ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 684
ตอนที่ 684 อารมณ์พลุ่งพล่านหรอ
ท้องฟ้าสีมืดครามได้ปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง และเริ่มเข้าสู่ความมืดมิดแล้ว
หลินซีเหวินเดินบนถนนอยู่ และบิดขี้เกียจเล็กน้อย จากนั้นก็จิบน้ำอุ่นหนึ่งคำ แล้วควักเงินหนึ่งหยวนใบเดียวที่เหลืออยู่ในกระเป๋าซื้อชานมไข่มุกที่ร้านขนาดเล็ก
จากนั้นก็เอาเหรียญที่แลกมาหยอดลงตู้โทรศัพท์สาธารณะ
มือหนึ่งถือชานมไข่มุก ขณะเดียวกันก็หนีบโทรศัพท์ตรงที่บ่า หลังจากกดหมายเลขโทรศัพท์เสร็จก็กระแอมหนึ่งทีวอร์มเสียง และเฝ้ารอสายจากทางนั้นด้วย
หากเขากล้าวางสายเธอ เธอจะฆ่าเขาให้ตายเลย!
ทั้งวันมานี้หลงจื๋อยุ่งอยู่กับข่าวทุกประเภท นักข่าวและการประชุมของบริษัท เมื่อได้ยินโทรศัพท์ดังขึ้น หลงจื๋อก็หยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ผู้ช่วยเพิ่งซื้อให้ขึ้น และเห็นเป็นเบอร์แปลก
แม่เจ้า นิตยสารก็สามารถโทรศัพท์มาที่โทรศัพท์มือถือเขาแล้วหรอ พวกเขาไม่อยากมีชีวิตแล้วหรอ!
หลงจื๋อหยิบโทรศัพท์ขึ้น แล้วด่าทออย่างเต็มที่ว่า “ตกลงต้องการอะไรกันหรอ? ผมอธิบายไปแล้ว ผมไม่ใช่คนมีความอดทนมากนักนะครับ ทุกอย่างต้องผ่านการประชุมจากบริษัทถึงจะแถลงข่าว ดังนั้นหากคุณโทรมารบกวนผมอีก ผมจะเอาคุณออกจากวงการข่าว! ไม่เชื่อก็คอยดู!”
หลินซีเหวินหรี่ตาลงเล็กน้อย คงโมโหน่าดูเลย!
“คุณชายรองหรอ? อารมณ์ของคุณพลุ่งพล่านหรอ? ทำไมถึงโมโหร้ายขนาดนี้? คุณโมโหภรรยาหรอ?” หลินซีเหวินสูบไออุ่นของชานมที่ร้อนเพื่อมอบความอบอุ่นแก่ร่างกาย
เธอทุบหน้าต่างกระจกแตก และหนีออกมาจากบ้าน เพราะเร่งรีบเลยไม่ได้สวมชุดหนาๆ แล้วใครจะไปรู้ว่าข้างนอกจะหนาวมากขนาดนี้
“ซีเหวินหรอ?” หลงจื๋อลุกขึ้นอย่างฉับพลัน พร้อมกับถือโทรศัพท์ด้วยท่าทางตื่นเต้นไม่รู้จะทำตัวยังไง “เธอ เธอไม่โกรธฉันแล้วหรอ? ถึงพูดกับผมได้แล้ว?”
หลินซีเหวินทำปากมุ้ย และพูดขึ้นว่า “โทรศัพท์ของฉันถูกหม่ามี๊เก็บไว้ และถูกเธอล็อกอยู่ในบ้านไม่อนุญาตออกข้างนอก ฉันเพิ่งหนีออกมาได้ ตอนนี้ทั้งตัวมีเงินเลย ไม่มีชุดหนาว หิวมาก หนาวมากด้วย คุณรีบมาช่วยฉันหน่อย”
น่าสงสารขนาดนี้เลยหรอ?
หากปล่อยไปคงแย่แน่เลย?
หลงจื๋อหยิบเสื้อคลุมและกุญแจรถทันที “ครับ บอกที่อยู่ของคุณกับผมหน่อย เดียวผมจะรีบไปเลย! คุณรอผมก่อนนะ อย่าเพิ่งไปไหน รอผมไปรับคุณก่อน!”
หลินซีเหวินดูดชานม พร้อมอมยิ้มจางๆ “ฉันอยู่ที่ลานที่พวกเรากินข้าวกันครั้งก่อนค่ะ เห้อ ฉันหาตู้โทรศัพท์สาธารณะอยู่ตั้งนานเลย คุณรีบมาหาฉันนะ”
“ครับ!”
หลงจื๋อวิ่งออกจากห้องทำงานด้วยความรวดเร็ว ซึ่งตอนที่ออกมาจากประตู เขาชนกับลินดาที่ถือน้ำเต็มแก้วอยู่ ลินดาถูกกระแทกจนล้มไปข้างหลัง ขณะเดียวกันส้นเรียวเล็กของรองเท้าส้นสูงก็หักด้วย
ลินดาตกใจจนหน้าตาขาวซีด
หลงจื๋อรีบเข้ามาดึงแขนของเธอไว้ “คุณไม่เป็นอะไรนะครับ?”
ลินดาส่ายหน้า และยิ้มเก้อเขินด้วยสีหน้าขาวซีด “ท่านประธานค่ะ ตอนกลางคืนมีประชุมนะค่ะ ฉันมาเรียกคุณไปประชุมค่ะ”
“ช่วยแจ้งให้หน่อยว่า การประชุมถูกเลื่อนเป็นเช้าวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ผมมีเรื่องใหญ่ที่ต้องไปจัดการก่อน”
“แต่ว่า….ท่านประธาน? ท่านประธาน!”
ลินดาร้องเรียกจากข้างหลัง แต่หลงจื๋อได้หายตัวไปแล้ว
หลินซีเหวินสวมแค่เสื้อฮู้ดบางชิ้นเดียวหลบอยู่ในตู้โทรศัพท์สาธารณะ ขณะเดียวกันก็จิบชานมอบอุ่นร่างกายด้วย ไม่มีโทรศัพท์ดูเวลา เลยรู้สึกว่าเวลาผ่านไปยาวนานมาก
ขณะที่เบื่อจนอึดอัดใจนั้น หลินซีเหวินก็เงยหน้าดูโฆษณาบนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ สถานที่ตรงนี้เป็นแหล่งศูนย์กลางของเมืองหลวง บนหน้าจอเลยถ่ายทอดโฆษณาแบรนด์ดังของโลก อย่างเช่นคอลเลคชั่นเสื้อผ้าฤดูกาลใหม่ที่สุดของมิลานกับบาหลี
หลินซีเหวินไม่ค่อยชอบโฆษณาธุรกิจประเภทนี้ ดังนั้นเธอเลยดูพลาง และวิพากษ์วิจารณ์รสนิยมของนักออกแบบบางคนด้วย นักออกแบบที่ออกแบบชุดราตรีให้กับหม่ามี๊ครั้งก่อน รสนิยมถูกสุนัขแดกหรือไง ถึงออกแบบชุดราตรีเหมือนชุดนอนอย่างนั้น
อีกอย่างได้ยินมาว่า สุนัขบาหลีตัวนี้ สามารถเนรมิตทำให้คนที่เชยและไม่มีรสนิยมกลายเป็นคนทันสมัยเมื่อผ่านมือของเขา
เหลวไหล!
ดูสิดูสิ จู่ๆโฆษณาบนหน้าจอก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นข่าวถ่ายทอดสด บนข่าวมีรูปภาพร่างเงาคนไม่ค่อยชัดเจนในตอนกลางคืนด้วย
หลินซีเหวินจ้องมองอยู่สักพัก “แม่เจ้า! หลงเซียวแน่ๆ!” ใช่ คนที่อยู่ในรูปภาพคือหลงเซียว
หลังจากที่รูปภาพถูกถ่ายทอด ไม่นานก็ปรากฏคำอธิบายขึ้น ตัวอักษรเน้นสีแดงไร้รสนิยมมาก แค่ดูแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นข่าวด่วน ฝ่ายตรงข้ามคงเตรียมการไม่มากเพียงพอ
“ข่าวใหม่ล่าสุด หลงเซียวนักธุรกิจที่เป็นตำนานออกจากบ้านกลางดึก พร้อมกับถือกระเป๋าย้ายออกจากบ้านอดีตภรรยา”
หืม!
หลินซีเหวินพ่นชานมออกมา ชานมไข่มุกรสชาติหวานพ่นลงบนเสื้อ จนเปียกเป็นขนาดใหญ่
“ไม่หรอกมั้ง! หย่าหรอ? ย้ายออกจากบ้านหรอ? แม่เจ้า ฉันเพิ่งถูกขังอยู่บ้านแค่หนึ่งวันคืนเอง!”
หลินซีเหวินรู้สึกว่าตัวเองตาลายหรือเปล่า แม่เจ้า เป็นเรื่องจริงหรอ?
หลงจื๋อจอดรถยนต์ จากนั้นก็รีบเร่งฝีเท้าวิ่งไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบเปิดประตูโทรศัพท์สาธารณะทันที
ตึง!
หลินซีเหวินนิ่งอึ้งชั่วขณะ แล้วกระพริบตาเล็กน้อย พร้อมกับจ้องมองหลงจื๋อเหมือนกับเห็นผีอย่างนั้น ในมือของเขาตอนนี้จับเสื้อคลุมอยู่ และเพราะวิ่งมาเลยถูกลมพัดจนผมเสียทรง ซึ่งตอนนี้เขากำลังสบตาเธอด้วยสายตารีบร้อนใจอยู่
หลินซีเหวินกลืนน้ำลายเล็กน้อย “คุณ…บินมาหรอ?”
หลงจื๋อสวมเสื้อคลุมไว้บนตัวเธอ แล้วปรับปกเสื้อเล็กน้อย จากนั้นก็โอบกอดเธอด้วยความเอ็นดู นับตั้งแต่เจอกันและสวมเสื้อคลุมให้กับเธอ หลงจื๋อไม่พูดอะไรเลย แต่หลังจากโอบกอดเธอเสร็จก็พูดกล่าวโทษตัวเอง “ขอโทษ ซีเหวิน ผมทำให้คุณต้องลำบากแล้ว”
หลินซีเหวินทำปากมุ้ย “หลงจื๋อ คุณ…กอดแน่นเกินไปแล้ว”
หลงจื๋อปล่อยมือออก แล้วยิ้มแห้งๆเล็กน้อย “ผมกลัวว่าคุณจะหนาว ยังหนาวอยู่อีกไหม?”
หลินซีเหวินอดใจกลั้นเขาในสภาพตอนนี้ไม่ไว้ “ไม่หนาวแล้ว แต่ฉันหิวมาก คุณกอดฉันจนชานมของฉันถูกรัดแตกหมดแล้ว”
หรือไม่ใช่หรอ เมื่อกี้เขากอดแน่นมาก หลินซีเหวินเลยยกชานมขึ้นไปอีกด้าน แต่เพราะตื่นเต้นมากเลยบีบถ้วยชานมจนล้นออกมาไม่น้อย
“ไป พวกเราไปกินข้าวกัน กินให้เยอะหน่อย!”
ในตอนนี้หลินซีเหวินไม่มีอารมณ์จะกินอะไรหรอก เธอชี้ไปที่ข่าวบนหน้าจอ “เกิดอะไรขึ้น? พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ของนายหย่ากันหรอ?”
หลงจื๋อหันหน้ามองหน้าจอบนลานตามสายตาของเธอ หน้าจอที่ศูนย์การค้าศูนย์กลางมีขนาดใหญ่มาก สามารถซูมรูปภาพของคนได้หนึ่งร้อยเท่าเลย เลยสามารถเห็นรถยนต์และใบหน้าสีหน้าของพี่ใหญ่อย่างชัดเจน
ที่แท้วันนี้พี่ใหญ่ย้ายออกคฤหาสน์แล้ว
หลงจื๋อเกาหัวเล็กน้อย “อืม พวกเขาหย่ากันแล้ว”
“ห่ะ! นางฟ้าของฉันกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหรอ? เป็นไปได้ยังไง!” หลินซีเหวินโยนชานมลงในถังขยะ แล้วเดินตรงไปเหมือนจะไปต่อยคน
หลงจื๋อจับข้อมือของเธอไว้ “คุณจะทำอะไรหรอ?”
“ฉันจะไปตีพี่ใหญ่ของคุณ! ทำไมคุณถึงยอมปล่อยให้นางฟ้าของฉันต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย นางฟ้าของฉันกำลังตั้งท้องอยู่ ตั้งท้องอยู่คุณรู้ไหม? คนตั้งท้องต้องการความเอาใจใส่และความรัก แล้วสามีจะสามารถจากไปได้ยังไง? แบบนั้นส่งผลไม่ดีต่อลูกน้อยในท้องเลย”
หลงจื๋อรู้สึกปวดหัวมาก “เจ้าทึ่ม คุณช่วยมองประเด็นให้ถูกหน่อยได้ไหม? ตอนนี้คนที่ต้องการการเอาใจใส่มากที่สุดคือคุณ อย่างอื่นอย่าเพิ่งไปสนใจ พวกเราไปกินข้าวก่อน แล้วเดียวผมจะพาคุณไปซื้อเสื้อผ้า อีกอย่างในเมื่อแด๊ดดี้และหม่ามี๊ของคุณกับกักบริเวณคุณ ผมก็จะไม่ยอมให้คุณกลับบ้าน คืนนี้พวกเราสองคนพักที่โรงแรมกันเถอะ”
หลินซีเหวินหันหน้าข้าง แล้วยิ้มจางไป “หลงจื๋อ วัยนี้คุณเป็นสุภาพบุรุษมาก พี่สาวรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชิน”
หลงจื๋อยื่นมือโอบเอวของเธอไว้ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “พี่สาวอะไรครับ คุณคือผู้หญิงของผม”
“งั้นก็ดี หากคุณพาฉันไปแล้วพ่อกับแม่ของฉันจับได้ คุณจะอธิบายยังไงหรอ?” หลินซีเหวินเดินขึ้นบนรถ ซึ่งบนรถยนต์เปิดอุณหภูมิอุ่น ตอนนี้เธอไม่รู้สึกหนาวเลย แต่รู้สึกร้อนมาก
“อธิบายยังไงหรอ? ก็บอกไปว่าผมพาผู้หญิงของผมไปสิ แล้วต้องอธิบายังไงอีก?” หลงจื๋อขึ้นบนรถ แล้วช่วยหลินซีเหวินคาดเข็มกลัดนิรภัย และพูดขึ้น
หลินซีเหวินยิ้มแย้ม
โอเค ถ้าเช่นนั้นก็จะยอมปล่อยให้คุณเพ้อฝันอย่างมีความสุขอีกสักหน่อยก็ได้ อยากคบกับเธออย่างจริงจังหรอ เธอกล้ารับประกันเลยว่า แม่ที่ห้าวหาญอย่างบ้าบิ่นของเธอคงสังหารหลงจื๋อในวินาทีเดียวแน่!
——
วันต่อมา ข่าวของเมืองหลวงดังระเบิดขึ้น
ลืมตาขึ้นมาก็เห็นรูปภาพหลงเซียวถูกไล่ออกจากคฤหาสน์เมื่อคืนเต็มไปหมด เหล่านักข่าวต่างแสดงรูปภาพที่หลงเซียวจากบ้านด้วยท่าทาง “ไร้จิตวิญญาณ” ต่างมุมมองกันไป
ส่วนหัวข้อและเนื้อหาประกอบยิ่งไม่น่าฟัง เพราะเขียนราวกับว่าหลงเซียวถูกโลกทอดทิ้งอย่างนั้น
จี้ตงหมิงหยิบแบบร่างข่าวที่เสิ่นเหลียวเปิดเผยวางลงบนโต๊ะเบื้องหน้าของหลงเซียว ไม่ว่าเขาจะดูยังไงก็ไม่เห็นร่องรอยบนใบหน้าของเจ้านายรู้สึกแย่เลย
ในทางกลับกัน เขารู้สึกวันนี้เจ้านายอารมณ์ดี ทั้งที่ข้างนอกมีข่าวดุเดือด แต่เขากลับไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเลย
หลงเซียวพลิกอ่านข่าว ก็เห็นว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังต่อกรกับสื่อข่าว ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่ากลุ่มกำลังพลอินเตอร์เน็ต ดังนั้นแผนการเลยออกมาประมาณนี้
ดังนั้นสรุปได้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลังปกป้องเขากับลั่วลั่วอยู่
เปลี่ยนจากข่าวด้านลบเป็นเรื่องตลาดหุ้น
อืม….
เส้นสีเขียวของบริษัทฉู่ซื่อกับบริษัท MBK ราคาตกลงลงอย่างเห็นได้ชัดเจน อีกอย่างนับตั้งแต่บริษัทฉู่ซื่อกับบริษัท MBK เริ่มตกต่ำลง หลายบริษัทกลับมีราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น
เห็นได้ชัดเจนว่าเส้นสีเขียวสองเส้นมีความแตกต่างมาก
หลงเซียวขมวดคิ้ว แล้วหันหน้ามองจี้ตงหมิง “เกิดอะไรขึ้น?”
จี้ตงหมิงเอาแบบร่างข่าวให้กับหลงเซียว “เจ้านายครับ วันนี้พวกเราเตรียมแถลงข่าวนี้ครับ เปิดเผยชีวิตอันโสโครกของเสิ่นเหลียว”
หลงเซียวกวาดตาอ่านรอบหนึ่ง แล้วเม้มปากเล็กน้อย “นายเป็นคนเขียนหรอ?”
จี้ตงหมิงพยักหน้าเล็กน้อย “ผม…เป็นคนเขียนเองครับ และมีไป๋เวยกับแอนดี้ช่วยแก้ไขด้วยครับ”
มิน่าถึงเขียนได้อย่างเปิดเผย และร้ายกาจแบบนี้
“อืม ส่งให้กับนิตยสาร พร้อมกับส่งรูปภาพและคลิปเสียงด้วย” แบบร่างที่จี้ตงหมิงให้หลงเซียวตรวจสอบผ่านแล้ว
“ครับ ผมได้ติดต่อกับบริษัทที่มีอิทธิพลต่อวงการข่าวห้าแห่งแล้วครับ และทางนั้นก็รับประกันข่าวจะโด่งดังบนอินเตอร์เน็ตภายในเวลาสิบนาทีครับ” จี้ตงหมิงถือแบบร่างข่าว และรอคอยเรื่องสนุกในวันนี้
หลงเซียวพยักหน้า “ทางด้านอุตสาหกรรมล่ะ?”
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองที่จี้ตงหมิงอยากบอก “เมื่อวานผมให้ทางอุตสาหกรรมแจ้งข่าวแล้วครับ วัยนี้พวกเขาส่งคนไปบริษัทซุนซื่อแล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาด ตอนนี้คงกำลังหยุดให้ทางบริษัทซุนซื่อทำงาน”
หลงเซียวหยิบกาแฟแก้วหนึ่งขึ้นมาจิบเล็กน้อย พร้อมกับค่อยๆสัมผัสถึงรสชาติ “เคลื่อนไหวเร็วมาก ของขวัญชิ้นใหญ่นี้ ซุนปิงเหวินต้องชอบแน่”
หลงเซียวเหลือบมองราคาหุ้นของบริษัทซุนซื่อบนแผนภาพตลาดหุ้น คิดไม่ถึงว่าวันนี้บริษัทซุนซื่อจะหยุดพุ่งขึ้นแล้ว
หากซุนปิงเหวินเห็นราคาหุ้นคงต้องดีใจจนปากค้างแน่เลย และวินาทีต่อมาเขาคงร้องไห้ไม่ออกแน่ๆ!
จี้ตงหมิงยิ้มจนหางตาย่นเล็กน้อย “เจ้านาย แผนการนี้ของคุณเหนือชั้นมาก ซุนปิงเหวินแย่แน่ครับ”
เขาเพิ่งพูดจบ โทรศัพท์ของหลงเซียวก็ดังขึ้น
บนหน้าจอปรากฏหมายเลขโทรศัพท์ของซุนปิงเหวินขึ้น
“ฮ่า! ดูเหมือนซุนปิงเหวินจะเป็นเดือดเป็นร้อนแล้ว”
“แล้วเจ้านายจะทำยังไงต่อครับ?” จี้ตงหมิงสีหน้ารอคอย
หลงเซียวพลิกโทรศัพท์ลง และไม่คิดอยากรับสาย “นายเคยเห็นน้ำอุ่นต้มกบไหม? ปล่อยให้น้ำค่อยๆสูงขึ้นก่อน ต่อให้กบคิดอยากกระโดดออกไปก็คงเป็นเวลาส่ายแล้ว”