ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 752
ตอนที่ 752 ปากไม่ซื่อสัตย์เลยนะ
คฤหาสน์ตระกูลหลง
สาวใช้วางของใช้ส่วนตัวของหยวนชูเฟินด้วยความเรียบร้อย ระมัดระวังไม่กล้าประมาท สาวใช้สองคนที่เธอโปรดที่สุดก็ติดตามอยู่ข้างกายเธอไม่ห่าง กลัวว่าใครจะทำให้คุณผู้หญิงโกรธโดยไม่ตั้งใจ
หยวนชูเฟินยืนอยู่ห้องโถงใหญ่ในคฤหาสน์หรูหรา ใบหน้าซีดขาวยังดูโทรม ทั้งตัวสวมเสื้อคลุมขนหนาลายดอกไม้สีน้ำเงินเข้ม ที่มือนั้นสวมถุงมือกำมะหยี่ เวลานี้เธอกำลังค่อยๆถอดถุงมือออกมา
ท่าทางเนือยๆ ไม่มีชีวิตชีวา
หลงถิงรับถุงมือจากเธอ อ้อมไปด้านหลังช่วยเธอถอดชุดคลุมตัวหนาออก “ในบ้านไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังเหมือนเดิมตามที่คุณชอบ คุณดูสิ อยากเพิ่มเติมอะไรอีกหรือเปล่า ผมให้คนไปจัดการให้”
ความใส่ใจและการเอาใจใส่ของหลงถิง ตอนนี้หยวนชูเฟินรู้สึกว่ามันตลกสิ้นดี ภายใต้ความอ่อนโยนนั้นได้ซ่อนงูพิษสงร้ายแรงเอาไว้
หยวนชูเฟินบอกอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องหรอก ฉันมาอยู่แค่ชั่วคราว ไม่ทำให้คุณวุ่นวายหรอก”
หลงถิงพับเสื้อของเธอแล้วยื่นให้สาวใช้ บอกยิ้มๆ “นี่คือบ้านของเรา อยู่ชั่วคราวอะไรกัน อะไรที่เรียกว่าวุ่นวาย ต่อไปนี้คุณก็อยู่ที่นี่แหละ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
หยวนชูเฟินบอกด้วยความเหนื่อยล้า “ฉันเหนื่อยแล้ว เสี่ยวหยู้ พาฉันไปที่ห้อง”
เสี่ยวหยู้มองไปยังหลงถิงอย่างหวาดกลัว “คุณท่าน ห้องของคุณผู้หญิง…”
หยวนชูเฟินบอก “ฉันพักห้องรับแขกชั้นหนึ่ง ไม่ใช้ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วเหรอ”
หลงถิงหลับตาลงแล้วพยักหน้า “อืม ไปส่งคุณผู้หญิงเถอะ ระวังด้วย”
หลงจื๋อผลักประตูเข้ามา พลันมองเห็นหยวนชูเฟินอยู่ในห้องรับแขกพอดี ตกใจจนเกือบถอยออกไปแล้ว โทรศัพท์ที่ยังคุยไม่ทันจบก็กดวางไปแล้ว ลดมือลงอย่างมีมารยาท หัวใจเต้นกระหน่ำราวกับจะหลุดออกมา
“มะ..แม่ครับ กลับมาแล้วเหรอครับ”
หยวนชูเฟินมองเห็นหลงเจ๋อ ใบหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆเมื่อสักครู่ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา “เสี่ยวจื๋อ ทำไมดึกป่านนี้พึ่งจะกลับมา ทำงานล่วงเวลาเหรอ”
หลงจื๋อตกใจเบิกตากว้างกับความห่วงใยที่ได้รับ ชั่ววินาทีที่ไม่มีสติ อ้าปากยิ้มกว้างราวกับคนโง่
“ช่วงนี้บริษัทยุ่งๆครับก็เลยต้องทำล่วงเวลา แม่กลับมาอยู่บ้านก็ดีแล้วครับ ดีกว่าที่โรงพยาบาลเยอะ อยู่ที่นี่น่าจะมีประโยชน์ต่อการรักษามากกว่า”
หลงจื๋อตื่นเต้นมาก เมื่อได้อ้าปากพูดแล้วจึงพูดยาวเหยียด เมื่อเอ่ยจบก็ยื่นโง่อยู่ตรงนั้นไม่กล้าเดินเข้ามา
หลงถิงเห็นท่าทางของเขา น้ำเสียงตำหนิบอก “จะนิ่งอยู่ทำไม ช่วยแม่แกถือกระเป๋าเข้าไปในห้องสิ”
“ครับ ครับ”
หลงจื๋อเดินตามราวไม้ลงไปด้านล่าง อุ้มกระเป๋าถือของหยวนชูเฟินด้วยความทะนุถนอมเดินขึ้นชั้นสอง
“เสี่ยวจื๋อ แม่พักตรงนี้ วางไว้โซฟาก็พอแล้ว” หยวนชูเฟินก้าวเดิน เดินไปตามทางเดินชั้นหนึ่งมุ่งหน้าไปห้องนอนแขก
“เอ๋? ทำไมแม่นอนห้องนอนแขกละครับ แม่มานอนข้างบนเถอะ ห้องด้านบนกว้างขวางสบายกว่า พ่อครับ ทำไมไม่คุยกับแม่หน่อย”
หลงจื๋อเข้ามายังไม่เข้าใจสถานการณ์
“พูดมาก ทำไมยังไม่ฟังคำพูดของแม่แกอีก เอาไปส่ง” หลงถิงขมวดคิ้ว สายตาไม่มีความอ่อนโยนเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
“อ้อ ครับ ครับ”
หลงจื๋อวางของเรียบร้อยด้วยความมึนงง ตอนออกมาหมอประจำบ้านตระกูลหลงก็มาแล้ว ด้านหลังยังตามมาด้วยคณะรักษาอีกสามคน
หลงจื๋อพยักหน้าทักทายเหล่าหมอชาวต่างชาติ จากนั้นมองเห็นหมอเดินเข้าประตูไป หลงถิงเดินตามเข้าไปพร้อมกับประตูที่ถูกปิดลง
หลงจื๋อยืนงงอยู่ใต้โคมคริสตัลระย้างดงาม จับสาวใช้เสี่ยวหยู้ไว้แล้วถาม “เกิดอะไรขึ้น”
เสี่ยวหยู้ส่ายหน้าบ่งบอกว่าไม่เข้าใจเรื่องราว “ฉันก็ไม่รู้ค่ะ เมื่อวานตอนบ่ายคุณท่านก็กลับมา บอกว่าให้ทำความสะอาดห้องนอนแขกชั้นหนึ่งให้สะอาด ผ้าม่าน ของใช้บนเตียงให้เปลี่ยนใหม่หมด กระทั่งภาพวาดข้างฝาผนังก็ให้เปลี่ยน บอกว่าคุณผู้หญิงจะกลับมาแล้ว ต้องทำความสะอาดในบ้านทุกซอกทุกมุม วันนี้ฉันยุ่งทั้งวัน คุณท่านถึงพอใจ แต่ว่าตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้คุณท่านดูดีใจมากเลยค่ะ ฉันไม่เคยเห็นคุณท่านจะดีใจขนาดนี้มาก่อนเลย เมื่อสักครู่ยังได้ถามลุงหวังอยู่เลย ชุดที่สวมวันนี้เหมาะหรือเปล่า คุณท่านเหมือนเด็กหนุ่มที่กำลังมีความรักเลยค่ะ ฉันเองยังตกใจเลย”
หลงจื๋อมองประตูที่ถูกปิดลง เขาเองก็ตกใจ
คนที่เสี่ยวหยู้พูดถึงคือพ่อเขาหรือเปล่านะ
“คุณชายรอง ฉันจะเข้าครัวแล้ว คุณท่านสั่งให้อุ่นรังนกให้คุณผู้หญิงค่ะ ฉันจะไปดูว่าเสร็จแล้วหรือยัง” เสี่ยวหยู้วิ่งเข้าห้องครัวไป
หลงจื๋อเบิกตา “ผมเวียนหัว แค่คืนเดียวที่ผมไม่ได้กลับบ้าน นี่มันเกินไปหรือเปล่า”
เมื่อสติกลับมา หลงจื๋อถึงค้นพบว่าดอกไม้ในห้องรับแขกถูกเปลี่ยนใหม่หมด ดอกกุหลาบที่มีน้ำหยด ดอกคาร์เนชั่น ลิลลี่กำลังออกดอกงดงาม บอนไซและไฮเดรนเยียที่ไม่มีแม้แต่เศษฝุ่นเกาะ บรรยากาศในบ้านเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
บ้านมีนายหญิง…สวรรค์ เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างมหัศจรรย์
หลงจื๋อวิ่งขึ้นด้านบน ล็อกประตู กดโทรศัพท์ต่อสายหาหลงเซียวด้วยความตื่นเต้น
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ แม่กลับบ้านแล้ว พี่รู้หรือเปล่า แม่กลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว แม่อยู่ข้างล่างนี่เอง หมอกำลังตรวจให้เธออยู่ พ่อก็อยู่เป็นเพื่อนเธอ ผมรู้ได้หรือเปล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆแม่ถึงกลับบ้าน พี่ไปพูดยังไง”
หลงเซียวขมวดคิ้ว ยื่นโทรศัพท์ออกห่างจากหูอยู่เซนติเมตร “ที่นั่นเป็นบ้านของเธอ นายคิดว่าเธอกลับไปทำไม”
เอ๋?!
เห็นผลนี้ใช้กับเธอไม่ได้นี่นา
“พี่ใหญ่ พี่อย่ามาหลอกผมนะ ตอนนี้สติผมไม่ทำงาน เมื่อสักครู่เห็นแม่อยู่ที่ห้องรับแขก ผมตะลึงไปเลยพี่รู้หรือเปล่า ผมนึกว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ อีกอย่างนะ ที่บ้านไม่เหมือนแต่แต่ก่อนแล้ว อ้อ ยังมีอีก ตอนนี้พ่อผมดีใจจนจะลอยได้แล้วพี่รู้หรือเปล่า”
หลงจื๋อกระแทกตัวลงบนเตียงอย่างแรง ตบลงไปที่หมอน อีกทั้งระบายออกมาด้วยเสียงสักพักถึงสะกดความตื่นเต้นดีใจของตัวเองเอาไว้ได้
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง” ปฏิกิริยาตอบกลับของหลงเซียวราดกับกะละมังน้ำ
แต่ถึงยังไงก็ไม่สามารถดับความตื่นเต้นของหลงจื๋อได้ “พี่ใหญ่ แม่กลับมาแล้ว พี่กับพี่สะใภ้จะกลับมาด้วยหรือเปล่า พี่สะใภ้ใกล้คลอดแล้ว กลับมาอยู่ด้วยกันต้องครึกครื้นมากแน่ๆ” หลงจื๋ออาศัยตีเหล็กตอนร้อน ไม่สนใจอะไรบอกความต้องการของตนออกมา
ลั่วหานอยู่ข้างๆหลงเซียว เธอกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ “เสี่ยวจื๋อ นายโง่หรือเปล่า หลงเซียวไม่ใช่ลูกของพ่อนาย ฉันไม่ใช่เมียของพี่ใหญ่นาย ไปอยู่ด้วยกันแบบนี้ นายไม่รู้สึกว่ามันแปลกไปหน่อยเหรอ”
หลงจื๋อพยายามที่จะทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ก้มหัวลง “ครับ”
ก๊อก ก๊อก
ประตูห้องของเสี่ยวจื๋อถูกสาวใช้เคาะ หลงจื๋อลุกขึ้นถาม “มีอะไร”
“คุณผู้หญิงและคุณท่านให้คุณลงไปด้านล่างค่ะ” สาวใช้บอกยิ้มๆ
“โอเค โอเค” เสี่ยวจื๋อบอกกับคนในสาย “พี่ใหญ่ ได้ยินหรือเปล่า แม่ไม่เจอผมตั้งนาน ต้องคิดถึงผมแล้วแน่ๆ”
ลั่วหานบีบจมูกอยู่เงียบๆ เจ้าเด็กคนนี้ไปเอาความมั่นใจในตัวเองขนาดนี้มาจากไหน
“ไปเถอะ”
หลงเซียววางโทรศัพท์ ช่วยลั่วหานนวดไหล่ต่อไป “ครั้งนี้แม่กลับบ้านตระกูลหลง จุดประสงค์ไม่ธรรมดา”
ลั่วหานอิงลงมาให้อ้อมแขนเขาอย่างสบาย หยิบเชอร์รี่เข้าปากหนึ่งลูก แล้วหยิบใหญ่หลงเซียวอีกหนึ่งลูก “ยังต้องให้คุณบอกเหรอ ฉันไม่ได้โง่สักหน่อย ตอนนั้นแม่เกือบเลิกกับหลงถิงแล้วย้ายออกมาจากคฤหาสน์ ตอนนี้กลับไปอีกครั้ง ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่นอน”
หลงเซียวกินเชอร์รี่ ในใจนั้นก็หวานตามไปด้วย “แม่อยู่อังกฤษ ถูกกลุ่มคนไม่ทราบตัวตนปกป้อง คุณคิดว่ายังไง”
เอ๋…
ลั่วหานร้อนตัวจึงหยิบเชอร์รี่ลูกใหญ่มากินอีก “นี่ง่ายจะตาย มีเงินก็สามารถใช้ผีให้โม่แป้งได้(หมายถึงแค่มีเงินก็ทำได้ทุกอย่าง)”
เมื่อนึกถึงข้อความในโทรศัพท์ ลั่วหานไม่มีความมั่นใจ
หลงเซียวมือเบาแต่เห็นผล เขารู้สึกถึงแผ่นหลังที่แข็งขึ้นของลั่วหานเมื่อสักครู่ “ไม่เกี่ยวกับคุณใช่ไหม”
ลั่วหานหัวเราะ “จะเป็นไปได้ยังไง ฉันเป็นแค่คนท้อง จะไปทำอะไรแบบนั้นยังไง”
“ใช่เหรอ” หลงเซียวหยุดมือ จับปลายคางของเธอเอาไว้ ขยับเข้าใกล้ยิ้มๆ ริมฝีปากสัมผัสเบาๆ
“อืม…ก็ใช่น่ะสิ”
ปลายนิ้วของหลงเซียวเลื่อนไปตามคอเสื้อของหญิงสาว ขยับลงช้าๆ “ปากคุณไม่ซื่อสัตย์เลยนะ”
ลั่วหานคิดในใจขนาดนี้ยังโดนเขามองออกแล้ว เขาคงจะไม่ เขาคงจะไม่บังคับให้สารภาพใช่ไหม
“ร่างกายของฉันมันซื่อสัตย์นะคะ”
ลั่วหานส่งสายตายั่วยวน ยื่นแขนยาวออกไป เอื้อมไปคล้องลำคอของหลงเซียวเอาไว้ ยื่นริมฝีปากชมพูระเรื่อเข้าไป
“ลั่วลั่ว คุณก็รู้ดีว่าผมทำอะไรคุณไม่ได้…คุณทำแบบนี้จะให้ผมตายเพราะความหิวกระหายหรือยังไง” หลงเซียวจูบริมฝีปากของเธอ ความร้อนรุ่มยิ่งปะทุขึ้น ทว่าทำได้เพียงกดมันเอาไว้ ลั่วหานกัดริมฝีปากล่างของเขา “มองบ๊วยก็แก้กระหายได้นะคะ คุณพ่อ”
——
“เสี่ยวจื๋อ ความหมายของแม่แกคือ ให้แกพาซีเหวินมาทานข้าวที่บ้านสักมื้อ” หลงถิงเข้าสู่หัวข้อสนทนา เพียงแต่น้ำเสียงของเขาไม่ได้มีความกระตือรือร้นใดๆ
“จริงหรอครับ ได้เลย แม่ว่างเมื่อไหร่ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้” หลงจื๋อดีใจจนนั่งไม่ติด ขยับอยู่บนโซฟา
หยวนชูเฟินหัวเราะบอก “พรุ่งนี้เถอะ พวกเธอคบกันมาตั้งนาน พ่อแม่ของฝ่ายหญิงก็เคยเจอแล้ว แม้ฉันจะไม่ได้เป็นแม่แท้ๆของเธอ แต่ดูสะใภ้ในอนาคตก็เป็นมารยาทพื้นฐาน ให้คนอื่นพูดว่าตระกูลหลงไม่รู้กฎเกณฑ์ไม่ได้”
เธอพูดด้วยความเอื้ออาทร มีเหตุมีผล ฟังไม่ออกถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย
แต่ใบหน้าของหลงถิงพังทลายลงมา
“ใช่ใช่ใช่ แม่พูดถูกครับ”
หลงถิงบอก “ดึกแล้ว อาเฟิน คุณต้องรีบพักผ่อน”
หยวนชูเฟินน้ำเสียงไม่เข้าใจ “เรื่องใหญ่ของเสี่ยวจื๋อ ฉันไม่ควรถามเหรอ”
“ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น” หลงถิงรีบอธิบาย
หลงจื๋อรีบบอกด้วยตัวเอง “แม่อยากรู้อะไรเดี๋ยวผมจะบอกเองครับ เธอชื่อหลินซีเหวิน เป็นหมอหัวใจของโรงพยาบาลหวาเซี่ย ผู้ช่วยของพี่สะใภ้ ฝีมือทางการแพทย์ของเธอดีมาก…”
หยวนชูเฟินฟังอย่างอดทน พยักหน้าเป็นระยะบ่งบอกว่าชื่นชอบ ยิ่งทำให้ดวงตาของหลงจื๋อมีรอยยิ้ม
“พ่อของเธอชื่อหลินเหว่ยเย่ ทำของโบราณและเครื่องลายคราม บริษัทหลินซื่อก็เป็นของเธอ แต่เธอไม่ชอบพวกนี้ นิสัยไร้เดียงสาจิตใจดีมากครับ”
หยวนชูเฟินพยักหน้า “เห็นว่าเธอดีใจ ดูเหมือนว่าเธอจะชอบคุณหลินคนนี้จริงๆ”
“แฮะ แฮะ ใช่ครับแม่ ผมรักเธอมาก เรากำลังเตรียมจะแต่งงานครับ”
หยวนเฟินหัวเราะ “แต่งงาน…อืม ดีสิ”
เสี่ยวจื๋อขึ้นไปด้านบนแล้ว
สาวใช้ในห้องรับแขกออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงหลงถิงและหยวนชูเฟินสองคน บรรยากาศของครอบครัวเมื่อสักครู่หายไป
หลงถิงถูมือ เขาตื่นเต้นมาก “อาเฟิน ความจริงคุณไม่ต้องรีบเจอแฟนของเสี่ยวจื๋อขนาดนั้นก็ได้ ค่อยเป็นค่อยไป”
ทว่าหยวนชูเฟินกลับถามอย่างไม่ใส่ใจ “คุณไม่อยากให้ฉันเจอ ฉันแทนแม่เขาไม่ได้งั้นสิ”
“ไม่ไม่ ผมไม่ได้คิดแบบนั้น”
หยวนชูเฟินขยับผ้าคลุมไหล่แน่นขึ้น “หลินซีเหวินเป็นคุณหนูตระกูลหลิน จะมาทำแบบสุกเอาเผากินไม่ได้ อะไรที่ควรทำเราจะขาดไม่ได้ วันหลังฉันต้องไปเยี่ยมพ่อแม่ของเธอ โดยเฉพาะพ่อของเธอ…หลินเหว่ยเย่”
หัวใจของหลงถิงหล่นวูบ ใจเกาะกุมไปด้วยความวิตกกังวล “อาเฟิน เราคุยกันดีๆได้ไหม”
“ฉันว่าไม่จำเป็นหรอก อยู่มาห้าสิบหกสิบปี ยังจะใสซื่อเหมือนเด็กอีกเหรอ อ้อ ไปอังกฤษครั้งนี้ ฉันตั้งใจไปโรงเรียนเก่า เวลาช่างเร็วเหลือเกิน สามสิบปีโดยที่ยังไม่ทันได้กะพริบตา”