ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 716
ตอนที่ 716 คุณชายหลง แทงใจหรือไง ฮ่าๆ
ดีใจครู่เดียว ก็ต้องเสียใจ ช่างทำร้ายกันจังเลย
หลงเซียวใช้นิ้วนวดหัวคิ้ว ลั่วลั่วไม่ได้นอนดึก นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่มาแบบนี้ คืนนี้เขาคงรู้สึกไม่ดียิ่งไปอีก
ประโยคของกู้เยนเซิน “ผู้ชายหย่าร้าง” ลู่ซวงซวงก็ยังมาอีก “กอดภรรยาคุณหลับอยู่” พี่น้องของเขาและพี่น้องของภรรยาช่างเข้ากันดีเหลือเกิน
การแต่งงานนี้….คิดว่าต้องเอากลับคืนมาให้ไวที่สุดแล้วล่ะ
“ดี”
บอกกับลู่ซวงซวงแค่คำเดียว หลงเซียวก็กดวางสาย
อารมณ์ไม่ปกติเลย
ลู่ซวงซวงมองโทรศัพท์ที่สายตัดไปแล้ว บ่น “โอ๊ย เมื่อกี้ฉันควรอดไว้ไม่หัวเราะออกมา ไม่งั้นคงไม่ฟังคำพูดหวานๆของหลงเซียวแล้ว”
ลั่วหานหรี่ตา นอนต่อไป “ซวงซวง เธอเอาความกล้ามาจากไหน หืม”
ลู่ซวงซวงคิดอยู่สักพัก ตอบด้วยน้ำเสียงสดใส “เหอะ แสร้งทำเป็นเท่ หลงเซียวคงไม่คิดกลับมาจัดการกับฉันใช่ไหม เมื่อกี้ที่หลงเซียวบอกว่าดี เห็นได้ชัดว่าอยากทำลายฉันผ่านสายโทรศัพท์ โอ๊ย ฉันยังไม่อยากตาย ฮือ”
ลั่วหานหัวเราะ ลูบใบหน้าลู่ซวงซวงอย่างเห็นใจ “ที่รัก ฉันจะไว้อาลัยให้เธอ แล้วเลือกสุสานตามหลักฮวงจุ้ย วันครบรอบทุกๆปีฉันจะเอาดอกไม้ไปให้สักช่อ เด็กดี”
“โอ๊ยๆ ไม่เอา ฉันผิดไปแล้ว ท่านเทพฉันผิดไปแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ” ลู่ซวงซวงกอดแขนลั่วหานพลางเขย่า แต่ลั่วหานง่วงแล้ว พึมพำไม่กี่ประโยคก็นอนหลับไปแล้ว
ลู่ซวงซวงเป็นนกฮูก เมื่อไม่ได้เดินเที่ยวร้านกลางคืน การพักผ่อนของเธอไม่ได้ดีไปกว่านั้น จึงหยิบโทรศัพท์ออกมา
ส่งข้อความหาหวาเทียน “ที่รัก ภรรยาของคุณกำลังถูกคนอื่นนอนกอดแหละ คุณรู้สึกยังไง”
หวาเทียนเข้าเวรดึก มองเห็นข้อความจากลู่ซวงซวง ขมวดคิ้วแล้วตอบกลับ “ผมถือมีดไปตอนนี้ได้ไหม”
ว้าว
ลู่ซวงซวงใจไม่นิ่งแล้ว ขนาดคนอย่างหวาเทียนยังคิดจะถือมีดมาฆ่าคน แล้วคุณชายหลงจะใช้ลูกตะกั่วยิ่งหรือเปล่าเนี่ย
น่า…..น่ากลัวมาก
ห้องของไป๋เวยไม่เหมือนห้องของหลงเซียว ห้องของเธอสว่างไสวด้วยโคมไฟคริสทัล ไป๋เวยถอดชุดคลุมออก ร่างกายสวมชุดราตรีงดงามอยู่
ไป๋เวยไปร่วมงานเลี้ยงก็ดึงดูดสายตาผู้คนไม่น้อย แต่ยังไงซะมันก็เป็นความสุขของผู้หญิง สวมให้กู้เยนเซินดู ชุดนี้มันถึงจะมีความหมายและคุณค่า
บรรยากาศดีมาก กลิ่นหอมของดอกไม้และไวน์แดงชัดเจน จุดเทียนสว่างไสว งดงามไร้ที่ติ
กู้เยนเซินจูงมือของไป๋เวย นวดนิ้วมือของเธอเบาๆ “คุณภรรยาครับ เมื่อสักครู่ผมยังพูดไม่จบ ให้ผมได้พูดให้จบนะ”
ไป๋เวยหันมาอย่างเย็นชา “พูดอะไร คุณพูดออกมาเป็นดอกไม้ได้ด้วยหรอ”
กู้เยนเซินรีบบอก “ไม่ได้ ดอกไม้ที่สวยที่สุดอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ถึงปากผมจะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่สามารถพูดให้สวยกว่าดอกไม้ตรงหน้าได้แล้ว”
หัวใจของไป๋เวยเต้นกระหน่ำ ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบคำพูดหวานๆ คำรักหวานๆของกู้เยนเซินนั้นไร้ที่ติ แม้ไป๋เวยจะมีจิตใจที่เข้มแข็ง ก็ถูกเขาหลอมละลายแล้ว
“กินอะไรเข้าไป ถึงได้พูดแบบนี้เป็น ฉันไม่ชินเลย” ไป๋เวยหัวเราะ แต่ในใจกลับมีความสุขเป็นที่สุด
กู้เยนเซินลูบผมเธอด้วยความอ่อนโยน เส้นผมสยาย “คุณภรรยา เราแต่งงานกันนะครับ หลังจากแต่งงานแล้ว คุณก็จะเป็นภรรยาของผม คุณจะกลายเป็นภรรยาที่ถูกต้อง ผมรับปากว่าจะไม่มีใครมารังแกคุณได้อีก จะไม่เกิดเรื่องเหมือนวันนี้อีกแล้ว ต่อไปไม่ว่าใครอยากทำลายคุณ ก็ต้องไสหัวไปจากผมไกล”
ไป๋เวยเม้มปากแน่น กระบอกตาเปียกชื้นอย่างห้ามไม่อยู่
กู้เยนเซินพูดต่อ “แต่งงานแล้ว ผมจะดูแลคุณ จะไม่ให้ใครมารังแกคุณอีก เชื่อผมนะครับ”
ไป๋เวยถูกสายตาล้ำลึกของเขาดึงดูดแล้ว ไม่กล้าหลบสายตา ได้แต่จ้องมองสำรวจสายตาของเขา
ความจริง…..
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยมีความฝันถึงการแต่งงานกับกู้เยนเซิน แต่ทุกครั้งที่นึกถึง เธอจะรู้สึกกลัว
มีความรักกับแต่งงานมันเป็นคนละเรื่อง เพียงแต่มีความรักกับอยู่ด้วยกันยังไงมันก็ไม่ใช่การแต่งงาน ผลกระทบต่อฐานะในตระกูลกู้และสังคม…..
เธอไม่กล้าคิด ผู้หญิงแบบเธอแต่งออกไปแล้วจะต้องเธอกับอะไร กู้เยนเซินจะต้องเจอกับอะไร
“กู้เยนเซิน คุณฟังฉันนะ การแต่งงานไม่เร่งรีบ บางทีเราอาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น คุณลองคิดดูสิ ตระกูลกู้เป็นตระกูลใหญ่ ที่อเมริกาก็เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง ยังไงฉัน…..”
“นี่ คุณจะบอกผมว่ากลัวถูกครอบครัวผมจัดการหรอ ฐานะอะไร ตระกูลอะไร อะไร ตระกูลเฮงซวยอะไรแบบนั้น คุณคงไม่ใช่กำลังคิดแบบนี้ใช่ไหม”
“ใช่ ฉันอยากพูดแบบนั้น” ในเมื่อถูกจับได้แล้ว งั้นก็พูดตรงๆเลยแล้วกัน
กู้เยนเซินเกือบจะด่าแม่ไปแล้ว “ผมว่า ไป๋เวยคุณเป็นผู้หญิงฉลาดขนาดนี้ ทำไมมันถึงไม่ทำงานในเวลาที่สำคัญแบบนี้ คุณดูละครเยอะเกินไปหรือเปล่า หรือว่าอ่านนิยายเยอะเกินไป ผมจะบอกคุณให้นะ มันไม่มีคู่ครองที่เหมาะสมอะไรทั้งนั้น ผมรักคุณ นี่ก็คือคู่ครอง คุณก็รักผม นี่ก็คือคู่ที่เหมาะสม”
กู้เยนเซินไม่เคยจริงจังขนาดนี้มาก่อน แน่วแน่ มั่นคง จริงจัง เขาเพียงไม่สามารถขุดเอาหัวใจของตัวเองออกมาให้เธอดูได้
ไป๋เวยนิ่งค้าง “คุณจะตื่นเต้นทำไมกัน อยากให้ฉันตกใจตายหรือไง”
ทันใดนั้นกู้เยนเซินก็หัวเราะออกมา “รับปากผมมั้ย เราแต่งงานกัน ไปจดทะเบียนที่ฝรั่งเศส เพราะผมสัญชาติอเมริกัน แน่นอน ถ้าคุณอยากแต่งอยู่ที่จีนก็ได้ ผมเคารพการตัดสินใจของคุณ”
แบบนี้มันจะเร็วไปหรือเปล่านะ
ไป๋เวยยิ้มแห้ง “กู้เยนเซิน ฉันยังไม่เคยไปเจอพ่อแม่คุณเลย ครอบครัวของคุณ พวกท่านคิดยังไงกับฉัน ฉันเองก็ยังไม่รู้ มันเร็วไปไหม”
กู้เยนเซินรีบรับประกันอย่างหล่อ “พ่อแม่ของผมเป็นใจกว้าง อีกทั้งอยู่อเมริกาก็ไม่ได้มีประเพณีอะไรยุ่งยาก ง่ายมากๆ ตรงไปตรงมา”
ไป๋เวย “…..”
“นอกจากนี้ ถ้าคุณชอบการแต่งงานแบบจีน เราจัดงานกันที่จีน แต่ญาติพี่น้องผมอยู่ที่อเมริกา เรากลับไปที่นั่นแล้วค่อยไปจัดงานเลี้ยงเพิ่ม ได้ไหมครับ”
ไป๋เวย “………”
ว้าว กู้เยนเซินออกไปไม่กี่วัน ไปทำอะไรกันแน่นะ
กู้เยนเซินเอ่ยขึ้นมาอีก “นอกจากนี้ เพราะช่วงนี้ผมช่วยคุณชายหลงจัดการบริษัทฉู่ซื่อ หลังจากนี้ยังต้องกลับไปดูแลบริษัทของที่บ้าน ดังนั้นเราจะอยู่ที่จีนไม่นาน อย่างมากก็ห้าปี พ่อแม่ผมหวังว่ากลับไปนี้ผมก็คงได้เรียนรู้จากคุณชายหลงไปบ้างแล้ว”
ไป๋เวยยกมือขึ้นกอดอก “เดี๋ยวก่อน มันกะทันหันเกินไป คุณให้ฉันทำใจก่อนสักพัก ตอนนี้ฉันยังไม่มีสติ”
กะทันหันเกินไป ไป๋เวยคล้ายกำลังยืนอยู่บนปุยนุ่น ลอยไปลอยมาอยู่กลางอากาศ เฮ้ย ความสุขลอยมามันเป็นความรู้สึกแบบนี้เองหรอ
กู้เยนเซินใช้สองมีกดลงที่หัวไหล่ของเธอ ท่าทางแบบนั้นบ่งว่าว่านี่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝัน
“ยังมีอีก เราแต่งงานกันแล้ว สามารถมีลูกได้แล้ว คุณชอบเด็กไหม มีกี่คนดี ลูกชายหนึ่งคนลูกสาวหนึ่งคนได้ไหม”
ไป๋เวยเงยหน้า “กู้เยนเซิน คุณ…..”
กู้เยนเซินพูดเองเออเอง “งั้นก็เอาแบบนี้แหละ มีลูกชายหนึ่งคนแล้วก็ลูกสาวอีกหนึ่งคน ไม่ว่าลูกชายหรือลูกสาว อนาคตก็ต้องหมั้นหมายกับตระกูลหลงอยู่ดี เด็กคนนี้แข็งแกร่ง ถ้าให้ลูกสาวแต่งเข้าตระกูลเรา สามารถเปลี่ยนยีนส์ตระกูลกู้ได้”
“ว้าว” ไป๋เวยระเบิดออกมา “คุณจะให้ฉันมีลูกนี่คือเป้าหมาย พอ!”
ไป๋เวยยกเท้าเตะกู้เยนเซิน แต่ถูกจับเอาไว้ก่อน ร่างกายของไป๋เวยเอนเอียง ล้มลงไปในอ้อมแขนของเขา ล้มลงไปในมุมที่แปลกประหลาด เมื่อใบหน้าแนบไปกับแผ่นอกกว้าง ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเขา
มีพลังมากและความจริงใจ การเต้นของหัวใจไม่หลอกลวงคน ไม่นานก็สามารถเปิดเผยออกมา
“ตอนนี้เชื่อหรือยัง ผมไม่ได้พูดไร้สาระ ความจริงจากใจทั้งนั้น” กู้เยนเซินไม่รู้ว่าจะทำยังไงเขาถึงจะสามารถอธิบายสิ่งที่อยู่ในใจให้ชัดเจนได้แล้ว
อาจจะเพราะอ้อมกอดของเขามันให้ความรู้สึกปลอดภัย ไป๋เวยรู้สึกอบอุ่นใจเหมือนได้กลับบ้านเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของกู้เยนเซินผู้ชายที่ไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่
“คุณยอมแต่งงานจริงๆหรอ แต่งงานแล้วคุณก็เป็นคนของฉัน ไปเที่ยวที่ไหนไม่ได้แล้วนะ เจ้าชู้ไปทั่วก็ไม่ได้” ไป๋เวยบิดหูกู้เยนเซิน ท่าทางของความเป็นภรรยาเริ่มมาแล้ว
กู้เยนเซินถอยหลังพร้อมโค้งคำนับ “ครับ ท่านผู้นำ หลังจากนี้ทุเรียน บะหมี่ แป้นพิมพ์ คุณให้ผมคุกเข่าอันไหนผมก็จะคุกเข่าอันนั้น คุณภรรยาจะให้ผมทำอะไรผมก็จะทำ ไม่เกี่ยงเลยครับ จะทะนุถนอมคุณภรรยา คุณภรรยาอยากได้อะไรก็จะซื้อให้ บัตรของผม คุณใช้ได้ตามสบายเลยครับ”
คำพูดบวกกับคำสาบานของเขา แม้ว่าจะเป็นภาษาที่ละเอียดอ่อนและหยาบคายไปบ้าง แต่เมื่อฟังแล้วรู้สึกสบาย ใช้งานได้จริง
“คุณคิดดีแล้วใช่ไหม คุณชายกู้” ไป๋เวยโอบรอบลำคอของเขา ถามอย่างจริงจัง “ถ้าจดทะเบียนสมรสแล้ว ทรัพย์สินของคุณก็จะเป็นของฉันครึ่งหนึ่งเลยนะ คุณไม่กลัวหรอ”
กู้เยนเซินยิ้มร้าย “แม้แต่ผมก็เป็นของคุณ ของนอกกายพวกนั้น ถ้าคุณชอบก็เอาไปได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”
นี่…..ไป๋เวยไม่รู้จะตอบกลับยังไงดีถึงจะถูก เขาพูดออกมาหมดแล้ว นอกจากตอบตกลงเธอยังทำอะไรได้อีก
ไป๋เวยกระแอมไอ “แต่ว่า คุณไม่คิดว่าขอแต่งงานแบบนี้ไม่ง่ายไปหน่อยหรอ”
ขอแต่งงานอะไรกัน สำหรับผู้หญิงมันเป็นสิ่งสำคัญมาก จะให้ยอมแต่งง่ายๆ เกินไปหรือเปล่า
กู้เยนเซินถือว่าสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง เอ่ยสัญญา “ดังนั้น ผมจะจัดงานแต่งให้คุณพึงพอใจ เวยเวย เชื่อผมนะ คุณเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ผมจะขอ เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของผมตลอดไป ผมจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณ”
ไป๋เวยน้ำตาเอ่อ แต่ว่า น้ำตาไม่ได้ไหลออกมา ความเข้มแข็งและความรู้สึกดีใจทำให้เธอสับสน
เนิ่นนาน เธอจึงพยักหน้า “ได้ ก็แค่แต่งงานไหม ฉันจะแต่ง”
“จริงจะ เวยเวยคุณตกลงแล้ว” กู้เยนเซินยิ้มตาหยี คว้าไป๋เวยเข้ามากอด จากนั้นหมดรอบเป็นวงกลม ชุดราตรีปลิวพลิ้วไหว คล้ายกับงานเต้นรำ
“ใช่ ฉันตกลงแล้ว แต่ว่า ฉันจะเอาแหวนวงใหญ่ๆ บ้านหลังใหญ่ เอารถหรู” ไป๋เวยเงยหน้าขึ้นบอกความต้องการ
“ไม่มีปัญหา นี่ไม่ได้ประสาอะไรเลย” กู้เยนเซินตอบอย่างหล่อเหล่า
เอ่ยจบ กู้เย็นคลายมือออกจากไป๋เวย ลูบผมของเธอเบาๆ ยิ้มแล้วบอก “คุณรอผมแป๊บนึงนะ เดี๋ยวผมกลับมา”
ไป๋เวยนั่งลงบนโซฟา หยิบแก้วไวน์ขึ้นมา “ไปไหนคะ ยังไม่ดื่มเลย”
กู้เยนเซินจัดชุดสูทให้เข้าที่ สองมือจัดเซตทรงผม กะพริบตาปริบๆมองไป๋เวย “ไปเยาะเย้ยคนโสด”
ไป๋เวย “……….”
กู้เยนเซินเด็ดดอกลิลลี่หนึ่งดอก เปิดประตูออกไปมุ่งตรงไปยังหน้าห้องของหลงเซียว สองขาพาดขวางทแยงมุม มือข้างหนึ่งยกขึ้นเท้ากับผนัง คาบก้านลิลลี่เอาไว้ในปาก กดกริ่งประตูช้าๆ
ท่านเซียวถูกคำพูดและสายของลู่ซวงซวงทำให้ใจไม่ขึ้นไม่ลง หยิบเอกสารขึ้นมา ดูไปไม่กี่บรรทัด อดไม่ได้หันไปดูโทรศัพท์อีกรอบ ทำได้เพียงดูรูปของลั่วหานเพื่อบรรเทาความคิดถึง
ในตอนนั้นเอง เสียงกริ่งก็ดังขึ้น
หลงเซียวหันไม่มองเวลา ตอนนี้ตีหนึ่งแล้ว ดึกขนาดนี้
ลุกขึ้นยืน เดินไปยังประตู ส่องตาแมว ไม่เจอใคร หลงเซียวขมวดคิ้ว หมุนตัวกลับไป
ติ๊งต่อง
เขาหมุนตัวกลับไป เสียงกริ่งก็ดังขึ้นอีกครั้ง
หลงเซียวขมวดคิ้ว เดาได้ว่าอีกฝ่ายคือใคร
นอกจากกู้เยนเซิน เกรงว่าคงไม่มีใครกล้าขนาดนี้แล้ว และคงไม่มีใครว่างขนาดนี้
หลงเซียวเปิดประตูออก มือเท้าประตู “คุณชายกู้ ดึกดื่นขนาดนี้แล้วยังไม่นอน ก่อกวนหรอ”
ปากของกู้เก็บดอกไม้ในปากของเขา เอ่ยย้อนเขากลับไป “เฮ้ ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่นอน มีอารมณ์หรอ”
หลงเซียวขมวดคิ้วแน่น “ไสหัวไปซะ”
พูดจบ หลงเซียวก็ปิดประตูลง กู้เยนเซินยืนเท้าออกไป ขวางประตูไว้ “อย่ารีบร้อนสิ ผมแค่มาแจ้งข่าวดี ข่าวดีมากๆ”
กู้เยนเซินยักคิ้ว ผิวปาก
“พูดมา”
น้ำเสียงของหลงเซียวบ่งบอกว่าหมดความอดทน ทำให้เขาหงุดหงิดอย่างยิ่ง
กู้เยนเซินนำดอกลิลลี่เสียบไปที่กระเป๋าของหลงเซียว กระแอมเล็กน้อย สอดส่องไปรอบทิศ แล้วบอก “ในวันที่งดงาม บรรยากาศเป็นใจ ดวงดาวพราวระยับ ผม…..กู้เยนเซิน พึ่งจะ ขอแต่งงานแล้ว”
ดวงตาหลงเซียวหดตัว นิ้วมือบีบดอกลิลลี่ หยิบออกมา “ถูกปฏิเสธแล้วหรอ ดอกไม้ถึงไม่ได้ให้”
“นี่ ปากร้ายขนาดนั้นเลย แต่ไม่เป็นไรหรอก ฮ่าๆ กระผมขอแต่งงานสำเร็จแล้ว มีความสุขอย่างยิ่ง คล่องแคล่ว ง่าย ป่าเถื่อน ภรรยาผมตอบตกลงแล้ว วันแต่งรอเลือกวัน เราจะไปจดทะเบียนกันก่อน ยังไงซะ ผมก็จะมีครอบครัวแล้ว ฮ่าๆ”
ใบหน้าของหลงเซียวมืดมิดราวกับตอนกลางคืน “คุณชายกู้ ดึกดื่นค่ำคืนขนาดนี้คุณมาก่อกวน เพื่อสิ่งนี้เนี่ยนะ”
กู้เยนเซินดีใจกระโดดโลดเต้น “เป็นไงเป็นไง ได้ยินแล้วแทงใจเลยใช่ไหม รู้สึกโดดเดี่ยวรู้สึกเหงามากขึ้นหรือเปล่า เริ่มรู้สึกสงสัยในชีวิตแล้วหรือยัง โอ้โห สายลมแม่น้ำพัดพา ไม่คิดว่าผมกู้เยนเซินจะมีโอกาสได้เยาะเย้ยคุณชายเซียว สะใจจริงๆ”
หลงเซียวมองไปที่เขาช้าๆ ริมฝีปากบางค่อยๆเอ่ยออกมาทีละคำ “ไส หัว ไป ซะ