ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 598
ตอนที่ 598 คิดถึงเธอไง
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
พวกลั่วหานกับหลินซีเหวินได้เดินออกมาจากแผนกห้องพักคนไข้ ทุกคนนั้นได้พูดคุณกันอย่างสนุกสนาน
หลินซีเหวินนั้นได้ตีไปที่แขนของหวาเทียน หัวเราะแล้วพูดออกมาว่า “หมอหวา ช่วงนี้นายกับพี่สาวโลลิของพวกเราเป็นยังไงบ้าง?”
พี่สาวโลลินั้นหมายถึงลู่ซวงซวง เมื่อก่อนหลงจื๋อชอบเรียกเธอแบบนี้ เพราะงั้นหลินซีเหวินก็เลยเรียกตามหลงจื๋อ เรียกต่อหน้าหวาเทียนไม่มีผิดเพี้ยน
หวาเทียนใช้เครื่องฟังเสียงหัวใจในมือตีเธอเบาๆ “พูดอะไรมั่วๆ! เธอควรเรียกเขาว่าพี่สาว ไม่งั้นก็เรียนว่าพี่ซวงซวง ใครใช้ให้เธอเรียกแบบนี้ห๊ะ”
ลั่วหานที่หนีบใบตรวจนั้น ได้ยินที่พวกเขาพูดเล่นกัน ก็ได้ยิ้มออกมา แต่ก็ไม่ได้เข้าไปช่วย
หลินซีเหวินเบะปาก “ฝันไปเถอะ ฉันรู้สึกว่าฉันนั้นเป็นผู้ใหญ่กว่าเธออีก ที่หลงจื๋อเรียกนั้นมันถูก เธอของนายนั้น อายุก็จะเข้าเลขสามแล้ว แต่มีหัวใจโลลิ ฮ่าๆๆ!”
หวาเทียนหรี่ตามองเธอ แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร “หมอหลิน วันนี้ได้โดมยามาเหรอ?”
วันนี้หลินซีเหวินนั้นอารมณ์ดีมาก “โดมยาจะมีผลลัพธ์แบบนี้เหรอ? เห็นหรือยัง หน้าของฉันนั้นมีแต่โปรตีน เพราะความรักถึงเป็นแบบนี้!”
เธอได้บีบแก้มของตัวเอง หญิงสาวอายุยี่สิบนั้น ใบหน้านั้นได้นุ่มอยู่แล้ว จับแล้วก็จะนุ่มเด้ง
หวาเทียนหัวเราะ “คุณชายรองหลงนั้นเก่งจริงๆ การงานความรักมีพร้อม น่าอิจฉาจริง!”
หลินซีเหวินหัวเราะ ใจฉันดีใจมากๆ แต่ว่าเธอนั้นได้เป็นประเด็ดไปที่ตัวของลั่วหาน “อิจฉาฉันทำไม? ดูหมอฉู่ของพวกเราก่อนความรัก การงาน ลูก เพียบพร้อมทั้งสามอย่าง! เห็นหรือยัง นี่คือคนที่ประสบความสำเร็จ!”
หวาเทียนได้พยักหน้าเห็นด้วยอย่างแรง แล้วก็ได้ยกนิ้วโป้งขึ้น “ใช่! คนที่ประสบความสำเร็จ! ยังไม่เทน้ำเทชาให้ไอดอลของเธออีกล่ะ?”
พูดออกมา ก็ได้เดิมมาถึงหน้าห้องทำงาน
ลั่วหานได้ยินถึงตรงนี้ก็พูดแทรกขึ้น “หวาเทียน เธอล่ะ?”
หวาเทียนก็ได้คิดอะไรขึ้นมาได้พอดี ช้าไปก้าวเดียวก็ได้ถูกลั่วหานพูดมาก่อน “หมอฉู่ ผมมีเรื่องที่จะคุยกับคุณหน่อย”
หลินซีเหวินกะพริบตา มองหวาเทียนตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง “นี่นาย อย่าคิดอะไรกับไอดอลฉันนะ นายระวังหน่อย”
“ออกไปเลยไป คิดอะไรอยู่เนี่ย!” หวาเทียนสวนกลับเธอไป จากนั้นก็พูดกับลั่วหานว่า “ผมเลี้ยงชาคุณ”
……
ลั่วหานได้ถือชาผลไม้แก้วหนึ่ง พิงไปที่ระเบียงหน้าต่าง ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “ว่ามา เรื่องอะไรถึงต้องออกมาคุยข้างนอก?”
สองมือของหวาเทียนนั้นได้ถือแก้วกาแฟ ในนั้นเต็มไปด้วยลาเต้ “หมอฉู่ ผมอย่างจะรู้ว่า คุณนั้นไปพูดอะไรกับคุณเซียวเหรอครับ ไม่กี่วันอยู่ๆ อาของผมก็มาบอกว่า บริษัทของเธอนั้นไม่เป็นอะไรแล้ว ใบแจ้งล้มละลายวันก่อนก็ถูกเรียกเก็บไป นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
อืม มีเรื่องแบบนี้ด้วย?
ช่วงนี้ลั่วหานความจำไม่ค่อยดี เธอนั้นเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย คิดไปสักพักถึงได้เข้าใจ “ฉันนั้นได้พูดกัลป์หลงเซียวไปครั้งหนึ่ง แต่ว่า ฉันไม่ได้คิดอะไรมาก”
หวาเทียนได้พยักหน้า “งั้นก็ใช่แล้ว ต้องเป็นคุณเซียวที่เข้ามายุ่งด้วยแน่ๆ ไม่งั้นบริษัทของอาผมคนไม่พ้นจากวิกฤตได้ง่ายแบบนี้ เรื่องนี้มันน่าประหลาดเกินไป”
ลั่วหานได้ยิ้มออกมาอย่างสดใส “งั้นไม่ดีเหรอ? บริษัทอาของเธอไม่เป็นอะไรแล้ว บ้านที่เธอขายไปตอนนั้นก็ซื้อกลับมาได้แล้ว หรือว่าซื้อหลังใหม่”
หวาเทียนได้ยกแก้วอย่างอารมณ์ดี ใช้แก้วกาแฟชนไปที่แก้วของลั่วหาน “ขอบคุณหมอฉู่นะครับ บุญคุณคราวนี้ผมไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงดี งั้นผมเอากาแฟแทนเหล้า ดื่มเคารพคุณ”
สายตาที่ฉลาดของเธอนั้นมองเขาดื่มกาแฟ หลุดขำแล้วพูดว่า “ได้แล้วได้แล้ว กาแฟก็ดื่มชนแก้วได้เหรอ? ฉันไม่เคยเจอมาก่อน! ถ้าเธออยากจะขอบคุณฉันจริงๆ กลับไปซื้อบ้านหลับคืน จัดการสมบัติของตัวเองให้ดี เตรียมขอซวงซวงแต่งงานเถอะ เขารอเธอมาตั้งนาน เธอต้องให้ผมสรุปกับเธอถูกไหม?”
หวาเทียนตอบ “ครับ ที่ผมอยากจะคุยกับคุณก็เรื่องนี้ ตอนนี้บ้านของอาก็ได้พ้นจากวิกฤตแล้ว เหลือก็แค่เรื่องการแต่งงานของพวกและซวงซวง แต่ว่า คุณอย่าพึงบอกเธอนะ ผมอยากจะให้เซอร์ไพรเธอ”
หวาเทียนหยักคิ้ว ความหมายของมันคือ คุณรู้ดี!
ลั่วหานได้เข้าใจทันที ก็ได้ยกแก้วขึ้นแล้วพูดว่า “สู้ๆ หมอหวา รีบไปอุ้มสาวสวยกลับมา!”
“หมอหวา ตอนนี้คุณอยู่ตรงนี้นี่เอง! ครอบครัวคนไข้เตียงสี่หาคุณ” พยาบาลคนหนึ่งได้วิ่งเข้ามา เห็นหวาเทียนก็ได้ตะโกนออกมา
“ครับ! ไปเดี๋ยวนี้!” ตอบกลับไป หวาเทียนก็ยิ้มต่อ “หมอฉู่ ขอบคุณมากครับ! ผลไปก่อนล่ะ”
มองร่างสีขาวของหวาเทียนได้เดินออกไป สายของลั่วหานนั้นก็ได้มีรอยยิ้มที่ยากจะปกปิด
โอ้โห้ คุณหลงนี่เก่งจริงๆ เธอก็แค่พูดออกไปแค่ครั้งเดียว เขาก็ได้แก้วิกฤตให้ทั้งหมด? สุดยอด!
เพราะงั้น ลั่วหานเลยตัดสินใจโทรไปหาหลงเซียว จะพูดชมเขาดีๆ สักหน่อย
——
บริษัทฉู่ซื่อ ห้องทำงานประธาน
หลงเซียวได้ประชุมเสร็จก็ได้หลับไปที่ห้องทำงาน กู้เยนเซินกับจี้ตงหมิงได้ยืนอยู่ในห้องทำงาน ทั้งสองได้ถือเอกสาร รองหลงเซียวเซ็นให้เสร็จ
กู้เยนเซินได้กอดอก ยืนก้มหน้ามองหลงเซียวบนโต๊ะ “คุณชายหลง ข่าววันนี้ดูแล้วใช่ไหม? เรื่องภายในของMBKได้เกิดปัญหานิดหน่อย”
หางเสียงของเขานั้นยาวมาก เสียงนั้นมีความสุขมากๆ
หลงเซียวไม่ได้เงยหน้า ดูเอกสารต่อ วิเคราะห์กราฟเส้นที่พิมพ์บนกระดาษพิมพ์สีอย่างละเอียด “ข่าวทางเศรษฐกิจ? หรือว่าข่าวซุบซิบบันเทิง? อันหน้าดูแล้ว อันหลังไม่สนใจ”
นิ้วที่เรียวยาวของหลงเซียวได้พลิกกระดาษ ก็ยังเป็นรูปเหมือนเดิม
จี้ตงหมิงนั้นอดไม่อยู่ ก็ได้พูดต่อว่า “ถ้าพูดให้ถูกนั้นเป็นข่าวซุบซิบ เห็นพูดว่าหลงจื๋อที่อยู่ในบริษัทได้มีปากเสียงกับหลงยี่ ด้วยความโมโหหลงจื๋อเลยต่อยหลงยี่ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงไหม”
หลงเซียวถึงได้ค่อยๆ เงยหน้า สายตาที่ดำนั้นก็ได้ยิ้มออกมา “อ้อ? มีเรื่องแบบนี้ด้วย?”
กู้เยนเซินจึปาก พูดออกไปอย่างอารมณ์ดีว่า “ในเน็ตนั้นแชร์กันเต็มไปหมด ไม่เหมือนว่าจะเท็จนะ อีกอย่างตระกูลหลงกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องMBKถึงตอนนี้นั้นก็ยังไม่ลบ นายคิดว่ายังไง?”
ริมฝีปากที่เรียวบางของหลงเซียว ก็ได้ยิ้มออกมา “ตีได้ดี”
“ห๊ะ! ตีได้ดี? เห็นที นายนั้นเห็นด้วยกับหลงจื๋อที่ใช้ความรุนแรงนะ?” กู้เยนเซินคิดว่าเขานั้นจะผิดหวัง เป็นอะไรที่……คิดไม่ถึงจริงๆ!
จี้ตงหมิงได้อธิบายอย่างจริงจังว่า “แต่ว่าเรื่องของวันนี้ ทางผู้บริหารระดับสูงของMBKนั้นไม่ค่อยพอใจ นี่มันไม่มีผลดีอะไรกับคุณชายรองเลย”
หลงเซียวเซ็นชื่อเสร็จ เอาเอกสารให้กู้เยนเซิน “ไม่เป็นไร หลงจื๋อกล้าที่จะต่อยหลงยี่ หมายความว่าเขาตัดสินใจที่จะตั้งหลักที่MBKแล้ว หลงยี่นั้นเป็นเหมือนก็ งานที่ดีมีน้อยการงานที่ล้มเหลว สมควรที่จะโดนสั่งสอน ส่วนเสี่ยวจื๋อนั้น? ถ้าพ่อของฉันนั้นอยากจะผลักดันเขา ก็ต้องเตรียมที่จะปูทางให้เขาอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง”
กู้เยนเซินพยักหน้า คิดไปสักพัก “เหมือนว่า ก็มีเหตุผล”
หลงเซียวพูดต่อ “ดูข่าวซุบซิบให้มันน้อยๆ หน่อย ดูเรื่องที่จำเป็นมากๆ ฉันให้นายไปติดต่อคนของบริษัทไห่ลุน ติดต่อได้หรือยัง?”
กู้เยนเซินได้ทำมือ “โอเค” ออกมา “วางใจเถอะ ได้ติดต่อเรียบร้อยแล้ว การกระทำของพวกเขาก็ช้าพอควร ยังพิจารณาอยู่ ฉันล่ะเครียดจริงๆ ไฟจะก็ก้นแล้วยังจะทบทวนอยู่อีก! ต้องรอให้ตู้หลิงเซวียนกลืนพวกเขาไปแล้วถึงจะสำนึก? ปัญญาอ่อน!”
จี้ตงหมิงจับจมูก “บริษัทไห่ลุนนั้นลงไปจนน่ากลัวเท่าไหร่ ต่อไปก็คงจะขอบคุณที่พวกเราช่วยเขาไว้ รับทำไมครับ”
หลงเซียวได้เซ็นเอกสารของจี้ตงหมิงเสร็จ “ใช่”
กู้เยนเซินนั้นได้มอง จากนั้นก็ได้ตบไปที่บ่าของจี้ตงหมิง “ก็เหมือนความสำเร็จของเมืองเจียงเฉิงของพวกเรา? พวกนายว่า ตระกูลเสิ่นขาดทุนไปขนาดนี้ เสิ่นคั่วกับเสิ่นเหลียวจะโมโหขนาดไหน? แม่งเอ๋ย โมโหจนตายก็ดี!”
หลงเซียวได้เก็บปากกา โทรศัพท์บนโต๊ะก็ดังขึ้น หน้าจอใหญ่ที่ชัดเจนนั้น ได้มี “ที่รัก” แสดงอยู่
กู้เยนเซินและจี้ตงหมิงได้มองไปพร้อมกัน ก็ได้เห็นเข้ากับชื่อพอดี เพราะงั้นทั้งสองคนก็ได้ยืนอยู่ตรงนั้นต่อ ไม่มีใครก้าวออกไปก่อน
หลงเซียวค่อยๆ เงยหน้า “ยังไม่ไปอีก? คุยเพลินเหรอ? หรือว่าดูเพลิน?”
ฮ่าๆ เพลินทั้งคู่! แต่ว่า……ไปก็ได้
หลงเซียวเอาโทรศัพท์ น้ำเสียงก็ได้อ่อนโยนขึ้น “ลั่วลั่ว มีอะไรเหรอ?”
ทางลั่วลั่วนั้นก็ได้เรียกออกมาอย่าอารมณ์ดี “ที่รัก!”
หลงเซียวได้ขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ “อยู่ทำไมถึงได้อารมณ์ดีแบบนี้? ที่รักอยากจะทำอะไร?”
“ที่รัก คุณได้ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับบริษัทของคุณอาของหวาเทียนใช่ไหม ก็ที่ฉันบอกไปเหมือนคราวนั้น” ตอนนี้ลั่วหานอารมณ์ดีมากๆ ดีกว่าอากาศนอกหน้าต่างเสียอีก!
หลงเซียวพยักหน้า แต่ว่าเธอนั้นมองไม่เห็น “อืม ผมให้คนไม่เช็กมาแล้ว เป็นตระกูลเสิ่นที่จะล้มบริษัทเล็กๆ เป็นการกระทำที่ไม่ดีเท่าไหร่ ตอนนี้แผนการของเขาได้ถูกผมล้มแล้ว”
พูดถึงเรื่องนี้ หลงเซียวกลับรู้สึกว่ามันสนุก
“ที่รัก คุณทำไมเก่งขนาดนี้! ซวงซวงต้องขอบคุณคุณมากๆ แน่ รักคุณที่สุดเลย! หวาเทียนเตรียมตัวที่จะของซวงซวงแต่งงานแล้ว นี่เป็นเพราะคุณช่วยไว้!”
ลั่วหานดีใจจนกระโดดขึ้นมา แก้วในมือของเธอก็ได้ขยับตามไปด้วย
หลงเซียวได้ร้อนรน “ที่รัก คุณดีใจแล้วกระโดดนั้นไป ติดมาจากไหน? ตอนนี้ในท้องของคุณมีลูกของพวกเราอยู่นะ รู้ไหม?”
ให้ตายเถอะ……
ลั่วหานเกือบลืมไปเลย!
“ฉันก็แค่ดีใจไปหน่อย เมื่อกี้ไม่ได้กระโดด” ยังไงซะเขาก็มองไม่เห็น
“อย่าโกหกผม ตอนที่คุณดีใจแล้วเป็นยังไงผมยังไม่รู้เหรอ? นั่งลงดีๆ เลย ไม่ต้องขยับไปมา” หลงเซียวให้นั่งบนเก้าอี้เจ้านายอย่างสบายตัว มองวิวนอกหน้าต่าง ใบหน้าที่หล่อเหลานั้น ได้บานราวกับดอกไม้
“ก็ได้ ฟังที่คุณสั่ง อีกอย่าง ฉันไปดูแม่มาแล้ว ลุงส้งได้อยู่เป็นเพื่อนของเขา ตอนนี้อาการของเธอไม่เลวเลย”
“อืม แม่ดีแล้ว คุณล่ะ?” หลงเซียวได้เอากาแฟ ขึ้นมาจิบ ชิมรสชาติ
พอลั่วหานดูเวลา ถึงเวลาที่จะเข้าเวรแล้ว ได้เดินไปพูดไปว่า “ฉันสบายมาก ตอนนี้สบายกว่าเดิม”
ได้ยินเสียงของเขา ไข้ของเธอก็หาย ร่างกายก็เบาหวิว!
“หมอฉู่”
“สวัสดีหมอฉู่……”
พยาบาลหมอที่เดินไปเดินมาทักทาย ลั่วหานพยักหน้าตอบกลับ
แอนดี้ได้เคาะประตู ตอนที่เตรียมจะเปิดปากพูดนั้น เห็นว่าหลงเซียวกำลังยิ้มแล้วคุยโทรศัพท์ ก็ไม่กล้าที่จะขัดจังหวะ ก็ได้ยกแผนงานเป็นการเตือนเขา อีกสิบนาทีมีประชุม
หลงเซียวดูเสร็จพยักหน้าเป็นการบอกว่ารู้แล้ว แล้วก็พูดว่า “แต่ว่า ผมนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
ลั่วหานเดินถึงหน้าลิฟต์ ก็ได้หยุดลง “คุณไม่ค่อยดี? คุณเป็นอะไร? ร่างกายไม่โอเค? ไม่สบายตรงไหน?”
หลงเซียวลุกขึ้น เตรียมตัวที่จะไปห้องประชุม ช่วงเช้ามีการประชุมสองครั้ง ห่างกันแค่ครึ่งชั่วโมง ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายจริงๆ แต่ว่าตอนนี้……
“ไม่สบายทั้งตัว โดยเฉพาะหัวใจ”
“เป็นเพราะแผลเก่าหรือเปล่า? ในห้องทำงานมียาเตรียมไว้ไหม? ยาบำรุงหัวใจกินไปก่อนสองเม็ด จากนั้น……”
“ไม่ใช่แผลเก่า เป็นเพราะคิดถึงคุณ” หลงเซียวสูดหายใจเข้าไปลึกๆ หัวเราะแล้วพูด
ลั่วหานก็ได้หัวเราะออกมา “คืนนี้กลับไปจะไปดูให้คุณอย่างดี ฉันไปทำงานก่อนนะคะ”
“ลั่วลั่ว?”
พอมาดูหน้าจอ โทรศัพท์ได้วางไปแล้ว
ใจของหลงเซียวนั้นวางเปล่าเล็กน้อย ก็ได้ขำตัวเองทันที เป็นไปอย่างที่คิด เรื่องบ้างเรื่องมันหยุดไม่ได้จริงๆ นะ