ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 623
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 623 ฉันชอบเธอได้ยังไง
พระเจ้า นี่มันตรงไปตรงมา!
จางหย่งนึกถึงสิ่งที่หลงเซียวพูดเมื่อกี้แล้วนิ่งไป กลืนน้ำลายอยู่หลายอึกก่อนจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา
“เจ้านาย ของที่เหลียงหยู้คุนมี มันก็แค่ของเล่นทั่วไป ถ้าเกาจิ่งอานรู้เข้า ก็เท่ากับว่าเขาจะรู้เรื่องนี้ของคุณ ต้องคิดให้ดีนะครับ”
เกี่ยวกับจุดนี้ หลงเซียวได้คิดไว้แล้ว เขารู้ดีว่าการตัดสินใจของเขาจะมีผลอย่างไร เขาได้เตรียมใจรับผลที่แย่ที่สุดของมันไว้แล้ว
ดังนั้นคำตอบของเขายังคงเดิม “ใช่ เอาแบบนี้แหละ นายติดต่อเกาจิ่งอาน เขาเคยติดต่อกับเหลียงหยู้คุนตอนอยู่อเมริกา เขามีแผนอยู่ในใจแล้ว ยิ่งกว่านั้นช่วงหลังเกาจิ่งอานพัฒนาไปมาก ฉันมั่นใจว่าเขาทำได้แน่”
จางหย่งกัดฟันและไม่เถียงเจ้านายอีก “ได้ครับ ในเมื่อเจ้านายคิดดีแล้ว งั้นผมจะไปจัดการ ยังมี…เจ้านายคิดว่าระหว่างพี่สาวตัวเองกับเจ้านาย เขาจะเลือกคุณเหรอครับ?”
จะพูดไป ผู้ที่อยู่ในเรือนจำยังเป็นพี่สาวพ่อแม่เดียวกันของเกาจิ่งอานซึ่งเลือดย่อมข้นกว่าน้ำ เจ้านายไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหน?
หลงเซียวพูด “นายมีหน้าที่แค่ติดต่อ จัดการกับสิ่งของที่พังทลายของเหลียงหยู้คุนทำลายสิ่งที่สามารถทำลายได้และผลักดันสิ่งที่ไม่สามารถทำลายได้ อย่าให้เจอตำรวจล่ะ”
จางหย่งพยักหน้า “ไม่ได้ทำเรื่องพวกนี้เสียนาน คิดแล้วก็ตื่นเต้นมาก เจ้านายพักผ่อนเถอะครับ ผมขอตัว”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “นายรู้เรื่องฉันพักผ่อนได้ยังไง?”
จางหย่งแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเจ้านาย ก็ต้องใช้ฝีมือเล็ก ๆ ไม่ว่ายังไงเจ้านายก็ปลอดภัยครับ!”
หลงเซียว: “…”
หึ ๆ ดีละเจ้าจางหย่งหน้าหนา ก้าวหน้าไปเยอะ
เมื่อวางสาย หลงเซียวเงยหน้ามองไปที่พุ่มไม้และแม่น้ำที่อยู่ไม่ไกล อาคารสีขาวสะท้อนในน้ำ สะท้อนแสงสว่างเป็นชั้น
ท้องฟ้าสีครามยังสะท้อนกับผืนน้ำ ผืนน้ำและท้องฟ้าเชื่อมต่อกันทะเลและท้องฟ้าเป็นสีเดียวกันและทิวทัศน์ที่สะอาดราวกับว่าไม่เคยมีใครสัมผัสได้จากสถานที่ใด ๆ
เพียงแต่…
หลงเซียวยื่นมือขวาออกนิ้วเรียวที่ได้สัดส่วนราวกับแกะสลักจากหยกเนื้อดี
แม่มือคู่นี้ มันดูไม่สะอาดมาตั้งแต่แรกแล้ว
หลงเซียวกลับมาที่ศาลาอีกครั้ง ภายในนั้นมีเสียงหัวเราะดังออกมาเป็นระลอก พวกเขาเล่นไพ่กันอย่างสนุกสนาน ลั่วลั่วชนะมาสองตาติดแล้ว เธอมีความสุขเป็นที่สุดและยิ้มสดใส
“ผู้ช่วยจี้ ยังไม่ยอมแพ้อีก? นับสิ ฉันเหลือไพ่แค่สี่ใบแล้วนะ” ลั่วหานใช้วิธีปลุกปั่นกับจี้ตงหมิง ตอนที่พูดอยู่นั้น เธอเงยหน้ามาเจอกับคนที่ใส่เสื้อน้ำตาล
หลงเซียวยืนอยู่ด้านหลังเงาของร่มไม้ใหญ่ เงาของต้นไม้ปกคลุมตัวยาว ๆ ของเขา ยังทำให้ใบหน้าของเขาดูบิดเบี้ยว มีเพียงแววตาเหล่านั้นเท่านั้นที่มองเธอผ่านสายหมอก
ดวงตาที่ชัดเจนของลั่วหานยิ้ม “ฉันจะชนะสามตารวดแล้วนะ เก่งไหมล่ะ?”
หลงเซียวพยักหน้า “อืม เก่งมาก ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ”
เขาพูดแล้วเดินเข้าไป นั่งลงข้างม้านั่งของลั่วหานแขนข้างหนึ่งโอบเอวเธออย่างเป็นธรรมชาติ วางน้ำหนักครึ่งหนึ่งของร่างกายเธอไว้ที่แขนของเขา
โจวโร่หลินกับและฝ่ายการเงินไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน พวกเขาวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งและร้องตะโกนมาแต่ไกล “ได้ยินว่าท่านประธานเล่นไพ่อยู่ที่นี่ ท่านประธานไปแล้วรึยัง? ! ฉันอยากเห็นท่านประธานเล่นไพ่ !”
เห็นได้ชัดว่า โจวโร่หลินไม่ได้คิดว่าหลงเซียวและลั่วหานจะอยู่ที่นี่ เมื่อขึ้นบันไดเจอพวกเขากอดกัน ก็หน้าซีดลงด้วยความตกใจ
แม่เจ้า! จะบ้าตาย!
จู่ ๆ ก็มาเจอจัง ๆ? แม่เจ้า!
จี้ตงหมิงกระแอม กดกำปั้นกับปลายจมูกและกดศีรษะลง “เสี่ยวโจว เธออยากเห็นท่านประธานเล่นไพ่เหรอ?”
โจวโร่หลินรีบแก้ตัวทันที “เปล่าค่ะ ๆ เมื่อกี้ฉันพูดอะไรเหรอ? ฉันไม่ได้พูดอะไรเลยนะ! อ๊ะ ฮะ ๆ ฮ่า ๆ สถานที่ของท่านประธานดีมากเลยค่ะ มีวิวทิวทัศน์สวยงาม ภูเขาสวยน้ำใส!”
กู้เยนเซินพูดขึ้น “มีภูเขาที่ไหน?”
บ้าเอ๊ย ทำหน้าหล่อเป็นคุณชายแล้วอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้รึไงกัน?
โจวโร่หลินหน้าแดงโบกมือไปมา “ท่านประธาน เทพธิดา ฉัน…เอ่อ…”
“ไม่ได้อยากดูท่านประธานเล่นไพ่เหรอ? มานั่งดูสิ” ลั่วหานพูดขึ้นแล้วเพื่อให้โจวโร่หลินก้าวไปข้างหน้า
โจวโร่หลินไม่กล้าสบตาหลงเซียว ก้มหน้าและดึงเสื้อของลั่วหาน“เทพธิดา ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้…จริง ๆ”
ลั่วหานยิ้มแล้วพูดกับหลงเซียว “สักรอบไหมคะ?”
“ได้!”
ลั่วหาน หลงเซียว กู้เยนเซิน ไป๋เวย ทั้งสี่เปิดเกมอีกครั้ง ดูไพ่แล้ว ไพ่ของหลงเซียวนั้นธรรมดา ไป๋เวยได้ไพ่ชุดที่ดีที่สุด แย่ที่สุดเป็นของกู้เยนเซิน ของลั่วหานถือว่ากลาง ๆ ไม่ดีไม่แย่ หากวางเกมดี ไม่มีทางแพ้อย่างน่าเกลียด
หลงเซียวนั่งอยู่ข้างลั่วหาน เขาถือไพ่เป็นรูปพัดในมือเรียวยาวและสะอาด นิ้วโป้งงอเข้า ไพ่หลายสิบใบอยู่ในมือของเขาดูแล้วให้อารมณ์ที่แตกต่าง
หลงเซียวที่นั่งอยู่ตรงนั้น ขายาวไขว้กัน เสื้อผ้าลำลองสบาย ๆ ให้ความอบอุ่นและสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นราวแสงพระอาทิตย์
สาว ๆ ในบริษัทต่างพากันจับจ้อง และอึ้งไป
คิดไม่ถึง ท่านประธานเวลาไม่สวมสูทแล้วยิ่งหล่อกว่าเดิมอีก!
หลงเซียวทำท่าเหมือนไม่มีใครอยู่ตรงนั้น เขาเอาแต่จัดไพ่ เรียงไพ่
ลั่วหานแอบมองหลงเซียว พยายามที่จะรู้ถึงความแข็งแกร่งของศัตรู แต่แขนของหลงเซียวก็หลบและหลีกเลี่ยงลั่วหาน
แต่ศีรษะของลั่วลั่วก็อยู่ในมุมที่กว้างเกินไป ทันทีที่เขาหลบ ศีรษะของลั่วหานก็ตกและเอนลง หลงเซียวใช้มือเปล่าคว้าศีรษะของเธอไว้ทันที แล้วให้เธอเอนตัวเข้าซบไหล่เขา
ทุกคน: “…”
อึ้งไปเลย! อึ้งไปเลยจริง ๆ!
เมื่อครู่ตอนลั่วหานแอบดูไพ่ของหลงเซียวนั้น ทุกคนต่างพากันทั้งอิจฉาและริษยาไปหมด คิดไม่ถึงว่าท่านประธานจะมีโมเม้นท์มุ้งมิ้ง
เป็นหนึ่งในมุกเด็ดเลย!
ลั่วหานซบไหล่เขาแล้วถือโอกาสดูไพ่ของเขาหนึ่งรอบ
เสร็จกัน ไพ่ของหลงเซียวดีกว่าของเธอ
โจวโร่หลินและแอนดี้เฝ้าดูอย่างออกรส ทั้งสี่คนเริ่มเปิดไพ่ ทำตามทีละขั้นตอนทีละขั้นตอน ยังอยากที่จะบอกได้ถึงความแตกต่าง
“ตายแล้ว! ท่านประธานชนะแล้ว! ประธานคุณเก่งมากจริง ๆ! !”
ตามมาด้วยไพ่ใบสุดท้ายของหลงเซียวที่ทิ้งลงมา โจวโร่หลินเป็นคนแรกที่กระโดดโลดเต้นและร้องเสียงดัง แอนดี้และจี้ตงหมิงต่างปรบมือ กล่าวชื่นชมฝีมือที่แสนร้ายกาจของหลงเซียว
“ไม่ได้ ๆ อีกรอบ! วันนี้แพ้ให้พวกคุณทั้งคู่เลย!” กู้เยนเซินยังไม่อยากจะทำใจยอมรับการพ่ายแพ้ และอยากจะแก้มือ
หลงเซียวพูดขึ้นเรียบ ๆ “เอาแค่นี้แหละ คุณชายกู้เตรียมเต้นคืนนี้ด้วยนะ ผมคิดว่าจะต้องน่าสนใจมากแน่”
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของโจวโร่หลินก็ดังขึ้น เหตุผลหลักคือเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของโจวโร่หลินนั้นเด่นเกินไป
เป็นเสียงเพลงกังนัมสไตล์ สไตล์เก่า เสียงที่โดดเด่นดังขึ้นและฉากนั้นแทบจะลุกเป็นไฟตามจังหวะ
ให้ตายเถอะ!
โจวโร่หลินไม่ทันคิดว่าเสียงโทรศัพท์นั้นเป็นของตัวเอง เธอเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เป็นเสียงเห่ย ๆ อย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!
ก้มหน้าลงดู เฮ้ย!
เกาจิ่งอานโทรมา
เพราะเธอโกรธมาก โจวโร่หลินจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและคำรามเสียงดัง “คุณเกา ตาแก่อย่างคุณจะเอาอะไรอีก? โรคเก่ากำเริบรึไงหรือว่าจะตายแล้ว? จะให้ฉันเอาโกศไปฝากไหม?”
คุณเกา?
คนรอบข้างอาจไม่รู้ แต่ลั่วหานกับหลงเซียวรู้ว่าปลายสายคือเกาจิ่งอาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลงเซียวในเวลานี้ เหมือนจะคิดอะไรออก
ครู่หนึ่ง สีหน้าของโจวโร่หลินก็เปลี่ยนไป “อ่อ? ขึ้นเครื่องบินเหรอ? ไปไหน?”
หลงเซียวใช้นิ้วเคาะโต๊ะ แล้วหรี่ตามองนาฬิกา เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงพอดีหลังจากเขาบอกจางหย่งให้ติดต่อเกาจิ่งอานไป เกาจิ่งอานเร็วจริง ๆ
“ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะไปไหน ต่อให้ไปสรวงสวรรค์ฉันก็ไม่สน”
โจวโร่หลินเพิ่งสังเกตเห็นว่าทุกคนมองเธออยู่ จึงยิ้มขึ้นอย่างเกรงใจแล้วใช้มือกุมโทรศัพท์แล้วเดินออกไปด้านข้าง
เกาจิ่งอานกำลังรีบไปสนามบิน ดวงตาพีชของเขาหรี่ลงเกือบจะเป็นเส้น แต่เขานึกถึงอาหารที่โจวโร่หลินทำ ราวกับว่าเรื่องราวรบกวนจิตใจนั้นได้มลายหายไป ใบหน้าเย็นชาพูดขึ้น “โจวโร่หลินฉันไม่รู้ว่าจะได้กลับมาไหม ไม่รู้ว่ามีชีวิตกลับมาได้รึเปล่า”
โจวโร่หลินเสียงขึ้นจมูก “พี่ชาย แสดงเก่งขนาดนี้ น่าไปเล่นละครInfernal Affairsช่องทีวีบีนะ? เขาต้องการแน่”
เฮ้ย!
เกาจิ่งอานขมวดคิ้วอย่างกลัดกลุ้ม “โจวโร่หลินเธอจะฟังฉันดี ๆ ไม่ได้รึไง ฉันไปทำงานที่ไม่ง่ายเลยนะ”
โจวโร่หลินเบ้ปาก “ค่ะ ๆ ๆ คนแก่อย่างคุณอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ไม่ง่ายอยู่แล้วล่ะ ขอให้รวย ๆ นะคะ”
“โจวโร่หลิน! เธอช่วยฟังฉันพูดดี ๆ ได้รึเปล่า? หุบปากเลย ฟังฉันพูดให้จบ!” เห็นชัดว่าเกาจิ่งอานที่ปลายสายโมโหแล้ว ทันใดนั้นเสียงคำรามก็เงียบลงและมือถือโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แค่นั้น!
อีตานี่!
สุดท้าย ก็เงียบลงและไม่พูดอะไร เงียบและรอฟังว่าเกาจิ่งอานจะพูดอะไร
เกาจิ่งอานเปลี่ยนเป็นท่าทีจริงจัง แล้วพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมและจริงจัง “โจวโร่หลินเธอฟังฉันให้ดี ฉันโตมาตั้งขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เป็นฝ่ายสนใจผู้หญิงก่อน”
“เธอโจวโร่หลินไม่เซ็กซี่ แถมเธอก็ยังไม่ได้สวยอะไร ต่อให้เธออยู่ในซอยเปลี่ยวยังไม่มีใครฉุดเลย”
อีตาบ้า! น่าโมโห!
เกาจิ่งอานมองไปที่ทิวทัศน์ด้านหน้าผ่านกระจกหน้ารถและภาพทิวทัศน์นับไม่ถ้วนกำลังผ่านไปด้วยความเร็วอย่างบ้าคลั่ง “แต่ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมฉันถึงชอบเธอ? ฉันชอบเธอได้ยังไง?”
ริมฝีปากแดงของโจวโร่หลินอ้าขึ้น เบิกตาโพลงจนลูกตาแทบถลน “คุณ…”
“ฉันจะไปพนัน ถ้าชนะฉันจะกลับมาหาเธอ เธอต้องทำอาหารให้ฉันกินนะ หมูพะโล้จานเด็ดของเธอทำได้ไม่เลว เพียงแต่ครั้งหน้าอย่าทำให้มันมันนักล่ะ”
เอ๊ะ?
“ถ้าหากฉันแพ้ รหัสประตูที่บ้านฉันเธอจำไว้…” เกาจิ่งอานพูดตัวเลขมาชุดหนึ่ง “จำไว้รึยัง? ยัยปัญญาอ่อน”
นายสิปัญญาอ่อน ปัญญาอ่อนสิบแปดชั่วโคตร
เมื่อได้ยินเกาจิ่งอานที่จู่ ๆ ก็โทรมา โจวโร่หลินก็งง นี่มันอะไร แกล้งเธอเล่นเหรอ?
สุดท้าย โจวโร่หลินยังคงอยู่ในภวังค์ “บ้ารึไงตานี่”
ลั่วหานจับมือของเธอ และยื่นมือจับชีพจรเธอมันเต้นรัวเร็ว หัวใจเต้นถี่ หน้าแดงถึงหู ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน
“เป็นอะไรไป?”
โจวโร่หลินบิดใบหน้าของเธอ “เกาจิ่งอานบ้ารึไง? จู่ ๆ ก็บอกฉันว่าเขาจะไปมาเก๊า จะไปเล่นพนันอะไรก็ไม่รู้ ยังบอกฉันด้วยว่าถ้าแพ้…ก็ให้ฉันไปที่บ้านเขา แล้วยังบอกรหัสประตูบ้านเขากับฉันอีก บ้าไปแล้วใช่ไหมเนี่ย?”
เอ๊ะ?
เกาจิ่งอานพูดกับโจวโร่หลินแบบนี้เหรอ?
อย่างนั้นเกาจิ่งอานคงจะตัดสินใจแล้ว และรู้แล้วว่าสถานการณ์ร้ายแรงแค่ไหน
หลงเซียวใช้นิ้วเคาะที่เข่าเบา ๆ ด้วยความนิ่ง