ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 577
ตอนที่ 577 คุณเป็นคนเริ่มเองนะ
กลางคืน ณ บ้านของถังจิ้นเหยียน
เจิ้งซิ่วหยากับจิ้นเหยียนนั่งอยู่ตรงพื้น ข้างกระจกที่ยาวถึงพื้นของคอนโดทรงสูง ควบคู่กับพระจันทร์ดวงกลมโต
“มา ชนค่ะคุณหมอถัง ดวงจันทร์ของสิบห้ามันจะมากลมตอนสิบหก ดวงจันทร์ของวันนี้มันสว่างมากเลยนะคะ” เจิ้งซิ่วหยานอนอยู่บนเสื่อด้วยความผ่อนคลาย ขาที่เรียวยาวทั้งสองข้างยืดยาวออกไป ปลายเท้าชี้ไปทางจิ้นเหยียน
จิ้นเหยียนไม่ค่อยได้ดื่ม แต่นานๆ จะมีค็อกเทลลงคอสักขวดก็ไม่เสียหายอะไร ยิ่งตอนนี้เขาเองก็อยากจะมอมระบบประสาทของตัวเองอยู่เหมือนกัน
มือซ้ายวางอยู่บนเข่า มือขวายกแก้วขึ้นมา มองไปยังดวงจันทร์ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ไร้คำพูด
เจิ้งซิ่วหยาชนมาที่ขวดแก้วของเขา “ติ้ง” ดังขึ้น “คุณหมอถัง พูดอะไรหน่อยสิคะ”
ถังจิ้นเหยียนยกขวดแก้วขึ้นมาดื่ม จากนั้นก็พิงเข้าที่กำแพงอย่างไร้เรี่ยวแรงและหลับตาลง “จะให้พูดอะไรหล่ะครับ?”
เจิ้งซิ่วหยาใช้ขาสะกิดข้อเท้าของเขา “พูดอะไรก็ได้ค่ะ อย่างเช่น พูดเกี่ยวกับงานที่จะทำหลังจากที่คุณไปอเมริกาแล้วการใช้ชีวิต แนวทางที่คุณวางไว้”
ถังจิ้นเหยียนยกขวดแก้วขึ้นมาดื่มอีก การงาน ชีวิต แนวทางอย่างนั้นเหรอ?
“ไปสอนหนังสือ สอนนักเรียน หลังเลิกเรียนก็เลี้ยงนกสักตัว ปลูกดอกไม้ วันหยุดก็ไปเดินเล่นกับพ่อแม่ อ่านหนังสือ ก็คงประมาณนี้แหละครับ” จิ้นเหยียนรู้สึกขำตัวเอง เขาคิดว่าการใช้ชีวิตแบบนี้มันเหมือนกับคนแก่ที่ปลดเกษียณแล้วเลย
เจิ้งซิ่วหยาสะกิดเขาอีกครั้ง “ฉันว่านะ คุณหมอถัง คุณมีการพัฒนาแล้วนะคะ คุณคิดจะทำตามนั้นจริงๆ ใช่ไหมคะ? คุณนี่ช่างเก่งจริงๆ เลย! มันเป็นชีวิตที่มีเป้าหมาย อย่างน้อยก็ยังคิดที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปล่ะนะ! แล้วคุณตัดสินใจที่จะไม่กลับไปผ่าตัดอีกแล้วใช่ไหม? ต่อไปจะไม่จับมีดหมออีกแล้วใช่ไหมคะ?”
ถังจิ้นเหยียนดื่มเครื่องดื่มหมดไปขวดหนึ่งแล้ว เขาวางขวดเปล่าลงแล้วหยิบขวดใหม่ขึ้นมา เพื่อบริการตัวเอง “การใช้ชีวิตแบบนี้มันไม่ดีตรงไหนครับ? เหมือนบทกวีของโตเกี๋ยม มันก็คงประมาณนั้นแหละ คุณไม่รู้สึกว่ามันดีออกเหรอครับ?”
เจิ้งซิ่วหยาอยากจะตบเขาให้สลบไปเลยจริงๆ อุตส่าห์ดึงตัวมารับบรรยากาศดีๆ แล้วแท้ๆ สมองซื่อบื้อของเขาควรได้สติสักที
“ดีกับผีสิ! ถ้าคุณคิดจะใช้ชีวิตอย่างนั้นจริงๆ หึๆ หนวดรกรุงรัง ไม่ดูแลรักษา เสน่ห์ของคุณจะต้องหายไปจนหมดแน่ๆ ฉันรับประกันได้เลยค่ะว่าจะไม่มีใครเหลียวมามองคุณอีก นางในใจของคุณก็จะมองคุณเป็นเพียงแค่คนข้างทางเท่านั้น!”
ถังจิ้นเหยียนลืมตาขึ้นมา “ถ้าเป็นอย่างนั้นมันยิ่งดีไม่ใช่เหรอครับ? ถ้าต้องมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างนี้ สู้กลายเป็นคนแปลกหน้าไปเลยยังจะดีซะกว่า ต่อไปเรามาเป็นแค่คนที่ไม่รู้จักกันดีกว่า”
“ฮึๆฮึ คนไร้ค่า……คิดจะหลอกใครกัน?”
ถังจิ้นเหยียนเงยหน้าขึ้น “หลอกตัวผมเองไง ได้หรือเปล่าครับ?”
นี่………
ทำเอาบรรยากาศรอบๆ ดูเจ็บปวดไปหมด เจิ้งซิ่วหยาที่อยู่ตรงนั้นก็พูดอะไรไม่ออกแล้ว ถ้ายังพูดกันแบบนี้ต่อไป เธอจะร้องไห้เอาได้นะ
เจิ้งซิ่วหยาเอามือยันพื้นแล้วก็ลุกขึ้น เดินไปตรงที่ถังจิ้นเหยียนนั่งอยู่ นั่งลงข้างๆ เขา จากนั้นก็เอนหัวลงไปพิงอยู่บนไหล่ของเขา “ถังจิ้นเหยียน พ่อแม่ของคุณสบายดีไหมคะ?”
“อืม สบายดีครับ” ถังจิ้นเหยียนดื่มเหล้าไปด้วย
เจิ้งซิ่วหยาถามต่อ “พวกเขาดีกับคุณไหม?”
ถังจิ้นเหยียนตอบ “อืม ดีมากครับ”
เจิ้งซิ่วหยาถามต่อ “แล้วคุณล่ะทำดีกับพวกเขารึเปล่า? กตัญญูกับพวกเขาไหม?”
ถังจิ้นเหยียนไม่รู้จะตอบยังไง ก็คงใช่มั้งครับ ผมอยู่เมืองจีนจึงไม่ค่อยได้กลับไปเท่าไหร่” เหล้าขวดที่ห้าหมดไป ถังจิ้นเหยียนเริ่มรู้สึกเมาแล้ว
เจิ้งซิ่วหยาดึงมือของเขาเข้ามาในอ้อมแขน “แล้วพวกเขาบังคับให้คุณแต่งงานแล้วรึยังคะ? คุณเองก็ไม่ได้อายุน้อย ถึงช่วงอายุที่จะแต่งงานแล้ว ถ้าคุณกลับไปเพียงลำพังแบบนี้คุณไม่กลัวพวกเขาจะซักถามบีบบังคับเหรอคะ? พ่อแม่สมัยนี้ร้ายกาจจะตายไป พวกเขาชอบจัดเตรียมสาวเล็กสาวใหญ่ไว้ให้คุณ สรรหาผู้หญิงหลากหลายรูปแบบให้มาแต่งงานกับคุณ คุณลองคิดดูสิว่ามันน่ากลัวขนาดไหน!”
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว “เรื่องแบบนี้ผมยังไม่เคยเจอนะครับ ที่อเมริกาเขาไม่ชัดเจนแบบนี้”
เจิ้งซิ่วหยาเอนตัวมาทางเขา ค่อยๆ ขยับขาให้ไขว่กัน “แต่พ่อแม่ของคุณเป็นคนจีนนะ แล้ววันไหว้พระจันทร์ก็เพิ่งผ่านไป พ่อแม่ของคุณต้องได้รับแรงกระตุ้นแน่ บ้านอื่นเขาร่วมเทศกาลกันอย่างพร้อมหน้า ลูกหลานเต็มบ้าน แล้วคุณล่ะชายสูงวัยเพียงคนเดียว คุณลุงคุณป้าเขาคงเหงาแย่เลย!”
ถังจิ้นเหยียนก้มมองเจิ้งซิ่วหยาที่กำลังใช้ต้นขาของเขาทำเป็นหมอนอยู่ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเธอถึงได้ใจใหญ่ขนาดนี้ “แล้ว?”
เจิ้งซิ่วหยาเด้งตัวขึ้นมานั่งในทันที ใช้มือตบๆ ที่หน้าอกของตัวเอง “ดังนั้น เพราะฉันเป็นคนที่ช่วยคุณออกมาจากจุดที่ย่ำแย่ที่สุดนะ! เอ้า เอานี่ไป!”
เจิ้งซิ่วหยาหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งออกจากกระเป๋าเสื้อ ยัดไว้ในมือของเขา
รูปที่เจิ้งซิ่วหยาให้มามันค่อนข้างมีผลต่อหัวใจของเขา แต่คำพูดที่เธอพูดมามันยิ่งส่งผลมากกว่า
“พวกนี้คือรูปของแม่สาวอย่างฉัน เอาไปติดไว้ในห้องของคุณ แล้วมันจะช่วยให้คุณเจริญก้าวหน้า! ฉันไม่ว่าอะไรถ้าคุณจะใช้ฉันไปเป็นโล่ เกิดพ่อแม่ของคุณอยากจะบังคับคุณขึ้นมา คุณก็เอาฉันออกมาเป็นเทพธิดาไว้ปกป้องคุณแล้วกัน ฮาๆฮา!”
ถังจิ้นเหยียนหมดคำพูด แล้วคืนรูปให้เธอไป “ไม่เป็นไรครับ แล้วผมจะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจเองครับ”
“ไม่เอาอย่างนั้นเหรอคะ?”
“ไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณ”
เจิ้งซิ่วหยานอนหงาย เชิดหน้าอกขึ้น “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็เอามันใส่กลับไปที่เดิมเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นก็เอาไป!”
ดวงตาที่เงางามของเธอกำลังกระพริบอย่างได้ใจ
ถังจิ้นเหยียนมองตามไป ก็เห็นเข้ากับกระเป๋าเสื้อที่กำลังกระพืออยู่ จากนั้นก็รีบละสายตาไปทางอื่น “ซิ่วหยา นี่คุณ……”
“ไม่กล้าเหรอคะ? ดูคุณสิ แม้แต่ฉันยังเอาชนะไม่ได้ ยังจะกล้าไปต่อกรกับป้าๆ ในสวนสาธารณะอีก? เจียมตัวหน่อยค่ะคุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแม่คุณหรอก ตอนนี้ป้าๆ ชาวจีนเขาครองโลกแล้วค่ะ! รูปนั้นให้คุณยืม เผื่อว่าพ่อแม่ของคุณเกิดถูกใจฉันขึ้นมาฉันก็คุ้มนะ!”
เธอแตะไปที่ขวดในมือเขาด้วยความสดใส เธอต้องการแต่งงานกับเขา ก็เธอชอบเขา ในเมื่อทางตรงไม่ได้ ก็ต้องลองทางอ้อมดู!
ถังจิ้นเหยียนทนไม่ไหวจนต้องยิ้มออกมา แต่ก็ส่ายหน้าไปด้วย “ถ้าคนที่ผมเจอก่อนเป็นคุณ บางทีผมอาจจะชอบคุณก็ได้นะครับ”
เจิ้งซิ่วหยาดีดนิ้วดังเปาะ “จริงเหรอคะ? งั้นโอเค คุณไม่เคยได้ยินเหรอค่ะ? ว่ามาก่อนถึงหลัง! ในละครก็มักจะเป็นแบบนี้ ช่วงแรกจะเป็นแค่บททดสอบ แต่คนที่มาทีหลังต่างหากที่เป็นของจริง”
ถังจิ้นเหยียน “……”
เพ้อเจ้อหน่า
เจิ้งซิ่วหยาดื่มเยอะไปแล้ว ใบหน้าแดงก่ำ ตอนเธอยิ้มออกมาก็ดูน่ารักดี เธอยังคงกำมือของถังจิ้นเหยียนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ทำหน้าจริงจัง เริ่มพูดจากเลอะเทอะแล้ว “ถังจิ้นเหยียน ต่อไปถ้าคุณไปอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของโลกแล้ว คุณห้ามลืมคิดถึงฉันนะ อย่าเอาแต่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงดอกไม้ล่ะ ความจริงเลี้ยงดูฉันมันดีจะตาย”
ถังจิ้นเหยียน “……”
“ต่อไปถ้าฉันอยากดื่มก็ไม่มีคนให้ดื่มด้วยแล้ว ช่วงเทศกาลต่างฉันให้ฉันวิดีโอคอลหาคุณได้ไหมคะ?”
ถังจิ้นเหยียน “……”
เจิ้งซิ่วหยาหนุนลงที่ไหล่ของเขา ดวงตาที่เป็นประกายจ้องมองไปยังดวงตาของเขาที่กำลังเจ็บปวดอยู่ ชายหนุ่มที่สง่างามทุกครั้งที่แววตาเคลื่อนไหวมันช่างดูมีเสน่ห์เหลือเกิน
“ถังจิ้นเหยียน?”
ดวงตาดวงโตของเจิ้งซิ่วหยามองมาที่เขา ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาเองก็ขยายขึ้นทีละนิด หยดน้ำคริสทัลกำลังสั่นไหว
“หือ? มีอะไรครับ?”
ดวงตาดวงโตของเจิ้งซิ่วหยาที่กำลังจ้องมองมาที่เขา เขาที่อยู่ในนั้นตัวใหญ่มาก
เจิ้งซิ่วหยาเหวี่ยงมือที่กำแขนของเขาอยู่ ขยับตัว กดเขาไว้เบื้องหน้า เธอจู่โจมด้วยความรวดเร็ว ริมฝีปากสีชมพูอยู่ตรงหน้าเขา ค้างอยู่อย่างนั้น “คุณจูบฉันค่ะ!”
ถังจิ้นเหยียนตกตะลึง ยกมือขึ้นมากันริมฝีปากของเธอที่กำลังเข้าใกล้ เขาถอดออกมาประมาณสิบเซ็นต์ จนหัวชนเข้ากับกำแพง “ซิ่วหยา คุณดื่มมากไปแล้ว ให้ผมส่งคุณกลับก่อนนะ”
เจิ้งซิ่วหยาขำออกมา กลิ่นแอลกอฮอล์ที่อยู่ในปากได้เติมเต็มช่องว่างระหว่างทั้งสองคน เธอเสยคางของถังจิ้นเหยียนด้วยความมาดเท่ เล็งไปที่ริมฝีปากของเขาด้วยความก้าวร้าว “ถังจิ้นเหยียน วันนี้เป็นวันเทศกาลนะคะ คุณไม่คิดจะให้ของขวัญฉันหน่อยเหรอ?”
ถังจิ้นเหยียนไม่รู้จะพูดอะไร “เทศกาลมันผ่านไปแล้วนะคะ”
“ฉันไม่สน! ยังไงฉันก็จะเอาของขวัญ วันไหว้พระจันทร์ วันชาติ วันปีใหม่ วันคริสต์มาส วันตรุษจีน วันวาเลนไทน์ ฉันจะเอาทุกๆ เทศกาลเลยค่ะ”
ถังจิ้นเหยียนใช้มือผลักระยะห่างของทั้งคู่ออก จับเอวของเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอเข้าใกล้มากกว่านี้ “ซิ่วหยา คุณเมาแล้วจริงๆ เดี๋ยวผมไปเอาลูกอมมาช่วยให้คุณกินเพื่อสร่างเมานะครับ”
“สร่างกับผีสิ! ฉันไม่ได้เมาเลยสักนิด ถังจิ้นเหยียน คุณฟังฉันให้ดีๆ นะ ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อน ฉันยิ่งไม่เคยได้รับช่อกุหลาบจากใครเลย ไม่เคยได้รับของขวัญ ฉันอยู่อย่างหมาหัวเน่ามายี่สิบกว่าปีแล้วนะ แล้วคุณจะยอมรับรักฉันสักเดี๋ยวนึงก็ไม่ได้เหรอคะ?”
เจิ้งซิ่วหยายิ่งพูดยิ่งอารมณ์ขึ้น ฝ่ามือของเขาวิ่งวนไปทั่ว จนแอลกอฮอล์กระเด็นมาเลอะตัวเธอ เสื้อผ้าของเธอเปียก
ถังจิ้นเหยียนใช้แรงหยุดมือทั้งสองข้างของเธอไว้ “พอแล้วพอแล้ว คุณลุกขึ้นมาแล้วไปนอนพักที่โซฟาก่อนครับ”
แต่เจิ้งซิ่วหยากลับทำตัวเหมือนลูกหมาโผเข้าไปในอ้อมกอดของเขา กำคอเสื้อของเขาเอาไว้แน่ๆ “ถังจิ้นเหยียน ถ้าคุณไม่ยอมจูบฉัน งั้นฉันจะจูบคุณเองค่ะ”
“……” ใบหน้าที่งดงามของถังจิ้นเหยียนอึ้งไป
เจิ้งซิ่วหยาทำเหมือนร่างกายของถังจิ้นเหยียนเหมือนกับต้นไม้ เธอเริ่มปีนตั้งแต่ขาขึ้นไป ทำปากจู๋เข้าไปหาริมฝีปากของเขา ระยะห่างค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ เจิ้งซิ่วหยาเงยหน้าขึ้น “ถังจิ้นเหยียน คุณดูดีเกินไปแล้ว”
ถังจิ้นเหยียนบิดข้อมือของเจิ้งซิ่วหยาในทันที “เจิ้งซิ่วหยา พอได้แล้ว!”
เจิ้งซิ่วหยาทรุดตัวลงพื้นในทันที หยิบมือถือขึ้นมา “คนที่คุณอยากเจอมากที่สุดในตอนนี้คือฉู่ลั่วหานใช่ไหมคะ? ได้ ฉันจะโทรหาเธอเอง!”
นิ้วของเจิ้งซิ่วหยาวิ่งกันพัลวัน หน้าจอที่คมชัดได้แสดงเบอร์โทรหนึ่งที่ถูกโทรออกไปแล้ว
“เอามือถือมาให้ผมนะ!” ถังจิ้นเหยียนคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะโทรหาลั่วหานจริงๆ พอเขารู้ตัวมันก็สายเกินไปแล้ว
เนื่องจากเจิ้งซิ่วหยาเป็นตำรวจการตอบสนองจึงดีกว่าคนทั่วไป เธอจึงหลบออกจากถังจิ้นเหยียนได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นเธอก็ขำออกมาอย่างมึนเมา “โทรติดแล้ว!”
ถังจิ้นเหยียนใช้มือข้างหนึ่งกุมขมับ “นี่คุณ……”
ลั่วหานรู้สึกแปลกใจ ในเวลาแบบนี้เจิ้งซิ่วหยาจะโทรหาเธอทำไม เธอหันไปจ้องตากับหลงเซียวทีหนึ่ง แล้วรับสาย “คุณตำรวจเจิ้งคะ ที่ธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”
เจิ้งซิ่วหยา “เอ่อ__” เรอออกมาอย่างเสียงดัง “คุณหมอฉู่คะ ฉันคือเจิ้งซิ่วหยานะคะ ตอนนี้ฉันกำลังอยู่กับถังจิ้นเหยียนนะคะ”
ลั่วหานขมวดคิ้ว “หือ? พวกคุณกำลังดื่มกันอยู่เหรอคะ?”
ดื่มเหล้า?
หลงเซียวยิ้มออกมาอย่างไร้สุ้มเสียง
เจิ้งซิ่วหยาตบพื้นดังป๊าบๆๆ “อื้ม! เรากำลังดื่มกันอยู่ค่ะ ถังจิ้นเหยียน ผู้ชายที่แสนเท่คนนี้กำลังจะไปแล้วค่ะ เขากำลังจะไปแล้ว!”
เจิ้งซิ่วหยาตะโกนออกมาเสียงดัง ลั่วหานเอามือถือออกห่างจากหู จากนั้นก็ถามไปว่า “เขาจะไปวันไหนคะ? เขาเคยบอกฉันว่าอีกสักพักถึงจะไป ทำไมถึงเลื่อนเข้ามาเหรอคะ?”
ลั่วหานวางหนังสือลง แล้วตั้งใจฟังคำตอบจากทางนั้น
เจิ้งซิ่วหยาเงยหน้าขึ้น แล้วปัดมือของถังจิ้นเหยียนออกไป “ใช่ค่ะ เลื่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงมีอะไรอยากพูดกับคุณค่ะตลอดเวลาที่ผ่านมาในใจของถังจิ้นเหยียนเขา เขา……อุ๊บ!”
“รักคุณ!” สองพยางค์นี้ เจิ้งซิ่วหยาไม่ได้พูดออกไป เพราะปากที่พูดจามั่วซั่วของเธอถูกถังจิ้นเหยียนปิดตายไปแล้ว
ในช่วงเวลาคับขัน ถังจิ้นเหยียนก็รู้สึกร้อนรน ไม่สามารถคิดวิธีที่ดีกว่านี้ออกแล้ว จึงได้ใช้วิธีที่โง่เง่าที่สุดตอบโต้ไปโดยการใช้ปากของเขาไปอุดปากเธอไว้!
“อุ๊บ!”
ถังจิ้นเหยียนที่อ่อนด้อยประสบการณ์ จึงใช้แรงทั้งหมดที่มีจู่โจมเข้าไป ฟันหน้าของเขากระแทกเข้าที่ริมฝีปากของเธออย่างจัง ทำเอาอีกฝั่งถึงกับเจ็บเลย
“ขอ……” โทษ คำต่อท้ายไม่ได้ถูกพูดออกมา ท้ายทอยของถังจิ้นเหยียนถูกเจิ้งซิ่วหยาใช้มือกอดไว้แน่น
เจิ้งซิ่วหยาเคลื่อนไหวร้อนแรงขึ้น รุนแรงขึ้น เธอขยับปากให้ลงล็อก อุณหภูมิที่ร้อนแรงกำลังเผาไหม้กล้ามเนื้อและริมฝีปาก เธอยิ้มแล้ว จากนั้นก็พูดด้วยความได้ใจว่า “ถังจิ้นเหยียน คุณเป็นคนเริ่มก่อนแล้วจะมาโทษฉันไม่ได้นะคะ”