ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 663
ตอนที่ 663 ความผิดนี้ ฉันไม่รับ
ไฟที่ส่องสว่างให้งานเลี้ยง พอที่จะเดินไปมา พากันชนแก้วแล้วดื่ม แขกนั้นได้ใส่ชุดราตรีที่สง่างามอยู่ภายใต้แสงไฟคริสตัลก็ได้พูดคุยและชนแก้ว
“คุณหลง สุขสันต์วันเกิด! ขอให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรง!”
“ประธานหลง คุณนั้นเป็นดาบที่ไม่มีวันแก่ลงจริงๆ ไม่มีเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด!”
“คุณลุงหลง หลานนั้นก็ได้ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรง อายุยืนร้อยปี!”
“คุณลุงหลง คุณลุงนั้นดูหนุ่มกว่าปีก่อนอีกนะ!”
……
งานเลี้ยงที่หรูหราและคึกคัก คำอวยพรของแขกนั้นได้ดังขึ้น แขกแต่ล่ะแถวนั้นยกแก้วแล้วก็ส่งคำอวยพรให้หลงถิง แต่ล่ะคนดูเกรงใจ และมีมารยาทมาก
หลงถิงและหลงจื๋อสองพ่อลูกได้ตอบไปอย่างเป็นมารยาททีละคน
รับมือกับงานแบบนี้จนชินแล้ว มือของหลงถิงนั้นคุ้นชินดี ควรพูดอะไร พูดยังไง ทำยังไง กับคนนี้พูดยังไง สำหรับเขานั้นเป็นเรื่องง่าย
หลงจื๋อได้ยืนอยู่ข้างๆ เขา ก็เหมือนกับเด็กที่เรียนรู้ท่าทางของเขาทีละนิด ในเวลาเดียวกันที่ได้เห็นพ่อเขาได้มีท่าทางที่เป็นมิตรแบบนี้นั้น ในใจก็ได้มีความกีดกั้นอย่างบอกไม่ถูก
เหลียงจ้งซุน ยื่นอยู่หน้าโถงทางเข้า ก็ได้ก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือเป็นระยะๆ งานเลี้ยงใกล้ที่จะเริ่มแล้ว แต่ว่าถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นเงาของหลงเซียวเลย
เขาจำได้ว่าเลขาของหลงเซียวนั้นได้รับปากแล้ว เขาจะมางานเลี้ยงแน่นอน แต่ว่าทำไมไม่เห็นมาสักที
วันนี้หลงถิงนั้นได้เตรียมการมาเรียบร้อยแล้ว ก็เพื่อที่จะแสดงออกมาต่อหน้านักข่าว ต่อหน้าหลงเซียว ตอกกลับเขาไป
แต่ว่าถ้าเขาไม่มา ละครนี้จะร้องยังไง? แสดงยังไง?
เวลานั้นได้ผ่านไปแบบนี้ เหลียงจ้งซุน ก็ได้กลุ้มใจขึ้นมา มองเข้าไปข้างในหลายรอบ หลงถิงนั้นก็ยังได้พูดคุยหัวเราะกับพวกแขกในงาน แผนที่ได้วางไว้คืนนี้ เขานั้นมั่นใจมาก
แต่หลงจื๋อนั้นไม่รู้อะไรเลยสักนิด ตามหลงถิง แล้วทำความรู้จักกับผู้คนที่มีฐานะในเมืองหลวง เผื่อว่าจะได้เชื่อมสัมพันธ์ให้กับบริษัทในอนาคต
หลงถิงมองเวลา ใกล้จะแปดโมงแล้ว เขาได้หรี่ตา ก้มหน้าไปพูดกับหลงจื๋อด้วยเสียงที่มีแค่ทั้งสองเท่านั้นที่ได้ยิน “พี่ชายของลูกล่ะ?”
หลงจื๋อได้ส่ายหน้า ในใจนั้นอยากที่จะหัวเราะ “พ่อได้เชิญพี่ชายผมด้วย?”
งานเลี้ยงวันเกิดที่ปลอมแบบนี้ ยังจะให้เขาเข้าร่วม? คุณนี้น่าขำจริงๆ!
หลงถิงขมวดคิ้วด้วยความจริงจัง “เขายังไม่มา”
หลงจื๋อพูด “ไม่รู้ ผมยังไม่เห็นพี่ชายของผม ผมไม่รู้ว่าพ่อเชิญพี่ชายมาด้วย”
“ลูกไม่รู้เรื่องจริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้? งานเลี้ยงในวันแบบนี้ เขาไม่ควรมาเหรอ?” หลงถิงนั้นได้พยักหน้าให้กับแขกในงานเป็นมารยาทไป อีกด้านก็ได้พูดต่อว่าหลงจื๋อด้วยสีหน้าที่ปกติไป
แก้วไวน์ในมีหลงจื๋อได้เขย่าเบาๆ ไวน์องุ่นในแก้วนั้นก็ได้ขยับขึ้นลงตาม “คุณพ่อมีเรื่องอะไรหรือเปล่า? วันนี้ไม่ได้เป็นวันเกิดของท่าน ทำไมถึงได้เลือกวันนี้?”
สายตาของหลงถิงนั้นได้เปลี่ยนเป็นการต่อว่าเลยทันที “ลูกคุยกับใครอยู่รู้ไหม? สงสัยพ่อ?”
“ไม่กล้า” หลงจื๋อก้มหน้า ไม่กล้าที่จะทะเลาะกันให้เป็นเรื่องใหญ่กับหลงถิง
หลงถิงนั้นก็ไม่ได้พูดกับลูกชายต่อ แต่เป็นการไปพูดกับคนที่จะมาพูดคุยกับเขาว่า “ขอตัวสักครู่”
เขาได้เดินไปนอกประตู พูดกับเหลียงจ้งซุน “ยังไม่มา?”
เหลียงจ้งซุน มองนาฬิกาข้อมือ เตือนเขาว่าไกล้ถึงเวลาแล้ว “ไม่มา อาจเป็นเพราะรถติดก็ได้ครับ เลขาของคุณชายใหญ่ได้บอกมาแล้วว่า เขาจะมาร่วมงานแน่ๆ”
เวลานี้ พวกนักข่าวได้เข้าไปประจำที่ สำนักข่าว ข่าวออนไลน์ที่มีอำนาจในเมืองหลวงกว่าสิบบริษัท ได้เริ่มถ่ายจนเสียงที่ถ่ายภาพนั้นได้ดังปนไปกับเสียงพูดคุย แสงแฟลชนั้นได้แสบตายิ่งกว่าเสียงไฟคริสตัล
หลงถิงได้มองไปยังพวกกลุ่มนักข่าวอย่างเย็นชา สปอตไลท์นั้นได้ส่งไปยังแขกทุกคนที่อยู่ในงาน พวกเขานั้นจะทำการขยายรายละเอียด ขอแค่โพสต์ลงอินเทอร์เน็ต ก็จะสามารถเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาได้
เห็นว่าหลงถิงนั้นหน้าเสียไม่พูดอะไร เหลียงจ้งซุน ก็ได้พูดออกไปอย่างระวังว่า “หรือว่า ผมโทรไปถามดู? เดียวก็จะเริ่มงานแล้ว ถ้าคุณชายใหญ่ไม่มา พวกนักข่าวนั้นต้องพูดแน่ๆ ว่าพวกคุณพ่อลูกไม่ลงรอยกัน ถ้าเกิดถูกคนหลอกใช้ขึ้นมาล่ะก็ คงได้สร้างชื่อเสียให้กับบริษัทแน่ๆ ครับ”
หลงถิงไม่ใช่ว่าจะไม่คิดมาก่อน “ตอนนี้โทรหามัน มันคงได้หลงตัวเองจนไม่รู้แล้วว่าตัวเองนั้นเป็นใคร พูดออกไป เพื่อรอคุณชายใหญ่ จะเลื่อนเวลาออกไปยี่สิบนาที ฉันล่ะอยากจะรู้จริง มันไม่มา จะขายหน้าของใคร!” หลงถิงหัวเราะ บอกใบ้ออกไปอย่างลึกซึ้ง
เหลียงจ้งซุน ได้เข้าใจเลยทันที “ครับ”
เหลียงจ้งซุน ได้ทำตามที่หลงถิงนั้นสั่ง ได้บอกกับแขกในงานว่าให้รออีกยี่สิบนาที รอคุณชายใหญ่ก่อน
เวลานี้ แขกในงานก็ได้พากันพูดขึ้น
“งานเลี้ยงวันเกิดของหลงถิง หลงเซียวนั้นได้มาสาย? เกิดอะไรขึ้น? ทั้งสองไม่ลงรอยกันเหรอ?”
“นี่ยังต้องให้พูดอีกเหรอ คราวก่อนบนงานเลี้ยงวันไหว้พระจันทร์ คุณมองไม่ออกเหรอ? พ่อลูกนั้นเกือบที่จะทะเลาะกันตรงนั้น พูดตามจริง คุณหลงที่ได้แตะลูกชายออกจากตำแหน่งหลักของMBK ทำได้ไม่โอเคเท่าไหร่”
พวกแขกในงานได้พูดคุยกันเสียงเบา ได้แอบมองคนที่ถูกกล่าวหาถึงอย่างหลงถิง
“เท่าที่ผมดูนะ คงไม่ใช่แค่นั้น ผมได้ยินจะเพื่อนนักข่าวพูดว่า คุณนายหลงนั้นไม่ได้โผล่หน้าออกมาให้เห็นนานมากแล้ว เมื่อก่อนได้ยินว่าไม่สบายต้องพักผ่อน แต่ว่าโรคอะไรกันถึงได้พักนานขนาดนี้? เท่าที่ฉันมอง เป็นไปได้สูงว่าหลงถิงได้ซ่อนตัวคนไว้ เอามาข่มขู่หลงเซียว”
“ตลก! ท่านเซียวเป็นคนยังไง หลงถิงข่มขู่เขาแล้วเกิดประโยชน์เหรอ? จริงๆ เลย!”
“พูดแบบนี้ไม่ได้นะ ถึงแม้ท่านเซียวจะเก่งขนาดไหน มันก็เป็นแค่อดีต คุณคิดดูตอนนี้บริษัทฉู่ซื่อ เหอะๆ พูดอะไรที่ไม่น่าฟังหน่อย มรดกนั้นน่าจะเทียบไม่ได้กับสิ่งที่อยู่ในมือคุณกับผมเลย”
อันนี้เป็นเรื่องจริง เพราะงั้นมีคนไม่น้อยที่ได้มองหน้ากัน แล้วก็คิดตาม
การเงินนั้นได้อยู่กำหนดฐานะ ตอนนี้ค่าตัวของหลงเซียวไม่ได้มีมากเหมือนตอนที่เป็นประธานMBK เขานั้นมีปัญญาที่จะผันตัวให้กลับไปเหมือนเมื่อก่อนได้ไหม?
มีคนไม่น้อยที่จับตาดู
——
บริษัทฉู่ซื่อ ห้องทำงานประธาน
เพื่อโปรเจคของเมืองเจียงเฉิงนั้น ฝ่ายวางแผน ฝ่ายการตลาด ฝ่ายบัญชีของบริษัทฉู่ซื่อนั้นได้ทำงานล่วงเวลาพร้อมกับประธาน
หลงเซียวมองแผนงานใหม่ที่ฝ่ายวางแผนนั้นได้ส่งมาให้นั้น ก็ได้ปฏิเสธไปทันที “ไม่ได้ ตัวเลขยังไม่แม่นยำพอ ความคิดโบราณเกิดไป ที่ฉันอยากได้นั้นไม่ใช่แผนการ เป็นต้นไม้หลัก แผนงานที่เหมือนดินผสมแบบนี้ปีก่อนพวกกรรมการของฝ่ายท่องเที่ยวเมืองเจียงเฉิงนั้นได้ปฏิเสธไปเลยทันที นายยังจะใช้อีก?”
หน้าของหัวหน้าฝ่ายวางแผนนั้นได้เทาลงแล้วตอบไปว่า “ครับ พวกเราจะกลับไปแก้เดียวนี้”
หัวหน้าฝ่ายนั้นพึ่งออกไป จี้ตงหมิงก็ได้เข้ามาทันที เขานั้นได้เอาโทรศัพท์อย่างตื่นเต้น เข้าประตูมาก็ได้ยิ้มอย่างมีความสุข “เจ้านาย ข่าวเวลานี้ งานเลี้ยงวันเกิดของคุณพ่อคุณ”
นิ้วที่เรียวยาวของหลงเซียวได้จับปากกา แล้วก็ได้ควงขึ้น “อ้อ?”
จี้ตงหมิงหัวเราะแล้วก็ได้ส่งโทรศัพท์ให้เขา “เรื่องสนุกๆ กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ละครฉากนี้ของพ่อคุณคงจะไม่ได้ดำเนินการอย่างเรียบง่าย เมื่อกี้ผู้ช่วยพูดว่า เพื่อที่จะรอคุณนั้นได้เลื่อยการเริ่มงานเลี้ยงไปให้อีกยี่สิบนาที่ให้หลัง เจ้านาย……ความผิดนี้คุณต้องแบกแล้ว”
หลงเซียวได้มองหน้าจอไปแป๊บเดียว มีคนกำลังถ่ายทอดสดความอลังการของงานเลี้ยง แขกนั้นได้มีเศรษฐีติดสิบอันดับในเมืองหลวง แต่ล่ะคนมรดกหลายหมื่นล้าน ความมีชื่อเสียงของหลงถิงนั้นไม่ธรรมดา
เวลาคือสองทุ่มสิบห้านาที หลงเซียวพูด “ความผิดนี้ ฉันไม่แบก”
ตาของจี้ตงหมิงนั้นได้กระตุก “แต่ว่าประธานครับ คุณตกลงแล้วว่าจะไป ตอนนี้ได้เบี้ยวสัญญา พวกเขาต้องเล่นงานคุณอย่างหนักแน่ คุณจะอธิบายหน่อยไหม?”
ก็ได้ จี้ตงหมิงรู้สึกตัวแล้วว่าตัวเองนั้นได้พูดอะไรผิด ให้เจ้านายอธิบาย? ฝันอยู่เหรอ?
หลงเซียวพูด “งานเลี้ยงของเขาในคืนนี้นั้นมีเป้าหมายสามข้อ ข้อหนึ่ง จัดงานเลี้ยงก่อนหน้างานเลี้ยงวันเกิดของฉัน ได้กดทับฉันในด้านความรู้สึก ข้อสอง เจ้างานนั้นจะพูดประกาศการเปลี่ยนของตำแหน่งประธานภายในต่อหน้าฉัน ตบหน้าฉัน ข้อสาม……”
หลงเซียวได้ชี้ไปที่หลงจื๋อกับหลงยี่ที่มีภาพไม่เยอะนักบนหน้าจอ “คืนนี้พ่อของฉันจะพาทั้งสองเข้าไปในการประชุมประธานMBK นั้น นายเดาสิ ว่าทำไม?”
จี้ตงหมิงได้เข้าใจทันที “เพื่อที่จะยืนยันว่าตระกูลหลงที่จากคุณนั้นไป ก็ยังมีเสาหลักอื่นอยู่”
พูดถึงตรงนี้ จี้ตงหมิงนั้นก็ได้เข้าใจหมดทุกอย่าง “เพราะงั้น ท่านประธานได้เชิญคุณไปงานเลี้ยงนั้น ทั้งหมดก็เพื่อที่จะทำให้คุณเสียหน้า ให้คุณโมโหแต่ก็ทำได้แค่ยิ้ม แล้วยังต้องอวยพรพวกเขา?”
หลงเซียวนั้นได้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชามากๆ “เพราะงั้น ฉันจะไปอีกทำไม?”
“แต่ว่า คุณไม่ไป เขาก็ได้โอกาสมาจริงๆ นะครับ? คงพูดกับพวกนักข่าวว่า คุณเป็นลูกที่อกตัญญู ทำลายชื่อเสียงของคุณ แผนการนี่สมบูรณ์จริงๆ! โผล่ไปก็โดน ไม่โผล่ก็โดน!”
จี้ตงหมิงขนลุก หลงถิงนั้นไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ เงียบไปตั้งนาน คิดไม่ถึงวางแผนแบบนี้อยู่ อำมหิตจริงๆ!
หลงเซียวได้เอาโทรศัพท์ให้เขา “ให้หวังเค่ยเข้ามา”
“ครับ”
ผ่านสามนาที หวังเค่ยได้เข้ามา “ท่านประธาน มีอะไรครับ?”
หลงเซียวได้หันหน้าจอคอมไปให้เขาดู “ไปแฮกเว็บนี้ ดันหัวข้อนี้ให้เป็นข่าวเด็ด ภายในสิบนาทีนั้น ให้ดันข่าวนี้จนให้เป็นข่าวหลักในเวยป๋อ ทำได้ไหม?”
หวังเค่ยมองไปสักพัก ตอบอย่างเร็วว่า “ทำได้ครับ ไม่จำเป็น ต้องสิบหนาที ห้านาทีก็พอ”
ห้านาที? เห็นทีเขานั้นได้มองฝีมือของหวังเค่ยต่ำไป “ดีมาก งั้นก็ดันโพสต์อีกโพสต์หนึ่งด้วยละกัน”
หวังเค่ยดูเสร็จ ยังไม่ได้ลงมือก็หัวเราะออกมาว่า “ท่านประธาน นี่เป็นข่าวซุบซิบหรือเปล่าครับ?”
หลงเซียวกอดอกแล้วพูดว่า “ดันมันจนอยู่อันดับสาม คิดว่ายังมีคนพูดว่าเป็นข่าวซุบซิบไหม?”
“ไม่มี! ผมไปจัดการเดียวนี้ครับ! แต่ว่า ท่านประธาน ถ้าผมดันกระแสข่าวพวกนี้แล้ว จะสร้างปัญหามาให้คุณไม่ครับ เพราะว่าพวกนี้มัน……”
“ไม่หรอก ทำตามที่ฉันบอกก็พอ” หลงเซียวลับตาแล้วพูด
หวังเค่ยได้นั่งบนเก้าอี้ ต่อหน้าหลงเซียว ก็ได้ใช้คอมของเขา นิ้วนั้นได้เคาะไปที่แป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว สายตานั้นได้จ้องที่หน้าจอคอมที่มีตัวอักษรเล็กๆน้อยๆ นั้นเต็มไปหมดแบบไม่กะพริบ ตัวหนังสือพวกนั้นนั้นก็เหมือนกับเม็ดฝนที่สาดไม่อยู่
หลงเซียวเงยหน้าไปมองเขาสักพัก แล้วก็มองจอต่อ มุมปากก็ได้ยิ้มขึ้น ลั่วลั่วมองคนไม่ผิดจริงๆ หวังเค่ยนั้นเป็นอัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์ เป็นนักแฮกเกอร์ฝีมือดี!
——
ยี่สิบนาทีผ่านไป เหลียงจ้งซุน พูดว่า “ท่านประธาน คุณชายใหญ่ไม่มาแล้วล่ะครับ พวกเราจะเริ่มกันเลยไหม?”
หลงถิงยิ้ม มันไม่มาก็ดี!
ไม่ว่ามันจะมาหรือไม่ คราวนี้เขาชนะแน่!
หลงเซียวนะหลงเซียว ชื่อเสียงของนายนั้นยังดีๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?
งั้นฉันจะทำให้เสียทีละชั้นทีละชั้นเอง!
“เริ่มเลยเถอะ!”
หลงถิงค่อยๆ เขย่าแก้วไวน์ สายตานั้นได้ลึกซึ้งแต่ก็เย็นชา
หลงจื๋อได้กัดฟันอย่างลางไม่ดี พวกนักข่าวสิบกว่าคน ตอนนี้ก็ยังมีโทรศัพท์อีกหลายเครื่องที่ถ่ายทอดสดอยู่ ถ้าพี่ชายไม่มา ก็หมายความว่าเขานั้นต้องแบกคำด่าว่าอกตัญญูไม่ใช่หรือไง?
ไม่ได้ เขาจะต้องโทรไปบอกพี่ชายเขา
ใครรู้ หลงจื๋อพึ่งเอามือถึงออกมา ก็ได้มีมือมือหนึ่งห้ามไว้!
“เสี่ยวจื๋อ คุณลุงรองจะเริ่มพูดแล้ว ตั้งใจฟัง” หลงยี่ได้เอาโทรศัพท์เขายัดเข้ากระเป๋าตัวเองไป!
หลงจื๋อกัดฟันด้วยความโกรธ “พี่ หมายความว่าอะไร?”
หลงยี่ได้ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “ฉันจะหมายความว่าอะไรได้อีก? ฉันนั้นทำตามคำสั่งของคุณลุงรอง”
ไม่ตายเถอะ!
“พี่ทางที่ดีเอาโทรศัพท์ผมคืนมา!”
“อย่าโมโหสิ ลุงรองพูดเสร็จ ฉันคืนให้เธอแน่ เสี่ยวจื๋อ ตั้งใจฟัง มีคนมองมาตั้งเยอะแยะนะ”
หลงถิงได้เดินขึ้นเวทีอย่างสง่า ไฟแสงแสงหนึ่งได้ส่องไปทางเขา เป็นแสงที่มีรัศมีขนาดใหญ่ กล้องและไมค์ของพวกนักข่าวนั้นได้จ่อไปที่เขาคนเดียวทั้งหมด รอว่าเขาจะอธิบายเกี่ยวกับการขาดงานเลี้ยงของหลงเซียวยังไง!