ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 595
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 595 เด็กดี พวกเราไม่ร้อง
ฟางหลิงหยู้เบิกตาโตด้วยความตกใจ ดวงตาที่แดงก่ำนั้นได้มองฉู่ซีหราน มือทั้งสองได้กำข้อมือของเธอไว้แน่น “ลูก ลูกพูดว่าอะไรนะ? ลูกจะให้พวกเขาไปตาย? ลูกไม่รู้เหรอว่าพวกเขาเป็นใคร?”
ฉู่ซีหรานหัวเราะเหอะเหอะออกมาอย่างเย็นชา เธอหัวเราะทั้งน้ำตา แผลที่ปากก็โดนไปด้วย เจ็บจนหน้าครึ่งหน้านั้นชาไปหมด “หนูต้องรู้อยู่แล้วค่ะ เพราะงั้นเลยต้องมาขอให้แม่ช่วย และยิ่งต้องการความช่วยเหลือจากฉู่ลั่วหานกับหลงเซียวด้วย”
ฟางหลิงหยู้ได้ตกใจยิ่งกว่าเดิม “ซีหราน ลูกยังกล้าที่จะให้ฉู่ลั่วหานกับหลงเซียวช่วย? พวกเขาน่ากลัวกว่าตระกูลเสิ่นอีกนะ! พวกเขาสิถึงจะเป็นปีศาจที่ถือมีดฆ่าคนอ่ะ”
ร่างกายของฉู่ซีหรานนั้นเจ็บปวดมาก เพราะงั้นเธอได้ไปพิงที่โซฟา ให้ตัวเองได้ผ่อนคลายลงบ้าง “ถึงแม้ว่าฉู่ลั่วหานกับหลงเซียวนั้นเป็น ปีศาจ แต่ก็เพราะว่าปีศาจอย่างพวกเขานั้นได้ชงกับไอ่เดรัจฉานสองตัวนั้นให้ตระกูลเสิ่น เพราะงั้น……”
ฉู่ซีหรานนั้นได้มองไปที่ฟางหลิงหยู้ “หนูนั้นคิดไว้ว่าจะร่วมมือกับพวกเขา ไม่มีเพื่อนตลอดกาล มีแต่ผลประโยชน์เท่านั้นที่ยืนยาว หนูเชื่อว่าถ้าได้ผลดีจากในนี้ล่ะก็ พวกเขาไม่ปฏิเสธแน่ๆ”
ฟางหลิงหยู้รู้สึกว่าลูกสาวตรงหน้านั้นเหมือนเป็นคนแปลกหน้ามากๆ เหมือนว่าตอนนี้ไม่ใช่ลูกสาวของเธอ เมื่อก่อนความคิดของฉู่ซีหรานนั้นง่ายมาก แค่ได้สภาพแวดล้อมที่พร้อมสำหรับเธอก็พอ แทบไม่ต้องคิดอะไรมาก
แต่ตอนนี้ ฉู่ซีหรานที่อยากจะจะล้างแค้นนั้น ก็เหมือนลูกของคนอื่น คิดไม่ถึงว่าจะใจเย็น และคิดได้รอบคอบขนาดนี้
เห็นที ที่ผ่านมานี้ เธออยู่อย่างทรมานในบ้านตระกูลเสิ่นมาไม่น้อย
“ลูกคิดแผนอะไรได้แล้วเหรอ? เมื่อก่อนพวกเราทำกับฉู่ลั่วหานขนาดนั้น เธอไม่มีทางตกลงง่ายๆ หรอก ลูกต้องทำใจไว้ก่อน”
“เสิ่นเหลียวกับเสิ่นคั่วกำลังที่จะต่อกรตระกูลฉู่กับตระกูลหลงลับๆ ความทะเยอทะยานของทั้งสองนั้นมีมาก วางแผนที่จะฮุบสมบัติของตระกูลหลง อีกอย่าง มีเรื่องหนึ่งที่แม่อาจจะยังไม่รู้” ฉู่ซีหรานได้ฉีกยิ้มที่มุมปาก ไม่สนว่าแผลจะเจ็บไหม ได้หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง บ้าคลั่งกว่าทุกครั้ง
ฟางหลิงหยู้หรี่ตาลง ได้เอาตัวของตัวเองขยับเข้าใกล้ๆ อย่างรู้งาน “เรื่องอะไร?”
ฉู่ซีหรานยิ้ม พูดออกไปเสียต่ำด้วยความสะใจว่า “จ้าวฟางฟางมีกิ๊กคนหนึ่ง ถูกหนูจับได้ ตอนนี้หนูมือจุดอ่อนของจ้าวฟางฟางอยู่ในมือ เอาออกมาข่มขู่เธอได้ตลอด เธอนั้นนอนกับไอ่แก่นั้นทุกวัน หนูไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะไม่รู้อะไรเลย”
ฟางหลิงหยู้นั้นยิ่งเริ่มรู้สึกว่าจะดูถูกลูกสาวของตัวเองไม่ได้ เธอไปเรียนรู้แผนการที่ซับซ้อนแบบนี้มาจากไหน?!
“ลูกอยากจะให้จ้าวฟางฟางเป็นหนอนบ่อนไส้? ไปล้วงความลับของตระกูลเสิ่น?”
“ใช่ ตอนนี้เธอไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของหนู เธอไม่กล้าที่จะโกหกหนู ถ้าทำหนูโมโห หนูก็จะเอาเรื่องที่เธอไปมีชู้ไปบอกให้ไอ่แก่นั่น ไอ่แก่นั้นต้องถลอกหนังของเธอแน่!”
ฟางหลิงหยู้ได้ยินแผนการของเธอแล้ว เลือดนั้นก็ได้สูบฉีดขึ้นมา “ได้! แม่ต้องช่วยลูกแน่ๆ ตอนนี้ลูกจะให้แม่ทำอะไร?”
หน้าของฉู่ซีหรานนั้นเจ็บมากๆ เธอเอามือไปประคบแผลที่เขียวช้ำ สูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างยากลำบาก “แม่ไปเมืองหลวง ไปเจอกับฉู่ลั่วหาน ตอนนี้หนูไปไม่ได้ แม่ไปแทนหนูก่อน เอาความจริงใจของพวกเราแสดงให้เธอดู”
หน้าที่แต่งมากอย่างสวยงามของฟางหลิงหยู้นั้นมีเริ่มดูไม่ได้เนื่องจากการแสดงออกที่เกินจริง ขนตายาว ๆ ที่ปัดจนโค้งขึ้นทีละเส้นเพราะการขยี้ตาเมื่อกี้ ขนตาที่ปัดตอนนี้ก็เหมือนกับขาแมลงวัน
เธอนั้นก็ยังเบิกตาโตเหมือนเดิม “ลูกให้แม่ไปคุยกับฉู่ลั่วหาน? ลูกไปกลัวว่าแม่ไปแล้วจะไม่กลับมา?”
ฉู่ซีหรานยิ้ม เจ็บจนร้อง “ซี๊ด” แล้วก็สูดหายใจเข้าไปลึกๆ “แม่ แม่ตอนนี้ยังห่วงหน้าห่วงหลังอยู่? แม่อยากให้หนูตายในตระกูลเสิ่น?”
“ไม่อยากอยู่แล้ว!”
“ถ้าเกิดไม่อยาก งั้นก็ช่วยหนู ขอแค่หนูล้นไอ่หมาสองตัวของตระกูลเสิ่นได้ หนูรับรองว่าต่อไปแม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแน่ อีกอย่าง แม่คิดถึงหลานของแม่หน่อยสิ”
ส่วนเรื่องหลาน ที่จริงฟางหลิงหยู้นั้นไม่ได้มีความผูกพันมากนัก สายเลือดของเสิ่นเหลียว เธอมีความผูกพันด้วยสิแปลก “หรานหราน เวลาที่จำเป็น เด็กคนนี้ที่จริงลูก……ไม่จำเป็นต้องสนใจ พ่อแท้ๆ ของเขาคือเสิ่นเหลียว ลูกหวังว่าเขาจะดีไปกว่าไหนเชียว?”
ฉู่ซีหรานนั้นยิ้มออกมาอย่างมีเล่ห์นัยน์ ได้กระชากแขนเสื้อของฟางหลิงหยู้ ใช้น้ำเสียงที่มีแค่ทั้งสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน เสียงนั้นเบามากๆ ใครก็ไม่สามารถได้ยินได้ “แม่คิดว่า เขาจะเป็นลูกไอ่เลวนั้นจริงๆ เหรอ?”
“อะไรนะ?!”
“แม่ฟังไม่ผิดหรอก ห้าวห้าวไม่ใช่ลูกของเสิ่นเหลียว เขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเสิ่นเหลียว!” ฉู่ซีหรานได้เชิดหน้าอย่างได้ใจ “ตอนนั้นหนูอยากได้ลูกคนนี้เพื่อที่จะให้ฐานะในบ้านของหนูนั้นมั่นคง แต่ว่าเสิ่นเหลียวก็เป็นแค่ไอ่แก่ที่ไม่ได้เรื่อง ไม่สามารถที่จะทำให้หนูท้องได้ หนูก็เลยทำได้แค่หาคนที่แข็งแรงมา เหอะๆ! ลูกที่เสิ่นเหลียวเลี้ยงอยู่นั้น ถึงตายเขาก็ไม่รู้ว่าเป็น ใคร!”
ฟางหลิงหยู้นั้นเหมือนโดนต่อยอย่างแรง สิ่งที่เธอเคยรู้ได้พังไปแล้ว นิ่งอยู่นานถึงพยายามพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “ลูก……ถ้าเกิดเสิ่นเหลียวจับได้ ลูกจะตายยังไงก็ไม่มีทางที่จะรู้”
“เขาไม่มีทางจับได้”
ฟางหลิงหยู้นั้นไม่มีแรงที่จะเงยหน้าขึ้น “นี่เป็นลูกของใคร?”
ฉู่ซีหรานหยักไหล่ “ใครจะรู้! ตอนนั้นหนูเพื่อที่จะท้องให้ไวๆ ได้ลองกับผู้ชายหลายคน เป็นของใครนั้น รอให้เขาโตมาหน่อย ถ้าเกิดเขาโตมาเหมือนพ่อของเขา หนูอาจจะจำได้ก็ได้”
“ลูก!! ลูก……” ฟางหลิงหยู้ได้โมโหในการกระทำของฉู่ซีหรานจนหน้าซีด “ตอนนั้นลูกทำแท้ง ตอนนี้ยัง……ซีหราน ลูกยังจำได้ไหมว่าตัวเองนั้นเป็นผู้หญิงน่ะ!”
“จำได้! ต้องจำได้อยู่แล้ว! ก็เพราะว่าหนูนั้นเป็นผู้หญิง เพราะงั้นหนูต้องเอาจุดเด่นของตัวเองมาใช้ หนูหน้าตาดี หุ่นดี ให้พวกผู้ชายพวกผู้ชายพวกนั้นทำเรื่องแบบนี้มันผิดตรงไหน? ช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของผู้หญิงนั้นจะมีสักกี่ปี? ให้หนูนั้นมาจมกับผู้ชายคนเดียว? เหอะๆ! ฝันไปเถอะ!”
——
วันต่อมา โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ทางเดินบนชั้นแปดนั้นได้คึกคักมาก หมอและพยาบาลไม่น้อยได้รวมตัวกันที่ทางเดิน ได้ล้อมส้งชิงเซวี๋ยนไว้ตรงกลาง กลุ่มคนนั้นไม่หัวเราะไม่หยุด
“โอ้โห!! ศาสตราจารย์ส้ง!! คิดไม่ถึงว่าศาสตราจารย์ส้งจะกลับมารอบสอง!!”
ส้งชิงเซวี๋ยนที่ได้ใส่ชุดผ้าฝ้ายสีขาว ได้โบกมือง่ายๆ “เกรงใจ ทุกคนเกรงใจไปแล้ว ไอ่แก่คนนี้ได้หน้าด้านกลับมาอีกแล้ว ฮ่าๆ!”
หวาเทียนได้พิงตัวอยู่ที่ขอบประตู ได้ถือแก้วน้ำมาดื่ม “ศาสตราจารย์ส้ง ไม่ได้เจอกันนานนะครับ เหมือนว่าเด็กลงนะครับ หล่อขึ้นอีกแล้ว!”
ส้งชิงเซวี๋ยนได้หัวเราะเหอะๆ แล้วเอามือไปสางผม “เสี่ยวเทียนอ่า ปากของนายนี้หวานขึ้นนะเนี่ย!”
พยาบาลที่อยู่ข้างก็ได้แซวขึ้น “ใช่สิคะ! หมอหวายังแต่มีความรัก ปากยิ่งอยู่ยิ่งหวานเลยค่ะ!”
หมอคนหนึ่งได้พูดขึ้น “จึๆ พูดคำหวานจนชินน่ะสิ!”
พยาบาลส่ายหน้า “ไม่เหมือนกัน! อาจเป็นเพราะแฟนสาวจูบ! ฮ่าๆ?”
“ระวังหมอหวาให้เธอทำโอ!”
ฮ่าๆ!
ฮ่าๆ!
ทุกคนได้พูดกันไปสักพัก ส้งชิงเซวี๋ยนก็ได้ไปที่ห้องทำงานลั่วหาน แต่ว่าลั่วหานไม่อยู่นั้น
ในใจของส้งชิงเซวี๋ยนสงสัย “แปลก คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวลั่วลั่วจะไม่อยู่?”
จากนั้นก็ได้เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาลั่วหาน แต่ว่าโทรไปแล้ว ไม่มีคนรับ
“เสี่ยวเทียนเทียน เสี่ยวลั่วลั่วของฉันล่ะ?” ส้งชิงเซวี๋ยนไม่เห็นลั่วหานในใจนั้นผิดหวังเล็กน้อย
หวาเทียนที่แปลกใจ “เป็นไปไม่ได้ หมอฉู่วันนี้ไม่มาทำงาน เมื่อกี้ยังอยู่อยู่เลย อาจจะไปห้องน้ำก็ได้ครับ”
แต่ว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รับโทรศัพท์นะ?
ส้งชิงเซวี๋ยนนั้นคิดไปสักพัก ก็ได้มีอะไรแวบเข้ามาในหัว นึกอะไรขึ้นมาได้!
……
ห้องพยาบาล บรรยากาศนั้นกดดันจนถึงขีดสุด โฮเท่อและคนอื่นนั้นกำลังช่วยหยวนชูเฟินปั๊บหัวใจ
“ชาร์ต สองร้อยจูล”
ภาษาอังกฤษของโฮเท่อนั้นพูดเร็วมาก เอาเครื่องปั๊บขึ้นมา สายตาที่น้ำเงินนั้นได้มองที่หยวนชูเฟิน
“ตึ้ง!”
สองร้อยจูลครั้งที่หนึ่ง
แต่ว่าหยวนชูเฟินที่นอนอยู่บนเตียงนั้นยังไม่มีสัญญาณของชีพจร เครื่องวัดใจเต้นนั้นเป็นเส้นตรง ชีพจรนั้นลดจนถึงศูนย์ หยวนชูเฟินได้เสียอาการที่แสดงถึงการมีชีวิตอยู่ไปแล้ว
ลั่วหานนั่งคุกเข่าข้างเดียวลงกับพื้น ดวงตาที่แดงก่ำนั้นได้มีน้ำตาไหลลงมา นิ้วมือที่เรียบยาวนั้นได้มีรวยสีเขียวนั้นโผล่ขึ้น ได้พูดอยู่ตลอดว่า
“แม่ค่ะ! แม่ต้องอดทนไว้นะ!”
“แม่ ไม่ต้องกลัว หนูอยู่นี่ แม่ไม่ต้องกลัว! แม่ตื่นขึ้นมาสิ!”
“ไปชาร์ตอีกครั้ง! สองร้อยจูล!” หน้าผากของโฮเท่อได้เริ่มมีเหงื่อไหลออกมา หน้าได้เริ่มซีบแล้วออกคำสั่ง
ผู้ช่วยได้เริ่มชาร์ตอีกครั้ง “สองร้อยจูลครั้งที่สอง!”
“ตึ้ง!”
เครื่องกระตุ้นหัวใจได้วางอยู่บนตัวหยวนชูเฟินอีกครั้ง ได้ทำให้ร่างกายที่เปราะบางของเธอนั้นกระตุกขึ้น แล้วก็ตกลงอย่างแรง ได้ส่งเสียง “ตุ้บ” ออกมา
ส้งชิงเซวี๋ยนได้วิ่งมาอย่างรวดเร็ว วิ่งตั้งแต่ตึกผู้ป่วยนอกจนมาถึงห้องพักที่หยวนชูเฟินพักอยู่ ยังไม่ได้เข้าประตูก็ได้เห็นภาพเหตุการณ์นั้นแล้ว ใจนั้นก็ได้กระตุกขึ้น!
สำหรับหมอแล้ว ก็ได้เห็นการเกิดและตายมามากมาย แต่ว่าเห็นเพื่อนของตัวเองที่กำลังเดินอยู่บนความเป็นความตายนั้น ก็ยังกังวล ทำตัวไม่ถูก กลัว
ฉู่ลั่วหานนั้นคุกเข่าอยู่บนพื้น ได้จับมือหยวนชูเฟินไว้แน่น ใบหน้าได้ซีดจนไม่มีแม้กระทั่งเส้นเลือด เสียงเครื่องตรวจนั้นได้ดังวนไปวนมา
ส้งชิงเซวี๋ยนได้ดันประตูเข้าไป พยายามที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ “นี่มันเรื่องอะไร?”
ลั่วหานได้รับเงยหน้าขึ้น ตอนที่เห็นส้งชิงเซวี๋ยน ก็เหมือนได้จับฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย “คุณลุง หัวใจแม่หยุดเต้น วันนี้เคมีบำบัดครั้งที่สี่ แต่ตอนที่เธอใช้ยานั้น อยู่ๆ หัวใจก็ได้หยุดเต้น”
ส้งชิงเซวี๋ยนได้ก้าวอ้อมไปที่ข้างเตียง ก้มตัวไปเปิดตาของหยวนชูเฟิน จากนั้นก็ได้ไปจับที่คางแล้วเปิดปากของเธอ
จากนั้นก็ได้เอานิ้วสองนิ้วไปกดที่คอของหยวนชูเฟิน จับไปสักพัก “อะดรีนาลีน ฉีดที่หลอดเลือดดำ เร็ว!”
โฮเท่อนิ่งอึ้งไปสักพัก “คุณคือ?”
ส้งชิงเซวี๋ยนได้เตะไปที่ขาของโฮเท่อ “ฉันเป็นปู่ของแก่! บ้าเอ๊ย รีบทำตามที่บอก!”
โฮเท่องงไปเลย แต่ว่าก็ยังไปเอายาอย่างรวดเร็ว ส้งชิงเซวี๋ยนเห็นว่าเขาทำอะไรชักช้า ตัวเองได้แย่งเข็มมา แล้วก็ฉีดไปที่หลอดเลือดดำที่คอของหยวนชูเฟิน ค่อยๆ ฉีดลงไป
“ทำCPRสิ! มองฉันทำไม?” ส้งชิงเซวี๋ยนได้เริ่มโมโหขึ้น เล่นเอาคนในห้องนั้นงงไปเลย
“ครับ จะทำตอนนี้!”
โฮเท่อได้ประสานมือ ก็ได้กดไปที่หัวใจของหยวนชูเฟิน
ส้งชิงเซวี๋ยนได้ประคองลั่วหานให้ยืนขึ้น เช็ดน้ำตาบนหน้าของเธอ “เด็กโง่ ร้องไห้ทำไม?”
ลั่วหานได้สะอึก ได้ซบไปที่อกของส้งชิงเซวี๋ยน เหมือนเด็กที่หลงทางแล้วได้เห็นพ่อในที่สุด “ครูค่ะ หนูกลัว หนูกลัวมากๆ”
ส้งชิงเซวี๋ยนได้ตบไปที่บ่าของเธอเบาๆ พูดออกมาอย่างเป็นห่วงว่า “ไม่กลัว ไม่กลัว ไอ่แก่คนนี้มาแล้ว แม่เธอต้องไม่เป็นอะไร ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องร้องไห้แล้ว”
ลั่วหานร้องไห้จนสะอึก “หนูนี่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ช่วยคนอื่นมาตั้งมากมาย แต่กลับช่วยแม่ตัวเองไม่ได้! หนูมันไม่ได้เรื่อง!”
ส้งชิงเซวี๋ยนการโทษตัวเองของเธอ ก็ได้ปวดใจ “เด็กโง่! พูดอะไรโง่ๆ ออกมา! เธอนั้นเป็นกังวลจนทำอะไรไม่ถูก เธอนั้นรักแม่เธอมาก ได้แล้วได้แล้วไม่ร้องแล้ว เดียวเซียวเซียวมาเห็นเธอร้องไห้ขนาดนี้ ต้องไม่สบายใจแน่ๆ เด็กดี ไม่ร้องแล้ว พวกเราไม่ร้องแล้ว”