ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 660
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 660 ตื่นเต้นจนลงไปนั่งที่พื้น
หลงเซียวนั่งอยู่บนโซฟาที่ห้องหนังสือโดยมีหลงจื๋อนั่งอยู่ตรงข้ามเขา บนโต๊ะไม่มีน้ำชา ไม่มีกาแฟ ไม่มีผลไม้มีเพียงแต่เอกสารกองโตอยู่สิบกอง
“พี่ครับ พี่จะพูดอะไรกับผมเหรอ?” หลงจื๋อเดินตามเข้ามาถึงห้องหนังสือและรู้สึกได้ถึงความผิดปกติไปจึงเดินเข้ามาถาม
บัดนี้แม้แต่ลมหายใจของเขาก็ดูเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน
หลงเซียวมองดูท่าทางเป็นกังวลของเขาเช่นนั้นจึงได้ยิ้มออกมาว่า “กลัวอะไร?”
“เหอะๆ พี่ทำท่าทางเคร่งขรึมขนาดนี้ผมจะไม่กลัวได้ยังไงกัน?อีกอย่างเอกสารพวกนี้คืออะไรกันครับ?”
“เอกสารของ MBK เมื่อ 10 ปีก่อน” หลงเซียวพูด
10ปีอย่างนั้นเหรอ?
มิน่าเล่าถึงได้มากมายขนาดนี้
หลงจื๋อรู้สึกว่าตัวเองกินข้าวเย็นเข้าไปเยอะเกินเหตุ เขาแทบจะอ้วกมันออกมา “แล้ว……แล้วยังไงครับ?”
หลงเซียวหยิบเอกสารออกมาใบหนึ่งแล้วพูดว่า “ลองดูสิ”
หลงจื๋อรับเอกสารนั้นมาเปิดดูแล้วตกตะลึง เนื่องจากเอกสารเหล่านี้เต็มไปด้วยตัวอักษรเรียงราว บนกระดาษเหล่านั้นบันทึกไว้ว่าโครงการชนิดเดียวกันโครงการไหนที่สามารถทำออกมาได้ดีและมีผลเสียอย่างไรบ้าง เอกสารเหล่านั้นมีตัวหนังสือกำชับไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก
เขาเปิดดูทีละหน้าๆ ในทุกๆหน้ามีลายมือที่เขียนด้วยมืออย่างตวัด ลายปากกาลายนั้นเขาจำได้ดีว่าเป็นของหลงเซียว
เมื่อหลงจื๋อดูเสร็จ ใบหน้าของเขาก็ไม่สามารถบดบังความรู้สึกแปลกประหลาดใจได้จึงถามออกไปว่า “พี่ครับ พี่อย่าบอกนะว่าทุกๆโครงการทุกๆหน้าพี่ได้จดไว้อย่างละเอียดแบบนี้?”
หลงเซียวตอบรับด้วยท่าทางนิ่งเรียบว่า “มีอะไรน่าตกใจกัน?ถ้าต้องการที่จะดูแลบริษัท MBK ที่ยิ่งใหญ่ได้ แกคิดว่าแค่เพียงหน้าตาดีก็จะช่วยได้อย่างนั้นเหรอ พี่จะบอกให้ว่า MBK เมื่อ 10 ปีก่อนเป็นไปมาอย่างไร อย่าคิดว่าตอนนี้ MBK ก้าวเข้ามาได้ด้วยความเรียบง่าย”
หลงจื๋อส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ครับ ผมรู้ว่าไม่ง่ายเลย เพียงแต่ผมคิดไม่ถึงว่าจะยากแบบนี้ พี่ครับ พี่เสียสละตัวเองให้กับ MBK มากมายเหลือเกิน”
“เอาล่ะๆพอแล้วพี่ให้เราดูพวกนี้ไม่ใช่ว่าต้องการจะได้รับคำชมจากเราหรอกนะ เอกสารพวกนี้พี่ให้เราทั้งหมด น่าจะช่วยในการทำงานต่อไปได้”
“ครับ?ให้ผมหมดนี่เลยเหรอ?”
หลงจื๋อมองดูพี่ชายของเขาด้วยท่าทางเคารพนับถือ เขามีความรู้สึกเหมือนกับที่นักเรียนดีเด่นประจำชั้นให้ลอกการบ้านอย่างไรอย่างนั้นเลย ได้ชี้แนะกับเขาโดยตรงว่าตรงไหนถูกตรงไหนผิดตรงไหนควรแก้ไข
อีกทั้งพี่ชายของเขาเองก็ยังเป็นเด็กเรียนที่ไม่มีใครสู้ได้
“ครั้งที่แล้วที่บอกว่า MBK จะทำความร่วมมือกับบริษัทหลันเทียน ส่วนเรื่องภายในของ MBK เพื่อเป็นความยุติธรรม พี่จะให้เอกสารพวกนี้กลับไป ตอนนี้พวกเราเป็นคู่แข่งกันแล้ว พี่ไม่เอาเปรียบเราแน่”
หา!!!
ยุติธรรมอย่างนั้นเหรอ?
หลงจื๋อกอดเอกสารนั้นไว้คล้ายกับได้สมบัติมา ในสมองของเขาแม้จะดีใจแต่ก็รู้สึกว่านี่มันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย เขาเพียงแค่บอกข้อมูลที่ยังไงพี่ชายเขาก็ต้องรู้เข้าสักวัน แต่พี่ชายของเขากลับแลกมันมากับประสบการณ์ในการพัฒนามานานกว่า 10 ปีที่เขาไม่อาจจะไขว่คว้ามาได้
“พี่ครับ ผม……ผมไม่ได้คิดแบบนี้จริงๆ ผมไม่ได้คิดว่าจะแลกอะไรมากับพี่จริงๆนะ”
“พี่รู้น่า แกไม่ต้องทำมาเป็นอธิบาย”
หลงจื๋อพูดอย่างดีใจว่า” ขอบคุณพี่มากจริงๆครับ ผมจะพยายามฝึกฝนเรียนรู้ให้มากที่สุดไม่ให้พี่ผิดหวัง”
“ได้ยินมาว่ามีอาจารย์สอนเพิ่มอย่างนั้นเหรอ?” หลงเซียวนั่งพิงไปที่โซฟาและถามเขา
หลงจื๋อตกตะลึงและถามว่า “พี่รู้ได้ยังไงว่าพ่อให้คุณลุงมาสอนผม?”
“แบบนี้แสดงว่าเป็นเรื่องจริงสินะ” หลงเซียวพูด
“ครับ เป็นเรื่องจริง พ่อให้คุณลุงมาสอนผม ที่จริงก็อยากให้ผมเป็นหุ่นเชิดของพวกเขาทั้ง เพราะพี่ไม่ใช่คนของตระกูลหลง พ่อเลยต้องการจะกำจัดพี่ออกไป ตอนนี้ที่จริงผมเองก็ยังสงสัยว่าผมเป็นลูกของเขาจริงหรือเปล่า ถ้าผมมีเวลาผมอาจจะไปตรวจ DNA ด้วยก็ได้”
เหอะๆ หลงเซียวหัวเราะแล้วพูดว่า “หลงเซิ่งมีแผนการของเขา วัตถุประสงค์ก็คือการได้ MBK มาครอบครอง”
“อะไรนะ!” หลงจื๋อลุกขึ้นยืนดวงตาเบิกกว้าง
หลงเซียวเดาถูกว่าเขาจะมีท่าทีเช่นนั้นจึงพูดว่า “พี่จะให้ข้อมูลเราอีกอย่างหนึ่ง ก็คือหลงเซิ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นหุ้นส่วนของ MBK แต่ต่อมาเขาขายมันทิ้งไปและนำเงินก้อนใหญ่นั้นไปที่ออสเตรเลีย MBK เมื่อ 10 ปีก่อนตอนที่ตกที่นั่งลำบากได้เงินก้อนนี้เข้ามาช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกเสียดายจึงอยากจะกลับเข้ามาใน MBK ใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าตอนนี้ในมือของเขาไม่มีหุ้นส่วนอยู่แล้ว ลองคิดดูสิ จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างหลงเซิ่งนี้กลับมาจากออสเตรเลียและกลับมาขอคนอื่นพักอาศัยอยู่แบบนี้เพื่ออะไรกัน? ก็เพราะเขาต้องการที่จะ ใช้แผนการบางอย่างกับหลง……กับพ่อของแก”
หลงจื๋อไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อนและนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป
“ผมจะทำยังไงดี?”
หลงเซียวพูดว่า “เรื่องนี้พี่บอกเราไปแล้ว แต่ตอนนี้เราเป็นคู่ต่อสู้กันอยู่ จะโลภมากไม่ได้”
“ผมรู้ดี”
หลงเซียวหัวเราะแล้วพูดว่า “อีกอย่างเมื่อกี้ที่พี่พูดออกไป บางทีอาจจะเป็นเรื่องโกหกก็ได้อย่าเชื่อทั้งหมดล่ะ”
หลงจื๋อ “……”
“ฮ่าๆๆ ตกใจอีกแล้วเหรอ?”หลงเซียวยิ้มออกมา ทำให้บรรยากาศในห้องดูครึกครื้นขึ้น
หลงจื๋อรู้ดีว่าหลงเซียวไม่ได้กำลังล้อเล่นกับเขา เพราะเขาไม่อาจพูดตลกในเรื่องแบบนี้ได้ หลงเซียวจึงเปลี่ยนประเด็นว่า “เอาละ ไม่พูดเรื่องนี้แล้วเรื่องของหลินซีเหวินน่ะ แกไม่รู้จริงๆหรือว่าเธอเป็นใคร?”
ในที่สุดหลงจื๋อก็ถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “ผมรู้ครับ ผมเคยสืบข้อมูลเธอมาก่อน เธอเป็นลูกสาวของหลินเหว่ยเย่ แต่ว่าเธอไม่ยอมรับสักทีและยังโกหกผมว่าตัวเองเป็นคนในหมู่บ้านหนึ่งเท่านั้น”
“ฮ่าๆๆ” หลงเซียวหัวเราะออกมา เธอไม่ได้โกหกนี่เธออยู่ในหมู่บ้านจริงๆ วิลล่าโรมัน ไม่รู้จักเหรอ?”
“พี่ ผมรู้จักสิครับ เป็นคฤหาสน์ที่งดงามที่สุดในเมืองหลวงเลยก็ว่าได้ สามารถเทียบได้กับคฤหาสน์ของพี่เลยทีเดียว” หลงจื๋อเอามือกุมขมับ
“บ้านของเธออยู่ที่วิลล่าโรมันหมายเลข 6”
หมู่บ้านก็คือวิลล่าซินะ
“และยังมีข้อมูลอีกอย่างหนึ่งที่ต้องบอกและคิดว่าเราคงจะให้ความสนใจไม่น้อย วิลล่าโรมันหมายเลข 8 ก็คือบ้านในนามของหลงถิง”
หา!!!
อยู่ๆก็มีข้อมูลเข้ามามากมายขนาดนี้ หลงจื๋อแทบจะรับไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าพ่อกับคนบ้านตระกูลหลินรู้จักกันอย่างนั้นเหรอครับ?” หลงจื๋อคล้ายกับว่ามีหลายอย่างบนโลกใบนี้ที่เขายังไม่รู้มากมายเหลือเกิน
“ไม่รู้สิ อาจจะรู้จักหรืออาจจะไม่รู้จัก” หลงเซียวตอบไปตามความเป็นจริง
……
บุรุษทั้งสองคนนั่งคุยกันอยู่ในห้องหนังสือ ส่วนมากจะพูดเกี่ยวกับเรื่องงาน ด้านลั่วหานก็ถูกหลินซีเหวินลากมาที่มุมหนึ่ง
หลินซีเหวินพยุงลั่วหานให้นั่งลง มือลูบที่ท้องของลั่วหานเบาๆแล้วพูดว่า “พี่ลั่วคะ ช่วงนี้พี่หลงยุ่งมากใช่ไหม?ไม่มีเวลาดูแลพี่หรือเปล่า?”
สองสามวันมานี้เอวของลั่วหานค่อนข้างจะปวด ก่อนหน้านี้เธอทำงานนั่งนานๆก็รู้สึกปวดเอว แต่หลังจากตั้งครรภ์ปัญหาเล็กๆน้อยพวกนี้ก็ทวีคูณมากขึ้น เธอทำงานมาทั้งวันแล้วตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าไม่ค่อยสบาย จึงได้หยิบหมอนเข้ามารองเอาไว้แล้วพูดว่า “เขายุ่งตลอดแหละ เพราะว่าโครงการต่างๆของบริษัทเขาจัดการด้วยตัวเองทั้งนั้น แต่ว่าต่อให้เขาวุ่นขนาดไหนก็มีเวลามาอยู่เป็นเพื่อนฉันอยู่ดี”
พูดถึงเรื่องนี้ที่จริงแล้วตอนกลางคืนหลงเซียวไม่ค่อยจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเท่าไหร่นัก
หลินซีเหวินบอกว่า “ถึงอย่างนั้นเถอะ พี่ไม่ได้ทะเลาะกันใช่ไหม?”
“เปล่านี่ทำไมถามแบบนี้ล่ะ?”
หลินซีเหวินหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นพี่ลั่วคะ พี่กลับพี่หลงไม่ได้ใกล้ชิดกันมานานแล้วใช่ไหม?”
ลั่วหานเอามือจับที่คางแล้วพูดว่า “แหม รู้ดีจริงๆ”
“โถ่พี่ตอบมาเร็วๆสิคะ ใช่หรือเปล่า?” หลินซีเหวินถาม
ลั่วหานคิดดูแล้วตอบว่า “อืม นานมากแล้วล่ะ ตั้งแต่เขารู้ว่าฉันตั้งท้องก็ไม่เคยแตะต้องฉันอีกเลย ตอนกลางคืนก็ไม่กล้าแม้แต่ขยับตัวเพราะกลัวจะมาทับน่ะ”
“แหม เป็นผู้ชายที่ดีจริงๆเลย! แต่ว่าพี่คะถ้าเก็บไว้เป็นเวลานานๆเข้า อาจจะระเบิดออกมาก็ได้ ดังนั้นที่ว่ากันว่าตอนที่ภรรยาตั้งท้องผู้ชายมักจะออกนอกลู่นอกทางก็คงจะเป็นเรื่องจริง พี่เข้าใจดีแหละ” หลินซีเหวินกะพริบตาแล้วพูดขึ้น
ลั่วหานมองไปที่เธอแล้วพูดว่า “หนูน้อยหลินซีเหวินกำลังสอนฉันอยู่อย่างนั้นเหรอ?”
“ฮ่าๆๆไม่กล้าหรอกค่ะพี่ ก็แค่……เตือนพี่เท่านั้นเองว่า อะไรที่ควรทำก็ลงมือทำซะ ความรักน่ะต้องมีความตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลานะ พี่สองคนเป็นคนที่มีไอคิวสูงอีคิวต่ำ บางทีก็ไม่รู้จะแสดงความรักออกมายังไง ใช่ไหมคะ?”
IQ สูง EQ ต่ำ? ก่อนหน้านี้ก็มีคนพูดแบบนี้เหมือนกัน
ลั่วหานหันมองไปที่เธอ
หลินซีเหวินมองเห็นหลงจื๋อเดินลงมาจากบันได มีคนรับใช้ติดตามถือเอกสารลงมาด้วยกัน 2 คน ดูท่าทางแล้วคงจะได้กลับบ้าน “หลังจาก 3 เดือนก็ปลอดภัยแล้วนะคะ ช่วยพี่ได้แค่นี้แหละ”
หืม?
“พี่เข้าใจแหละน่า ฮ่าๆๆ”
เวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง หลงจื๋อและหลินซีเหวินได้เดินทางออกจากคฤหาสน์ไป
เมื่อแขกกลับไปเรียบร้อยแล้วลั่วหานก็บิดขี้เกียจและพูดว่า “ที่รักคะวันนี้คุณต้องทำงานอีกหรือเปล่า?”
หลงเซียวเดินมาที่ระเบียงแล้วหยิบกล่องของขวัญออกมายื่นให้พูดว่า “คืนนี้ไม่ทำงาน”
ต่อให้มีงานเขาก็ไม่ทำ พรุ่งนี้เช้าตื่นเช้าหน่อยก็ได้
“เอิ่ม……ถ้าคุณไม่ทำงาน เราทำอย่างอื่นดีไหมคะ?” ลั่วหานขยิบตาให้เขาแล้วยืนขึ้น
หลงเซียวซุกหน้าลงไปที่บ่าเธอแล้วถามว่า “ทำอะไรครับ?”
ลั่วหานเห็นของที่เขาถืออยู่ในมือจึงถามว่า “อะไรคะเนี่ย?”
ตามผมมาสิ ผมจะให้ดู
หลงเซียวพาลั่วหานเดินขึ้นบันไดไปและประคองเธอลงที่โซฟา จากนั้นจึงเปิดกล่องของขวัญออกดูข้างในพบว่าเป็นขวดแก้วใสมีดวงดาวสี แดงสีฟ้าและสีม่วงผสมอยู่รวมกันอีกทั้งยังมีนกอยู่ด้วย
“นี่คือ……?”
“นี่คือของขวัญที่ผมมอบให้คุณ ชอบไหมครับ?”
ลั่วหานกะพริบตาไปมาแล้วถามว่า “ให้ฉันเหรอคะ?เอามาจากไหน?”
หลงเซียวตอบว่า “ผม……ผมทำเองครับ”
“ฮ่าๆๆ”ลั่วหานหัวเราะออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้ “คุณทำเองเหรอคะ?ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม?หลงเซียว!ท่านประธานหลงผู้ยิ่งใหญ่!คุณชายหลง! คุณพับกระดาษเองเนี่ยนะ?”
หลงเซียวขมวดคิ้วขึ้น “ลั่วลั่ว!”
ลั่วหานรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงของเขาจึงไม่หัวเราะและพูดว่า “ขอโทษค่ะเมื่อกี้ฉันตกใจมากจริงๆ แต่ว่าของขวัญชิ้นนี้มันพิเศษจริงๆนะคะฉันชอบมากชอบมากจริงๆ”
เธอชื่นชอบมันมากอีกทั้งประทับใจจนบอกไม่ถูก
หลงเซียวกุมมือเธอเอาไว้ คุกเข่าลงต่อหน้าเธอและเงยหน้ามองดูดวงตาคู่นั้นพูดว่า “เรื่องที่วันนี้ยังพูดไม่จบ ผมอยากจะบอกคุณว่า……”
ลั่วหานถอนมือออกมาและกุมมือใหญ่ของเขาไว้พูดว่า “ที่รักคะ เราไปอาบน้ำกันเถอะ”
หลงเซียว “……”
ลั่วหานเปิดขวดแก้วนั้นออก เทของข้างในออกมาพบว่ามีนก 10 ตัวและหัวใจ 10 ดวง ทุกชิ้นล้วนละเอียดประณีตไม่มีชิ้นไหนที่ไม่เท่ากันเลย
พับนก 1,000 ตัวพับดวงใจ 1000 ดวง!?
ใครบอกว่าสามีของเธออีคิวต่ำกันสามีของเธออีคิวสูงจะตายไป
ลั่วหานหยิบนกขึ้นมา 1 ตัวและหัวใจขึ้นมา 1 ดวงต่อหน้าหลงเซียว จากนั้นใส่มันเข้าไปทางคอเสื้อและค้างอยู่ที่ตรงหน้าอกเธอ “เดี๋ยวคุณช่วยเอาออกมาให้หน่อยนะคะ”
เลือดในร่างกายของหลงเซียวพลุ่งพล่านทันที!
เพียงชั่วพริบตาที่ท้องของเขาก็เสียววูบ อวัยวะบางส่วนในร่างกายเริ่มพองโต “ลั่วลั่ว คุณอยากจะพูดอะไรกับผม?”
ลั่วหานเดินเข้ามากอดเขาไว้ ริมฝีปากแดงสดนั้นยิ้มแล้วพูดว่า “สุดหล่อคะ คืนนี้ไม่อยากหาอะไรทำกันบ้างเหรอ?”
ตุ้บ!
หลงเซียวตื่นเต้นเสียจนนั่งลงไปที่พื้น!!!