ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 614
ตอนที่ 614 ปัญญาในสภาวะวิกฤต
ณ เมืองหนิงไห่ บริษัทไห่ลุน
ออฟฟิศของพวกประธานชั้นสูงวุ่นวายไปหมด ทั้งเสียงเจรจา เสียงทะเลาะดังไปหมดทั่วออฟฟิศเป็นชั้นเป็นชั้น เสียงไม่ต่างอะไรกับเสียงพวกแมลงออกมาหลังฝนตกหนักเลย
สีรอยแผลบนหน้าตู้หลิงเซวียนหนักขึ้น จากเรื่องที่ทำให้กวนใจและบวกกับไม่ได้พักผ่อนดี เลยทำให้รอยแผลหายได้ช้า
ในขณะเดียวกัน ตู้หลิงเซวียนนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานทรงกลมสีแดงตัวใหญ่ ในมือถือบุหรี่อยู่ ควันสีขาวๆก็ลอยร่องจากมือเขาไปยังบนอากาศ
“พอได้แล้ว”
ทันใดนั้นเสียงเล็กๆแต่ทรงพลังของตู้หลิงเซวียนก็แทรกขึ้นมาในท่ามกลางเสียงดัง และเสียงในออฟฟิศก็หยุดลง สายตาทุกคนต่างจ้องไปที่เขา
ร่างเงาของตู้หลิงเซวียนสูงมาก ถึงจะนั่งอยู่ออร่าเขาก็ไม่ถูกปิดกั้น นิ้วอันยาวของเขาบีบก้นบุหรี่ และสูดเข้าปากทีหนึ่ง “พวกคุณมาถกเถียงกันที่นี่แล้วได้ผลอะไรขึ้นมา ผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทไห่ลุนในตอนนี้เป็นฉัน ไม่ผิดใช่ไหม แต่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทไห่ลุนโอนเงินเข้าใบบัญชีของประธานวังแล้วทั้งหมด ฉันได้รับเงินสักบาทหนึ่งไหมล่ะ?”
บาดแผลบนใบหน้าของตู้หลิงเซวียนทำให้เขาดูโทรมก็จริง แต่ดูออกว่าผมของเขาได้รับการจัดทรงอย่างเรียบร้อยมา แล้ว ดูแล้วไม่รู้สึกว่าตั้งใจ แต่กลับทำให้เขาดูโต น่าค้นหา มีฐานะและปัญญา
ผู้คนในคณะกรรมการของบริษัทไห่ลุน รู้จักสไตล์ของตู้หลิงเซวียนดี และรู้ว่าเขามีบริษัทหลันเทียน ขนาดใหญ่ถือไว้ในมือ เอาเข้าจริงๆพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะท้าทายเขาหรอก
ผู้อำนวยการวัยกลางคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยความโกรธว่า “ท่านประธานตู้ ถึงแม้ว่าเงินไม่ได้ให้คุณ แต่ตอนนี้คุณก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด นี่เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนรับทราบกัน! แล้วที่พวกเราเสียหายล่ะทำยังไง พวกคนถือหุ้นที่ประท้วงกันข้างนอกด้วยจะจัดการยังไง?”
ชายวัยกลางที่มีพุงทำเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจและจะประท้วงออกมา พูดด้วยเสียงต่ำๆว่า “ประธานตู้ ในบรรดาคนเหล่านี้ มีคนแก่ของตระกูลหลงยืนอยู่ด้วย! นายคิดว่าหลงยี่กับพวกนกพวกนั้นเหมือนกันเหรอ แล้วก็ชื่อเสียงของคุณในตอนนี้ด้วยประธานตู้ เฮอเฮอ ขออภัยด้วยที่ฉันพูดตรงไป แต่ประธานตู้ช่างไม่ระวังจริงๆ”
ตู้หลิงเซวียนดูข่าวแล้ว สิ่งที่ไม่เป็นจริงถูกพูดไปทั่วทั้งบ้านทั้งเมือง!
จากการเลี้ยงดูและมีการวางตัวที่ดีทำให้ตู้หลิงเซวียนยังยืนอยู่ในท่าทางที่สงบ เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบไปแรงๆคำหนึ่งเพื่อระงับความโกรธในใจ “ เรื่องส่วนตัวของฉัน ฉันจะจัดการให้ดีเอง สิ่งที่เป็นวิกฤตตอนนี้คือบริษัทไห่ลุน เมื่อกี้การเงินเอารายชื่อให้ฉันดูแล้ว ต้อง
เมื่อพูดถึงเรื่องเงินจริงจัง มันก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆแล้ว อย่างน้อยก็ต้องเอาของอะไรออกมาสักอย่าง
พวกกรรมการแต่ละคนต่างเงียบมองหน้ากันไม่พูดอะไร แน่นอนแล้วว่าพวกเขาก็อยากได้เงิน
ตู้หลิงเซวียนผลักรายชื่อทางการเงินไปที่โต๊ะ นิ้วของเขาชี้ไปที่ยอดจำนวนเงินทั้งหมดให้เห็นอย่างชัดเจน มีเลขศูนย์แถวยาวหนึ่งอยู่หลังเลขห้า
“เงินพวกนี้ ตอนนี้อยู่ในมือของประธานวังทั้งหมด พวกแกมาเรียกร้องอะไรที่ฉันนี่ ทำไมไม่ไปถามที่เขาให้ชัดเจน?”
ตู้หลิงเซวียนสะบัดควันบุหรี่ลงที่เขี่ยบุหรี่ จุดสีแดงบนก้นบุหรี่ก็ดูสว่างขึ้นกว่าเมื่อกี้อีก
“ประธานตู้ ล้อเล่นหรือเปล่า! คุณเป็นถึงผู้อำนวยการคนใหม่ของบริษัทไห่ลุน ถือหุ้นส่วนร้อยละยี่สิบแปดเปอร์เซ็นของ บริษัทไห่ลุน ทรัพย์สินส่วนตัวของประธานวังก็เคลียร์หมดแล้ว นี่นายกำลังเล่นตลกอะไรกับพวกเรา!”
“ประธานตู้ ไม่ว่ายังไง มันก็เป็นเพราะคุณที่คิดไม่ซื่อตั้งแต่แรกเลยทำให้บริษัทไห่ลุน ตกเป็นสภาพในตอนนี้ คุณต้องรับผิดชอบต่อบริษัทไห่ลุนทั้งหมด!”
“ประธานตู้ หลังข่าวออก แหล่งพลังงานใหม่ก็โดนบริษัทฉู่ซื่อแย่งชิงไปทันที ถ้าคุณอย่างช้าอยู่อย่างนี้ เฮอๆ กลัวว่าบริษัทหลันเทียนก็จะเดือดร้อนไปด้วย”
การพูดคุยล้นหลามในออฟฟิศอีกครั้ง เสียงทะเลาะของคนสิบกว่าทำให้ฟังจนเจ็บหู อารมณ์จากเดิมที่คุยกันก็เปลี่ยนเป็นโจมตีขึ้นมา
คนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยเสียงต่ำๆ “ดูเหมือนว่าเรามาไม้อ่อนจะไม่ได้ คงต้องไม้แข็งแล้วสิ ไม่อย่างงั้นเงินพวกเราก็คงจะลอยไปกับน้ำไม่ได้คืน!”
มีคนหนึ่งรู้สึกว่าพูดได้ถูกและมีเหตุผล เลยพูดตามไปด้วยว่า”ใช่! ไม่ว่าตู้หลิงเซวียนจะพูดอย่างไง ในตอนนี้เขาก็ต้องคายเงินออกมา ถึงโครงการของบริษัทไห่ลุนจะไม่มีเงินแล้ว แต่เขามี เงินก้อนนี้ไม่ใช่ก้อนใหญ่สำหรับบริษัทหลันเทียนหรอก!”
“พวกเราต้องทวงเงินคืนกลับมา!”
“ให้เขาคืนเงิน! สู้กับเขาให้สุดขีด !”
สถานการณ์ว่าเปลี่ยนก็เปลี่ยนทันที ภายใต้เรื่องเงินทอง คณะกรรมการพวกนี้ไม่ให้เกียรติตู้หลิงเซวียนอีกต่อไป แต่ละคนเปลี่ยนไปอย่างกับผีทวงวิญญาณที่เปิดเขี้ยวพร้อมกัดตู้หลิงเซวียนอยู่ตลอดเวลา
สถานการณ์ในออฟฟิศตอนนี้ราวกับอยู่บนสนามรบ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ตู้หลิงเซวียนจุดบุหรี่ม้วนสุดท้ายในห่อ ขมวดคิ้วนั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าอันเศร้าหมอง
“ในบัญชีของบริษัทไห่ลุนตอนนี้ไม่มีเงินอยู่แม้แต่สักบาท?”
ตู้หลิงเซวียนสูบบุหรี่แรงๆเข้าไปทีหนึ่ง ทีหนึ่งนี้ทำให้บุหรี่หายไปตั้งเศษห้าส่วนหนึ่ง จากนั้น จมูกเขาก็พ่นควันขาวๆลูกใหญ่ๆออกมาจนบังหน้าเขาไปทั้งหน้า
ผู้ช่วยมองเขาด้วยสายตาแดงก่ำ”ประธาน บัญชีของบริษัทไห่ลุนในตอนนี้อยู่ในสถานะติดลบ บริษัทไห่ลุนก็เป็นหนี้ธนาคารอยู่แล้วก้อนหนึ่ง ใบเสร็จฉันก็เคยเอาให้คุณดูแล้วด้วย ตอนนี้ทางธนาคารก็ทวงเงินคืนอยู่ทุกๆวัน ทั้งตึกบริษัทไห่ลุน、โรงงานของบริษัทไห่ลุน ต่างก็เอาจำนำไว้ที่ธนาคาร แล้วเขาก็ยึดกลับไปภายในสองสามวันนี้แล้วด้วย”
ตู้หลิงเซวียนถอนหายใจแรงๆไปทีหนึ่ง และเอามือซ้ายกำหมัดตั้งไว้ที่คิ้วของเขา “หุ้นของบริษัทหลันเทียนหยุดลงตั้งแต่เก็บหุ้นแล้ว”
เลขาอยากพูดว่า ฉันรู้
ในจีนขณะนี้เป็นช่วงเช้า ฝั่งนี้เริ่มเปิดหุ้น แต่ทางกลับกันฝั่งสหรัฐกำลังปิดหุ้น ทั้งสองฝั่งของบบริษัทกำลังตกอยู่สภาวะวิกฤต
เลขาผู้อย่างระวังว่า “ท่านประธาน ฝั่งสหรัฐตอนนี้ยังอยู่ขั้นตอนตรวจสอบหลันเทียนอยู่ ถ้าฝั่งนี้ยังไม่รีบเคลียร์ให้เรียบร้อย คุณจะไม่สามารถไปดูแลฝั่งนั้นได้”
“ฉันรู้ จะเสียหายจากเรื่องเล็กๆ บริษัทไห่ลุนล่มแล้วไม่น่าเสียดาย แต่ถ้าหลันเทียนได้รับความเสียหายหน่อยผลที่ตามมาก็แย่เลย” ตู่หลิงเซียนคลายหมัดมือออกแล้วไปกดอยู่ที่ระหว่างคิ้ว
เลขาพยักหน้า “คือแบบนี้ มูลค่าเงินที่ผู้ร่วมหุ้นบริษัทไห่ลุนเสียหายทั้งหมดมันไม่ใช่น้อยๆ ถ้าเกิดยังปล่อยช้าอย่างนี้ต่อไปอีก หลันเทียนก็จะเลวร้ายไปด้วยอย่างไม่น่าคิด”
ตู้หลิงเซวียนไม่ได้ตอบกลับ แต่กลับสูบบุหรี่แรงเข้าไปอีกอีกทีหนึ่ง รสฉุนของนิโคตินเต็มไปทั้งปากของเขาจนทำให้ลิ้นชาจนไม่มีความรู้สึก ตู้หลิงเซวียนจามไปกับกลิ่นฉุนนี้จนไอไปสองที
“ดูเหมือนว่าตอนนี้ ฉันต้องรับผิดแทนบริษัทไห่ลุนจริงๆแล้วแหละ”
“ดูจากสถานการณ์ล่าสุด ไม่มีวิธีไหนที่ดีกว่านี้แล้ว” เลขาก้มหัวลงไม่กล้ามองไปหน้าอันเย็นชาของตู้หลิงเซวียน ไม่มีใครคิดเลยว่าพวกเขาฆ่ากันเองอย่างนี้!
บุหรี่ม้วนหนึ่งของตู้หลิงเซวียนยังเหลืออยู่เศษหนึ่งส่วนสาม กำให้ดับคามือเขา “ป้องกันการขาดทุน”
เขาหลับตาลง และพ่นคำออกมาจากปากมาสองคำ จู่ๆร่างสูงของเขาก็ทรุดลงราวกับภูเขาที่โดนน้ำท่วม
เลขากัดฟัน บรรยากาศโดยรอบมืดครึ้ม เขาใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว แล้วโค้งตัวลงเก้าสิบองศาพูดอย่างระวังว่า”ความหมายของประธานหมายถึง จะจัดสรรเงินพวกนี้จากบัญชีหลันเทียน?”
ตู้หลิงเซวียนใส่บุหรี่เข้าปาก ริมฝีปากบางของเขาเม้นก้นบุหรี่ไว้อย่างแน่น แก้มทั้งสองข้างหดลง แล้วสูบคำสุดท้ายจนหมด”อืม ให้หลันเทียน เตรียมเงินจำนวนก้อนหนึ่งและโอนเข้าบัญชีของฉัน จากนั้นให้บัญชีของบริษัทไห่ลุน แบ่งเงินของผู้ถือหุ้นแต่ละรายออกไปให้เขา”
เลขาเหมือนได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเลือดไหลเป็นหยดติงดองดิงดอง“ ประธาน เงินก้อนที่สูญเสียครั้งนี้ … ไม่น้อยไปกว่าลอกหนังชั้นหนึ่งของหลันเทียนไปเลยนะ!”
น้ำเสียงของเลขามีเสียงร้องไห้ปนอยู่ เจ็บใจจนอยากฆ่าคน
ในมือของตู้หลิงเซวียนมีเพียงก้นบุหรี่อยู่ และก้นบุหรี่ขนาดเล็กก็ถูกเขาบดขยี้จนเละและทุบลงไปที่ที่เขี่ยบุหรี่อย่างแรง!
“ความเสียหายของหลันเทียนในวันนี้ฉันจะเอาคืนมาแน่! นายทำตามที่ฉันพูดก่อน”
เลขาตอบกลับ “ครับ ท่านประธานยังมีอะไรที่จะมอบหมายอีกไหม?”
หัวของตู้หลิงเซวียนปวดขึ้นมาอย่างแรง “เอาเหล้าให้ฉันแก้วหนึ่ง”
เลขาเปิดตู้เหล้าออก แล้วเทเหล้าวิสกี้มาครึ่งแก้ว
ตู้หลิงเซวียนดื่มเหล้าหมดภายในคำเดียว เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้วขมวดคิ้ว “ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเรียกแถลงข่าว ในเมื่อเสียเงินแล้ว ก็ต้องเสียได้สวยหน่อย เรียกมาขอโทษนักข่าวกับผู้ร่วมหุ้น แสดงท่าทีใจกว้างหน่อย”
เพื่อกู้ศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถือกลับคืนมา เราก็ต้องทำแบบนี้แหละ!
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”
“แล้วก็ เขียนจดหมายขอโทษสาธารณะฉบับหนึ่ง ให้แสดงถึงความจริงใจของหลันเทียน”
“ครับ”
ตู้หลิงเซวียนยังอยากสูบบุหรี่อีกม้วนหนึ่ง แต่ในซองบุหรี่หมดแล้ว เลยทำได้แค่ดื่มกาแฟไปคำหนึ่ง “แถลงในนามของฉัน และฉันจะบริจาคเงิน 10 ล้านหยวนสำหรับการปกป้องสิ่งแวดล้อม เพื่อแสดงถึงการสนับสนุนแหล่งพลังงานใหม่ ”
เลขาเปิดตาโต “นี่ มีความจำเป็นเหรอ?”
ตู้หลิงเซวียนเหลือบมองเขา“แน่นอนสิ ภาพลักษณ์ของโครงการพลังงานใหม่เกี่ยวข้องกับบริษัท การสูญเสียโครงการก็เหมือนกับสูญเสียหน้า”
จะกู้หน้าคืน ไม่ปล่อยเลือดหน่อยจะได้ไง?
เลขาพยักหน้า “ครับ”
ตู้หลิงเซวียนดื่มกาแฟเข้าไปอีกคำ สุดท้าย ช่วยฉันติดต่อกับนักข่าวสายแรกของบัญชี จะทำการสัมภาษณ์พิเศษ และช่วยฉันซื้อข่าวหน้าแรกที่เป็นช่วงนาทีทองยี่สิบนาที”
เลขา:“……!!”
ช่วงนาทีทองนี่คิดค่าตามวินาที! ยี่สิบนาที ได้ ออกมือทีก้อนโตจริงๆ!!
ตู้หลิงเซวียนดื่มกาแฟจนหมด ตอนนี้หลงเซียวคงได้ใจมากเลยสิ แผนที่เขาวางให้ฉันนี่สูญเสียหนักไปก้อนโตก่อนหนึ่งเลยนะ
เลขาเงียบ ก้มหน้าลง ไม่กล้าพูด
ตู้หลิงเซวียนลุกเดินไปริมหน้าต่าง แสงแดดยามเช้าเป็นสีที่งดงาม เมฆสีขาวล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า มองไปแวบแรกช่างเป็นโลกที่เงียบสงบจริงๆเลย
“หลงเซียว……” เขาพูดสองคำนี้อย่างช้าๆ แล้วยิ้มออกมาอย่างเย็นชา อุณหภูมิที่มุมตาของเขาถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะของนกที่ล่าเหยื่อ “เขาได้ใจไปเช้าไปแล้ว!”
——
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ลั่วหานยุ่งกับคนไข้ที่ผ่าตัดไม่กี่คนเสร็จ นวดไปที่คอแล้วเดินไปดื่มชาที่ห้องพัก
ส้งชิงเซวี๋ยนก็ออกมาพอดี ทั้งสองคนจะกันที่ระเบียงอย่างบังเอิญ
“เสี่ยวลั่วลั่ว เธอตั้งใจมาเลี้ยงฉันดื่มชา?”
ลั่วหานหันกลับพร้อมเบะปากใส่ส้งชิงเซวี๋ยน รอยยิ้มบนใบหน้าช่างสดใส คุณลุงส้งอยากดื่มชาอะไร
ส้งชิงเซวี๋ยนนั่งลง ไขว้ขาขึ้น เสื้อคลุมสีขาวคลุมอยู่ที่ตัว “ดื่มชาอะไรก็ได้!”
“ถ้างั้นก็ชาเขียว”
“ได้!”
ส้งชิงเซวี๋ยนนั่งลง เปิดทีวีในห้องพักขึ้นมาด้วยความว่าง บังเอิญจริงๆ บนจอเป็นคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทหลันเทียนที่กำลังตอบกลับคำถามของนักข่าวอยู่พอดี แต่ตู้หลิงเซวียนไม่ได้อยู่ในนั้น
ส้งชิงเซวี๋ยนทำปาก “ทำไมตู้หลิงเซวียนไม่ออกมาเอง?” มีผีอยู่ในใจหรือเปล่า! เสี่ยวลั่วลั่ว ยังดีที่ตอนนั้นเธอไม่อยู่กับเขา คนแบบนี้ ดูแค่หน้าไม่ได้จริงๆ!”
ลั่วหานยื่นชาให้ส้งชิงเซวี๋ยน นั่งอยู่ฝั่งด้านขวาของเธอ และมองตามไปที่จอ “อ๋อ พูดถึงอันนี้นะเหรอ ฉันดูตอนเช้าแล้ว หลงเซียวบอกว่าคราวนี้เควินสูญเสียไปไม่น้อยเลย หลายหมื่นล้าน”
ส้งชิงเซวี๋ยนเป่าไอร้อนของน้ำชาออก ดื่มไปคำหนึ่ง รสชาติดีเลย ให้ลั่วหานชงชานี่ไม่ผิดเลยจริงๆ “ในวงการธุรกิจ ก็ตายกันไปข้างมาโดยตลอด ไม่มีใครที่สะอาดหรอก”
ลั่วหานมองเธอด้วยหางตา “ถ้าพูดอย่างนี้ หลงเซียวก็ใช่เหรอ?”
ส้งชิงเซวี๋ยนแสยะยิ้ม “เธอว่าล่ะ?”
ก็ได้ มือใครจะไม่มีเลือดสดอยู่ล่ะ? แล้วเงินใครจะมาด้วยความใสสะอาด?
หลงเซียวก็กินหมดทั้งดีและไม่ดีแหละ เฮอ ลั่วหานเลือกที่จะเงียบ
ส้งชิงเซวี๋ยนนึกถึงเรื่องอดีต ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดช้าๆ “เงินนะเงิน … ไม่ใช่สิ่งดีเลย บางครั้งมันก็ทำให้คนดูไม่เหมือนคน บางครั้งก็เป็นผีเลย – ถ้าจักรวาลมีความชัดเจนพอ แล้วผีตอนกลางคืนมาได้อย่างไร?ผีตอนกลางคืนมาได้อย่างไง!”