ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 669
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 669 ฉันบอกว่า เราหย่ากันเถอะ
มือขวาของลั่วหานนั้นได้ค้างอยู่นอกห้องทำงาน ท่าทางที่จะเคาะประตูนั้นก็ได้หยุดอยู่ เพราะว่าเสียงของทนายที่ได้ส่งออกมาจากข้างใน
จากนั้นก็ตามด้วยเสียงของหลงเซียวที่โกรธจัด ท่าทางของทนายได้ระวังตัวกว่าเดิม “ท่านประธาน คุณฟังที่ผมอธิบายก่อน การหย่านั้นก็แค่เป็นแผนเท่านั้น คุณหย่ากับคุณนาย แล้วก็ได้ส่งมอบมรดกทั้งหมดไปอยู่ในชื่อของคุณนาย ตระกูลหลงนั้นก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
มุมปากของลั่วหานนั้นได้ชี้ขึ้น สมกับเป็นกลุ่มทนายที่ทำงานให้หลงเซียวจริงๆ วิธีแบบนี้ก็คิดออกมาได้? ไอที่บอกว่าซื่อตรงแต่ไม่น่าฟัง วิธีที่ดีนั้นไม่น่าฟังไปซะทั้งหมด คิดไม่ถึงว่าได้พูดกับหลงเซียวไปตรงๆ ไม่กลัวตายเหรอ?
เป็นไปอย่างที่คิด ทนายพูดไม่ถือครึ่งประโยค น้ำเสียงที่น่ากลัวของหลงเซียวนั้นก็ได้พูดออกมา “ฉันจ้างพวกนายมาจัดการปัญหาไม่ใช่มาสร้างปัญหา”
ลั่วหานเม้มปาก รอดูปฏิกิริยาเงียบๆ
ทนายนั้นได้ระวังตัวกว่าเดิม ได้พูดออกไปด้วยความกล้าๆกลัวๆ “ท่านประธาน คุณกับคุณนายนั้นให้ทำเรื่องหย่าไปก่อน รอเรื่องของMBK นั้นผ่านไป ก็สามารถกลับมาแต่งใหม่ได้ นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนี้แล้ว ถ้าเกิดคุณนั้นได้ส่งมอบเงินก้อนโตไปที่อื่นเวลานี้นั้น ต้องทำผิดกฎหมายส่งมอบสินทรัพย์แน่ๆ ทางMBK และคนที่รออยู่นั้นต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ”
ลั่วหานไม่ได้ยินหลงเซียวตอบกลับ จินตนาการได้เลยว่าสีหน้าเขานั้นไม่น่าดูขนาดไหน ข้างในนั้นไม่มีเสียงอะไรเลย ทนายก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา คนอื่นนั้นยิ่งไม่กล้าออกความคิดเห็น ประตูที่ขว้างอยู่นั้น ก็เหมือนกันมีโลกทั้งโลกมาขว้างไว้ ข้างในนั้นได้เงียบราวกับจำศีล
ลั่วหานนั้นได้พิจารณาคำพูดของทนาย แล้วก็ได้เทียบผลได้ผลเสีย ที่เขาพูดนั้นเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาแล้วก็ดีที่สุด แต่ว่า……
หย่า ต้องได้เกิดความวุ่นวายมากๆ แน่ อาจจะเกิดผลเสียที่คาดไม่ถึงตามมาก็ได้
หยุดไปสักพัก จี้ตงหมิงก็พูดออกมา “ทนายหวัง ตอนนี้ยังต้องวิเคราะห์อีกเรื่องหนึ่ง คุณนายนั้นได้ท้องแล้ว ช่วงที่ท้อง สามีนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะขอหย่า”
ทนายได้ตกใจอย่างเห็นได้ชัด อ้าวปากกว้าง หุบจนเล็ก ถึงจะปิดลง สุดท้ายได้พูดพร้อมกับความหมดหวังว่า “ท่านประธาน นี่…..ถ้าเป็นแบบนี้ การหย่านั้นต้องให้คุณนายเป็นคนพูดออกมานะครับ”
นัยน์ตาของหลงเซียวนั้นได้เปลี่ยนเป็นน่ากลัวมากๆ ความเย็นนั้นได้หยุดอยู่ในบรรยากาศรอบๆ “นายอยากตาย?”
คำพูดเรียบๆ กัดฟัน โกรธจัด
ทนายได้พูดขอความเห็นใจ “ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ ท่านประธาน คุณสงบสติอารมณ์ก่อน อย่าพึ่งโมโหจนเสียเหตุผลไป พวกเรานั้นสามารถไปคุณกับคุณนาย คุณนายต้องเข้าใจแน่ๆ”
“ฉันไม่เข้าใจ!” หลงเซียวสวนกลับ เย็นจนได้หยุดคำพูดของทนาย
จี้ตงหมิงนั้นได้ผลักทนายออก ส่งสายตาเป็นการบอกว่าให้เขาหยุดพูด
แล้วว่าพูดให้หลงเซียวหายโกรธ “เจ้านาย ใจเย็นก่อนครับ ความหมายของทนายก็คือให้คุณหย่าตบตา คุณกับคุณนายนั้นก็ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ แต่แค่บอกกับคนนอกว่าได้หย่ากันแล้ว คุณนั้นต้องออกจากตระกูลหลง การที่จะรักษามรดกทั้งหมดนั้น การหย่านั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วครับ”
กลุ่มทนายที่อยู่ข้างหลังนั้นได้นั่งนิ่ง กลัวว่าเจ้านายนั้นจะโมโหจนเอาเรื่องพวกเขา ได้ภาวนาให้คนโปรดของเขาผู้ช่วยจี้นั้นได้พูดโน้มน้าวใจเขาให้เกิดผลอย่างเงียบๆ
สายตาของหลงเซียวนั้นได้เหมือนกับใบมีดแหลมคม “ก็แค่หย่าตบตา? อาหมิง นายคิดง่ายไปแล้วหรือเปล่า นายฟังไว้นะ ถ้าลั่วหานได้ขอหย่ากับฉันในเวลานี้ คนข้างนอกนั่นต้องต่อว่าเธอทำลายชื่อเสียงของเธอ พึ่งรู้ว่าฉันนั้นไม่ได้เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลงก็จะหย่า ถ้าเป็นแบบนั้น พวกนักข่าวจะคิดยังไง? ตอนที่แต่งงานกับฉัน ก็เพื่อที่จะเอามรดกของฉัน? เพื่อที่จะได้นั่งอยู่ให้ตำแหน่งคุณหญิงของตระกูลหลง?”
คำพูดของหลงเซียวนั้นถูก พูดซะจี้ตงหมิงนั้นเริ่มหนาว ใช่ เขาทำไมถึงคิดไม่ถึงข้อนี้? ให้ตายเถอะ!
ใบหน้าของทนายแต่ล่ะคนเริ่มกลัว ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
ท่านเซียวปกป้องภรรยา ให้เขานั้นทำลายชื่อเสียงของภรรยาตัวเองนั้นเป็นไปไม่ได้
“แต่ว่า เจ้านาย ถ้าคุณไม่หย่า แล้วคุณได้ออกไปยอมรับเรื่องความสัมพันธ์กับตระกูลหลง MBK นั้นต้องเก็บหุ้นกับมรดกในมือของคุณไปแน่ๆ มรดกครึ่งหนึ่งในมือของคุณนั้น……มัน มันไม่ใช่น้อยๆ นะครับ”
หลงเซียวพยักหน้า “มรดกนั้นเป็นของนอกกาย ทิ้งแล้วก็ทิ้งไป”
คิ้วของลั่วหานขมวดแน่น พูดออกมาง่ายมาก เงินที่หามาได้อย่างยากลำบากขนาดนั้นไม่เอา? ไม่เอานั้นไม่เป็นอะไร แต่จะให้ไอเดรัจฉานหลงถิงนั้นได้ใจไม่ได้!
ทนายรอให้อารมณ์ของหลงเซียวเย็นลงถึงได้ถามออกไปว่า “ท่านประธาน ถ้าคุณนั้นไม่อยากที่จะเสียผลประโยชน์ในMBK และก็ไม่อยากที่จะหย่า เกรงว่าคุณนั้นต้องปิดบังตัวตนของคุณไปตลอด ทำตามที่หลงถิงพูด คุณก็เป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลหลง”
จี้ตงหมิงค่อยๆ เอามือแตะหน้าผาก นี่จะเป็นไปได้ยังไง! ถ้าเกิดไม่บอกตัวตนที่แท้จริงออกไป เจ้านายจะมาเสียเวลาทำให้ข่าวนั้นคอยดังอยู่ตลอดเพื่อ? เขานั้นอยากให้หลงถิงนั้นได้ขายหน้าตัวเอง!
ปฏิกิริยาของหลงเซียวนั้นไม่บอกก็รู้ สายตาของเขานั้นสามารถที่จะฆ่าทนายได้แล้วตอนนี้
พูดคำแนะนำเหี้ยอะไรออกมา!
จี้ตงหมิงส่ายหน้า “ไม่ได้”
แน่นอนว่าไม่ได้อยู่แล้ว!
ลั่วหานต้องเป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วยแน่ๆ
ข้างในนั้นได้เถียงกันไม่หยุด พวกทนายนั้นเห็นว่าการหย่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว แต่ว่าหลงเซียวนั้นยอมที่จะเสียงมรดกครึ่งหนึ่งออกไป จี้ตงหมิงนั้นได้กอดรายชื่อมรดกของหลงเซียวที่ทนายเอามาให้ ถ้าตัดออกไปครึ่งหนึ่งล่ะก็ จำนวนนั้นเยอะมากๆ
แค่เขามองก็ปวดเนื้อปวดใจปวดตับแล้ว
“เจ้านาย เงินนั้นเป็นของภายกายอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้บริษัทฉู่ซื่อนั้นพึ่งได้เริ่มเดิน แต่ว่าโปรเจคทั้งหมดนั้นมันต้องมีค่าใช้จ่าย อย่างอื่นไม่พูด พูดแต่เรื่องโปรเจคของเมืองเจียงเฉิงที่พวกเรากำลังจะแย่ง ต้องลงทุนไม่น้อยนะครับ”
หลงเซียวมองเขา “อาหมิง เอาตามที่นายว่า ไม่มีเงินพวกนี้ ฉันก็เดินต่อไปไม่ได้แล้ว? ฟังไว้ ฉันได้พูดออกไปตั้งแต่แรกแล้วว่า มรดกของฉันทั้งหมดนั้นได้ส่งมอบให้ภรรยาของฉันไปหมดแล้ว ฉันไม่ไปแตะต้องแม้แต่นิดเดียว”
จี้ตงหมิงถูกเจ้านายสวนกลับจนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้กัดฟัน “ความหมายของเจ้านายคือ จะเสียสละมรดกครึ่งหนึ่ง?”
“ใช่ ไปเขียนใบแถลงการณ์ออกมา วันนี้ตอนเที่ยงคืนฉันจะประกาศออกไป” หลงเซียวได้ตัดสินใจแล้ว ได้สั่งออกไปอย่างเย็นชา ไม่อยากจะอธิบายอะไรกับเรื่องนี้อีกต่อไป
ไหนๆ เจ้านายก็ไม่สั่งออกมาแล้ว ไหนๆ เจ้านายก็ไม่ได้ปวดใจกับเงินพวกนั้น ไหนๆ เจ้านายก็ได้มองเงินเหมือนเป็นแค่ขี้ กับคนที่เป็น ลูกน้องยังจะสงสัยอะไรอีก?
“ครับ ผมไปเขียนเดี๋ยวนี้” ใจของจี้ตงหมิงนั้นได้ออกเลือด หยดแล้วหยดเหล่า
“เดี๋ยวก่อน!”
ประตูห้องทำงานได้ถูกลั่วหานใช้สองมือเปิดออกจากข้างนอก หญิงสาวร่างบางมาพร้อมบรรยากาศราวกับสายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงมาจากด้านนอก สีหน้างดงาม รอยยิ้มบางๆ แล้วก็จริงจัง
คนในห้องนั้นได้ตกใจ ได้มองไปยังคุณหญิงที่อยู่ๆ ก็เข้ามา แต่ล่ะคนได้เบิกตากว้างไม่กล้าออกเสียง
คิ้วของหลงเซียวได้ขมวด ได้ก้าวเข้าไปแล้วก็กอดเอวลั่วหานภายในพริบตาเดียว พูดไปพร้อมความปวดใจแล้วก็เป็นห่วงว่า “คุณมาได้ยังไง?”
ลั่วหานนั้นได้เอามือเขาออกอย่างเป็นธรรมชาติ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “บอกแล้วไงว่ามาเป็นกำลังเสริมให้คุณ ฉันยังไม่มาคุณก็ออกคำสั่งไปแล้ว ไม่ไว้หน้าฉันเกินไปแล้วหรือเปล่า?”
หลงเซียวได้ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม “อย่าพูดอะไรโง่ๆ เรื่องทางนี้ได้จัดการเสร็จแล้ว เดียวผมก็กลับบ้านไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแล้ว”
ลั่วหานได้เอามือไปตบแขนของเขา สายตาได้มองไปยังคนข้างใน ทนายกับฝ่ายกฎหมายอยู่ งั้นก็ดีเลย
“ไม่รีบร้อน ฉันจัดการเรื่องของฉันเสร็จก่อนค่อยว่ากัน” ลั่วหานได้เดินเข้าไปข้างในไม่กี่ก้าว แล้วก็ได้พูดกับทนายส่วนตัวของหลงเซียวว่า “ทนายเฉิน คำพูดของพวกคุณเมื่อกี้ฉันได้ยินหมดแล้ว ที่จริงมันง่ายมาก ก็แค่ให้ฉันเป็นคนเริ่มพูดหย่าก่อน ตัดความสัมพันธ์สามีภรรยากับหลงเซียว แล้วก็เอามรดกในมือของเข้าทั้งหมดมาอยู่ภายใต้ชื่อของฉัน หลงถิงก็จะทำอะไรไม่ได้แล้ว ใช่ไหม?”
หน้าผากของทนายเฉินนั้นได้มีเหงื่อไหลออก เขาได้พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ครับ ขอแค่คุณนาย……”
“เหล่าเฉิน!” หลงเซียวได้ขัดคำพูดของเขาไป น้ำเสียงแบบนั้นเป็นการบอกว่า นายกล้าพูดอีกคำล่ะก็ ก็ให้ฉันออกไปเดี๋ยวนี้!
ลั่วหานหันหน้าไปมองหลงเซียว “ที่รัก อย่าโมโหขนาดนั้น ตอนนี้ฉันก็แค่ปรึกษาเรื่องกฎหมายกับทนาย คุณต้องให้เกียรติฉันหน่อยไหม?”
เธอได้กะพริบตาให้เขาแบบขี้เล่น สถานการณ์ที่จริงจังแบบนี้ ก็เหมือนกับแม่น้ำไหล มองไปที่ตาของหลงเซียว ก็ได้มองไปที่ใจ
“ลั่วลั่ว ผมไม่ตกลงที่จะหย่า ถ้าเกิดหย่า ชื่อเสียงคนคุณต้องเสียงหายแน่ๆ ผมจะให้คุณมาเสียสละขนาดนี้เพื่อผมไม่ได้ คุณถอดใจเถอะ
ลั่วหานก็ยังยืนยันคำเดิมว่า “ถ้าเกิดฉันจะหย่าล่ะ? อีกอย่าง ฉันทำไมต้องทนมองเงินที่สามีฉันนั้นหามาอย่างยากลำบากไปตกเป็นของคนอื่นด้วย? ฉันไม่ไปเอากับเขาก็ดีแค่ไหนแล้ว ยังจะให้ฉันเอาให้อีก? เขาคิดง่ายไป! ฉันตกลงแล้วว่าจะไม่ให้โอกาสเขา”
พูดถึงตอนนี้ ลั่วหานได้นั่งลง ข้างๆ ไม่มีใครพูด “ทนายเฉิน ตอนนี้ฉันเป็นคนท้อง การหย่าฉันมาเอ่ย คุณรีบไปเตรียมเอกสารการหย่ามา ข้อเรียกร้องนั้นไม่จำเป็นต้องชัดเจน ขอแค่สามารถยืนยันได้ว่าฉันกับหลงเซียวนั้นไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว แล้วก็หลงเซียวเป็นคนที่ไม่เอาอะไรเลยเองก็พอ”
ลั่วหานนั้นได้อธิบายความคิดของตัวเองออกไปง่ายๆ คนในห้องทำงานนั้นเหมือนตายไปแล้ว!
สายตาของหลงเซียวนั้นได้คมยิ่งกว่านกอินทรี “คุณกำลังพูดอะไรอยู่?”
ลั่วหานหยักไหล่ “ฉันบอกว่าหย่าไง หนึ่งแตกสองแยก ต่างคนต่างมีความสุข”
ความเครียดของหลงเซียวได้เขียนบนหน้าผาก “ลั่วลั่ว อย่างอแง นี่ไม่ใช่เกมเด็กเล่น ถ้าเกิดหย่าขึ้นมาจริงๆ คนข้างนอกก็จะเรื่องต่อว่าคุณ……”
ลั่วหานได้ลุกจากโซฟา เธอนั้นได้ค่อยๆ เดินเข้าใกล้หลงเซียว เงยหน้า แล้วก็มองสายตาที่รักเธออย่างสุดใจคู่นั้น
“คุณหลง คุณยังจำคำพูดที่ฉันพูดก่อนหน้านี้ได้ไหม? ต่อไปฉันจะเป็นโล่ให้คุณ ช่วยคุณบังพายุและฝน อยู่กับคุณตอนที่ยากลำบาก”
ริมฝีปากปากสีซากุระของเธอ ได้พูดคำนี้ออกมา แค่ล่ะคำนั้นได้มีความทรงจำที่ยาวนานมาหลายปี ไม่มีวันเปลี่ยนไป
หลงเซียวอึ้ง “ลั่วลั่ว ผมไม่เห็นด้วย”
ลั่วหานได้เอานิ้วไปหยุดปากหลงเซียวไว้ “คุณหลง ฉันนั้นเป็นคนที่ทำอะไรง่ายๆ เดินทางของตัวเอง ให้คนอื่นพูดไป ถ้าเกิดสนใจคำพูดคนอื่นมากเกินไป พวกเรานั้นจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง? ใจฉันไม่ได้เปราะบางขนาดนั้น ฉันทำได้!”
“นี่มันไม่เกี่ยวกับว่าคุณเปราะบางไหม ผมไม่มีทางให้คุณที่ท้องอยู่ไปเจอกับเรื่องพวกนี้” หลงเซียวพูดไม่เยอะ ได้ยืนยันจุดยืนของตัวเอง
ลั่วหานได้ลูบท้องของตัวเอง ก้มหน้ามองส่วนที่เริ่มโตขึ้น “ลูกรัก พ่อของลูกนั้นกลัวว่าแม่นั้นจะดูแลลูกไม่ดี ลูกคงไม่ได้คิดแบบนั้นใช่ไหม? แม่ของลูกนั้นเป็นคนเก่ง เจอเทพปรามเทพ เจอพระปรามพระ เห็นด้วยหรือเปล่า?”
ทุกคน “…….”
หลงเซียวหน้าได้เครียด “ลั่วลั่ว นี่คุณ……”
ลั่วหานได้ชู่วออกมา ก้มหน้าแล้วพูดว่า “อืม ลูกเห็นด้วยแล้ว? ได้เลย!”
ทุกคน “……”
หลงเซียว “……เขาจะรู้ได้ยังไง? เหตุผลนี้ใช้ไม่ได้”
ลั่วหานเงยหน้าแล้วมองหลงเซียวอีกครั้ง “คุณเข้าใจอะไร? แม่ลูกเชื่อมใจ อีกอย่างตอนนี้สายสะดือของลูกนั้นได้เชื่อมกับฉันแล้ว เขาคิดอะไรฉันต้องรู้อยู่แล้ว”
ทุกคน “……”
ยอมคุณหญิงเลย แบบนี้ก็ได้เหรอ?
หลงเซียวปวดหัว “ลั่วลั่ว ปกติคุณเป็นคนคิดอะไรได้นะ วันนี้อย่าใช้นิสัยเด็กได้ไหม? เรื่องนี้พวกเรากลับบ้านค่อยคุย”