ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 632
ตอนที่ 632 ภารกิจสำเร็จ
คืนที่ถูกเขาเรียกว่า หู่จื่อยกปืนขึ้น ดูท่าทางแล้วเหมือนเตรียมตัวฆ่าคนแล้ว!
จางหย่งรู้ว่ากระสุนนัดนี้หมายถึงอะไร ในมือของเขาถือปืนสงคราม ซึ่งแตกต่างจากปืนที่อยู่ในมือของเขาอย่างสิ้นเชิง
นี่ถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญของชีวิตมนุษย์เป็นอย่างมาก
“เดียวก่อน!”
ระหว่างที่เกือบตาย หัวสมองของจางหย่งไม่ได้ทื่อตายด้วย เขาผุดความคิดหนึ่งขึ้น สถานการณ์ในตอนนี้เขาไม่สามารถทำเป็นเล่นแล้ว
ปืนในมือของหู่จื่อหยุดการกระทำลง เขาเหลือบตามองบนหัวของเขาด้วยสายตาเมินเฉยขึ้น “อ๋อ เตรียมตัวพูดอำลาหรอ?”
จางหย่งเผชิญหน้ากับห้าคน ซึ่งแต่ละคนถือปืนอยู่ ดังนั้นหากเขาพูดผิดเพียงคำเดียวหมายถึงชีวิต
ทันใดนั้นเสียงในหูฟังของการต่อสู้ของทางเกาจิ่งอานก็หยุดลง เห็นได้ชัดว่าเกาจิ่งอานถูกคนทางนั้นจัดการแล้ว เพราะในหูฟังได้ยินเสียงตบตี และเสียงของตกลงบนพื้นเสียงดังไม่หยุดหย่อน แค่ฟังเสียงก็รู้สึกน่าเวทนาแล้ว
ช่างเถอะ จางหย่งไม่มีความหวังจะถูกช่วยเหลือแม้แต่นิดเดียวแล้ว
จางหย่งยักไหล่ขึ้นเล็กน้อย และยิ้มแห้งๆ ซึ่งเผยฟันเรียงขาวสวยขึ้น “สุดหล่อ อย่าเครียดแบบนี้สิ ทุกคนล้วนเป็นคนแปลกหน้า เอาเงินให้สินค้าอย่างยุติธรรม เอาอย่างนี้ฉันให้คุณเป็นสองเท่าของราคา แล้วพวกคุณแบ่งสินค้าให้ผมครึ่งหนึ่ง”
“พูดจาเหลวไหลให้น้อยหน่อย! อยากได้สินค้าหรอ? ฮ่าฮ่า ไม่ดูตัวเองเลยว่าเป็นยังไง!”
ทั้งห้าคนยกปืนขึ้นมาพร้อมกัน คนที่ยืนอยู่ใกล้ประตูมากที่สุดพูดอย่างรำคาญใจว่า “ให้ความสำคัญต่อเวลาหน่อย เดียวตำรวจมา”
จางหย่งกลัวตำรวจมาเหมือนกัน เขาอยากรีบจัดการให้เร็วที่สุด!
ตรงเอวมีปืนกระบองหนึ่งเสียบอยู่ เขาต้องรีบจัดการก่อนที่ตัวเองจะถูกจัดการ
คนที่สองหยิบสินค้าบนโต๊ะขึ้น “พวกฉันไปก่อนล่ะกัน จัดการเสร็จเอาออกไปด้วย”
บ้าจริง ไปก่อนหรอ!
ดูเหมือนจะลำบากแล้ว งั้นก็สู้สุดชีวิตล่ะกัน!
หากตัดสินใจทำแล้วต้องทำให้เต็มที่ จู่ๆจางหย่งก็ก้มหลังเก็บปืนจากบนพื้นขึ้น เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทุกคนยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง
ได้ยินเพียงเสียงดังปังปังขึ้น จางหย่งยิงใส่ขาของคนหนึ่งในจำนวนนั้น คนๆนั้นล้มลงบนพื้นอย่างเจ็บปวด
เมื่อคนที่เหลือเห็นแบบนี้ก็รีบหันหลังเปิดประตู คนที่ถือสินค้าจับคันจับประตู และเปิดประตูเพียงนิดเดียว––
จางหย่งถีบใส่แผ่นหลังของคนๆนั้นด้วยขาข้างเดียว ทำให้คนๆนั้นพุ่งตัวชนปิดประตู จนเกิดเสียงแผ่นดินไหวสั่นสะเทือนขึ้น
แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงยิงปืนอันดุเดือดขึ้น ซึ่งครั้งนี้โหดเหี้ยมเปื้อนเลือดมากกว่าเมื่อกี้มาก กระสุนยิงเข้าบนพื้น บนโซฟาจนเกิดเสียงเสียดสีดังขึ้น
จางหย่งกลิ้งบนพื้นไม่กี่ตลบ แล้วเข้าไปหลบในห้องน้ำ ประตูห้องน้ำถูกยิงต่อเนื่อง ทำให้ประตูไม้สักที่มีขนาดหนาทะลุเป็นรูหลายรู
เมื่อจางหย่งเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็กดปุ่มวิกฤตขึ้น
เมื่อหลงเซียวได้รับสัญญาณจากจางหย่ง ยังไม่ทันพูดอะไรก็ได้ยินเสียงยิงกันจากข้างในขึ้น
“พูด” หลงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงปกติผ่านไมโครโฟน
จางหย่งเล่าสถานการณ์ของตัวเองขึ้น “เจ้านาย ผมคงเอาสินค้าให้ไม่ได้ ผมพยายามแล้วครับ ตอนนี้ทำยังไงดีครับ?”
หลงเซียวจ้องมองโน๊ตบุค บนหน้าจอเป็นโครงสร้างภายในห้องของรอยัลคาสิโน รวมถึง “เส้นทางหลบหนี” ของบ่นการพนันด้วย มีหลายเส้นทางที่สามารถพาคนออกไปอย่างปลอดภัย แต่ตอนนี้ต้องเอาชีวิตรอดออกมาก่อน
หลงเซียวเคลื่อนเมาส์ แล้วขยายเส้นทางข้างในเป็นระบบสามมิติ “เปิดหน้าต่างห้องน้ำ เดินอ้อมจากชั้นยี่สิบไปที่กล่องวางรีโมทเครื่องปรับอากาศของห้องข้างๆ แล้วกระโดดลงชั้นที่สิบเก้า เดียวผมส่งคนไปรับคุณ”
หลงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงปกติจนจบ จากนั้นก็เหลือบมองการเคลื่อนไหวของจุดสีแดงสองจุด คนหนึ่งคือเกาจิ่งอาน ส่วนอีกคนคือจางหย่ง ทั้งสองคนยังอยู่ในห้อง
ดูเหมือนภารกิจจะจัดการไม่ง่ายแล้ว
จางหย่งมึนงงอยู่ครึ่งวินาที “เจ้านาย ห้องนี้ไม่ใช่ห้องที่พวกเราคาดการณ์ไว้ คุณจะจัดการยังไงหรอ?”
“จัดการหลังจากที่พวกนายเข้าไป” หลงเซียวพูดขึ้น
“ครับ!” จางหย่งเงยหน้ามองประตูที่ถูกยิงทะลุ “ในเมื่อเจ้านายวางแผนเรียบร้อยแล้ว งั้นผมจะออกไปครับ! ภารกิจวันนี้ต้องสำเร็จ!”
สิ้นสุดเสียง จางหย่งก็จับปืนที่เสียบบนเอวขึ้น “บ้าจริง หากรู้อย่างนี้ยิงให้ตายไปแล้ว เห้อ ต้องมาจัดการไอ้พวกกระจอก!”
จางหย่งกระโดดขึ้นข้างบน พร้อมยื่นมือจับดวงไฟที่ห้อยลงมาอย่างแน่น ขณะเดียวกันขาสองข้างก็ลอยกลางอากาศ
เมื่อประตูถูกคนจากข้างนอกกระแทกเปิดอย่างแรงขึ้น จางหย่งก็ออกแรงใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวบนคอของคนที่เข้ามาคนแรก จากนั้นก็บิดคอเขาอย่างรวดเร็ว ได้ยินเพียงเสียงแครก คนที่เข้ามาคนแรกถูกจางหย่งบิดคอเรียบร้อยแล้ว
เมื่อมีคนหนึ่งซวยก็พากันซวยเป็นระนาบ จางหย่งเลยจัดการคนที่สอง และคนที่สามต่อ
“บ้าจริง!”
ขณะที่จางหย่งต่อสู้อย่างเมามันนั้น จู่ๆในหูฟังก็มีเสียงด่าทอของเกาจิ่งอานดังขึ้น เกาจิ่งอานหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่อยากเชื่อเลย?
ไม่รอเขามีปฏิกิริยาตอบสนอง เกาจิ่งอานยิ้มแย้ม “ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว!”
จางหย่งฉีกปากยิ้ม “แต่ฉันยัง!”
หลังจากตะคอกเสร็จ หน้าอกของจางหย่งก็ถูกคนเตะหนึ่งที
ปืนในมือของจางหย่งพลัดตกลงบนพื้น เขากวาดตามองสถานการณ์
เอาล่ะ คงต้องสู้สุดชีวิตแล้วล่ะ
……
ถือเป็นยามค่ำคืนที่หนาวและโดดเดี่ยว ผ้าม่านหน้าต่างบางๆปลิวไวเบาๆตามลมพัด ขณะเดียวกันนอกหน้าต่างก็ปรากฏเงาของต้นไม้เลือนรางขึ้น
สายตาของหลงเซียวจดจ่ออยู่แต่บนโน๊ตบุค โดยที่บนตัวมีผ้าขนหนูสีขาวสะอาดแค่ผืนเดียวปกคลุมอยู่ นับตั้งแต่ออกจากห้องน้ำก็ยังไม่กลับเข้าไปเลย
“สามี”
ลั่วหานกลับมาจากข้างนอกก็เห็นเขานั่งคนเดียวอยู่หน้าหน้าต่าง โดยที่บนโต๊ะวางโน็ตบุค และน้ำแก้วหนึ่งอยู่ เขาจ้องมองโน๊ตบุคด้วยท่าทางสงบนิ่งและตั้งใจมาก จนแสงสีฟ้าบนหน้าจอสาดส่องกระทบบนใบหน้าของเขาแล้ว
แสงสีฟ้าเป็นสีเข้ม เลยทำให้สีหน้าของเขาดูเย็นชาเล็กน้อย
หลงเซียวเสียบหูฟังไว้ในหูข้างหนึ่ง และกำลังตั้งใจฟังเสียงในหูฟังอยู่เป็นอย่างมาก ดังนั้นตอนที่ลั่วหานเรียกว่าสามีด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขาเลยไม่ได้ยิน
ลั่วหานเดินเข้ามาไม่กี่ก้าวมาถึงข้างหลังของเขา
“ภรรยา”
หลงเซียวสังเกตเห็นเธอเดินเข้ามาใกล้ตัว เลยหันหลังยิ้มแย้มต่อเธอ ซึ่งรอยยิ้มนี้ไม่เหมือนกับใบหน้าเย็นชาเมื่อกี้เลย
ลั่วหารยักคิ้วเล็กน้อย พร้อมยกมือกอดอก “นี่คืออะไรหรอคะ?”
หลงเซียวเลื่อนหน้าจอให้ลั่วหานดู แล้วพูดด้วยสีหน้าปกติว่า “เป็นเกมธรรมดาเกมหนึ่ง เกมหนีตายจากเขาวงกต”
เกมหนีตายจากเขาวงกตหรอ?
ลั่วหานเป็นคนไม่ชอบเล่นเกม แต่ไม่เคยเห็นเกมแบบนี้มาก่อนเลย “เกมหรอ? ฮ่าฮ่า จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างของเกมดูเสมือนจริงมากขนาดนี้เลยหรอคะ? ไม่มีความน่าสนใจเลย สงสัยคงมีจำนวนผู้ใช้น้อยมากแน่เลยใช่ไหมคะ?”
หลงเซียวทำปากมุ้ย “ครับ น้อยมาก จนถึงตอนนี้มีผู้ใช้ยังไม่ถึงยี่สิบคนเลย”
เกาจิ่งอาน จางหย่ง เหลียงหยู้คุน และลูกน้องของเขา เมื่อรวมกันแล้วยังไม่ถึงยี่สิบคน
ลั่วหานพยักหน้าเล็กน้อย “ผ่านการทดสอบการเล่นหรือยังคะ?”
หลงเซียวส่ายหน้าด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ “ยังเลยครับ ยังไม่ได้รับการยอมรับจากทางการเลย ดังนั้นเลยยังไม่สามารถใช้งานเป็นจำนวนมาก ผมได้รับจากพนักงานที่อยู่แผนกข้างในให้ลองทดสอบ และหากสะดวกช่วยพวกเขาปรับปรุงสักหน่อย”
แต่ถึงยังไงก็คงไม่สามารถผ่านการยอมรับจากทางการชั่วชีวิตแน่
ลั่วหานยังคงไม่ค่อยอยากเชื่อ “เล่นยังไงหรอ? ฉันอยากทดสอบดูบ้าง”
หลงเซียวจับมือที่ลั่วหานวางมือบนบ่าของเบาด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ “รอให้ผมปรับปรึงระบบก่อน เดียวผมให้คุณเล่นนะ คุณไปนอนก่อนนะครับ”
ลั่วหานยักไหล่เล็กน้อย และพูดอย่างจนปัญญาว่า “มิน่าคนส่วนใหญ่ถึงพูดว่าไม่สามารถปล่อยให้ผู้ชายหมกมุ่นกับการเล่นเกม เพราะไม่เช่นนั้นจะติดเกม ดังนั้นคุณเล่นเพียงแค่รอบเดียวพอนะค่ะ ”
หลงเซียวพูดรับปาก “ครับ ผมจะเล่นแค่รอบเดียว”
แค่รอบเดียวก็ทำให้คนเหนื่อยตายแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่อยากเล่นเป็นรอบที่สองเหมือนกัน
เมื่อตั้งท้องมักจะรู้สึกเหนื่อยล้าง่าย ลั่วหานหาวหนึ่งที “งั้นฉันไปนอนก่อนนะค่ะ คุณรีบเล่นให้จบนะค่ะ”
หลงเซียวลูบหน้าท้องของเธออย่างเอ็นดู “ครับ ผมจะรีบเล่นให้เร็วที่สุด คุณไปนอนก่อนเถอะครับ ผมจะไม่อยู่ที่นี่รบกวนการพักผ่อนของคุณแล้ว เดียวผมจะไปเล่นเกมข้างนอก”
ลั่วหานยิ้มแย้ม “ขอให้เล่นอย่างราบรื่นนะค่ะ!”
“แน่นอน”
หลงเซียวถือโน๊ตบุคเดินไปห้องข้างนอก โดยที่ในหูฟังยังคงได้ยินเสียงชุลมุนวุ่นวายอยู่ ฟังจากเสียงแล้วดูเหมือนจางหย่งจะเสียเปรียบอยู่
แน่นอนว่า จางหย่งในตอนนี้ค่อนข้างเสียเปรียบมาก
เขาจับยกผู้ชายชุดดำที่มีรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งด้วยสองมือ พร้อมกับเตะขาทำให้คนหนึ่งเสียหลักล้มลงในห้องน้ำ มือหนึ่งบีบคอผู้ชายคนหนึ่ง ส่วนอีกมือหนึ่งบิดเปิดก๊อกน้ำ แล้วจับหัวของผู้ชายกดน้ำ
ส่วนข้างหลังของเขา มีผู้ชายอีกคนกำลังเตรียมตัวจู่โจม แต่ปืนในมือของเขาไม่มีกระสุนแล้ว เลยเดินเข้ามาจับหัวของจางหย่งพร้อมดึงไปข้างหลังอย่างแรง!
“โอ๊ย!”
จางหย่งยากที่จะกำจัดศัตรูรอบด้าน จู่ๆร่างกายก็ถอยไปข้างหลังอย่างแรง เพราะฝ่ายตรงข้ามออกแรงดึง ทำให้คอหอยรู้สึกเจ็บปวด จนแทบหายใจไม่สะดวกเลย
“แครก!” จางหย่งรู้สึกเจ็บคอมาก เลยปล่อยมือออกจากคนๆนั้น เมื่อคนๆนั้นถูกปล่อยก็ปลดปล่อยพละกำลังอย่างน่าตกใจ เขาต่อยใส่จางหย่งอย่างหนักหนึ่งที!
ทันใดนั้นเลือดสีแดงสดก็ไหลออกจากรูจมูก ขณะเดียวกันก็เกิดรอยช้ำขึ้นมาอย่างชัดเจนด้วย
ตึบตึบตึบตึบ!
ฝ่ายตรงข้ามใช้หัวเข่ากระแทกหน้าท้องของจางหย่งอย่างหนักต่อเนื่องหลายครั้ง เขารู้สึกเมื่อยล้าทั้งตัว ขณะเดียวกันก็สำลักน้ำลายปนน้ำเลือดด้วย
จางหย่งยื่นขาป้องกัน จากนั้นก็ยกขาอีกข้างถีบใส่หน้าท้องของผู้ชาย แต่ขณะเดียวกันแผ่นหลังของเขาก็ถูกชนเข้ากับอ่างล้างหน้าอย่างแรง ทันใดนั้นเขารู้สึกเห็นเบื้องหน้ามีดาวส่องแสงระยิบระยับขึ้น
“เห้! ปู่ของแกมาแล้ว!”
จางหย่งยิ้มแย้มอย่างเย้ยหยัน จากนั้นเขาก็หมุนกระบอกปืนเล่นเล็กน้อย แล้วเล็งปืนยิงใส่คนหนึ่งดัง “ปัง” ขึ้น
ปืนจริงหรอ!
เป็นปืนที่เขาแย่งมาจากฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นคนที่ถูกยิงล้มลงบนพื้นด้วยเสียงร้องเวทนา เพราะเขาถูกยิงตรงขาข้างหนึ่ง
จางหย่งเงยหน้าขึ้น โดยที่ในปากมีเลือดสีแดงสดไหลเปื้อนบนคางของเขา และไหลเปื้อนบนเสื้อของเขาด้วย
เกาจิ่งอานเองก็ไม่ดีมากไปกว่าเขาหรอก เขาในตอนนี้เปียกชื้นเต็มไปด้วยเลือดทั้งตัว
หลงเซียวพูดว่า “จิ่งอาน ยิง”
“ครับ!”
ตอนนี้เกาจิ่งอานไม่สนใจคุณธรรมอะไรแล้ว แต่ยิ่งกระหน่ำไม่กี่นัดขึ้น
ในที่สุดห้องชุดก็อบอวลไปด้วยคราบเลือดและความเงียบสงบ
จางหย่งหันมองนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง “อืม กระโดดจริงหรอ?”
เกาจิ่งอานทำปากมุ้ย “พูดจาเหลวไหล แน่นอนว่า….ไม่กระโดด!”
ใช่ ไม่กระโดด ไม่ต้องกระโดด
“ได้จัดเตรียมคนเรียบร้อยแล้ว ตอนออกมาสามารถนั่งลิฟท์ของวีไอพีได้เลย จะมีคนมารับพวกคุณ” หลงเซียวพูดขึ้น
เกาจิ่งอานดีดนิ้วเสียงดังฟังชัดขึ้น “ขอบคุณพี่ใหญ่มาก! ของถึงมือแล้ว ตอนที่เหลียงหยู้คุนฟื้นขึ้นมาคงด่าจัดเต็มแน่”
จางหย่งหัวเราะฮ่าฮ่าอย่างหมดแรง เพียงแค่เขายิ้มก็รู้สึกเจ็บแล้ว “เหลียงหยู้คุนหรอ ผมจะกลับไปเอาชีวิตเขาให้ได้!”
หืม!
ด่าจบก็รู้สึกเจ็บมุมปาก เลยพูดเพิ่มเติมขึ้นว่า “โอ๊ย!”
เกาจิ่งอานประคองเขาขึ้น แล้วตบบนบ่าของจางหย่งเล็กน้อย “เอาล่ะเอาล่ะ ไม่ตายก็ดีแล้ว ไม่ต้องฝากคำอำลาแล้ว ไปไปไป กลับบ้านฉลองปีใหม่กันเถอะ”
จางหย่ง : “……”
หลงเซียวพูดขึ้นว่า “เดียวรถจะพวกนายไปส่งที่สะพานไทปาตามที่นายปราณนา ซึ่งมีคุณหมอรออยู่ทางนั้นด้วย”
เกาจิ่งอาน : “…..พี่ใหญ่ จริงหรอครับ?”