ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 693
ตอนที่ 693 โมเมนต์เกิดความวุ่นวาย
ประตูลิฟต์เปิดออก หลงถิงก้าวออกมาจากลิฟต์ พนักงานที่เดินผ่านไปมาในห้องโถงพยักหน้าทักทาย กลับไม่ได้รับการเหลียวแลจากหลงถิงเลยสักคน
เหลียงจ้งซุนที่เดินตามหลังหลงถิง ถามว่า “ท่านประธาน แล้วเสิ่นเหลียว คุณคิดจะ……”
หลงถิงที่กำลังเดินอย่างกระฉับกระเฉงเมื่อได้ยินชื่อของเสิ่นเหลียว ฝีเท้าก็ผ่อนช้าลง อารมณ์ยินดีเมื่อสักครู่พลันหายไปในทันที “เขา? ไอ้คนทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง! เรื่องอื้อฉาวของเสิ่นเหลียวทำให้นักลงทุนในบริษัทเสิ่นซื่อ หลายคนเทขายหุ้นครั้งใหญ่ หนนี้เสิ่นเหลียวคงผ่านไปได้ยากแล้ว”
เหลียงจ้งซุนพยักหน้าเห็นด้วย “ดังนั้น เราควรยุติความร่วมมือกับบริษัทเสิ่นซื่อ หรือไม่ครับเพียงแต่โครงการได้เริ่มต้นแล้ว หากเราประกาศผิดสัญญาฝ่ายเดียว เราจะต้องจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเป็นสองเท่า ซึ่งไม่คุ้มค่า”
หลงถิงกำหมัดแน่น เส้นเลือดสีเขียวบนหัวคิ้วกระตุกขึ้นเล็กน้อย “MBK ไม่อาจประกาศเรื่องการผิดสัญญาเพียงฝ่ายเดียวได้ ตรวจสอบเสิ่นเหลียวให้ดี ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์เจรจากับบริษัทเสิ่นซื่อ พยายามอย่าให้เสียเงินแม้แต่แดงเดียว”
เหลียงจ้งซุนรู้สึกว่านี่เป็นงานยากจะสำเร็จ เพราะมันไม่ใช่เรื่องอื้อฉาวของดาราหญิงในวงการบันเทิง ที่ค่าตัวสามารถเรียกคืนกลับมาได้ไม่น้อย แถมยังเพิ่มค่าเสียหายที่อีกฝ่ายนำมาให้ต่อบริษัทได้ด้วย
ตอนนี้ต้องอาศัยความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย ซึ่งมันง่ายดายขนาดนั้นเสียที่ไหนกัน
แต่เหลียงจ้งซุนก็ยังคงก้มศีรษะรับ “ครับ ท่านประธาน”
ส่วนควรจะทำอย่างไรนั้น เขาต้องหารือกับฝ่ายลงทุนและฝ่ายประชาสัมพันธ์อีกที
เหลียงจ้งซุนเปิดประตูรถ ส่งหลงถิงขึ้นรถ จากนั้นค่อยปิดประตูรถตามหลัง กระจกรถเลื่อนลงมา หลงถิงสีหน้าดำคล้ำถามอย่างเย็นชาว่า “ทางด้านหลงเซียวเป็นยังไงบ้าง”
สุดท้าย……ยังคงถามคำถามที่ปวดหัวขึ้นกว่าเดิม
“คุณชายใหญ่ดูสงบมาก ตอนนี้ข่าวของเสิ่นเหลียวกับซุนปิงเหวินได้ช่วยกลบเรื่องอื้อฉาวก่อนหน้านี้ของเขาไว้ ผมคิดว่าด้วยความสามารถในการประชาสัมพันธ์และความสัมพันธ์กับสื่อของเขา คงใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน ก็หันเหความสนใจของทุกคนไปได้หมดแล้ว คราวนี้ เรียกได้ว่าคุณชายใหญ่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวเลยทีเดียว”
สีหน้าที่หม่นคล้ำของหลงถิงเต็มไปด้วยความโกรธ “ฮึ! นับว่ายังมีความสามารถอยู่บ้าง ไม่เสียแรงที่ฉันสั่งสอนเขามาสามสิบปี! แต่ตอนนี้ผ่านไปไม่กี่วันเขากลับทำลายเรือสนับสนุนลง ฉันจะดูสิว่า เขายังจะมีลูกเล่นอะไรอีก”
หลงเซียว ไพ่ตายของแกใช้หมดแล้วสินะ กระทั่งแผนไปตายเอาดาบหน้าอย่างการหย่าร้างนี้แกก็ยังคิดออกมาได้ ฮ่าๆ แกก็แค่ตั๊กแตนหลังฤดูใบไม้ร่วงที่รอวันตายเท่านั้น
เหลียงจ้งซุนกลับไม่กล้าชะล่าใจ “ท่านประธาน อย่างไรคุณชายใหญ่ก็เป็น……เป็นคนที่พลิกสถานการณ์และช่วย MBK ให้รอดพ้นจากวิกฤตในปีนั้นนะครับ บริษัทฉู่ซื่อในตอนนี้ เทียบกับMBK ในปีนั้นแล้ว สถานการณ์ยังนับว่าดีกว่าอยู่เล็กน้อย”
หลงถิงหันศีรษะกลับไป และมองตรงไปข้างหน้า “ปีนั้น? ปีนั้นคือเมื่อสิบปีก่อน ซึ่งตอนนี้ไม่ได้ง่ายดายแบบนั้นแล้ว”
รถยี่ห้อลินคอล์นคันยาวสีดำขับจากไป โดยทิ้งเงารถสีดำไว้ข้างหลัง
เหลียงจ้งซุนมองตามเงารถไป แล้วมองอาคาร MBK อีกครั้ง จากนั้นก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญา
—————
ณ รีสอร์ทหยีจิ่ง
ยามพลบค่ำเริ่มครอบคลุมไปทั่วสี่ทิศ โคมไฟตั้งพื้นอันอบอุ่นเปิดขึ้น ลั่วหานที่ทานอาหารเย็นอยู่คนเดียว กำลังเอนกายบนโซฟาในห้องนั่งเล่นเพื่ออ่านหนังสือ
เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากข่าวที่น่ารำคาญ เธอจึงปิด Wi-Fi และข้อมูลเซลลูลาร์ ให้สามารถโทรออกและรับสายได้เท่านั้น
เงียบสงบมากเหลือเกิน
หลังจากพลิกหนังสือไปสองสามหน้า เสียงออดของบ้านพักก็ดังขึ้น
อาเซียงวิ่งไปดูที่หน้าจอมอนิเตอร์ พร้อมกับตะโกนอย่างมีความสุขว่า “คุณหญิง คุณลู่มาค่ะ! ”
ลู่ซวงซวง? ฉันฝืนเดินออกไป นี่หล่อนคิดจะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอจริงๆ เหรอ
“ฮัลโหลที่รัก โอ้ ๆ ๆ ทิวทัศน์งดงาม ช่วงเวลาแห่งค่ำคืนวสันต์ คืนนี้สาวน้อยคนนี้พลิกป้ายได้ของเจ้าแล้ว”
ลั่วหาน “……”
เมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 24 นิ้วของลู่ซวงซวง พร้อมกับมีกระเป๋าสัมภาระยี่ห้อ LV ขนาดใหญ่แขวนอยู่ด้วย ลั่วหานก็ตาลายจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่
ลู่ซวงซวงตบกระเป๋า พลางพูดกับสาวใช้อย่างคุ้นเคยว่า “สาวน้อย ช่วยเอาไปวางไว้ในห้องคุณนายของพวกเธอ คืนนี้เราจะนอนด้วยกัน! ”
สาวใช้มองไปที่ลั่วหาน “คุณหญิง……”
“ทำตามที่เธอบอก ยกขึ้นไปเถอะ”
สาวใช้สองคนช่วยกันยกกระเป๋าขึ้นไปชั้นบน ในขณะที่ลั่วหานตบโซฟาข้างๆ ตัว “ก็รู้ว่าต้นขาฉันใหญ่ แต่ก็ยังร้อนใจอยากจะกอดฉันขนาดนี้เชียว?”
ลู่ซวงซวงหัวเราะเบาๆ “เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ฉันมีประสาทดมกลิ่นดีเยี่ยม โดยเฉพาะกลิ่นของคนรวย!”
“แม่จอมวางแผน จู่ๆ ก็วิ่งมาที่นี่ ทำไมไม่บอกกันสักคำ” ลั่วหานบีบใบหน้ากลมๆ ของเธอ คนมีความรักช่างดีเหลือเกิน อย่างน้อยน่าจะอ้วนขึ้นสักสองกิโลครึ่งได้
ฉันส่ง WeChat ไปหาเธอ แต่เธอไม่สนใจฉันเลย โทษฉันได้เหรอ” ลู่ซวงซวงยักไหล่
ลั่วหาน “……”
ทั้งสองไม่ได้คุยกันจนเหนื่อยมานานแล้ว วันเวลาที่ได้พูดคุยและหัวเราะตลอดทั้งคืนในตอนนั้น ดูเหมือนจะกลับมาอีกครั้ง
พูดคุยสัพเพเหระไปได้สักพัก โทรศัพท์มือถือของลู่ซวงซวงก็ดังขึ้น เธอนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา เปิดโทรศัพท์มือถือ มุมปากยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
นิ้วแตะหน้าจออย่างรวดเร็ว ตอบกลับ WeChat
เพิ่งตอบกลับไป เสียงก็ดังขึ้นอีก
ลู่ซวงซวงจิ้มหน้าจออย่างรวดเร็วอีกครั้ง
ลั่วหานถาม “ตอนนี้พ่อเธอสุขภาพเป็นยังไงบ้าง”
ถามจบ ไม่เห็นได้รับคำตอบ จึงเงยหน้ามองเห็นลู่ซวงซวงกำลังยิ้มให้กับหน้าจออย่างโง่งม อย่างกับสาวน้อยที่กำลังมีความสุขกับความรัก
“ซวงซวง?”
เรียกดูสักหน่อย แต่ก็ไร้การตอบสนอง
ลู่ซวงซวงกำลังดื่มด่ำอยู่ในห้วงความสุขของการแชท ราวกับว่าทุกสิ่งรอบตัวกลายเป็นเทพนิยาย
“ซวงซวง?”
เรียกครั้งที่สอง ยังคงไม่มีการตอบสนองเหมือนเดิม แถมลู่ซวงซวงยิ่งคุยก็ยิ่งเมามัน และหัวเราะใส่หน้าจออย่างบ้าคลั่ง
พร้อมกับคว้าหมอนอิงที่ปักด้วยเส้นไหมสีทองราคาแพง จากนั้นก็ทุบมันแรงๆ “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า โง่เง่า!!!”
บนหัวของลั่วหานมีอีกาฝูงหนึ่งบินผ่านไป “ซวงซวง!”
ลู่ซวงซวงหันหน้ามาทันที “หืม? เธอเรียกฉันเหรอ”
ลั่วหานถูกสายตาไม่รู้ไม่ชี้ของเธอพิฆาตเข้าให้ “ยัยบ้า! เธอมาอยู่เป็นเพื่อนฉันไม่ใช่เหรอ! แต่เอาแต่เล่นมือถือเนี่ยนะ! ”
ลู่ซวงซวงปัดโทรศัพท์ไปไว้ใต้ก้นของเธอ “แค่กๆ ๆ โทษทีๆ หวาเทียนเพิ่งส่งบางอย่างมาให้ดู มันตลกมาก เธออยากดูไหม”
ลั่วหานอกหัก! แต่เธอมาจู๋จี๋กันให้เห็น!
ลู่ซวงซวงอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมา กดเปิดไปที่โมเมนต์ “ดูๆ ๆ ๆ ตลกมากเลย! น่าสนใจที่สุดในช่วงนี้แล้ว”
ลั่วหานหันหน้าไปอย่างไม่พอใจ “ไม่ดู! มีเจ้าเครื่องไร้ความรู้สึกเป็นเพื่อนแล้วนี่! ไสหัวกลับไปอยู่กับหวาเทียนเลยไป”
“โธ่เอ๊ย อย่าโกรธสิๆ จะให้เธอดูอะไรตลกๆ เธอต้องชอบแน่” ลู่ซวงซวงโอบไหล่ลั่วหาน แล้วเอาโมเมนต์ของเธอให้ดู
ลั่วหานอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว โดยพื้นฐานเพื่อนของลู่ซวงซวงเป็นคนชนชั้นกลางหรือนักธุรกิจที่ร่ำรวย ส่วนใหญ่อยู่ในแวดวงไฮโซของเมืองหลวงทั้งนั้น
ดังนั้น โมเมนต์ของเธอจึงหรูหรา
โพสต์แรกโพสต์โดยคุณชายรองของบริษัทแห่งหนึ่ง —— “บ้าจริง ไม่อยากจะเชื่อ เมื่อวานซุนปิงเหวินยังอวดรถคันใหม่อยู่เลย มาวันนี้ขึ้นรถตำรวจซะแล้ว”
ด้านล่างเป็นภาพที่ซุนปิงเหวินถูกล้อมจับ
โพสต์สองโพสต์โดยหญิงสาวชนชั้นกลางคนหนึ่ง —— “จุ๊ ๆ ๆ เพื่อนๆ ฉันแค่อยากรู้ว่าเสิ่นเหลียวกินยาวิเศษอะไรเข้าไป อายุปูนนี้แล้วถึงยังสามารถคั่วสาวหลายคนในเวลาเดียวกันได้”
ภาพดังกล่าวเป็นภาพถ่ายอนาจารของเสิ่นเหลียว
ความคิดเห็น : “ไวอากร้า?” “น้ำมันวิเศษของอินเดียหรือเปล่า” “ด้ามทอง!” “ดูเร็กซ์ อึดทนนานไร้อุปสรรค!”
ลั่วหาน “……” ลู่ซวงซวงเป็นเพื่อนแบบไหนกัน
เลื่อนดูโพสต์อีกสองสามโพสต์ ต่างเป็นโพสต์ที่กำลังพูดถึงเสิ่นเหลียวกับซุนปิงเหวิน และบางคนก็ทำอีโมติคอนใส่รูปภาพของพวกเขา สิ่งที่คลาสสิกที่สุดคือภาพแสดงอาการเมาหัวทิ่มของเสิ่นเหลียวกับปริมาณหุ้นของบริษัทซุนซื่อที่ถูกเทขายไปพร้อมกัน
ข้อความด้านล่างเขียนว่า “เงินหมดจบชีวิต”
ลั่วหาน “……”
โพสต์ต่อไปเป็นของหวาเทียนเขียนว่า “ค่ำคืนอันเดียวดาย”
พร้อมภาพแสงไฟของเมืองที่ถ่ายจากด้านข้างของหน้าต่าง
ลู่ซวงซวงคอมเมนท์เขาว่า “หัวใจของฉันอยู่กับคุณเสมอ จุ๊บๆ ”
ลั่วหานมองลู่ซวงซวงแวบหนึ่ง “……”
ลู่ซวงซวงกระแอมไอ “ดูต่อๆ ”
มีบางคนกำลังพูดถึงเธอกับหลงเซียว “เทพบุตร ฉันจะสนับสนุนคุณตลอดไป รอการกลับมาของราชาอยู่นะ! ”
พร้อมภาพถ่ายราวกับราชาของหลงเซียว
ลู่ซวงซวงคอมเมนท์หล่อนว่า “ขอราชาทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี”
ลั่วหานอดหัวเราะออกมาไม่ได้
ต่อมา ลั่วหานได้เห็นความเคลื่อนไหวของหลงจื๋อ เวลาโพสต์คือช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา
“ความสุข”
พร้อมภาพเงาคนสองคน แม้จะมีเพียงโครงร่าง แต่ก็มองออกว่าคนทั้งคู่ ต้องเป็นเขากับหลินซีเหวินแน่
หลินซีเหวิน?
ลั่วหานอดครุ่นคิดไม่ได้ จำนวนข่าวมากเกินไปหรือเปล่า
จากนั้นเธอก็เห็นโมเมนต์ของเกาจิ่งอาน การอัปเดตล่าสุดคือภาพข่าวที่ตัดมาจาก Wall Street Times พร้อมข้อความอันแสนเรียบง่ายว่า “นั่งมองก้อนเมฆที่ลอยขึ้น”
ช่างเหมาะกับบุคลิกของเกาจิ่งอานจริงๆ
ปกติลั่วหานไม่ได้สนใจกับโมเมนต์อะไรพวกนั้น เพราะรู้สึกว่ามันเสียเวลา จึงปิดฟังก์ชันนี้ไว้ ไม่ได้คิดว่ามันน่าสนใจอะไร
แต่เมื่อดูไปเรื่อยๆ สายตาของลั่วหานก็หยุดลง เพราะเธอไปเห็นความเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดเข้า
มันมาจากเจิ้งซิน
“คุณไม่สนใจฉัน แม้โลกทั้งใบจะอึกทึกเสียงดัง แต่ฉันก็เหงาอยู่ดี”
พร้อมภาพหล่อนสวมชุดราตรี เดินออกจากรถ และมีชายร่างสูงคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกล
ลั่วหานขมวดคิ้ว “ทำไมเธอมี WeChat ของหล่อน”
ลู่ซวงซวงเบ้ปาก “ฉันเองก็จำไม่ได้ คงถูกเพิ่มเข้ามาตอนอยู่งานเลี้ยง ก็แค่คนรู้จักที่พยักหน้าให้กัน ฉันไม่ได้สนใจความเคลื่อนไหวของหล่อนนัก หล่อนเอาแต่เพ้อคร่ำครวญทุกวัน ดูไม่เหมือนประธานหญิงเลย”
งั้นเหรอ?
ลั่วหานกดดูโปรไฟล์ของเจิ้งซิน มันช่าง……เนื้อหาที่เธอโพสต์มีแต่อาการเพ้อจริงๆ ด้วย
“พอคุณจากไป ฉันเพิ่งรู้ว่าเมืองใหญ่มันหนาวขนาดนี้เอง”
อี๋! จะอ้วก!
“ฉันอยู่ตรงนี้ รอสายลมและรอคุณ”
อี๋! เศร้าตายละ!
“X หวังว่าจะมีสักวันที่คุณย้อนกลับมาหา และครองรักกันจนแก่เฒ่า”
ตายแล้ว! สารภาพรักออกสื่อขนาดนี้ ไม่กลัวถูกคนด่าเอาหรือ
ด้านล่างมีลู่ซวงซวงกับเพื่อนร่วมงานของหล่อนคอมเมนท์ว่า “คนสวย ไม่ว่าความรักลึกซึ้งแค่ไหน ก็ไม่ต่ำไปกว่าสะดือหรอก”
ฟู่! ลั่วหานหมดคำจะพูด
พอดูไปเรื่อยๆ ลั่วหานก็เห็นว่าเมื่อนานมากแล้วตอนที่หลงเซียวไปเมืองเจียงเฉิงเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโครงการ ความเคลื่อนไหวของเจิ้งซินแต่ละโพสต์ดูมีความสุขมาก
“ดีจังที่คุณมา หากไม่ต้องจากไปได้ก็คงดี”
พร้อมภาพยวนยางในน้ำคู่หนึ่งที่ว่ายน้ำไปมาอย่างมีความสุข
ลั่วหาน “……”
ให้ตายเถอะ!
ลู่ซวงซวงเห็นสีหน้าของลั่วหานหม่นคล้ำลงเรื่อยๆ ก็รีบแย่งมือถือกลับคืนมา “ฮ่า ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ที่รัก ฉันจะรีบบล็อกหล่อนเดี๋ยวนี้!”
ลั่วหานทำเสียงฮึดฮัดพลางยิ้มเย็น “ไม่ต้องบล็อก เก็บไว้คอยดูการพลอดรักของหล่อนก็ไม่เลว อย่างไรหมอนั่นก็เป็นสามีเก่าฉันไปแล้ว! ”
ลู่ซวงซวงเบ้ปาก นิ้วไถลดูโพสต์ไปเรื่อยๆ ตายแล้ว……
คิดไม่ถึงว่าเจิ้งซินเพิ่งโพสต์ความเคลื่อนไหวอีกโพสต์หนึ่ง
คุณพระ!
“พรุ่งนี้พบกันค่ะ คุณ L ฉันจะแต่งตัวให้สวยที่สุดรอคุณ”
ต่อมา ภาพที่เจิ้งซินโพสต์คือเงาหลังของคนสองคน เจิ้งซินหันหน้ามาครึ่งหน้า มองดูผู้คนรอบข้างด้วยความสุข ทั้งสองคนยืนอยู่ในห้องจัดเลี้ยง ราวกับว่าพวกเขาเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมาคู่กัน
ผู้ชายคนนั้น——กลิ่นอายที่ทรงพลังขนาดนี้ดูก็รู้ว่าเป็นของหลงเซียว!
ลู่ซวงซวงยิ้มแหยๆ “แค่ก ๆ ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ฉัน……ขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ! ใจเย็น เธอใจเย็นๆ แค่สามีเก่าเท่านั้น”
พูดจบ เธอก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน
ความโกรธของลั่วหานไม่ได้รับการระบาย เจิ้งซินน้องสาวคุณ ช่างหน้าหนาจริงๆ!
“หลงเซียว ไอ้คนเจ้าชู้!”
เพราะเสียงสบถด่า ทำให้หลงเซียวที่เดินมาได้ครึ่งประตูหยุดชะงัก ประสาทหูของลั่วหานไวขนาดนี้เลยเหรอ เขาเพิ่งมาเธอก็รู้แล้ว?
ลั่วหานคว้าหมอนอิงขึ้นมา แล้วทุบมันแรง ๆ “หลงเซียว! หลงเซียว! หลงเซียว! หนี้รักคุณเป็นคนก่อขึ้นทั้งนั้น ตายเสียเถอะๆ! ”
ใบหน้าอันหล่อเหลาของหลงเซียวเต็มไปด้วยความงุนงง “หนี้รักคืออะไร”
หืม?
หูของลั่วหานอ่อนยวบ เพราะได้รับผลกระทบจากเสียงที่นุ่มนวลและน่าฟังของหลงเซียว ใบหูร้อนฉ่าขึ้นมาทันที
“หลงเซียว คุณมาได้ยังไง”
หลงเซียวมองไปที่หมอนอิงของเธออย่างไร้เดียงสา “หากผมไม่มา หมอนใบนี้คงถูกคุณฉีกเป็นชิ้นๆ ไปแล้วหรือเปล่า”
ลั่วหานหยิบมือถือของลู่ซวงซวงขึ้นมา แล้วชี้ไปที่สิ่งที่อยู่บนนั้น พร้อมกัดฟันพูด “ฉันแทบอยากจะฉีกคุณตอนนี้เลย”