ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 607
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 607 ไอคิวยิ่งต่ำ ยิ่งชอบหัวเราะหรอ
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ลั่วหานเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ชุดเดรสยาวถึงเข่าฤดูใบไม้ร่วงสีเบจอ่อน ด้านนอกเป็นเสื้อคลุมสีเขียวทหาร ไม่ได้รัดสายรัดเสื้อคลุม ห้อยลงมาอยู่สองข้างของร่างกาย
ลั่วหานในกระจกฟื้นตัวสมบูรณ์เหมือนเดิมแล้ว บนใบหน้าที่สะอาดสะอ้านไม่มีความผิดปกติสักนิด เธอกำลังส่องกระจกและลูบท้องตัวเอง
ขึ้นลงที่ท้องเล็กน้อย ดึงกระโปรงข้างหลังให้ตึงก็จะเห็นเค้าโครงของท้อง
“ยังไม่สบายอยู่หรอ?” หลงเซียวเดินมาข้างหลังเธอ อยู่ด้านหลังนำเธอมาโอบไว้ในอ้อมกอดของตนเอง ลูบบนหลังมือเธออย่างอ่อนโยน มองดูรูปในกระจกด้วยกันกับเธอ
ลั่วหานส่ายหัว “ไม่เป็นไรนานแล้ว จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลหรอก”
“ไม่แน่ใจว่าคุณจะฟื้นตัวเต็มที่ ฉันจะวางใจได้อย่างไร? ตอนนี้ไม่เป็นอะไรก็ดี จากนี้ไปจำเป็นต้องใส่ใจกับร่างกาย อย่าโกรธง่าย ฉันจำได้เมื่อก่อนคุณใจเย็นมาก ปกติจะไม่โต้เถียงกับคนที่ไอคิวต่ำ”
หลงเซียวเล่นกับสายรัดเสื้อคลุมของเธอที่ห้อยลงมา นิ้วเรียวยาวพันสายรัด พันไปรอบๆ
“ครั้งนี้เป็นข้อยกเว้น ไม่มีครั้งต่อไปแล้ว” ลั่วหานไม่อยากให้หลงเซียวรู้อะไรมากขนาดนั้น ดังนั้นจึงตัดสินใจจบประเด็นนี้ “ใช่แล้ว วันนี้ฉันดูข่าว ต้องเปิดประมูลโครงการแหล่งพลังงานใหม่ คุณไปแล้วใช่ไหม?”
หลงเซียวหยิบกระเป๋าของลั่วหานขึ้นมา เขี่ยผมยาวของเธอไว้หลังหู “อืม ไปแล้ว พลังงานใหม่เป็นโครงการที่ดีเพื่อประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน การจัดทำโครงการนี้เป็นประโยชน์ในการช่วยสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทฉู่ซื่อ แน่นอน ที่สำคัญที่สุดคือโครงการนี้สามารถนำผลกำไรมหาศาลมาสู่บริษัทฉู่ซื่อ”
ลั่วหานดึงมือของเขา เพื่อให้ตนเองลุกขึ้น “ในเมื่อเป็นโครงการที่ดีขนาดนี้ ความกดดันในการแข่งขันต้องสูงมากแน่นอน ซุนปิงเหวินและคนอื่นๆเข้าร่วมด้วยไหม?”
“ใช่ ซุนปิงเหวินกระตือรือร้นต่อเรื่องนี้มาก เพียงแต่คุณอาจสนใจคู่แข่งรายอื่นมากกว่า ลองเดาๆดู ยังมีใครอีก”
หลงเซียวดูแลลั่วหานอย่างระมัดระวัง ทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดสนิทแน่นแฟ้น จี้ตงหมิงรับกระเป๋าจากหลงเซียว กดลิฟท์
ขึ้นลิฟท์ ลั่วหานพูดว่า “MBK? หรือตระกูลเสิ่นของเมืองเจียงเฉิง?”
“ไม่ใช่ ลองคิดอีกที” หลงเซียวกดชั้น 1 ลิฟท์ลงไป ในลิฟท์มีพวกเขาเพียงสองคน จี้ตงหมิงเดินไปที่ลิฟท์อีกตัวด้วยจิตใต้สำนึก
ลั่วหานสังเกตดวงตารอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ของหลงเซียว แล้วหัวเราะ “คุณไม่บอกฉัน เควินก็เข้าร่วมด้วยใช่ไหม? ดูการแสดงออกของคุณเหมือนมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นมาก”
หลงเซียวขมวดคิ้ว พูดอย่างไร้เดียงสาว่า “หื๊ม? ชัดเจนขนาดนั้นเลยหรอ?”
“ใช่ ชัดเจนมาก! เควินใช่ไหม?” รองเท้าส้นแบนของลั่วหานย้ายไปยืนตรงข้ามกับหลงเซียว ถามเขาเหมือนไต่สวนนักโทษ
แขนยาวของหลงเซียวเอาหัวเธอมาไว้ในอ้อมกอด “ก็คือตู้หลิงเซวียน เอกสารแผนงานของเขาดีมาก เป็นหนึ่งในคู่แข่งของฉัน”
ลั่วหานเม้มปากแน่น “ระดับความสามารถทางธุรกิจของเควินไม่ใช่เรื่องละเลยได้ สิ่งนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้ หากคุณขัดแย้งผลประโยชน์โดยตรงกับเขา แน่นอนว่าต้องระวัง เมื่อก่อนฉันอยู่อเมริกาได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเขา เขาบริหารหลันเทียนให้ยิ่งใหญ่ถึงวันนี้ มันไม่ได้บังเอิญ”
นึกถึงต่างๆนาๆก่อนหน้านี้ ลั่วหานอดไม่ได้ที่จะกังวล ตู้หลิงเซวียนมีอิทธิพลในหมู่ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ประมาณหลงเซียวที่อยู่ประเทศจีน ตู้หลิงเซวียนเคยถูกขนานนามว่าหมาป่าในวอลสตรีท วางตัวเรียบๆและสง่างาม เล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจทว่าตัดสินใจได้รวดเร็วเฉียบขาด
หลงเซียวเห็นพ้องต้องกันกับความคิดเห็นของเธอ “ตู้หลิงเซวียนเป็นคู่ต่อสู้ที่หาได้ยากจริงๆ เพียงแต่วันนี้เขาคงโชคไม่ดี”
ลั่วหานตาเป็นประกายทันที “พูดยังไง? เขาแพ้หรอ?”
“อึ่ม……เจอกับเจ้าไม่ค่อยรู้เรื่องคนหนึ่ง เข้าไปต่อยทันที ตอนนี้น่าจะไปทำแผลที่โรงพยาบาล” หลงเซียวพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตน ท่าทีเย็นชาอย่างยิ่ง
“what?มีคนต่อยเควิน? ใครช่างกล้าขนาดนี้? แต่ว่าเควิน……” ยังไม่ทันพูดจบ ลั่วหานก็เห็นริมฝีปากของหลงเซียวที่ยกขึ้น แป๊บเดียวก็เข้าใจทั้งหมด “คุณต่อยเขาหรอ?”
“ฉัน? ตู้หลิงเซวียนคุ้มค่าที่ฉันจะลงมือหรอ? ฉันเคยต่อยแค่คนเดียวเท่านั้น”
ลั่วหาน : “……ใคร?”
“ถังจิ้นเหยียน”
ลั่วหาน : “……!!”
บ้าจริง! เขาต่อยถังจิ้นเหยียนจริงหรอ? !
หลงเซียวพูดต่อ “อย่าแปลกใจขนาดนี้ ฉันก็ถูกเขาต่อย”
แม่งงง นี่ยิ่งประหลาดใจ!
ตะลึงงันไปเลย!
เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่? สักนิดเธอก็ไม่รู้เรื่อง
ประตูลิฟท์เปิดออก หลงเซียวโอบลั่วหานออกมา ในทางเดินที่สดใส ความรักระหว่างคู่สามีภรรยาทั้งสองทำให้คนอิจฉาอย่างยิ่ง
ห้องโถงชั้นหนึ่งคนเยอะมาก หมอพยาบาล คนไข้กับครอบครัวคนไข้ รับยา เข็นเปล แต่ในกลุ่มคนที่เสียงเจี๊ยวจ๊าว ทว่าภาพหนึ่งก็สะดุดตาของลั่วหาน
เธอดึงแขนเสื้อของหลงเซียวทันที “สามี เควิน”
“หื๊ม?”
หลงเซียวมองตามสายตาของลั่วหานและเห็นตู้หลิงเซวียน เห็นได้ชัดว่าชุดสูทสีดำบนตัวเขาเปลี่ยนไปชัดเจน คิดๆดูก็ถูก ถูกเกาจิ่งอานทำร้ายร่างกาย ชุดสูทสีดำอาจถูกย้อมกลายเป็นสีขาวด้วยฝุ่น
มาโรงพยาบาลหวาเซี่ยงั้นหรอ? หึหึ!
มีผ้าพันแผลบนหน้าเควินหนึ่งอัน ใบหน้าเอียงจากบนลงล่าง ผ้าพันแผลค่อนข้างใหญ่ คลุมหน้าของเขาครึ่งหนึ่ง ทำลายใบหน้าหล่อเหลาเดิมโดยไม่คาดคิดอย่างมาก
ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเป็นก้อนเขียวม่วง มีรอยช้ำที่มุมปากอย่างรุนแรง มีรอยบวมแดงที่หน้าผากหนึ่งอัน
เห็นสีบนใบหน้าของตู้หลิงเซวียน หลงเซียวยิ้มเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าไม่นับว่าบาดเจ็บหนัก ยังเดินได้ ฉันคิดว่าเกาจิ่งอานจะทำร้ายเขาจนพิการไปครึ่งหนึ่ง”
ลั่วหานกระพริบตา “เกาจิ่งอานทำร้ายหรอ? คุณสั่งให้ทำร้ายเขาใช่ไหม?”
หลงเซียวพยักหน้า “นับว่าใช่ เพียงแต่ฉันไม่ได้ให้เกาจิ่งอานลงมือหนักขนาดนี้”
ลั่วหาน : “……นี่ยังไม่เรียกว่าหนักหรอ? เขาทำโหดร้ายเกินไปหรือเปล่า?”
สายตาของตู้หลิงเซวียนกับลั่วหานปะทะกัน ตะลึงไปพร้อมๆกันในห้องโถงผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลที่มีแสงสว่างจ้า ตู้หลิงเซวียนหันไปอีก เห็นหลงเซียวอยู่ที่นั่น ความรู้สึกสุดๆเลย!
หลงเซียวยิ้มนิดๆแบบนี้ อดทนพูดว่า “ภรรยาพูดถูก ครั้งต่อไปฉันจะให้เขาทำเบาๆหน่อย อีกสักพักเจอเกาจิ่งอานฉันจะอบรมเขาอย่างแน่นอน”
ลั่วหานยิ้มแห้ง “ช่างเถอะ คุณสไตล์ไหนฉันจะไม่รู้หรอ?”
ตู้หลิงเซวียนก็เตรียมจะออกไป ดังนั้นเขากับลั่วหานจึงพบกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าตู้หลิงเซวียนจะได้รับบาดเจ็บอย่างนี้ ยังคงยิ้มแย้มอย่างอ่อนโยนเหมือนเดิม “แอนน่า คุณยังไม่เลิกงานหรอ?”
ลั่วหานพบว่าอิริยาบถในการเดินของตู้หลิงเซวียนนั้นแย่มาก คาดว่าขาซ้ายน่าจะบาดเจ็บไม่เบา
“เพิ่งเลิกงาน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หลงเซียวหัวเราะ “คุณตู้นี่เกิดอะไรขึ้น?”
แน่นอน ยังถามคนอื่นว่าเกิดอะไรขึ้น!
ตู้หลิงเซวียนพูดถากถาง “ไปเจอหมาบ้าตัวหนึ่ง เลยถูกกัด ไม่รู้ว่าหมาบ้านไหน”
นี่คือด่าเกาจิ่งอานอยู่ หรือถือโอกาสด่าเขานะ!
หลงเซียวพูด “คุณตู้ต่อไปก็เดินระวังๆหน่อย ยังมี ทำเรื่องหยิบฉวยของคนอื่นให้น้อยลงหน่อย ถูกเพ่งเล็งแล้วใช่ไหม? หึหึ!”
ตู้หลิงเซวียนทำเสียงออกทางจมูก “วิญญูชนอยากได้ทรัพย์ย่อมแสวงหาและรับอย่างชอบธรรม!”
“รับของคนอื่นใช่หรือเปล่า?”
ตู้หลิงเซวียน : “……”
ลั่วหานตรวจดูบาดแผลบนใบหน้าของตู้หลิงเซวียนด้วยสายตา คงจะเป็นสิบวันจึงจะหายดี เห็นใจเขาอย่างยิ่ง “เควิน คุณกลับไปพักผ่อนรักษาแผลดีๆ พวกเราไปก่อน”
ดวงตาที่อ่อนโยนทั้งสองของเควินไม่เต็มใจที่จะละทิ้งไปจากลั่วหาน เพื่อเก็บซ่อนอารมณ์ไว้ในใจ เขายิ้ม รอยยิ้มนี้ไปฉุดบาดแผลที่มุมปาก เขาร้องด้วยความเจ็บ “วันหลังฉันจะเชิญคุณมาดื่มกาแฟ ลาก่อนแอนน่า”
หลงเซียวที่ดูแลลั่วหานอยู่ พูดอย่างเย็นชาว่า “ถึงแม้ว่าจะเพียงดื่มกาแฟ ตอนนี้ลั่วหานก็ไม่สะดวก แล้วก็ ตู้หลิงเซวียนเชิญลั่วลั่วดื่มกาแฟแทนที่จะไปหาฉันโดยตรง เงินทุนเข้าออกจำนวนมาก ครอบครัวเราฉันดูแลเองได้”
แอนน่าไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร หลงเซียวก็กอดเธอเดินออกไปแล้ว
“สมควรตาย!”
ตู้หลิงเซวียนด่าอย่างโมโหมองภาพทั้งสองเดินจากไป เวลาด่ามุมปากก็เจ็บมากขึ้น เขาขมวดคิ้วและปิดริมฝีปาก พบเลือดเล็กน้อยบนฝ่ามือ
“ท่านประธาน รับยาเสร็จแล้ว หมอบอกว่า……”
“ไป!”
ตู้หลิงเซวียนยังมีอารมณ์ฟังคำไร้สาระของผู้ช่วยซะที่ไหน ขัดจังหวะเขาอย่างรุนแรง รีบเดินลงบันได ด้วยขาซ้ายที่เป๋ ภาพด้านหลังตลกมาก
……
ตอนเย็น รีสอร์ทหยีจิ่ง
“ฮ่าฮ่า! สามี คุณใจดำจริงๆเลย! ดังนั้นตอนนี้เควินตกลงไปในหลุมที่คุณขุดแล้ว? ใช่ไหม?”
ลั่วหานฟังคำพูดของหลงเซียวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายจบ ก็หัวเราะจนปวดท้อง ได้อย่างใจเหลือเกิน!
หลงเซียวจับท้องของลั่วหาน ทั้งรู้สึกไม่ดีทั้งสงสารพูดว่า “ภรรยา คุณหัวเราะขนาดนี้ ไม่กลัวลูกเราได้รับบาดเจ็บหรอ? บันยะบันยังหน่อย”
“ไม่ได้ไม่ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันมีความสุขจริงๆเลย! ฮ่าฮ่า คุณทำให้ฉันหัวเราะ ตู้หลิงเซวียนเป็นแพะรับบาปแทนบริษัทไห่ลุน อีกทั้งโครงการของเขาทางด้านนี้ยังต้องคว้าน้ำเหลว ซวยเหลือเกิน”
หลงเซียวนวดๆคิ้วอย่างอดไม่ได้ “ลั่วลั่ว คุณเปลี่ยนเป็นเส้นตื้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันคิดอยู่ว่า ไอคิวกับเส้นหัวเราะของคุณเป็นระบบเดียวกันหรือไม่ ไอคิวต่ำ เส้นก็ตื้นด้วยใช่ไหม?”
“เชี่ย!” ลั่วหานพิงบนโซฟา เท้าถีบไปที่เอวของหลงเซียว “ฉันไม่ได้เส้นตื้น แต่ว่าเรื่องวันนี้มันตลก! วันหลังฉันจะเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้กับเกาจิ่งอาน”
หลงเซียวให้เท้าของเธอมาวางอยู่บนขาอย่างตามใจ นวดข้อเท้าของเธอ “คุณอยากเรียนศิลปะการต่อสู้ฉันจะสอนคุณ เขายังจำเป็นต้องมาด้วยหรอ?”
“ในเมื่อคุณก็ทำได้ ทำไมให้เกาจิ่งอานลงมือ คุณไม่กลัวในอนาคตเขาจะกลับมาแก้แค้นเกาจิ่งอานหรอ?” ลั่วหานพูดอย่างไม่สบายใจ
หลงเซียวพยักหน้า “สามารถเป็นไปได้ ดังนั้นฉันจึงบอกเกาจิ่งอานไปแล้ว ฝึกทักษะการป้องกันตัวบ่อยๆ ในกรณีที่ถูกแก้แค้น……อืม อย่างน้อยก็ไม่ลำบากมากจนถึงตาย”
ลั่วหาน : “……”
ไม่มีวิธีรับมือแล้ว
ลั่วหานกอดหมอนอิง ครุ่นคิดนิดหนึ่ง “สามี ฉันอยากถามคุณเรื่องหนึ่ง”
“โอเค คุณถามเถอะ” หลงเซียวนวดนิ้วเท้าของเธอแทน เทคนิคนี้ทัดเทียมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการนวด
“ฟางหลิงหยู้คนนี้ ใช้ประโยชน์คุ้มค่าไหม? คุณรู้สึกว่าเธอมีประโยชน์คุ้มค่าไหม?” ลั่วหานถามอย่างระวังมาก โดยไม่ให้หลงเซียวรู้เรื่องข้อเสนอบางอย่าง
หลงเซียวพูดว่า “นี่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณในการควบคุมเธอ ตลอดจนตัวเธอมีคุณค่าอะไรที่คุณจะค้นพบความคุ้มค่า ลองพูดมา คุณอยากให้เธอทำอะไรให้คุณ?”
ลั่วหานกัดปากเล็กน้อย : “ฟางหลิงหยู้เป็นฝ่ายรุกประกาศกับฉัน เธออยากช่วยฉู่ซีหรานเพื่อทรัพย์สินของตระกูลเสิ่น ฉันช่วยเปิดทางให้เธอ เธอให้ฉันสามสิบเปอร์เซ็นต์”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “เธอให้คุณช่วยเปิดทางอย่างไร? ข้อเสนออะไร? ทำข้อเสนออะไร?”
คำถามเชิงลึก เป็นมืออาชีพ เวลานั้นเธอไม่ได้คิดมากขนาดนี้
“เธอให้ข้อมูลของตระกูลเสิ่นแก่ฉัน ให้ฉันใช้บริษัทฉู่ซื่อกับบริษัทโม่ซื่อกดดันตระกูลเสิ่น พวกเธอแอบโยกย้ายทรัพย์สินของตระกูลเสิ่น สองแผนการ อย่างแรก ประสบความสำเร็จได้รับสิทธิ์การสืบทอดมรดกของตระกูลเสิ่น เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะเป็นประธานของตระกูลเสิ่น อย่างที่สอง โยกย้ายเงินของตระกูลเสิ่น ย้ายตระกูลเสิ่น”
หลงเซียวฉีกมุมปากขึ้น หัวเราะพูดว่า “แค่กลัวว่าจะไม่ง่ายขนาดนี้ ด้วยทัศนคติที่ฉู่ซีหรานมีต่อเสิ่นเหลียว เธอยังต้องการชีวิตของเสิ่นเหลียว ลั่วลั่ว คุณเป็นมือดีของโรงพยาบาล แต่ว่าเรื่องการค้าคุณไม่เข้าใจ ฉู่ซีหรานต้องเป็นตระกูลเสิ่น แล้วก็ชีวิตของตระกูลเสิ่นทั้งสองคน เมื่อจำเป็น บางทีพวกเธอแม้แต่จ้าวฟางฟางกับอานอานก็จะไม่ปล่อยไป ลุยน้ำขุ่นนี้มันยุ่งยาก อย่าลุยเลย”