ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 758
ตอนที่ 758 ดูหิมะเป็นเพื่อนคุณ
ตระกูลหลง
ส้งชิงเซวี๋ยนถูกเชิญมาที่คฤหาสน์ ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว ด้านนอกเริ่มมืด เขาสวมชุดถังที่ดำทั้งตัวตัดเส้นสีแดง หนวดยาวปลิวไปตามลม โบกสะบัดไปพร้อมกับชายเสื้อ
พ่อบ้านออกมาเชิญเขาเข้าบ้านอย่างนอบน้อม “คุณส้ง คุณผู้หญิงอยู่ที่ชั้นหนึ่ง เชิญทางนี้ครับ”
ส้งชิงเซวี๋ยนตอบรับเสียงเย็น และไม่ได้ตอบอะไรมากไปกว่านั้น เข้าประตูไป หลงถิงนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก มองเห็นส้งชิงเซวี๋ยน เขาก็ยังทำเพียงพยักหน้าให้ ไม่ได้ลุกขึ้นต้อนรับ
ส้งชิงเซวี๋ยนก็ไม่ได้คาดหวังการต้อนรับจากเขา หันหน้ากลับ เดินเข้าไปที่ห้องของหยวนชูเฟิน
ก่อนเข้าไป หันกลับมาสั่งการคนรับใช้ “รออยู่ด้านนอก ถ้าไม่เรียกอย่าเข้าไปรบกวนการรักษาของฉัน”
“ค่ะ คุณส้ง”
อารมณ์ของส้งชิงเซวี๋ยนนั้นชัดเจน แน่นอนว่าในฐานะผู้เชี่ยวชาญอาวุโสเขาจึงได้รับตำแหน่งที่สูงส่ง คนใช้ถอยออกไปด้วยตัวเอง ไม่กล้ารบกวน
หยวนชูเฟินพยายามจะลุกขึ้นมา ส้งชิงเซวี๋ยนสาวเท้าก้าวเข้าไปหา ประคองไหล่ของเธอบอก “เอาล่ะ เอาล่ะ ฉันก็ไม่ได้เป็นแขกอะไร คุณไม่ต้องลุกขึ้นมาหรอก นอนเถอะ”
ความจริงร่างกายของหยวนชูเฟินนั้นอ่อนแอ เพียงเธอฝืนเล็กน้อยก็ต้องหายใจแรง ทำเพียงยิ้ม “งั้นก็ได้ ฉันไม่ลุกแล้ว”
ส้งชิงเซวี๋ยนจับชีพจรเธอ ตรวจดูแล้ว ใบหน้าทะมึนขึ้นยิ่งกว่าเมฆนอกหน้าต่างนั่นอีก
หยวนชูเฟินสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ที่ผิดปกติ ถามยิ้มๆ “พูดมาเถอะ ฉันยอมรับได้ทุกอย่าง เวลาของฉันไม่มากแล้ว ใช่ไหม”
ส้งชิงเซวี๋ยนถอนหายใจ ผลักกรอบแว่นขึ้น “อาเฟิน ก่อนหน้านี้คุณดื้อต้องไปอังกฤษให้ได้ การกระทบกระเทือนระหว่างทาง คุณไม่รู้ถึงขีดจำกัดของร่างกายตัวเองเลยหรือ”
หยวนชูเฟินส่ายหน้า “ฉันรู้ แต่ฉันจำเป็นต้องไป อีกอย่าง ฉันสืบพบเรื่องราวบางอย่างด้วย”
หยวนชูเฟินบอกตัวตนของหลินเหว่ยเย่กับส้งชิงเซวี๋ยน ยิ้มขมขื่น
สองมือของส้งชิงเซวี๋ยนยึดอยู่ที่เข่า นวดสองครั้ง จากนั้นเอ่ยด้วยความผิดหวัง “ที่แท้…ไปไปมามา ล้วนอยู่รอบข้าง เวรกรรมจริงๆ”
หยวนชูเฟินกระแอมไอเบาๆ ปิดปากปิดจมูกเอาไว้ หยุดไปสักพักจึงบอก “หลินเหว่ยเย่กับหลงถิงจะต้องร่วมมือกันรีบกำจัดเซียวเอ๋อแน่ พวกเขาลงมือโหดเหี้ยม การที่หลงถิงจับคู่ให้หลงจื๋อและหลินซีเหวิน คุณน่าจะเข้าใจ”
ส้งชิงเซวี๋ยนเงยหน้า มองลอดผ่านหน้าต่างกระจกออกไปด้านนอก ลมเย็นพัดผ่าน ต้นไม้พัดปลิว “น่าเสียดาย ซีเหวินเด็กคนนี้”
“ความผิดที่ผู้ใหญ่ทำ ไม่ควรให้เด็กๆต้องมารับผิดชอบ” หยวนชูเฟินเองก็มองออกไปนอกหน้าต่าง เอ่ยประโยคที่ไม่สัมพันธ์กัน “คุณดูสิ หิมะจะตกแล้ว”
“ใช่ ไม่ควรให้เด็กต้องมารับผิดชอบ แต่ว่าตอนนี้ เด็กคนไหนจะหนีรอดล่ะ…ว่าแล้ว ฤดูหนาวปีนี้ยังไม่มีหิมะตก หิมะตกดีจริง สะอาด”
เพียงแต่หลังหิมะละลาย ความจริงทุกอย่างจะปรากฏขึ้นมา เผยสู่ชาวโลกโดยไร้ซึ่งความเมตตา
หยวนชูเฟินกล่าว “ยังมีอันนี้”
เธอหญิงห่อผ้ากลมที่ถูกห่อมาจากหัวเตียง เธอเปิดผ้าเช็ดหน้าออก ในนั้นมีเม็ดยาสีขาวเท่าเม็ดถั่ววางอยู่
ด้านบนไม่มีอะไรเลย
“นี่คืออะไร” ส้งชิงเซวี๋ยนวางไว้ในมือดูดีๆ ดุภายนอกไม่รู้มันคืออะไร
“ยา ฉันไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร แต่เมื่อก่อนยาที่ฉันกินไม่มีอันนี้ แต่ฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของดีอะไร” หยวนชูเฟินบอก
ส้งชิงเซวี๋ยนพอเข้าใจ ห่อยาให้ดีแล้วยัดใส่กระเป๋ากางเกง “ผมจะเอาไปตรวจสอบ คุณอย่าทาน แอบเปลี่ยนซะ”
“อืม”
ส้งชิงเซวี๋ยนมองประตู เหมือนจะมองเห็นคนด้านนอก “หลงถิงก็คือหมาป่าตัวหนึ่ง คุณอยู่ข้างๆเขา คุณ…”
หยวนชูเฟินยกถ้วยชาขึ้นมา จิบไปหนึ่งอึก “หลงถิงและหลินเหว่ยเย่จิตใจเหี้ยมโหด ถ้าไม่มีใครคอยเฝ้าดู พวกเขายิ่งจะไม่เกรงกลัวใคร เรื่องราวในครั้งนั้นไม่มีหลักฐานอะไรให้ค้นหาได้แล้ว เซียวเอ๋อจะเอาคืนพวกเขา มันไม่ใช่เรื่องง่าย”
ส้งชิงเซวี๋ยนเงียบ
“อยากให้จิ้งจอกโผล่หางในม่านหมอก ก็ต้องมีสิ่งล่อใจที่เพียงพอให้พวกเขา เหอะ…แต่ตามหลักกฎหมาย หลักฐานทุกอย่างมันไม่สามารถบอกความจริงได้ ด้วยนิสัยของเซียวเอ๋อ เมื่อทำลายขีดจำกัดของเขา เขาต้องทุ่มสุดตัวแน่ บางทีคุณอาจจะไม่รู้ มือของเซียวเอ๋อมันไม่ได้สะอาดขนาดนั้น แต่เพียงเขาแตะต้องหลงถิง เขาจะล้างมันไม่ออกไปชั่วชีวิต”
“ดังนั้นคุณเลยอยากทำแทนเขางั้นเหรอ”
“ทำไมจะไม่ได้ เวลาของฉันไม่มากแล้ว ฉันเองก็แบกรับคดีอยู่แล้ว ลากเขาลงนรกไปด้วยกัน คุ้มแล้ว” หยวนชูเฟินยิ้มบางๆ ริมฝีปากซีดคล้ายมีหิมะปกคลุม
ส้งชิงเซวี๋ยนมองไปนอกหน้าต่างคล้ายกำลังฝัน หิมะค่อยๆโปรยปรายลงมา เป็นผืน ขาวบริสุทธิ์ไร้ที่ติ สะท้อนแสงระยิบระยับท่ามกลางท้องฟ้าขาวโพลน
“ความรักของแม่อยู่ในมือ เสื้อผ้าที่ลูกจะสวมใส่ ก่อนจะจากไปเธอเย็บมันให้แน่นหนา กลัวว่า…จะไม่ได้กลับมาอีก…แสนนาน” ส้งชิงเซวี๋ยนมองไปนอกหน้าต่างที่เริ่มขาวโพลน ท่องกลอนออกมาหนึ่งบท และไม่พูดอะไรอีก
เงียบ ราวกับหิมะที่ตกโดนไร้เสียง ราวกับห่านไร้ร่องรอย
เนิ่นนาน หยวนชูเฟินจึงเอ่ย “ฉันเตือนหลินเหว่ยเย่ไปแล้ว เขารู้แล้วว่าฉันรู้ตัวตนของเขา ฉันคิดว่า เขาจะทนไม่ได้”
“ด้วยนิสัยที่ใจร้อนของเขา ความจริง…เพียงแต่อาเฟิน ลำบากคุณแล้ว”
หยวนชูเฟินมองหิมะที่ไกลออกไป เอ่ยเบาๆ “พ่อแม่รู้ชีวิตนี้คงยากจะได้พบหน้า เย็บเสื้อนี้เป็นที่ระลึกก่อนสิ้น”
——
“ว้าว หิมะตกแล้ว เทพธิดา คุณมาตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาล หิมะก็ตกโดยไม่คาดคิด เด็กคนนี้ช่างเป็นluckystarจริงๆเลย” ลั่วหานตรวจเสร็จ หลินซีเหวินก็วิ่งเข้ามาเกาะแขนเธอด้วยความดีใจ
หิมะนอกหน้าต่างนั้นตกแรงมาก ตอนแรกก็เหมือนปรอยหิมะที่ค่อยๆร่วงหล่นลงมา แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก็กลายเป็นเส้นขนผืนใหญ่ โปรยลงมางดงาม
หัวหน้าแผนกกุมารเวชบอกด้วยความเอ็นดู “คุณหมอฉู่ ยินดีด้วยนะคะ บำรุงมาตั้งนาน สภาวะของเด็กดีขึ้นมาเลยค่ะ ดูสิคะ สามารถมองเห็นรูปร่างของเด็กได้แล้ว ว้าว เด็กน้อยคลอดออกมาแล้วต้องเป็นเด็กที่กินเก่งแน่ๆอยู่ในท้องแม่ยังกินนิ้วมือแบบนี้”
ลั่วหานนิ่งมองแผ่นภาพที่ฉายออกมา ดีใจจนน้ำตาคลอเบ้า “angel angelของแม่”
“ว้าว เป็นชื่อที่ไพเราะมากเลยค่ะ เทพธิดา คุณตั้งชื่อลูกเก่งจังเลย ฉันชอบมาก” หลินซีเหวินก้มลงไปแถบเอาหน้าไปชิดได้แล้ว มองดูท้องน่ารัก อิจฉาจนน้ำลายจะไหล
“ไม่ใช่ฉันหรอก หลงเซียวตั้งน่ะ บอกว่าลูกเป็นนางฟ้าของเขา เกินคน” ลั่วหานแขวะอย่างมีความสุข
“ว้าว ท่าทางโอเวอร์ของเทพบุตรหล่อจังเลย ฉันชอบ”
ลั่วหานเบ้ปาก แล้วหันไปคุยกับหมอ “ฉันยังต้องดื่มยาจีนต่อไปไหมคะ”
“ดื่มเถอะค่ะ ดื่มไปอีกสักเดือน ตอนนี้ 32 สัปดาห์แล้ว อดทนอีกหน่อย แปดสัปดาห์มันทรมาน”
ลั่วหานนึกถึงยาจีนวันละถ้วย บอกตามความจริงไม่ได้รู้สึกทรมานอะไร
หลินซีเหวินออกมาจากห้องตรวจกับลั่วหาน “เทพธิดาคะ แผนกหัวใจคิดถึงคุณมากเลย ครั้งที่แล้วคุณหมอหวังได้รับบ้านเจ็บที่บาร์โบ๋จีนฮ่านกงต้องนอนโรงพยาบาล ตั้งแต่เริ่มมาทำงานก็คุยโวทุกวัน บอกว่าจะคิดบัญชีกับคุณ คุณต้องไปกำจัดเขา”
“เรื่องเมื่อคราวก่อน เหอะ เอาเถอะ”
……
“ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะความเสียสละขาอันมีค่าย่างกล้าหาญของผม พวกคุณทุกคนคงต้องเขาไอซียู ตำรวจมอบธงความกล้าหาญให้เรา ก็เพราะเห็นแก่หน้าผม”
ตอนที่ลั่วหานไปถึง คุณหมอหวังกำลังคุยโวโอ้อวด พูดให้ตัวเองกลายเป็นผู้กล้ายิ่งใหญ่
ลั่วหานหยุดยืน พิงกรอบประตู น้ำเสียงใสงดงามจริงจัง “คุณหมอหวัง”
“เฮ้ย”
หมอหวังตกใจทันที ตกใจจนแก้วน้ำในมือสาดเละเทะ หันกลับไปมองเป็นลั่วหานจริงๆด้วย
“โอ้ คุณหมอฉู่คุณมาได้ยังไง ลำบากเลยนะครับ…โอ้ หวาเทียน รีบเอาเก้าอี้มาให้คุณหมอฉู่สิ ไม่ไม่ไม่ ยกโซฟามา”
มุมปากลั่วหานยกยิ้ม “คุณหมอหวังคะ คุณนอนโรงพยาบาลสองเดือน ฝีปากฝึกได้ไม่เลวนี่ รู้จักเพิ่มบทบาทให้ตัวเองแล้ว”
หมอหวังยิ้มแห้ง “ที่ไหนละครับ เราไม่ใช่นักแสดงสักหน่อย”
ลั่วหานนั่งไม่สะดวก พูดตามตรงนั่งลงแล้วลุกขึ้น มันยากมากจริงๆ ดังนั้นเธอจึงยังยืนอยู่ “เรื่องเมื่อครั้งก่อน ฉันต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้น เอาแบบนี้ไหม คืนนี้ทุกคนไปอีกรอบ”
หวาเทียนและหมอซุนโบกมือพร้อมกัน “อย่าเลย อย่าเลย เรามันปากกินข้าวสวยกับข้าวเค็ม กินพวกหอยเป๋าฮื้อไม่ย่อยหรอก เอางี้ไหม ให้เงินเป็นรางวัลไปเลย”
ลั่วหานขมวดคิ้ว “แบบนี้ต้องให้ผู้อำนวยการอนุญาต ต้องรายงาน ฉันตัดสินใจไม่ได้”
หลงเซียวฟังมาถึงตรงนี้ ยื่นมือไปหาจี้ตงหมิง ให้เขาไปรออยู่ข้างนอก ตัวเองเดินเข้าไปในห้องทำงานที่ครึกครื้น “ไม่ต้องรายงานผู้อำนวยการ ผมอนุญาตเอง โบนัสเดือนนี้เท่าตัว”
โห้
คุณ ชาย เซียว
หลงเซียวสวมชุดคลุมผืนหนาสีดำ ด้านในเป็นชุดสูทสีทึบ เสื้อกั๊กสูทลายสก๊อต เชิ้ตขาว เนกไทสีเดียวกัน ยืนอยู่หน้าประตูด้วยลักษณะแบบนั้น
ความครึกครื้นในห้องทำงานถูกกดลง อุณหภูมิลดต่ำ…
หมอหวังลงมาจากบนโต๊ะ จัดเสื้อกาวน์สีขาวให้เรียบร้อย หัวเราะแห้งๆ
ลั่วหานเห็นเขาเดินเข้ามา เอ่ยตามน้ำ “ดีเลย งั้นรบกวนคุณหลงช่วยเซ็นต์ให้ด้วยนะคะ”
“แต่ว่า ผมต้องถามหัวหน้าของผมก่อน” หลงเซียวยิ้ม แขนยื่นออกไปคว้าโอบเอวลั่วหานเอาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ
ทุกคน “…”
ถังจิ้นเหยียนทำการผ่าตัดเสร็จแล้ว สวมชุดกาวน์สีขาวเดินเข้ามา เพียงเข้าประตูมาก็เจอกับหลงเซียว “เฮฮาอะไรกัน”
หวาเทียนบอก “กำลังคุยเรื่องให้รางวัลครับ ท่านเซียวบอกว่าจำเป็นต้องขออนุญาตเจ้านายก่อน หวาเซี่ยเป็นเบี้ยล่างของMBK นี่ยิ่งจะเดินเรื่องยากน่ะสิ”
ถังจิ้นเหยียนหยิบหูฟังแพทย์จากบนโต๊ะขึ้นมาคล้องคอ “ไม่น่ายุ่งยากนะ คุณหมอฉู่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของMBK อีกทั้ง หุ้นส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลหวาเซี่ยคือหลงเซียว ตอนนี้เป็นของคุณหมอฉู่ เจ้านายที่เขาหมายถึงก็คือคุณหมอฉู่”
นี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ สวีทให้ดูขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอีก
หวาเทียนโขกศีรษะตัวเอง “ให้ตายสิ ลืมไปเลย”
“คุณหมอฉู่ ขอขึ้นเงินเดือนด้วยนะ”
“ขอโบนัส”
“ขอวันหยุด”
“ขอเนื้อคู่”
……
ลั่วหานกอดอก “ได้สิคะ หวาเทียน วิทยานิพนธ์ยื่นขอหัวหน้าศัลยแพทย์เขียนแล้วหรือยัง คุณหมอหวัง วิทยานิพนธ์ยื่นขอศาสตราจารย์ส่งไปกี่ฉบับแล้ว คุณหมอซุน…”
“ผมผิดไปแล้วครับคุณหมอฉู่ ผมจะไปห้องตรวจแล้ว แหะแหะ” หวาเทียนกลัวการเขียนวิทยานิพนธ์มากที่สุด เมื่อพูดถึงก็ไม่รู้เรื่อง เพราะลั่วหานลาคลอด เขาจึงเลื่อนมาสองเดือนกว่าแล้ว
หมอหวังและหมอซุนเองก็เดินออกเป็นแถว ไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก
หลินซีเหวินเห็นว่าพวกเขามีหมดแล้ว จึงเดินตามออกไป “เดี๋ยวฉันไปดูคนไข้เคียงหกนะคะพรุ่งนี้มีผ่าตัด คุณหมอถังเป็นแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด”
ถังจิ้นเหยียนชี้ไปที่ทางเดิน “ผมก็จะไปเตียงหกเหมือนกัน”
ทุกคนต่างพากันแยกย้าย ห้องทำงานจึงเหลือเพียงลั่วหานและหลงเซียว
หลงเซียวยิ้มและลูบผมลั่วหานเงียบๆ “ที่รัก คุณมีความชำนาญที่ล้ำลึกมาก คนจบบทสนทนา”
“เฮ้อ…ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอก ว่าแต่ คุณมาได้ยังไงคะ เราคุยกันแล้วว่าวันนี้คนขับรถจะเป็นคนพาฉันมาตรวจครรภ์ ฉันตรวจครรภ์เรียบร้อยแล้ว” ลั่วหานส่งเอกสารที่ตรวจให้เขา หลงเซียวหนีบซองกระดาษไว้ใต้รักแร้ ประคองท้องโตของเธอ ระมัดระวังราวกับของล้ำค่า “ดูหิมะสิ ปีนี้ผมจะดูหิมะแรกกับคุณ”