ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 568
ตอนที่ 568 จะเอาให้ตายกันเลยเหรอ
หลงถิงสีหน้าอับอายจนกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ เขาพูดอะไรก็ผิดไปหมด พูดโต้แย้งไปตรงๆไม่ได้ ยิ่งจะให้เขาออกหน้ามาสนับสนุนยิ่งเป็นไปไม่ได้!
ดังนั้น ขณะที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่นั้น เขาทำได้แค่สงบนิ่งเข้าไว้
ซุนปิงเหวินหันสายตาไปมองหลงถิงที่กำลังโกรธจนตัวสั่น มือที่วางอยู่บนรถเข็น จับแก้วไวน์ นิ้วมือแตะอยู่ที่ผิวด้านนอกของแก้ว
พร้อมกับยิ้มอย่างชั่วร้าย
เสิ่นคั่วล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ถือแก้วไวน์เดินไปอยู่ใกล้ๆกับซุนปิงเหวิน เขายืนค้ำไม้เท้าอยู่ด้วยกันกับซุนปิงเหวินที่นั่งอยู่บนรถเข็น เป็นภาพที่ดูแปลกประหลาดไม่น้อย
“ประธานซุน สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ คุณมีอะไรอยากจะพูดไหม?”
ซุนปิงเหวินชนแก้วกับเสิ่นคั่วหนึ่งที เม้มปากพูดขึ้น“ลูกเสือโตขึ้นแล้ว ไม่อยากจะอยู่ในการกำกับดูแลของพ่อเสือแล้ว อยากที่จะแยกออกมาต่อต้านอำนาจของพ่อเสือ นี่มันก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เสิ่นคั่วสบถ หึ ก่อนจะดื่มเหล้าไปหนึ่งคำทันที มือค้ำอยู่ที่ไม้เท้า หลังโก่ง“แต่คุณไม่อยากถามสักหน่อยเหรอว่า หลงเซียวผู้ชายที่มีความทะเยอทะยานสูงขนาดนี้ ทำไมถึงยอมวางมือจากสิทธิ์ในการสืบทอดMBKไป วางมือจากสนามรบที่ตัวเองพยายามต่อสู้ดิ้นรนมาเป็นเวลาสิบปีไปเปล่าๆ? คุณอย่าลืมสิ ครึ่งหนึ่งของMBKล้วนแต่เป็นการต่อสู้ดิ้นรนของหลงเซียวทั้งนั้น”
โม่หรูเฟยก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาเช่นกัน แน่นอนว่า ยังมีโม่ล่างคุนอีกคน หลังจากนั้นก็พูดขึ้น“สิทธิ์ได้การสืบทอดมรดกที่ใกล้จะตกมาอยู่ในมือของตัวเอง? เหอะๆ คุณเสิ่น หลงถิงไม่ได้มีแค่หลงเซียวเป็นลูกชายคนเดียวสักหน่อย เขายังมีลูกคนรองอีก”
เสิ่นคั่วคิดไตร่ตรองกับตัวเองอยู่สักพัก มือที่เต็มไปด้วยจุดดำๆของคนแก่จู่ๆก็มีเส้นเลือดปูดขึ้นมา เขากำมือแน่น ยิ้มอย่างเย้ยหยันออกมา“วิธีการของหลงเซียวในคืนนี้ ไม่ใช่ว่าเขายอมถอยเพื่อที่จะได้เข้าใกล้มากขึ้น คิดที่จะบังคับหลงถิงให้ยกสิทธิ์ในการได้รับมรดกกับเขาหรอกเหรอ?”
โม่หรูเฟยจ้องหลงเซียวลั่วหานที่กำลังพูดคุยกับแขกด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มตาไม่กระพริบ กัดฟันกรอดๆ ตาที่เปิดกว้างของเธอเต็มไปด้วยเส้นเลือด พูดกัดฟันขึ้น“อีชั้นต่ำ!ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันเป็นคนควบคุมจัดการทั้งหมด สิทธิ์ในการได้รับมรดกเอย MBKเอย ที่หลงเซียวยอมปล่อยมือออกจากทรัพย์สินพวกนี้ เป็นเพราะว่าถูกมันใช้เสน่ห์หลอกล่อ!มันอดทนอดกลั้นเพียรพยายามมาเจ็ดแปดปี เพื่อที่จะได้ทุกอย่างทุกอย่างของพี่เซียว!”
ซุนปิงเหวินดึงมือที่สั่นอย่างรุนแรงของโม่หรูเฟย มาวางไว้ในมือของตัวเอง ประสานนิ้วมือไว้“ที่รัก โกรธอะไร? เรื่องบาดหมางกันในตระกูลหลงเซียว พวกเราไปเป็นเดือดเป็นร้อนแทนไม่ได้นะ คนที่อับอายขายขี้หน้าก็คือหลงถิงและตระกูลหลง คนได้ซีนไปคือลั่วหาน แต่ที่ทะเลาะโหวกเหวกกันแบบนี้ ต่อให้จะจบลงยังไงก็ยังพูดไม่ได้อยู่ดี”
โม่หรูเฟยในหัวมีประกายแสงขึ้นมา เธอก้มหน้าลงมองซุนปิงเหวิน เครื่องสำอางบนใบหน้าที่สวยงามฝืนยิ้มออกมา“คุณอยากจะบอกอะไร?”
โม่ล่างคุนหึออกมาอย่างเย็นชา ตบๆลงที่ไหล่ของลูกสาว พูดเตือนสติออกมาอย่างมีน้ำหนัก“เฟยเฟย การที่หลงถิงหลงเซียวสองพ่อลูกไม่ลงรอยกัน มันจึงเป็นโอกาสของพวกเราแล้ว”
เสิ่นคั่วเหอะๆ ยกหัวดื่มเหล้าในแก้วจนหมด ดื่มจนเกลี้ยงอย่างสบายใจ“คุณชายโม่ ถึงแม้ว่าจะถดถอยไม่เป็นที่จับตามองอีกแล้ว แต่ในสถานการณ์แบบนี้คุณกลับเห็นได้ชัดเจนมาก”
โม่ล่างคุนเพียงแค่ยิ้ม“เช่นกัน เช่นกัน คุณชายเสิ่น”
ซุนปิงเหวินถือแก้ว จ้องมองสองขาที่ใช้การไม่ได้ของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม กำปั้นที่กำแน่นเห็นกระดูกชัดเจน
ส้งชิงเซวี๋ยนที่สวมเสื้อคลุมยาวเดินอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่หนาแน่น ดึงหลงเซียวมาอย่างช้าๆ พูดอย่างยิ้มๆด้วยสายตาที่มีแค่คนที่เล่นหมากรุกเท่านั้นถึงจะเข้าใจ“เซียวเซียวที่รัก ทำได้ไม่เลวเลย แทนที่จะเป็นฝ่ายอยู่ให้คนมาตี สู้ไปตีเองเลยดีกว่า แต่ว่า——”
เขาเบ้ปากครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้น“ที่นายทำแบบนี้ ก็เท่ากับว่าปิดกั้นหนทางของตัวเองด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? หลงถิงไม่มีทางปล่อยนายไปแน่ๆ”
หลงเซียวหันไปมองลั่วลั่วที่ถูกพวกไป๋เวยกับโจวโร่หลินลากไปคุย แล้วหันกลับมามองส้งชิงเซวี๋ยน ก่อนจะหยิบเอาแก้วในมือของเขาออกไป แล้วเปลี่ยนแก้วชาแทน“คุณรู้สึกว่า ถ้าผมไม่ทำแบบนี้เขาจะปล่อยผมไปอย่างนั้นเหรอ? หวังจะให้หมาป่าละทิ้งจากการฆ่า ดูจะซื่อเกินไปหน่อย ต้องถอนเขี้ยวของมันทิ้ง ถึงจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง”
ส้งชิงเซวี๋ยนดมชาที่อยู่ในแก้ว ปิดตาลงตั้งใจสูดดมกลิ่นที่หอมสดชื่น“ชาดี ชาดี เหล้าทำร้ายกระเพาะ บุหรี่ทำร้ายปอด ชาช่วยเยียวยาจิตใจ”
สายตาที่นิ่งสงบของเขายื่นออกมาจากเปลือกตาที่หย่อนคล้อย แสงสว่างที่อบอุ่นและฉลาดเฉลียวมาบรรจบกับหลงเซียว ยกแก้วชาขึ้นจิบหนึ่งคำ แล้วพูดขึ้น“นายกับพ่อของนายไม่เหมือนกัน นายเหี้ยมโหด มีแผนการกว่าพ่อของนาย นายรู้จักปกป้องตัวเอง จุดนี้มันเป็นสิ่งล้ำค่าที่ยากจะทำได้”
หลงเซียวยกมุมปากอย่างมีความหมายที่ลึกซึ้ง มองไปยังลั่วหานด้วยสายตาเย็นชา ลั่วหานก็มองมาทางเขาเข้าพอดี แสงจันทร์เย็นยะเยือกก็อ่อนโยนขึ้นมาทันที
“ที่ผมทำพวกนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อพ่อของผม แต่เพื่อภรรยาของผม ลูกของผมด้วย ผมอยากปกป้องพวกเขาไม่ให้ถูกใครก็ตามมาข่มขู่”
ไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น!
เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีดังขึ้นมาไม่หยุดในห้องโถง ส้งชิงเซวี๋ยนกลับยิ้มไม่ออก เขาถูกคนไล่ฆ่ามาสองครั้ง พอเห็นคนในตอนนั้นยังไม่ยอมวางมือจากการไล่กำจัดคนที่รู้เรื่องราวของคดีนอกเลือดเมื่อสามสิบปีก่อน ก็ยิ่งไม่มีทางปล่อยลูกติดของมู่เส้าเอินไว้เพียงลำพังแน่นอน
เอ่อ……
“เซียวเซียวเอ๋ย นายทำขนาดนี้ จะไปกระตุกหนวดเสือของหลงถิงได้นะ ถ้าเกิดเขาจนตรอกแล้วฆ่านายขึ้นมา นายจะทำยังไง?”ส้งชิงเซวี๋ยนดื่มชาไม่ลงแล้ว กำข้อมือของหลงเซียวไว้แน่นด้วยความเป็นห่วง
หลงเซียวพูดปลอบ“หรือว่าลุงส้งยังดูไม่ออก ผมกำลังบีบบังคับให้เขาจนตรอก? หลงถิงฆ่าตระกูลมู่อยากโหดเหี้ยมในตอนนั้น ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวแน่นอน ผมต้องบีบเค้นให้เขาใช้แผนการเดียวกันกับตอนนั้น ไม่ว่าคนพวกนั้นจะปิดบังธุรกิจ ปกปิดชื่อสกุล หรือว่าจะต้องทำสงครามไปทั่วทุกสารทิศ ผมก็จะต้องลากหัวพวกมันออกมาทีละตัว เพื่อแก้แค้นให้กับตระกูลมู่ของผมให้ได้”
เสียงที่เขาพูดไม่ดัง ถึงขนาดที่ยิ้มเบาๆให้กับเหล้าพวกนักข่าวที่กำลังจับตามองอยู่ ท่าทางของเขาดูสง่างาม สะอาดบริสุทธิ์ แต่ใครจะไปคิดว่า คำพูดที่เขาพูดเมื่อตะกี้ จะเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งอย่างคาดไม่ถึง
ส้งชิงเซวี๋ยนรู้สึกว่าไอคิวของตัวเองถูกบดขยี้ไปแล้ว เขาดื่มชาไปหนึ่งคำอย่างรวดเร็วทันที“นายคิดดีแล้ว?”
“ความแค้นที่แสนใหญ่หลวงแบบอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น——”หลงเซียวกำมือแน่น จนเส้นเลือดปูดออกมาจากกระดูก“หลงถิงแย่งภรรยาของพ่อผมไป ทำให้แม่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ที่ตระกูลหลงตั้งสามสิบปี ความแค้นนี้ คุณว่าผมควรจะแก้แค้นคืนไหมล่ะ?”
“……”ส้งชิงเซวี๋ยนพูดไม่ออก
เขากลัวว่าจะทำให้ส้งชิงเซวี๋ยนตกใจ จึงเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นอ่อนโยน“ทำผิดแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ ต้องชดใช้ หลงถิงเป็นผู้ใหญ่ รู้เหตุผลนี้ดี ลุงส้งสบายใจเถอะ เลือดสดๆจะไม่มีทางสาดไปถึงคุณแน่นอน”
เอื๊อก!
ส้งชิงเซวี๋ยนกลืนน้ำชาไปหนึ่งอึก หลังจากที่ช็อกตกใจไปแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาทันที“เซียวเซียว สมแล้วที่นายเป็นลูกชายของตระกูลมู่ เลือดร้อนเชื้อแรงจริงๆ!”
หลงเซียวหันไปมองลั่วหานหนึ่งที ตั้งแต่ต้นจนจบคนที่ละเลยไปไม่ได้ก็คือลั่วหาน เป็นห่วงว่าเธอจะเหนื่อยเกินไปก็เลยอยากจะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ จากนั้นก็ยิ้มอย่างนิ่งๆง่ายๆ
“ลุงส้ง อยู่ต่ออีกหน่อยเถอะครับ รอดูว่าตระกูลมู่ที่ล้มลงไปแล้ว จะลุกกลับขึ้นมาใหม่ยังไง รอดูหลานชายของคุณ ว่าจะกู้ทุกอย่างสิ่งทุกอย่างในตอนนั้นคืนกลับมายังไง”
พอพูดจบ เขาก็ไม่รอให้ส้งชิงเซวี๋ยนแสดงอาการอะไรออกมา เดินก้าวขายาวๆตรงเข้าไปยังกลุ่มคนทันที
ส้งชิงเซวี๋ยนอึ้งตะลึงไปสักพัก หนังตากระพริบๆอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างไม่มีเหตุผล“เส้าเอินเอ๋ยเส้าเอิน ลูกชายที่นายเหลือทิ้งไว้คนนี้มันช่าง……ฮ่าๆๆๆ!ฉันล่ะชอบจริงๆ!”
หลงเซียวเดินไปอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่กำลังส่งเสียงโห่ร้อง คนไม่น้อยเริ่มเต้นรำกัน พวกลั่วหานกำลังพูดคุยกันอยู่ที่โซนอาหาร พอรูปร่างสูงยาวของเขาเดินเข้ามา แรงดึงดูดของคนรอบข้างก็เปลี่ยนไป
ไป๋เวยกับโจวโร่หลินมองหลงเซียวที่กำลังพูดอยู่อย่างเหม่อลอย“ท่านเซียว ตะกี้ที่โกรธจนหน้าแดง ดูเท่ดูหยิ่งมากเลย!”
เกาจิ่งอานยกนิ้วโป้งขึ้น“พี่ ต้นแบบของผู้ชายจริงๆ ขอกราบงามๆ!”
กู้เยนเซินพนมสองมือ โค้งตัวลงอย่างเล่นใหญ่เกินจริง“ขอกราบไหว้เทพบุตร!โค้งคำนับ……”
หลงเซียวสายตาแข็ง“คุณชายกู้?”
กู้เยนเซินเงยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ขอรับ!มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือขอรับ?”
หลงเซียวทำมุมปากเฉียงๆ“ไสหัวไปซะ——”
เหล่าบรรดาผู้คน“……”
หลงเซียวกวักมือเรียกจี้ตงหมิง“ย้ายเก้าอี้มาหนึ่งตัว”
จี้ตงหมิงอึ้งอยู่สักพัก“อ้อ!ครับ!”
จี้ตงหมิงวิ่งเหยาะๆพร้อมกับย้ายเก้าอี้ตัวหนึ่งมาวาง หลงเซียวประคองลั่วหานนั่งลง“ทำไมถึงเอาแต่ยืนล่ะ? ไม่กลัวเหนื่อยหรือไง?”
ลั่วหานยิ้มๆ“ตอนนี้ฉันรวยแล้ว ไม่เหนื่อย แทบจะบินขึ้นมาได้แล้ว”
หลงเซียวหยิกที่ๆจมูกของเธออย่างตามใจ“อู้ว!แม่คนรวยพาผมบินขึ้นไปด้วยคนได้ไหม?”
เกาจิ่งอานเริ่มรับไม่ได้อีกแล้ว“พี่ พวกคุณมาที่พวกเราตรงนี้เพื่ออะไร? พี่คุยกับศาสตราจารย์ส้งอยู่ดีๆแล้วไม่ใช่เหรอ? จิตใจของผมเพิ่งจะรู้สึกดีขึ้นมาเองนะ!”
กู้เยนเซินพยักหน้า“คุณชายหลง เป็นคนต้องรู้จักใจกว้าง”
หลงเซียวพูดขึ้นอย่างจริงจัง“ใช่ เป็นคนต้องรู้จักใจกว้าง แล้วที่พวกคุณยึดครอบครองภรรยาของผมไปไม่ให้ผมมาหา จะอธิบายยังไง?”
เหล่าผู้คน“……”
กู้เยนเซินตัดสินใจไม่คุยกับเขาต่อ อยากจะให้คนดิ้นตายเลยหรือไง!
จากนั้นเขาก็ดึงลั่วหานมาแล้วถามด้วยความตื่นเต้นตกใจและยากที่จะเชื่อ“หมอฉู่ จู่ๆได้ทรัพย์สินทั้งตระกูลของคุณชายหลง รู้สึกตกใจ ดีใจ ประหลาดใจบ้างไหม!รู้สึกถึงการร่ำรวยในชั่วข้ามคืนบ้างไหม?”
ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมามองยิ้มๆ พูดขึ้นอย่างแน่นอนอยู่แล้ว“ของพวกนี้มันเป็นของฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
หลงเซียวขมวดคิ้วตาม มองเธออย่างยิ้มๆ“เป็นของคุณอยู่แล้ว? ทรัพย์สินของผมเป็นของคุณตั้งแต่เมื่อไรกันล่ะ?”
นิ้วมือลั่วหานจิ้มไปที่เสื้อสูทสีน้ำเงินของเขา เธอรักสุดๆที่เขาใส่เสื้อผ้าแบบนี้“ขนาดคุณ คุณหลง คุณยังเป็นของฉันเลย แล้วคุณว่าทรัพย์สินพวกนั้นจะเป็นของใครได้อีกล่ะ?”
เหอะๆ!
เธอพูดขนาดนี้ หลงเซียวใบหน้าเต็มไปด้วยความปิติยินดี“ครับ เป็นของคุณหมดเลย”
เกาจิ่งอานซดไวน์ไปจนหมดในหนึ่งคำ ลากกู้เยนเซินมาพูดโอดโอย“คุณชายกู้ เค้าเจ็บปวดใจเหลือเกิน เค้าขอตัวก่อนล่ะ”
ไป๋เวยถอนหายใจออกมา“ไปตอนนี้? ไม่เอาโร่หลินของเราแล้ว?”
โจวโร่หลินจ้องเขม็ง“ประธานไป๋คุณพูดอะไร? ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา อย่ามาล้อเล่นนะ”
ลั่วหานนั่งลงบนเก้าอี้ ดึงเสื้อสูทของเกาจิ่งอาน“จิ่งอาน อยู่เป็นเพื่อนน้องโร่หลินของพวกเราหน่อยสิ ไปร้องเพลงเต้นรำสักหน่อย”
“ฮ่าๆๆ!เป็นไอเดียที่ดี!มาๆๆๆ ประธานเการ้องให้สักเพลง คืนนี้มีแต่แขกคนสำคัญในวงในทั้งนั้น เรื่องค่าตัวของพวกคุณ รับรองว่าพรุ่งนี้พวกคุณหาได้เป็นกอบเป็นกำแน่นอน”
ไป๋เวยปรบมือโห่ร้อง
ส่วนที่เธอไม่รู้ก็คือ ด้านหลังของกลุ่มคน มีสายตาคู่หนึ่งกำลังหรี่ตาจ้องเธอ อย่างดุร้าย
“พอได้แล้วๆ”เกาจิ่งอานยังเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่นะ
โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของหลงเซียวก็สั่นขึ้นมา เขาล้วงออกมาดูหน้าจอ บนจอปรากฏข้อความหนึ่งข้อความ ส่งมาจากจี้ตงหมิง“เจ้านาย คุณผู้หญิงหายไปแล้ว”
หลงเซียวเก็บมือถือสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ก้มหน้าพูดกับลั่วหาน“คุณภรรยา ผมต้องขอตัวออกไปก่อน”
ลั่วหานมองเขา แล้วก็มองจี้ตงหมิง สีหน้าของสองเหมือนกับไม่ค่อยจะสู้ดีมากนัก“ค่ะ รีบไปรีบกลับ”
หลงเซียวพยักหน้า พูดฝากกับพวกเกาจิ่งอานและกู้เยนเซิน“ช่วยฉันดูเธอให้ดีๆด้วย”
กู้เยนเซินอ้าปาก“แน่นอนอยู่แล้ว ผมจะกอดขาคุณเศรษฐีไว้ให้แน่นเลย!”
ภาพที่ช็อกตกใจที่กล้องของนักข่าวเก็บภาพไว้ได้ แพร่กระจายไปในอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว นักข่าวไม่น้อยเขียนข่าวแพร่กระจายออกไปขณะนั้น
ภาพที่เหมือนกัน ปรากฏขึ้นบนหน้าจอมือถือของหลงจื๋อ
หลงจื๋อที่กำลังไปเดินชอปปิ้งเป็นเพื่อนกับโฉหวั่นชิงและหลินซีเหวินบนถนนสายใหญ่ในนิวยอร์กที่อยู่ห่างไกลออกไป เดินอยู่บนถนนที่คึกคักของนิวยอร์ก ลมหนาวพัดเส้นผมของเขา ปลิวไสว
“ประธานของMBKหย่ากันออกมาตัวเปล่า คุณหมอศัลยกรรมร่ำรวยชั่วข้ามคืน