ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 584
ตอนที่ 584 เพียงแค่คุณช่วยฉัน อะไรล้วนยินยอม
เด็กชายที่อยู่ในเอกสาร บังเอิญเป็นลูกชายของเสิ่นคั่วกับจ้าวฟางฟาง
ลั่วหานเคยเสริ์ซหาประวัติการรักษาของเขาอยู่บนอินเทอร์เน็ต อาการของอานอานรักษายากกว่าเถียนเถียน ดังนั้นจ้าวฟางฟางจึงคิดทุกวิธีที่จะคุยกันกับหวังเค่ย
“ฉันรู้จักเด็กชายคนนี้ แต่ว่าครั้งก่อนตอนที่รักษาโรคให้กับเถียนเถียนคือศาสตราจารย์ส้ง ไม่ใช่ฉันเลย” ลั่วหานพูดตรงไปตรงมา
คณบดีเฉินรีบยิ้มพูดว่า “ดังนั้นผมจึงมาหาคุณ ความสัมพันธ์ของคุณกับศาสตราจารย์ส้งใกล้ชิดมาก เพียงแค่คุณออกหน้าเรียนเชิญ ศาสตราจารย์ส้งจะต้องมาโรงพยาบาลหวาเซี่ยอย่างแน่นอน”
หัวใจของอานอานเริ่มล้มเหลว ปัจจุบันนี้กำลังอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองเจียงเฉิง สัญญาณชีพของเด็กไม่มั่นคงอย่างมาก
ลั่วหานชะงักแล้วว่า “คณบดีเฉินศาสตราจารย์ส้งรักษาโรคล้วนตามใจตนเอง ฉันไม่สามารถตัดสินใจแทนเขาได้”
“เพียงแค่คุณยอมพูดอะไรแทนคนไข้ ยังมีจะมีความหวังมากอยู่นะ!”
คำพูดอาจจะไม่ผิด แต่ว่าผู้หญิงอย่างจ้าวฟางฟาง…….
……
ลั่วหานเดินออกจากออฟฟิศคณบดี กลับไปถึงห้องผู้ป่วยนอกเธอตกสู่ความลำบากใจ
คนอย่างจ้าวฟางฟางตายแล้วก็ไม่เสียดาย แต่ว่าเด็กไหนๆก็บริสุทธิ์
กริ้งกริ้งกริ้ง โทรศัพท์ลั่วหานดังขึ้นแล้ว
เพิ่งพูดถึงโจโฉ โจโฉ ก็มาจริงๆ สายที่เข้ามาพอดีจ้าวฟางฟาง
ลั่วหานรับสาย “มีเรื่องอะไรหรือ?”
จ้าวฟางฟางนั่งอยู่ข้างหน้าหน้าต่างของห้อง I.C.U ในโรงพยาบาลเมืองเจียงเฉิง น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยเสียงสะอื้นอย่างชัดเจน “ฉู่ซีหราน ฉันหวังว่าคุณจะช่วยลูกชายของฉัน…….”
เหอะๆ ตอนนี้รู้จักเจียมตัวลงแล้วหรือ? ตั้งแต่แรกทำอะไรอยู่ล่ะ?!
ลั่วลั่วเปิดคอมพิวเตอร์ตรวจดูประวัติคนไข้ มือถือเหน็บอยู่บนไหล่ “โอ๊ะ? เจ้าชายน้อยเป็นยังไงแล้วล่ะ?”
จ้าวฟางฟางทั้งเช็ดน้ำตา ทั้งอธิบายอาการของลูกชายอีกรอบ พูดต่ออีกว่า “หมอฉู่ ครั้งก่อนอยู่โรงพยาบาลหวาเซี่ยคือความผิดของฉัน คุณกับคุณหลงอยู่ในงานเลี้ยงของตระกูลเสิ่น ก็เป็นความผิดของฉัน แต่ว่าฉันขอร้องคุณให้โอกาสฉันอีกครั้ง! ขอร้องคุณ! คุณนายหลง!”
ลั่วหาน เหอะ เบาๆหนึ่งที พูดอย่างเย็นชาว่า “คุณนายเสิ่น ฉันเป็นเพียงแค่หมอเถื่อนคนหนึ่ง ก็เหมือนอย่างที่คุณพูด คนอย่างฉันไม่คู่ควรรักษาโรคให้ใคร เจ้าชายน้อย ร่างกายบอบบางสูงส่ง อย่าฝากเนื้อฝากตัวกับฉันเลย”
จ้าวฟางฟาง ฮือๆ สะอื้น “คือความผิดของฉัน ล้วนเป็นความผิดของฉัน หมอฉู่ คุณช่วยลูกชายของฉันเถอะ คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ขอให้คุณช่วยเหลือเขา! เขาเพิ่งจะสองปีกว่า ฮือๆๆ!”
ลั่วหานขมวดคิ้วแน่น เผชิญหน้ากับชีวิตเล็กๆที่เพิ่งสองปีกว่าคนหนึ่ง ในใจของหมอคนหนึ่งล้วนจะต้องถูกสั่นไหว ตอนนี้ลั่วหานยังตั้งครรภ์อยู่ ยิ่งเข้าใจถึงความรักของแม่คนหนึ่งที่มีต่อลูกตนเองรุนแรงมากขนาดไหน
แต่ ลั่วหานพูดอย่างเย็นชาเหมือนเดิมว่า “คุณนายเสิ่น ฉันไม่รู้สึกเลยว่าคุณจะสามารถช่วยฉันทำอะไรได้”
“ไม่! ฉันทำได้! ฉันรู้ว่าเสิ่นคั่วกำลังร่วมมือกับบริษัท MBK……..เขาอยากจะวางหมากในบริษัท MBK เพียงแค่คุณรับปากจะรักษาลูกชายของฉัน ฉันยินดีที่จะส่งข่าวข้อมูลธุรกิจการค้าของตระกูลเสิ่นให้คุณ”
โอ้ว? ไอคิวของจ้าวฟางฟางยังถือว่าไม่ต่ำ!
ลั่วหานวางเมาส์ลง หยิบมือถือขึ้นมาเดินไปข้างหน้าหน้าต่าง นี่จึงไม่รีบไม่ร้อนพูดว่า “เกี่ยวอะไรกับฉันหรือ? สามีของฉันออกจากบริษัท MBK ไปแล้ว เงื่อนไขของคุณไม่ยั่วยวนคนเลย”
ไม่คาดคิดว่าจ้าวฟางฟางรู้การเคลื่อนไหวธุรกิจการค้าของเสิ่นคั่ว คนคนนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมากสักหน่อย
“ฉันย่อมรู้แน่นอน แต่ว่าในมือของคุณยังมีหุ้นของบริษัท MBK ไม่ใช่หรือ? ถ้าหากว่าบริษัท MBK เกิดวิกฤติขึ้นมา หุ้นของคุณก็จะกลายเป็นเศษกระดาษ เพียงแค่คุณช่วยเหลือลูกชายของฉัน ฉันสามารถบอกกับคุณในสิ่งที่ฉันรู้ทั้งหมด อีกทั้งวันหลังฉันจะเป็นไส้ศึกให้คุณ เฝ้าดูตระกูลเสิ่น” จ้าวฟางฟางจ้องมองลูกชายที่สลบไสลอยู่บนเตียง รู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวอย่างแท้จริง!
ดังนั้นเธอยินยอมทุ่มสุดตัวในการเสี่ยงวัดดวงครั้งสุดท้าย
เหอะ!
ลั่วหานลองพูดว่า “ลองพูดสิ ปัจจุบันนี้คุณรู้อะไรบ้าง ให้ฉันเห็นถึงความจริงใจของคุณ”
จ้าวฟางฟางจับโอกาสนี้ไว้อย่างแน่นไม่ยอมปล่อยมือ “ได้! ตอนนี้ฉันจะบอกกับคุณ”
ลั่วหานมือกอดอก พิงอยู่หน้าหน้าต่าง บางทีขมวดคิ้วบางทีตื่นตะลึง ได้ฟังข่าวสารทั้งหมดของจ้าวฟางฟางจบ
ช่างสนุกจริงๆนะ ไม่คาดคิดว่าเสิ่นคั่วกำลังคิดแผนการแบบนี้อยู่!
ดีมาก ตระกูลเสิ่นก็ไม่ใช่เล่นๆ
“ตอนนี้ คุณยอมช่วยลูกชายของฉันรึยัง?” เสียงของจ้าวฟางฟางอ่อนลง เฝ้ารอคอยคำตอบของลั่วหาน
ลั่วหานเงียบไปสักพัก “ได้ ฉันเตรียมห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาลหวาเซี่ยให้คุณพาลูกเข้ามา ”
จ้าวฟางฟางดีใจจนร้องไห้ “จริงหรือ? คุณรับปากแล้ว! ขอบคุณมาก หมอฉู่ขอบคุณมาก!”
แปลกประหลาดแล้ว จ้าวฟางฟางอยู่ดีๆกลายเป็นว่ามีความเป็นมนุษย์ขนาดนี้หรือ? ถูกความเจ็บป่วยของลูกกล่อมเกลาแล้ว? หรือว่าฝีมือการแสดงเหมือนเกินไปจริงๆ?
ใบหน้าที่เย็นชาของลั่วหานไม่มีความดีใจเลย “คุณนายเสิ่น คุณกับฉันเพียงแต่ได้รับความต้องการเท่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน ฉันช่วยรักษาโรคให้ลูกชายคุณ คุณทำงานให้ฉัน คุณกับฉันล้วนเป็นปีศาจพันปี ใครก็ไม่ต้องเห็นใครเป็นผู้ใจบุญ”
จ้าวฟางฟางขอบพระคุณบารมีอย่างมากเหมือนเดิม “ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ฉันยังต้องขอบคุณคุณมาก”
“เหอะๆ คำขอบคุณก็ไม่ต้องแล้ว คุณนายเสิ่นก็อย่าคิดไม่ดีกับลูกสาวของตนเองก็พอแล้ว! ลูกแท้ๆของตนเอง คุณช่างไม่เสียดายจริงๆ!” ลั่วหานกัดฟัน ส่อเสียดเย็นชา
ทันทีนั้นจ้าวฟางฟางตื่นตะลึง “คุณพูดอะไรหรือ?”
“สิ่งที่ฉันพูด คุณล้วนเข้าใจ”
ลั่วหานกดปุ่มวางสายลง จ้องมองไปยังทิวทัศน์ข้างนอกหน้าต่างอยู่ตัวคนเดียว จ้าวฟางฟางถึงขนาดมาขอร้องเธอรักษาโรคให้กับอานอานอย่างงั้นเธออยู่ที่หวังเค่ยนั่นได้รับการตอบกลับไม่ดี เช่นนี้ดูแล้วอย่างน้อยเถียนเถียนก็ปลอดภัยแล้ว
แต่ว่า เธอก็ต้องขอร้องตาเฒ่าน้อยอย่างหน้าด้านๆอีก คิดแล้วก็น่าอึดอัดใจ
วางสายโทรศัพท์แล้ว ลั่วหานดูในข้อความมีข้อความยังไม่อ่านอันหนึ่ง ข้างหน้าหลายข้อความเป็นของหลงเซียว
“ลั่วลั่ว คืนนี้ผมทำโอที”
เอาเถอะ ตั้งแต่เขาไปบริษัทฉู่ซื่อ แทบจะทำโอทีทุกวัน
“ลั่วลั่ว หุ้นของบริษัทฉู่ซื่อกับบริษัทโม่ซื่อผมวางแผนแบ่งใหม่แล้ว รายละเอียดการแบ่งของสิบหุ้นในมือคุณส่งไปยังอีเมลย์ส่วนตัวของคุณแล้ว”
คนคนนี้นะ! ก็พูดไปแล้วเรื่องของบริษัทสิทธิการตัดสินใจเป็นของเขาทั้งหมด ไม่ต้องผ่านความคิดเห็นของเธอ ก็ไม่ต้องรายงานเธอเช่นกัน
“ลั่วลั่ว คุณยุ่งอยู่หรือ? ทำไมไม่ตอบข้อความล่ะ?”
คุณหลงที่น่ารัก ลั่วหานยิ้มแล้วยิ้มอีก
“ภรรยาจ๋า ต้องกินข้าวแล้ว ผมไปกินข้าวนะ”
อ่านถึงตรงนี้ ในใจอบอุ่น ลั่วหานพิงโต๊ะตอบกลับไปหนึ่งข้อความ
“ได้ค่ะ รับทราบทั้งหมด”
ตอบกลับจบ หลินซีเหวินวิ่งเข้ามาแล้ว
“หมอฉู่ หมอถังไม่อยู่ เวรของการผ่าตัดดูเหมือนแบ่งไม่ค่อยได้แล้ว การผ่าตัดบายพาสในช่วงบ่ายวันนี้คุณทำได้ไหม? หมอหวังกับหมอเจิ้ง รับแทนหมอถัง มาไม่ได้”
หลินซีเหวินดูเหมือนรีบร้อนมาก ในมือยังหอบข้อมูลการตรวจก่อนผ่าตัดของคนไข้อยู่
ลั่วหานกดหน้าจอมือถือกดแล้วกดอีก การผ่าตัดบายพาสใช้เวลาไม่นาน แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนเธอไม่ค่อยสะดวกเล็กน้อย “หวาเทียนล่ะ? ให้เขาทำการผ่าตัด คุณเป็นผู้ช่วยเขา ไปหาหมอหลี่ที่แผนกวิสัญญีวิทยา ฉันรับผิดชอบชี้นำ”
หลินซีเหวินจิตใจหดหู่ก่อน แล้วก็ตื่นเต้นดีใจ “คุณชี้นำด้วยตนเองหรือ?”
“คำพูดไร้สาระ ถ้าไม่ใช่ด้วยตัวฉันเอง หรือว่าฉันยังจะแยกร่างได้หรือ?” ลั่วหานยักคิ้วเยาะเย้ยเธอ
หลินซีเหวินหัวเราะ เฮอะๆ “นั่นก็ดีมากแล้ว! แต่ว่า……หมอฉู่อยู่ดีๆคุณทำไมก็ไม่ทำการผ่าตัดแล้วล่ะ?”
ตอนนี้ลั่วหานตั้งครรภ์สองเดือนกว่าแล้ว ผลการตรวจครรภ์ครั้งล่าสุดดีมาก เด็กพัฒนาอย่างปกติ ข้อมูลทุกอย่างล้วนมาตรฐาน ดังนั้น ลั่วหานดึงมือหลินซีเหวิน วางไว้อยู่ท้องน้อยของตนเอง “สัมผัสสักหน่อย”
หลินซีเหวินตกตะลึงจนอ้าปากค้าง “อ่า? หมอฉู่คุณตั้งครรภ์แล้วหรือ?”
ลั่วหานอดไม่ได้ดีใจจนริมฝีปากสีชมพูงอขึ้น รู้สึกถึงความอบอุ่นที่จะเป็นแม่อย่างเต็มเปี่ยม “อืม ยังเหลืออีกสามอาทิตย์ก็สามเดือนแล้ว หมอหลิน คุณจะเป็นคุณป้าแล้ว”
หลินซีเหวินยื่นปากว่า “แฮ่แฮ่ คนที่ดีใจที่สุดก็คือท่านเซียวล่ะ! แต่ว่าฉันก็ดีใจเช่นกัน! ถ้าหากว่าหลงจื๋อรู้แล้วก็ยิ่งจะดีใจแน่นอน! เขานะชอบเด็กที่สุดเลย!”
พูดถึงหลงจื๋อ ลั่วหานพูดว่า “เขาอยู่อเมริกาเป็นยังไงแล้วล่ะ? ปัจจุบันนี้บริษัท MBK ต้องการเขากลับมาควบคุมสถานการณ์โดยรวม หรือว่าเขายังไม่ยอมที่จะกลับมาหรือ?”
หลินซีเหวินส่ายหัว “เขาตัดสินใจแล้ว จากนี้ไปก็จะอยู่ที่อเมริกา เปิดร้านร้านหนึ่งอย่างง่ายๆ ชีวิตผ่านไปอย่างสงบ อำนาจการสืบทอดของบริษัท MBK เขาไม่เอาแล้ว” โอ้ว? ไม่คาดคิดว่าจะเป็นเช่นนี้?!
ลั่วหานจ้องมองนาฬิกาแขวนหนึ่งที “ไปกินข้าวเถอะ ฉันเลี้ยงข้าวคุณ”
หลินซีเหวินพยักหน้า พอดีอยากจะหาโอกาสคุยกับเธอสักหน่อย “หมอฉู่ ฉันมีหลายเรื่องอยากจะถามคุณ เรื่องมากมายที่คุณมีประสบการณ์มากกว่าฉัน ฉันอยากจะฟังความคิดเห็นของคุณ”
“ได้แน่นอน คุยกันตอนกินข้าวนะ”
ตอนที่ออกเดินทาง ลั่วหานก็ส่งข้อความที่สองให้กับหลงเซียวอีก
“สามีจ๋า เสี่ยวจื๋อตัดสินใจไม่กลับมาสืบทอดบริษัท MBK ต่อ เขาไม่อยากยุ่งกับความวุ่นวายใดๆของบริษัท MBK ก็ทำให้เขาสมหวังดีกว่าไหม เขาคือเด็กที่ใจบริสุทธิ์เรียบง่ายคนหนึ่ง ฉันก็ไม่อยากเห็นเขาถูกอ่างย้อมสีขนาดใหญ่ของบริษัท MBKทำให้กลายเป็นคนไม่ดี”
ลองคิดดูสิ ทันทีที่เขาเริ่มแข่งขันกับพี่ชายใหญ่ของตนเองจริงๆ ในระหว่างนี้ไม่มีเข่นฆ่าโรมรันที่มีแต่เขม่าควันปืน จะกลายเป็นสภาพแบบไหนล่ะ? ใครจะรู้ได้หรือ?
หลงเซียวที่อยู่ในบริษัทฉู่ซื่อ หยิบมือถือขึ้นมา สายตาหยุดอยู่ที่บนหน้าจอสักพัก ไม่ได้ย้ายออกไป
กู้เยนเซินโบกมือแล้วโบกมืออีก “คุณชายหลง?”
“อืม?” หลงเซียวคืนสติอย่างกะทันหัน “เป็นยังไงแล้วล่ะ?”
กู้เยนเซินเบ้ปาก “คุณถามผมว่าเป็นยังไงแล้วหรือ? เมื่อกี้วิญญาณของคุณล้วนออกจากร่างแล้ว ผมยังอยากจะถามคุณว่าเป็นยังไงล่ะ”
หลงเซียวยื่นมือถือให้เขา “เมื่อกี้ลั่วหานบอกเกี่ยวกับเสี่ยวจื๋อ”
กู้เยนเซินจ้องมองหนึ่งที ลมหายใจ ฮึ เย็นชาหนึ่งที “คุณรู้สึกว่าเป็นไปได้หรือ? ถึงแม้ว่าคุณไม่เรียนเชิญเขากลับมาด้วยตัวเอง คุณรู้สึกว่าหลงถิงกับแม่แท้ๆของเขาจะยินยอมหรือ? เหอะๆๆ เด็กไร้เดียงสาจริงๆล่ะ! อยากจะหลบอยู่ในอ้อมอกไม่ยินยอมที่จะเติบโตมาโดยตลอด เขาอยากจะเป็นปีเตอร์แพน อเมริกาก็ไม่ใช่ สถานที่ที่สุขสบายของเขา”
หลงเซียวยิ้มอย่างบังคับเล็กน้อย “คนที่ผมไม่อยากทำร้ายที่สุดคือเสี่ยวจื๋อ ถ้าหากว่าทำได้ ผมยินดีที่จะช่วยเขาสมปรารถนา”
“ยกเลิกเถอะ คุณไอ้หมอนี่ก็อย่ากังวลเลย หลงจื๋อไม่ช้าก็เร็วก็ต้องกลับมา ความอดทนของหลงถิงมีจำกัด ตอนนี้เขาก็กำลังทรมานหลงจื๋ออยู่”
หลงเซียวเหล่มองเขาหนึ่งที “คุณไอ้หมอนี่?”
กู้เยนเซินแยกเขี้ยว เหอะๆ “ผมจะต้องเก็บออร่าของผมกลับมา ไม่อย่างนั้นภรรยาผมก็จะหลงใหลคุณไปแล้ว ดังนั้น คุณไอ้หมอนี่วันหลังเจียมตัวหน่อย”
เหอะๆ
หลงเซียวไม่ค่อยใส่ใจ “แล้วแต่คุณ ทำต่อไปเถอะ แผนบูรณาการทรัพยากรเอามาให้ผมดูหน่อย เมื่อกี้พูดถึงไหนแล้วล่ะ?”
กู้เยนเซินเอาแฟ้มเอกสารสีดำให้เขา จ้องมองหลงเซียวหลายที “ผมว่าคุณชายหลง จมูกกับตาคุณก็ไม่ได้มากเกินกว่าผมสักอย่าง เสน่ห์ล่อใจหญิงของคุณทำไมดีขนาดนั้นล่ะ? มีความเกี่ยวข้องกับน้ำหอมหรือ? ทรงผมหรือ? คุณทาเจลที่ศีรษะมากมายเท่าไหร่ล่ะ?”
หลงเซียวหน้าดำไปครึ่งหนึ่ง “คุณชายกู้?”
“เอาล่ะ! พูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจ เกี่ยวกับธุรกิจ”
ถ้าไม่ เขาเปลี่ยนน้ำหอมเปลี่ยนทรงผมสักอย่างลองดูไหม?
ก็ไม่ถูกนะ เวยเวย ต่อหลงเซียวแค่พูดโอเวอร์กว่าเท่านั้น แต่ใจยังอยู่กับเขาล่ะ! อืม ใช่แล้ว ไม่ผิด!
นิวยอร์ก คืนท้องฟ้ามืดลง
โฉหวั่นชิง นั่งอยู่ในห้องรับแขกในคอนโดอย่างโดดเดี่ยว กำลังสะอื้นหลั่งน้ำตา เสียงกดดันมาก ฮือๆ ติดๆขัดๆ ดูเหมือนพยายามแอบอดทนอะไรไว้ ควบคุมไว้ไม่ให้ระเบิดออกมา
หลงจื๋อเบลอๆ ได้ยินเสียงร้องไห้ เปิดผ้าห่มออก ลงจากเตียง ผลักประตูออก เห็นแม่นั่งอยู่ในห้องรับแขกรางๆอย่างมืดมัว น้ำตากำลังไหลอย่างโศกเศร้าใจปวดร้าวแทบแตกสลาย
“แม่หรือ? ท่านเป็นยังไงแล้วล่ะ?” หลงจื๋อยกเท้าเดินไปข้างหน้า นั่งอยู่ข้างเท้า โฉหวั่นชิง
โฉหวั่นชิง เห็นลูกชายออกมา รีบเช็ดน้ำตาอย่างว้าวุ่น บังคับยิ้มเบิกบานพูดว่า “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”
หลงจื๋อจะเชื่อได้ยังไง!
“ตกลงว่าเป็นยังไงแล้วล่ะ? ท่านพูดสิ”