางฟาง ฉันเดาถูกแล้ว จ้าวฟางฟางมาที่เมืองหลวงไม่พลาดโอกาสที่จะติดต่อหวังเค่ยแน่นอน และฉันคิดว่า จ้าวฟางฟางต้องการใช้ความรู้สึกของหวังเค่ยที่มีต่อเธอในตอนนั้น เพื่อหลอกขอความเมตตาของเขา ”
“จ้าวฟางฟางกล้าที่จะมาหาหวังเค่ยคนเดียว แน่นอนว่าเธอต้องเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว”หลงเซียวปลดเข็มขัดนิรภัยออกและเปิดประตูรถ
เงาร่างของสองคนเข้ากันได้เดินไปที่ทางเข้าหลักของอาคารพร้อมกัน
ลั่วหาน จับมือ หลงเซียวไว้ “ฉันเป็นห่วงหวังเค่ย ถ้า จ้าวฟางฟางสำเร็จ เถียนเถียน และ หวังเค่ยจะตกอยู่ในอันตราย”
หลงเซียวดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนและคลุมศีรษะของเธอไว้ เจ้าหน้าที่ที่ยุติธรรมแค่ไหนก็ยากที่จะตัดสินเรื่องครอบครัว ตอนนี้ผมและคุณยังไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องนี้”
“ เรื่องครอบครัวอะไรกัน? พวกเขาหย่ากันแล้ว ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันอีกต่อไป” ลั่วหานยังคงกังวลวัง หวังเค่ยเอาชนะผู้หญิงปลอมๆไม่ได้หรอก
หลงเซียวยอมในความกระตือรือร้นของภรรยาเขาที่ต้องการยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ “ ลั่วลั่วถ้าหวังเค่ยจัดการกับอดีตภรรยาของเขาไม่ได้ต้องให้คุณมาช่วย ในฐานะผู้ชาย เขาจะเอาศักดิ์ศรีของเขาไปไว้ที่ไหน?”
ลั่วหาน: “……….”
ฟังดูมีเหตุผล
หลงเซียวจับไหล่ของเธอ และดึงเธอขึ้นบันได “อีกอย่าง หวังเค่ยก็ไม่ได้ไร้ความสามารถอย่างที่คุณคิด ส่วนคุณ ตอนนี้คุณแค่ต้องปล่อยให้ลมและคลื่นมันไปตามทางของมัน และนั่งรอบนที่ตกปลาอย่างสบายๆ ”
ลั่วลั่วเถียงเขาไม่ไหว จึงต้องขึ้นบันไดไปกับเขา “เสิ่นคั่วพา จ้าวฟางฟางมาที่เมืองหลวง ทำไมฉันถึงรู้สึกเรื่องมันไม่ใช่แค่นี้? นายลองคิดดูสิเสิ่นเหลียวอยู่ในคุก เงินทางการตลาดของเสิ่นซื่อก็หายไปหลายหมื่นล้าน เสิ่นคั่วขอร้องให้หลงถิงร่วมมืออย่างไม่สนศักดิ์ศรี คนที่เล่ห์กลเยอะอย่างเขา จะทำการค้าขายที่เสียเปรียบได้อย่างไร?”
หลงเซียวแตะๆไปที่หัวของเธอ “หลังจากที่ฉันเตือนสติแล้ว คุณฉลาดขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย เสิ่นคั่วอยู่ที่เมืองหลวงไม่ยอมไปไหน แน่นอนว่าต้องมีเรื่องบางอย่าง พูดอย่างถูกต้องก็คือ เสิ่นคั่วกำลังรอใครสักคนอยู่”