ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 649
ตอนที่ 649 ลืมกินยาเหรอ
เกาหยิ่งจือสายตาเย็นชามองโม่ล่างคุน ใช้สายตาแบบผู้พิพากษามองสายตาคู่นั้นที่ซ่อนความชั่วร้ายไว้เยอะจนไม่มีที่หนี
โม่ล่างคุนถูกเธอมองจนตกใจ แต่ก็ยังคงยิ้ม ดูอ่อนโยนเหมือนกับคนทำผิดที่กำลังแก้ไขตัวเอง “เสี่ยวหยิ่ง หนูโกรธ หนูไม่สบาย ลุงรู้ หนูด่าลุงเลย ขอให้สบายใจขึ้น…..ไม่ หนูตีลุงก็ได้ ขอแค่หนูรู้สึกดีขึ้น ลุงจะไม่พูดอะไรสักคำ”
ในคำพูด เขาทำเหมือนตัวเองเป็นโซฟา ให้เกาหยิ่งจือทุบตีได้ตามสบาย
เกาหยิ่งจือยิ้มเย็นชา “คุณลุงมาทำดีกับหนูแบบนี้ หวังอยากได้หุ้นส่วนในมือหนูของเอินเคอเหรอคะ? ทำไม? คิดว่าหนูตายแล้วจะเอาหุ้นส่วนให้คุณลุง? หรือให้ลูกสาวที่รักของคุณนาย?”
นี่?
โม่ล่างคุนพูดไม่ออก ปากกระตุก “เสี่ยวหยิ่ง หนูดูหนูพูดอะไรเนี่ย ลุงจะทำแบบนี้ได้ยังไง? ลุงหวังว่าหนูจะรักษาอย่างสบายใจ เหอะๆ ต้องการอะไรหนูไม่ต้องเกรงใจ พูดได้เลย”
เกาหยิ่งจือร่างกายอ่อนเพลียไม่มีแรง รู้สึกปวดตามตัว เจ็บจนเธอกำมือไว้แน่น ดึงชายเสื้อตัวเอง เจ็บจนคลานออกมา
“หนูต้องการอะไร? เหอะๆ หนูอยากให้ลุกออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป เดี๋ยวนี้” เธอยกมือข้างหนึ่ง ชี้ไปที่ประตู ให้เขาไปไกลๆ
โม่ล่างคุนเหมือนโดนเธอตบหน้า อยู่ต่อไม่ได้แล้ว “ได้ ได้ ออกไปเดี๋ยวนี้ เสี่ยวหยิ่งพักผ่อนดีๆนะ อีกสองวันป้าหนูจะมาเยี่ยม ช่วงนี้เขาไม่อยู่บ้าน…….”
“ไป”
เกาหยิ่งจือไม่อยากได้ยินแม้แต่เสียงเขา ตะโกนให้เขาออกไป
ในห้องเงียบลงแล้ว เกาหยิ่งจือหลับตาสูดหายใจ บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ไม่ถึงนาที เธอก็ม้วนตัวลงที่โซฟา
ไม่แค่ร่างกาย ใจเธอก็ปวดมาก ปวดที่สุด
ตอนนั้นเธอช่วยโม่หรูเฟยแย่งหลงเซียว แต่กลับหาเรื่องใส่ตัว ไม่ได้ตัวถังจิ้นเหยียน ยังสูญเสียอิสระ
หลังจากเธอเข้าคุกไป โม่ล่างคุนผัวเมียมาดูแค่ครั้งเดียวก็หายไปเลย ตอนนี้เธอป่วย โม่ล่างคุนกลับแกล้งมาทำใจดี ต้องการอะไรกันแน่?
ตระกูลโม่ไม่มีบริษัทแล้ว ตอนนี้โม่ล่างคุนก็เหมือนหมาป่าที่หิวจัด เที่ยวหาแหล่งผลประโยชน์ เขานึกว่าในมือเธอมีหุ้นส่วน
ยิ่งคิดก็ยิ่งชัดเจน ใจของเกาหยิ่งจือยิ่งปวดจนเกินจะทน คนที่เธอเคยเชื่อใจ หมุนตัวกลับก็กลายเป็นหมาป่าจะกลืนกินเธอ
ตระกูลโม่ไม่มีของดี
……
โม่ล่างคุนปิดประตูรถอย่างแรง ดึงคอเสื้อด้วยความโมโห พูดกับโม่หรูเฟยที่นั่งข้างคนขับ “เกาหยิ่งจือนี่ยกตัวเองสูงไปไหม ให้พ่อไสหัวออกมา”
โม่หรูเฟยเล่นเล็บที่แต่งมาอย่างสวยงาม หัวเราะคิกคิก “พ่อ พ่อก็ดูถูกเธอเกินไป เธอไม่ใช่กระต่ายน้อยนะ พ่อกับแม่ปกติก็ไม่ได้เยี่ยมเธอ เวลาแบบนี้อยากได้เงินจากปากเธอ มันจะง่ายไปไหม”
โม่ล่างคุนกดพวงมาลัย “เฟยเฟย ในมือเกาหยิ่งจือมีหุ้นส่วนเอินเคอเท่าไหร่ ถ้าหุ้นพวกนี้โอนมาเป็นชื่อหนูได้ อย่างน้อยหนูก็ถือหุ้นของบริษัทเอินเคอได้ ก็จะได้เข้าเป็นคณะกรรมการ หนูต้องคิดหาวิธี”
โม่หรูเฟยไม่ได้เล่นเล็บอีก ให้โม่ล่างคุนขับรถก่อน “เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้ ตอนนี้เกาหยิ่งจือไม่สบาย ต้องระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว เมื่อเขาเข้าไปในโลงศพก็เหลือแค่หุ้นนี้เท่านั้น เขาไม่ให้ใครง่ายๆหรอก ตอนนี้ หนูก็จะดูแลเขาไปก่อน ให้เขาเชื่อใจหนู”
โม่ล่างคุนพูดอย่างชื่นชม “เฟยเฟยโตแล้ว ฉลาดมาก ทำตามขึ้นตอน ค่อยๆทำ”
รถขับออกจากลานจอดรถโรงพยาบาลหวาเซี่ย รถที่ขับสวนมาคือรถเบนซ์สีดำ คือรถของเกาจิ่งอาน รถทั้งสองสวนทางกัน ไม่ได้สังเกตเห็นอีกฝ่าย
โม่หรูเฟยพูด ว่าไปแล้ว เธอก็เคยช่วยหนูไว้ไม่น้อย ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน หนูไม่อยากให้เธอตาย แต่ว่า”
เธอหัวเราะ “ตอนนี้เธอตายแล้วมีประโยชน์กว่าตอนอยู่”
……
บนดาดฟ้า อาคารสำนักงานฉู่ซื่อ
ในมือหลงเซียวจับคอปกเสื้อ นิ้วยาวเคาะขอบโต๊ะ เสียงดัง ก๊อก ก๊อก
แต่ว่า จี้ตงหมิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดนเคาะจนเหมือนมีกลองในใจ “บอส คิดยังไง? ผมจะตอบพวกเขายังไง?”
หลงเซียวมองซองเชิญร่วมงานสีแดงบนโต๊ะ ไม่ได้จับอีกเป็นครั้งที่สอง “ไม่ไป”
“บอส วันเกิดพ่อของท่าน ไม่ไป…..เหรอ?” จี้ตงหมิงถามอย่างระมัดระวัง
ถ้าตามหลักแล้ว หลงถิงทำอะไรก็ทำเกินไป บอสไม่จำเป็นต้องไป แต่แค่ไปเป็นพิธียังไม่อยากไปเหรอ? ก็ได้ ไม่ว่าไปหรือไม่ไป เขาก็สนับสนุนเต็มที่
“วันเกิดฉันก็สิ้นเดือนนี้ เขาจะจัดเมื่อไหร่ไม่จัด มาจัดก่อนวันเกิดฉัน เหอะ” คำพูดหลงเซียวพูดแค่พอเหมาะแต่เนื้อหาก็เยอะแล้ว
จี้ตงหมิงเหมือนเพิ่งตื่น “แม่ง จริงด้วย เขาต้องการกดดันท่าน”
หลงเซียวพยักหน้า “วันเกิดเขาไม่ใช่ช่วงนี้”
จี้ตงหมิง “……”
แบบนี้ก็ได้
เดี๋ยว ให้เขาคิดดูก่อน วันเกิดหลงถิง ไม่ช่วงนี้จริง วันเกิดก็เปลี่ยนตามอารมณ์ได้ อะไรจะขนาดนั้น
“พูดถึงวันเกิด……” ปากหลงเซียวโค้งขึ้นอย่างเซ็กซี่ รอยยิ้มบดบังความเย็นชาเมื่อกี้ “วันเกิดฉันใกล้ถึงแล้ว”
จี้ตงหมิงตะลึงกับรอยยิ้มของหลงเซียวเมื่อกี้ วันเกิด? เมื่อก่อนบอสไม่ชอบงานวันเกิด แต่เนื่องจากหน้าที่ตำแหน่งของเขาจึงต้องจัดงานวันเกิด ส่วนมากเขาก็แค่ปรากฏตัวแล้วก็หายไป
“บอสอยากจัดงานยังไง? เดี๋ยวผมเตรียมให้” จี้ตงหมิงยิ่งสงสัยแล้ว
หลงเซียวหมุนแหวนแต่งงาน ยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม “ฟังนะ……”
สั่งกับจี้ตงหมิงแล้ว “เข้าใจนะ?”
จี้ตงหมิงหัวเราะจนจะบ้า “ได้ครับ ผมเข้าใจ บอสวางใจ ผมจะจัดการให้เรียบร้อย”
“อืม”
จี้ตงหมิงเดินออกจากออฟฟิศอย่างดีใจ เฮ้เฮ้ อยากฉลองด้วยการเต้นสักท่อนหนึ่ง
ไม่สนแล้ว ตอกกลับMBKก่อน
แอนดี้ก็งง ยืนอยู่หน้าลิฟต์สีหน้ามึนงง เห็นจี้ตงหมิงหัวเราะเหมือนคนสติไม่ดี “ผู้ช่วยจี้ ลืมกินยาเหรอ?”
จี้ตงหมิงยิ้ม “แอนดี้ คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
แอนดี้ยักไหล่ “ตั้งแต่ที่คุณเริ่มเต้น…..อืม เต้นใช้ได้นะ คิดไม่ถึงว่าคุณยังมีความสามารถในการเต้นด้วย”
จี้ตงหมิงหัวเราะจนเมื่อยปาก “อันนี้…..ผมยังมีธุระ ไปก่อนนะ ตอนเที่ยงกินข้าวด้วยกัน”
พูดจบ เขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
แอนดี้หัวเราะ นายคนนี้ ก็น่ารักเหมือนกัน
——
การประชุมใหญ่ในMBK
หลงถิงนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ขวามือคือหลงจื๋อ การประชุมดำเนินได้ไปครึ่งหนึ่ง การประชุมก็เข้าสู่สถานการณ์ตึงเครียด
“โครงการร่วมมือกับบริษัทหลันเทียน ฝ่ายวางแผนส่งหนังสือโครงสร้างมาให้ผมอาทิตย์หน้า” หลงถิงพูด
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดพยักหน้า “ครับ ท่านประธาน”
หลายคนสังเกตเห็น เมื่อก่อนการประชุมภายในจะมาโดยท่านประธาน แต่ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นประธานใหญ่มาด้วยตัวเอง มัน….แปลกๆ
หลงจื๋อเหมือนเด็กนักเรียน ทำหน้าที่หุ่นเชิด หลงถิงพูดอะไร เขาก็ตอนอันนั้น ไม่ได้คัดค้านแม้แต่คำเดียว
หลงยี่ที่นั่งอยู่ท้ายสุดสังเกตเห็นพวกเขาสองคน ดูแล้วแปลกๆ เมื่อก่อนหลงจื๋อมักชอบคัดค้านหลงถิง
ในที่ประชุมคณะกรรมการก็พูดคัดค้านเขาแบบไม่ไว้หน้า
ตอนนี้กลับไม่พูดอะไรเลย?
เหลียงจ้งซุนมองดูมือถือ ขมวดคิ้ว เขาใช้โอกาสว่างในการประชุม กระซิบข้างหูหลงถิง “ท่านประธาน คุณชายใหญ่ตอบกลับ บอกว่าเขาไม่มาร่วมงาน”
อะไร?
หลงถิงโมโห เอกสารในมือโยนไปที่โต๊ะประชุม “ไอ้สารเลว”
“….”
เขาตะโกนกะทันหัน ทุกคนต่างตกใจ โดยเฉพาะผู้จัดการฝ่ายการเงิน ตกใจจนเข่าอ่อน จนเกือบคุกเข่าลงไป
ช่วงนี้รายการบัญชีการเงินไม่ค่อยสวย ทำให้ท่านประธานโมโหแล้ว?
เมื่อกี้หลงจื๋อยังนั่งน่าเบื่ออยู่ ตอนนี้ตื่นขึ้นมาทันที กางหูแอบฟัง
เหลียงจ้งซุนกระซิบเบา “ท่านประธานอย่างโกรธ เลิกประชุมแล้วท่านถามเขาเอง
เขา?
ใคร?
หลงถิงกัดฟัน “ไอ้ลูกไม่รักดี”
หลงจื๋อสายตาสว่าง พี่ใหญ่?
การประชุมยุติก่อน แต่ละแผนกส่งเอกสารให้หลงจื๋อตรวจสอบ หลงถิงเดินออกไปก่อน
ทำให้เขาโกรธได้ขนาดนี้ ก็มีแต่พี่ใหญ่คนเดียว
ไม่รู้เพราะอะไร หลงจื๋อรู้สึกอารมณ์ดี
“ท่านประธาน แผนงานการร่วมมือกันหลันเทียน พวกเราเตรียมเอกสารไว้ ท่านจะดูหน่อยไหมครับ?” ผู้จัดการฝ่ายวางแผนตามมาหาหลงจื๋อหลังประชุม
อะไรอึนเคอเนี่ย
ด่าในใจ ปากก็พูดว่า “เอาให้ผม หลันเทียน…..บริษัทใหญ่ ผมต้องทำอย่างดี ทำอย่างตั้งใจ”
รอยยิ้มหลงจื๋อยิ้มอย่างคลุมเครือ รอยยิ้มเบิกบานยิ่งกว่าซากุระเดือนสามอีก
ผู้จัดการดูแล้วตกใจ “ผมไปเตรียมงานก่อนนะครับ”
หลงจื๋อมือใส่กระเป๋า เสื้อสูทถูกดึงขึ้น เห็นหุ่นสูงยาวของเขา
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็ตามมา “ท่านประธาน เนื่องจากเราจะรวมงานกับอึนเคอ เพราะฉะนั้นท่านกับประธานอึนเคอต้องพบกันสองวันนี้ ท่านพบไหมครับ?”
หลงจื๋อหัวเราะ พยักหน้า “พบซิ ต้องพบแน่นอน จัดโรงแรมที่ดีที่สุดให้คนของอึนเคอ ผมจะกิน คุย เล่นเป็นเพื่อนเอง ได้ไหม?”
ผู้จัดการยิ้มแห้ง “ไม่ ไม่ต้องแบบนั้นก็ได้ครับ พวกเราเป็นฝ่ายก ถ้าจะทำก็เขาทำให้เราครับ”
หลงจื๋อยิ้มเย็นชา บนหน้าก็ยังมีความจริงใจเหมือนเดิม “คุณบอกว่าเราเป็นฝ่ายก? งั้นรีบร้อนอะไร? ดูคุณเหมือนจะช่วยเขายกรองเท้าอย่างนั้น ผมยังนึกว่าMBKจะล้มแล้ว ต้องรีบเข้าไปกอดขาหลันเทียน”
“ไม่ ไม่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผม……ผมไปเตรียมโรงแรม ตารางรายการเสร็จแล้วผมจะมานำเสนอ เชิญท่านประธานครับ”
ผู้จัดการรีบหนี รวมถึงหลงยี่ที่อยากเข้ามาทักก็เลือกที่จะเดินอ้อม
“บ้าเอ้ย”
หลงจื๋อดังคอเสื้ออย่างหงุดหงิด หลันเทียน ตู้หลิงเซวียน เป็นใครมาจากไหน