ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 635
ตอนที่ 635 ในท้องมีของล้ำค่า
“หลงจื๋อ! นายต้องรู้ตัวไหมว่านายกำลังคุยกับใครอยู่!” หลงถิงรู้สึกโมโหกับคำพูดที่ทิ่มแทงใจของลูกชาย เลยปลดปล่อยความรู้สึกไม่พอใจออกมาทันที
“พ่อโมโหอะไรหรอครับ? โมโหที่ผมไม่ได้พูดจาด้วยถ้อยคำหวานหรอ หรือโมโหที่ผมพูดถูก จนสะกิดใจพ่อหรอครับ?” หลงจื๋ออดกลั้นความรู้สึกไม่พอใจไว้ และพยายามไม่ระเบิดอารมณ์ออกมา
หลินซีเหวินเคยบอกเขาว่า อยู่ต่อหน้าพ่อต้องเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก แต่เมื่อหลงจื๋อได้ยินว่าพ่อของตัวเองตัดสินใจร่วมงานกับตู้หลิงเซวียน สุดท้ายก็ระเบิดอารมณ์ออกมา
ชั่วพริบตาความรู้สึกโมโหก็พุ่งปรี๊ดขึ้น ในตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว
“ตุบ!”
เมื่อสิ้นสุดเสียงของหลงจื๋อ หลงถิงก็ยกมือขึ้น พร้อมกับอ้าแขนออกแรงตบลงบนใบหน้าของหลงจื๋อหนึ่งที ชั่วพริบตาบนใบหน้าปรากฏรอยมือแดงระเรื่อขึ้นมา และทำให้เขารู้สึกหน้าชาครึ่งหน้าด้วย
หลงจื๋อถูกเขาตบใส่หน้าจนต้องถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างโซซัดโซเซ ตบครั้งนี้หลงถิงออกแรงสุดกำลัง โดยไม่คำนึงเลยว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าเป็นลูกชายแท้ๆของตัวเอง
ในเวลาเดียวกัน ตบครั้งนี้ก็เหมือนกับเป็นการเตือนสติหลงจื๋อ เมื่อกี้เขาโมโหเดือดดาลจนขาดสติ คำพูดของหลินซีหลินเหมือนกับเครื่องล้างสมองที่วกวนอยู่ในความคิดของเขา
อดทน!
อดทน!
อดทน!
ท่องสามรอบเงียบๆ
หลงจื๋อยืนนิ่ง พร้อมกับกำหมัดอย่างแน่น โดยที่นิ้วมือหดบิดแน่นเป็นก้อนกลม เข้าก้มหน้าลง และพยายามอดกลั้นความรู้สึกโมโหเป็นเหมือนปีศาจที่อยู่ภายในใจ
จากนั้นเขาก็วางมาดเชื่อฟัง และพูดอย่างอ่อนโยนขึ้นว่า “ผมผิดไปแล้วครับ พ่อ”
หลงถิงเพิ่งดึงมือกลับมา คิดไม่ถึงว่าหลงจื๋อจะตอบตัวเองแบบนี้ ดังนั้นนิ่งอึ้งชั่วขณะ พร้อมหรี่ตาจ้องมองด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ “เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ?”
หลงจื๋อรู้สึกขัดแย้งภายในใจ และใบหน้าที่บิดเบี้ยวก็เริ่มเผยสีหน้าอ่อนโยนขึ้น “พ่อพูดถูกครับ การลงทุนมีความเสี่ยง การเลือกบริษัทหลันเทียนเป็นผู้ร่วมลงทุนจะไม่มีทางได้รับผลกระทบจากอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง
บริษัทหลันเทียนเป็นบริษัทขนาดใหญ่ และมีอิทธิพลในอเมริกาเป็นอย่างมาก หากบริษัท MBK ทำงานร่วมกับพวกเขาต้องสร้างมูลค่ามหาศาลมากแน่ เป็นเรื่องอคติของผมเอง หลังจากถูกพ่อตบเรียกสติ ผมก็รู้แล้วว่าควรทำยังไงแล้ว”
หลงจื๋อไม่รีบร้อน พร้อมพูดอธิบายยอมรับและแสดงความคิดเห็นของตัวเอง จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลง และเผยท่าทางเชื่อฟัง
ปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ของเขาทำให้หลงถิงรู้สึกพอใจมาก ดูเหมือนว่าความแข็งกระด้างของเขามีมากไม่เท่าไหร่ คนอายุน้อยที่มีความแข็งกระด้างต้องได้รับการสั่งสอน ในอนาคตจึงจะสามารถเป็นที่พึ่งพาของเขาได้
ดังนั้นหลงถิงเลยเปลี่ยนท่วงท่าเหมือนกัน และยิ้มจางๆ “หลงจื๋อ พ่อรู้ว่านายต้องเข้าใจความรู้สึกของพ่อ ไม่ใช่พ่ออยากบีบบังคับนายหรอก แต่พ่ออยากให้นายรู้ว่า มีหลายเรื่องที่ไม่ง่ายดายอย่างที่นายคิด ในเมื่อนายเข้าใจแล้ว พ่อก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
หลงถิงตบบนบ่าของลูกชายเพื่อให้กำลัง และพูดขึ้นว่า “ลุงใหญ่ของนายเป็นคนที่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อน เขามองปัญหารอบด้านมากกว่านาย นายต้องเรียนรู้การทำธุรกิจกับเขามากๆ การเป็นมีคุณธรรม มีแต่ผลดีต่อนาย”
ฮ่าฮ่า? การทำธุรกิจหรอ? การเป็นคนมีคุณธรรมหรอ?
ถ้าหากเขาสามารถเรียนรู้กับลุงใหญ่จริง เกรงว่าในอนาคตคงกลายเป็นพวกนักเลงแล้ว!
หลงจื๋อพูดในใจเงียบๆ แต่ปากพูดรับปาก “ครับ ผมจะเรียนรู้กับลุงใหญ่ เมื่อกี้ผมยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่”
หลงถิงยิ้มแย้มอย่างพอใจ “อืม แบบนี้ดีแล้ว นายยังอายุน้อย มีหลายเรื่องที่ตอนนี้ยังไม่สามารถมองทะลุ ไม่เป็นไร เดียวผ่านประสบการณ์มากเดียวก็เข้าใจเอง”
หลงถิงกัดฟันอย่างแน่น เส้นทางโลกที่เคร่งขรึมนี้ ไม่เหมือนกับสภาพแวดล้อมชีวิตเมื่อก่อนของตัวเลย!
“ครับ ผมจำแล้วครับ” หลงจื๋อก้มหน้ารับปาก และไม่พูดโต้เถียงกับหลงถิงอีก
หลงถิงพยักหน้าส่งสัญญาณต่อหลงเซิ่ง “พี่ใหญ่ ออกกำลังกายตอนเช้าเสร็จแล้วใช่ไหม?”
“ฮ่าฮ่า เสร็จแล้ว มาออกกำลังกายกับเสี่ยวจื๋อ ประสิทธิภาพสูงเลยทีเดียว” หลงเซิ่งเดินเข้ามาตบบนบ่าของหลงจื๋อเบาๆ
“เสี่ยวจื๋อ นายต้องเชื่อคนในครอบครัวเดียวกัน เพราะเราจะยืนอยู่เคียงข้างนายเสมอ และจะเป็นเกราะป้องกันของนาย”
เกราะป้องกันหรอ? คิดว่าเขาเป็นเด็กอายุสามขวบไม่รู้เรื่องรู้ความหรอ? เกราะป้องกันแบบนี้ไม่มีก็ไม่เป็นอะไร!
หลงจื๋อพยักหน้านับถือเล็กน้อย และพูดตามความต้องการของเขาว่า “ลุงใหญ่พูดถูกครับ ผมเอาแต่ใจมากเกินไปเอง”
“ฮ่าฮ่า ไม่เป็นไร คนอายุน้อยก็เป็นแบบนี้แหละ ในอนาคตก็จะดีขึ้นเอง ฮ่าฮ่า หิวแล้วใช่ไหม? พวกเราไปกินข้าวกันเถอะครับ?”
หลงถิงพยักหน้าเล็กน้อย “เสี่ยวจื๋อ เข้าไปกินข้าวเร็ว”
“ครับ เดียวผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะครับ” หลงจื๋อเดินจากไป แล้วรีบเดินตรงไปเปลี่ยนเสื้อทันที
หลงถิงหันหน้ามาสบตากับหลงเซิ่งอยู่สักพักใหญ่ และพูดขึ้นว่า “เขาอยู่กับหลงเซียวนานมากเกินไป เลยเรียนรู้นิสัยไม่ดี!”
หลงเซิ่งหัวเราะฮ่าฮ่า “ในอนาคตหลงเซียวจะไม่กลายเป็นอุปสรรคของเขาแล้ว ในเมื่อต้องการอยากให้หลงจื๋อเป็นคนสืบทอดบริษัท MBK ดังนั้นประการแรกเขาต้องมีมาดของผู้สืบทอดทายาทก่อนจริงไหม?”
หลงถิงไม่อยากพูดกับหลงเซิ่งมากสักเท่าไหร่ เลยพูดขึ้นว่า “กินข้าวกันเถอะ”
——
แสงสว่างยามเช้าสาดส่องทางทิศตะวันออกแล้ว ถือเป็นวันที่แสงอาทิตย์สดใสมาก
ลั่วหานนอนตั้งแต่หัวค่ำ ดังนั้นเลยตื่นนอนเช้ามาก อากาศตอนเช้าที่ชานเมืองสดชื่นมาก แถมนอกหน้าต่างยังสามารถได้ยินเสียงนกร้องด้วย อากาศที่สดชื่นเป็นพิเศษในยามเช้าทำให้คฤหาสน์สะอาดเหมือนกับถูกสายฝนทำความสะอาดอย่างนั้น
แต่สำหรับลั่วหานแล้ว ทิวทัศน์ข้างนอกหน้าต่างไม่สามารถเทียบเท่ากับคนที่อยู่ด้านข้างหรอก
หลงเซียวยังคงนอนหลับ ในตอนนี้แสงอาทิตย์สาดส่องใบหน้าด้านข้างของเขา และเผยขนตาอันยาวหนาของเขาให้เห็นชัดเจน
ลั่วหานจ้องมองเขาอย่างชื่นชมมากกว่ามองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่างเสียอีก
ตอนที่หลงเซียวนอนหลับ เธอไม่รู้สึกตัว แต่ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าต้องนอนดึกแน่ ดังนั้นลั่วหานไม่กล้ารบกวนเขา แต่แตะบนตัวเขาเบาๆ
ประเด็นคือหัวของตัวเองยังนอนทับบนแขนของหลงเซียวอยู่ สงสัยคงนอนทับทั้งคืนแน่เลย แต่เขาก็ไม่ดึงแขนกลับมาด้วย ไม่กลัวแขนชาหรอ?
ลั่วหานดึงผ้าห่มออก แล้วเดินลงจากเตียง และก็ช่วยห่มผ้าห่มให้เขา จากนั้นก็เดินออกจากห้องนอนไปรินน้ำอุ่นในห้องรับแขก
เธอยืนดื่มน้ำอุ่นครึ่งแก้ว จากนั้นโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะกระจกก็ดังขึ้น เป็นข้อความ
ลั่วหานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และเห็นเป็นข้อความจากหลินซีเหวิน
วันหยุดตื่นเช้าขนาดนี้เลยหรอ? ดูไม่เหมือนเป็นวิสัยของหลินซีเหวินเลย
“พี่ลั่ว ผู้ป่วยที่พรุ่งนี้จะทำการผ่าตัด จู่ๆก็มีไข้สูง แต่คุณอย่าเพิ่งกังวล ฉันได้เปลี่ยนเปลี่ยนเครื่องมือแทนแล้ว”
ลั่วหานเผยสายตากังวล เลยโทรศัพท์ไปหาเลยทันที ไม่นานหลินซีเหวินก็รับสาย
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลินซีหลินทำปากมุ้ย และพูดขึ้นว่า “นางฟ้าที่รัก อาการของผู้ป่วยไม่มั่นคงเลย แต่ฉันอยากบอกว่า สุดสัปดาห์ที่สวยงามของฉันกลับต้องมาโรงพยาบาลอย่างด่วนจี๋ ช่างเสียเปรียบจริงๆ”
“หมายความว่าอะไรหรอ?”
“หมายความว่า คุณต้องชดเชยให้ฉันนะค่ะ อย่างเช่น ฉันกับหลงจื๋อสามารถไปกินข้าวที่บ้านคุณได้ไหม?”
หลินซีเหวินพูดออดอ้อนกับลั่วหานเหมือนกับเด็กน้อย เพื่อแค่ไปกินข้าวบ้านของเธอเท่านั้น
ลั่วหานยกมือทาบบนหน้าผาก และพูดว่า “โอเค อยากกินข้าวที่บ้านก็พูดตรงๆ ไม่เห็นต้องพูดอ้อมทำไม? ไว้อีกสองวันนะ ค่อยพาหลงจื๋อมาด้วยกัน”
“จริงหรอค่ะ! ดีเลย ดีเลย!” หลินซีเหวินตะโกนขึ้น และพูดต่อว่า “อีกอย่างไม่กี่วันมานี้คุณคงเล่นกับประธานหลงอย่างสนุกสนานมากเลยไหมคะ ฉันได้ยินมาว่าประธานหลงอยู่ที่คฤหาสน์”
ลั่วหานยิ้มและพูดว่า “ทำไมหรอ? เธออยากมาหรอ?”
หลินซีเหวินหัวเราะฮ่าฮ่าขึ้น “ฉันได้ยินมาว่า คฤหาสน์ของประธานหลงไม่ใช่ใครอยากมาก็สามารถมาได้ เห่อเห่อ”
ลั่วหานนิ่งเงียบชั่วขณะ “คุณไม่ใช่คนอื่นคนไกล อยากมาก็มา ถ้าหากหลงจื๋อมีเวลาก็มาด้วยกัน”
“ว้าว! จริงไหมคะ? ดีเลย!”
หลังจากวางสาย ลั่วหานก็จ้องมองโทรศัพท์ ต้องทำขนาดนี้เลยหรอ? ฮ่าฮ่า
……
ตอนเช้าทุกคนกินข้าวกันที่คฤหาสน์ ตอนบ่ายทำกิจกรรมตามอิสระ บางคนว่ายน้ำ บางคนพายเรือ บางคนเข้าเรียน ส่วนคนที่ขี้เกียจขยับมักเลือกไปตกปลาริมแม่น้ำ
เถียนเถียนมองดูลั่วหานอย่างเงียบๆ และคิดอยากมีโอกาสอยู่กับลั่วหานสองต่อสอง หลังจากที่กินข้าวกันเสร็จและแยกย้าย เธอก็รวบรวมความกล้ากัดฟันเดินไปที่ลั่วหานและข้างๆหลงเซียว
“น้าคนสวยค่ะ หนูสามารถเล่นกับน้าได้ไหมคะ?” เถียนเถียนซักถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา และกระพริบตาเล็กน้อย พร้อมกับเผยสีหน้าไร้เดียงสา
“ได้แน่นอน แล้วเถียนเถียนอยากเล่นอะไรคะ? เดียวน้าเล่นเป็นเพื่อน” ลั่วหานเข้ากับเถียนเถียนมาก เด็กน้อยเชื่อฟังมาก
เถียนเถียนเหลือบมองหลงเซียวเล็กน้อย กลัวว่าเขาจะไม่เห็นด้วย “ลุงคนหล่อ คุณเล่นด้วยกันได้ไหมคะ?”
หลงเซียวไม่ค่อยเก่งเรื่องอยู่กับเด็ก แต่ในเมื่อลั่วหานชอบ เขาก็จะลองดู ดังนั้นเลยตอบว่า “ได้สิ ลุงจะเล่นเป็นเพื่อนหนู”
หวังเค่ยพูดอย่างเกรงใจว่า “คุณหมอฉู่ คณะกรรมการบริหารครับ เด็กคนนี้ชอบติดคน พวกคุณอย่าตามใจเธอ เดียวผมพาเธอไปเอง”
แต่เถียนเถียนเอาแต่จับมือลั่วหานไม่ยอมปล่อยมือ และเผยสายตาเฝ้ารอคอย
ลั่วหานยิ้มและพูดว่า “เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่เป็นไร ฉันจะพาเด็กไปกับหลงเซียวเอง คุณทำธุระเถอะ”
“งั้นรบกวนด้วยนะครับ” หวังเค่ยแตะบนจมูกของเถียนเถียน “เชื่อฟังนะ!”
หลังจากที่ หวังเค่ยจากไป ลั่วหานก็ยิ้มและพูดว่า “สามี ฉันเก็บลูกสาวคนหนึ่งมา ชอบไหมคะ?”
หลงเซียวยิ้มแย้ม และเผยสีหน้าอ่อนโยนที่ไม่สามารถปกปิดขึ้น “ลูกสาวที่เก็บมา ถึงยังไงก็ต้องคืน ของตัวเองดีที่สุด” ลั่วหานเม้มปากยิ้มเล็กน้อย
เถียนเถียนเงยหน้าจ้องมองหน้าท้องของลั่วหานด้วยสีหน้าสงสัย และคิดอยากลูบเล่น “น้าค่ะ ทำไม่ท้องของคุณใหญ่ขนาดนี้คะ?”
“ฮ่าฮ่า!” ลั่วหานหัวเราะดังขึ้น แล้วดึงมือของเถียนเถียนมาลูบบนหน้าท้องตัวเอง และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เพราะข้างในซ่อนของล้ำค่าอยู่”
“ว้าว! จริงหรอคะ? ซ่อนของล้ำค่าอะไรหรอคะ?”
หลงเซียวหันหน้าสบตาเถียนเถียน “เถียนเถียนเป็นของล้ำค่าของพ่อไหมคะ?”
เถียนเถียนครุ่นคิดสักพัก และพยักหน้าแรงๆ “ค่ะ! พ่อของหนูบอกว่า หนูเป็นของล้ำค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาค่ะ”
หลงเซียวพูดอย่างจริงจังว่า “ข้างในนี้เป็นของล้ำค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลุง เหมือนกับที่หนูเป็นของล้ำค่าของพ่อหนู”
เถียนเถียนครุ่นคิดสักพัก แล้วเบิกตาซักถามด้วยสีหน้าจริงจังขึ้น “แต่หนูเป็นเด็กน้อย ดังนั้นในท้องของน้าคนสวยเป็นเด็กน้อยเหมือนกันใช่ไหมคะ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ลั่วหานกลั้นหัวเราะไม่ไหว เด็กคนนี้พูดจาน่ารักมาก!
“เถียนเถียน หนูรู้เยอะมากเลยนะ”
หลงเซียวลูบหัวของเถียนเถียนเล็กน้อย และพยักหน้าเบาๆ “ในท้องของน้าคนสวยของหนู เป็นเจ้าน้อย…หรืออาจจะเป็นเจ้าชายน้อยของลุง”