ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 773
ตอนที่ 773 หลงจื๋อยอมรับผิด
ครั้งนี้ลั่วหานเห็นว่าตัวเลขเพิ่มขึ้นจากรอบที่แล้วมาก หนึ่งครั้งพันล้าน “ดูแล้ว คุณคงจะวางแผนดูดเลือดฉันจนหมดตัวถึงจะยอมปล่อยสินะ?” หลงเซียวเพียงแค่จ้องมองเธอด้วยความรัก โดยไม่ตอบอะไร ลั่วหานเบะปากก่อนที่จะดึงมือของเขามาวางบนแป้นพิมพ์ กดรหัสลงไปทีละตัวๆ “หาปลาให้ไม่สู้สอนให้หาปลา ต้องการเท่าไหร่ คุณตัดสินใจเอาเองแล้วกัน”
ในเมื่อเขาต้องการพลิกหน้ากระดานทั้งหมด เงินพวกนี้ล้วนแต่ใช้เพื่อโยนกรวดล่อหยกทั้งสิ้น
ลั่วหานมอบจำนวนวงเงินทั้งหมดให้เขา ตามใจเขาเถอะ!
หลงเซียวลูบหัวของเธอ “ขอบคุณครับคุณหญิง”
——
“พู่!!”
กู้เยนเซินที่ไม่ทันระวังนั้น อยู่ๆที่เห็นว่าจำนวนหุ้นรายใหญ่ของบริษัทมีการขยับตัว กาแฟที่อยู่ในปากจึงถูกพ่นออกมาเต็มหน้าจอ
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงเกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ได้? ใครเป็นคนทำ?” กู้เยนเซินที่ไม่แม้จะเช็ดปากก็โทร.ไปหาหลงเซียวทันที
“คุณชายหลง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมหุ้นในมือของหมอฉู่ถึงได้ถูกแบ่งออกเยอะขนาดนี้? คุณได้เริ่มแล้ว?”
“ถูกต้อง” หลงเซียวตอบกลับเพียงแค่ประโยคเดียว แล้วจึงพูดต่อไปว่า “คุณชายกู้ อีกเดี๋ยวนักข่าวคงจะล้อมบริษัทฉู่ซื่อเอาไว้แน่ รบกวนคุณช่วยรับหน้าแทนด้วย”
กู้เยนเซินจึงเออ ออ ออกไป “ได้ ทำตามแผน แต่ว่าคุณชายกู้ แผลของคุณยังไม่หายดี ต้องมาออกแรงอะไรแบบนี้ คุณไหวจริงหรือ?”
“ไม่ไหว ดังนั้นฉันจึงให้นายไปสู้รบกับนักข่าวพวกนั้น ลำบากนายแล้ว”
กู้เยนเซิน “……….”
ทำไมถึงได้รู้สึกว่า ไม่ทันระวังตัวเรื่องการคบเพื่อนนะ?!
“ประธานกู้! ประธานกู้! ข้างล่างตึกล้อมไปด้วยนักข่าวเต็มเลย ถามเกี่ยวกับเรื่องหุ้นบริษัทฉู่ซื่อว่าทำไม อยู่ดีๆถึงได้มีความเคลื่อนไหวมากมายขนาดนี้ หุ้นในมือผู้ถือหุ้นรายเล็กถูกดูดไป…….”
เลขาได้เลือกทวนคำถามสำคัญของนักข่าวหลายข้อ รีบร้อนจนเกือบจะลากกู้เยนเซินไปจัดการ
กู้เยนเซินจัดการกับชุดสูท กระแอมไอเล็กน้อย “รีบร้อนอะไรกัน? คุณชายอย่างฉันจะไปดูสักหน่อย”
ห้องทำงานของประธานบริษัท MBK
หลงจื๋อดูการสัมภาษณ์สดทางอินเทอร์เน็ต อยู่ๆก็เบิกตาขึ้น!
กู้เยนเซินเผชิญหน้ากับนักข่าว พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ร่างกายของประธานพวกเรา ไม่สะดวกอยู่ก็จริง ดังนั้นทางบริษัทจึงจำเป็นที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น จึงออกมาประกาศถึงผลประโยชน์และผลเสียให้ชัดเจน ยอมที่จะถือหุ้นต่อก็……ไม่ยอมที่จะถือหุ้นต่อก็…….”
เมื่อได้ฟังกู้เยนเซินออกมาพูดถึงสุขภาพของหลงเซียวด้วยตัวเอง หลงจื๋อจึงคว้ากุญแจรถแล้วเดินออกไป แต่ว่าตัวเขาเพิ่งจะเดินไปถึงหน้าลิฟต์ หลงถิงก็เดินออกมาจากลิฟต์ ทั้งสองจึงได้เผชิญหน้ากัน
“พ่อ……” หลงจื๋อก้มหัวแล้วเรียก
หลงถิงพูด “วิ่งทำไม?”
“ผมมีธุระ ต้องออกไปหน่อย” หลงจื๋อไม่กล้าเอ่ยถึง พี่ใหญ่
หลงถิงเชิดคางขึ้นก่อนจะพูดต่อ “กลับไปยังห้องทำงาน ฉันมีเรื่องต้องพูดกับแก ฉันไม่สนว่าตอนนี้แกจะไปทำอะไร ฟังฉันพูดจบก่อนแล้วค่อยไป”
หลงจื๋ออดกลั้นไว้ ในที่สุดก็พยักหน้ารับคำ “ครับ”
เขาแค่นึกไม่ถึงว่าเรื่องที่หลงถิงจะพูด กลับทำให้เขาทั้งผิดหวังและช็อคไปตามๆกัน
“พ่อ ทำไมพ่อถึงทำแบบนี้! ตามที่สื่อรายงานข่าว พี่ใหญ่ผมมีโอกาสเกิดเรื่องใหญ่! เรื่องสำคัญแบบนี้พ่อไม่ช่วยบริษัทฉู่ซื่อก็ไม่เป็นไร! แต่พ่อกลับจะฉวยโอกาสนี้อีก พ่อทำเกินไปแล้วนะ!”
หลงถิงกลับยิ้มหยัน “เสี่ยวจื๋อ แกคิดว่าฉันไม่ได้จะช่วยเขาหรือ? ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะจะช่วยเขา แก
ลองคิดดูเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว เขากลับไม่พูดอะไรสักคำ นี่แสดงว่าอะไร? แม้กระทั่งจะพูดเขาก็ยังพูดไม่ได้! ฉันจะพูดให้กระจ่างอีกรอบ พี่ใหญ่ที่แกพูดถึงคงจะไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“เป็นไปไม่ได้!” หลงจื๋อจับกุญแจรถที่อยู่ในมือไว้จนแน่น แล้วเดินถอยหลังออกไปก้าวใหญ่ เขามองหลงถิงอย่างกับคนเห็นพี่ก็ไม่ปาน ในสายตาฉายแววของความกลัวและอยากจะหลบหนี
หลงถิงเดินไปข้างหน้า ตบบนไหล่ของเขา “หลงเซียวล้ม บริษัทฉู่ซื่อก็จะต้องถูกแบ่ง ประธานของบริษัทฉู่ซื่อก็จะต้องถูกเปลี่ยน ยกบริษัทฉู่ซื่อให้ฉันก็ยังดีกว่ายกให้คนอื่น ของของฉันวันหลังก็จะยกให้แก ถ้าแกคิดจะช่วยเขาจริงๆ ก็ควรที่จะสนับสนุนการตัดสินใจของฉัน แกลองคิดดูดีๆ”
หลงจื๋อหลับตาลง “พ่อ ความคิดของพ่อมันน่ากลัวมาก”
หลงถิงพูดต่อไปอย่างไม่รีบร้อน “เสี่ยวจื๋อ ถ้าหากไม่มีพี่ใหญ่ของแกแล้ว ภายหน้าฉู่ลั่วหานก็ต้องเลี้ยงลูกโดยลำพัง อ้อ ใช่ เธอยังอายุน้อยอยู่ มีความเป็นไปได้ว่าจะต้องแต่งงานใหม่ อย่างนั้นสมบัติของพี่ใหญ่แกที่เธอครอบครองอยู่ ก็จะกลายเป็นของคนอื่น พ่อหวังว่าแกจะมองเห็นความเป็นจริง”
หลงจื๋อจ้องมองมาที่พ่อของเขาอย่าเอาเป็นเอาตาย กัดฟันพร้อมกับพูดขึ้น
“พ่อ พ่ออยากจะฮุบบริษัทฉู่ซื่อก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหาเหตุผลสวยหรูแบบนี้ หึหึ พ่อ ตอนนี้ผมพบว่าพี่ใหญ่ผมไม่ว่าจะเรื่องความเป็นคนเรื่องงาน ล้วนแต่จะดีกว่าพ่ออีก!”
พูดจบ ก็เดินออกไปอย่างไม่ไยดี
หลงถิงจึงถอนหายใจ พูดกับเหลียงจ้งซุน “ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องเข้าใจ ที่ฉันสั่งสอนเขา ถึงจะเป็นตัวในการยืนหยัดบนทางธุรกิจ”
…………
หลงจื๋อขับรถด้วยความเร็วมายังรีสอร์ทหยีจิ่ง ไม่ทันที่คนใช้จะเข้าไปรายงาน เขาก็วิ่งเข้าไปยังรีสอร์ท เข้าไปถึงก็ตะโกนเสียงดัง “พี่สะใภ้! พี่สะใภั!”
ลั่วหานที่อยู่บนชั้นสองเป็นเพื่อนหลงเซียว ได้ยินเสียงเรียกของหลงจื๋อที่วิ่งเข้ามา ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “สามี เสี่ยวจื๋อมาแล้ว ดูแล้วเหมือนจะถูกข่าวทำให้ตกใจนะ”
หลงเซียวพยักหน้า “อือ ให้เขาเข้ามา”
“แต่ว่าตอนนี้คุณ…..คุณวางแผนจะบอกความจริงกับเขาหรือว่าสร้างเหตุผล? คุณจะทำเขาตกใจหรือเปล่า?”
ลั่วหานมองดูหลงจื๋อที่กำลังขัดขืนคนใช้ แล้วเดินตรงมายังห้องรับแขก สักพักจึงได้ยินเสียงดังของลิฟต์
หลงเซียวพูดขึ้น “ให้เขาเข้ามาก่อน คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น”
“ค่ะ”
“คุณชายรอง! คุณชายรอง! คุณชายกำลังพักผ่อนอยู่ คุณอย่าขึ้นไปเลยดีกว่า คุณชายรอง!” คนรับใช้ตะโกนแล้วตะโกนอีก หลงจื๋อได้ผลักประตูห้องนอนออกเป็นที่เรียบร้อย
ลั่วหานก็ยืนตรงหน้าเขาพอดี “เสี่ยวจื๋อ ได้มาได้ยังไง? มีธุระอะไร?”
หลงจื๋อมองเข้าไปด้านในอย่างร้อนรน “พี่สะใภ้ พี่ใหญ่ผมล่ะ? ผมเห็นในข่าวบอกว่าพี่ใหญ่เกิดเรื่อง เป็นเรื่องจริงใช่ไหม? ตกลงพี่ใหญ่ผมเป็นอะไรกันแน่?”
บนใบหน้าของลั่วหานไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ เพียงแค่พูดขึ้นอย่างเรียบเฉย “เขาอยู่ข้างในนั้น นายเข้าไปดูเองแล้วกัน”
หลงจื๋อพยักหน้า เดินเข้าไปด้านในจึงหันไปมองเตียงที่อยู่ด้านขวามือ จึงได้เห็นหลงเซียวนอนอยู่ในผ้าห่มตามคาด หลับตาลงอย่างสงบเงียบ ดูรวมๆแล้วเหมือนคนกำลังอ่อนแรง ลำบากมาก
“พี่ใหญ่……” เสี่ยวจื๋อเรียกขึ้นอย่างเบาเสียง แต่หลงเซียวกลับไม่มีการตอบสนอง
ลั่วหานจึงพูดขึ้น “นายอยู่ที่นี่พูดคุยเป็นเพื่อนเขาเถอะ ฉันจะลงไปข้างล่าง”
ลั่วหานปิดประตูลง ถอนหายใจ ยืนอยู่นอกประตูอย่างเงียบๆ คอยฟังเสียงด้านในผ่านทางประตู
หลงจื๋ออ้ำอึ้ง “พี่ใหญ่……พี่…..เป็นอย่างที่พวกเขาพูดกันจริงๆหรือ? ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ทำไมอยู่ๆถึงเป็นแบบนี้ไปได้? พี่ใหญ่ พี่ตอบผมสิ ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
หลงเซียวที่นอนอยู่ตรงนั้นกลับไม่พูดอะไรสักคำ
หลงจื๋อเอามือจับที่หัวอย่างเป็นทุกข์ เศร้าโศกจนพูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบพร่าเบาๆ “พี่ใหญ่ พี่รู้หรือเปล่าว่าพ่อผมกำลังกวาดซื้อหุ้นของบริษัทฉู่ซื่อ? เขาอยากจะขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฉู่ซื่อ เขาอยากจะควบคุมบริษัทฉู่ซื่อทั้งบริษัท”
หลงเซียวแอบยิ้มอยู่ในใจ แผนการของหลงถิงเขาต้องรู้อยู่แล้ว
“พี่ใหญ่ พ่อผมน่ากลัวและซับซ้อนกว่าที่คิด พี่ใหญ่ ผมไม่รู้จริงๆว่าควรทำอย่างไรดี? เขาเป็นพ่อแท้ๆของผม ผมควรจะสนับสนุนเขา แต่ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ผมทำอยู่นั้นถูกหรือผิดกันแน่”
นัยน์ตาหลงจื๋อเต็มไปด้วยความเศร้า หัวใจทุกข์ระทมไปด้วยความเจ็บปวด ยามที่นึกถึงคำพูดของหลงถิงเมื่อครู่ ผนวกกับคิดถึงเรื่องที่พี่ใหญ่คอยอ่อนข้อให้เขานับครั้งไม่ถ้วน ความเจ็บปวดภายในใจของหลงจื๋อนั้นราวกับถูกแทงด้วยดาบสองเล่ม เจ็บปวดไปทั้งสองฝั่ง
“พี่ใหญ่ พ่อผมทำเรื่องที่ขัดคุณธรรมมากมาย รวมทั้งเรื่องที่ผิดกฎหมายด้วยใช่ไหม?” เขาพูดจบ จึงพูดตอบตัวเองอีกครั้ง “พ่อจะต้องทำเรื่องที่ไม่ดีไว้มากแน่ ดังนั้นพี่ถึงได้ผิดหวังมากขนาดนี้ พ่อไม่เพียงแค่ทำลายพี่และครอบครัวของพี่ และยังทำลายคนอีกมากมายสินะ?”
แต่คนที่นอนอยู่ คงยังไม่ตอบอะไร
น้ำตาของหลงจื๋อได้ไหลลง “พี่ใหญ่ ขอโทษ ขอโทษด้วย! ที่ผมไม่ได้แยกแยะถูกผิด คิดจะห้ามไม่ให้พี่เอาเรื่องเขา อีกทั้งผมยังโทษว่าพี่ไม่ยอมอภัยให้เขา ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า สิ่งที่ผมทำลงไปมันงี่เง่าแค่ไหน มันเห็นแก่ตัวแค่ไหน!”
ลั่วหานถอนหายใจเบาๆ เสี่ยวจื๋อ…..เขาโตขึ้นมากจริงๆ มองทะลุเรื่องทุกอย่างแล้ว หวังว่าเขาจะโตขึ้นจริงๆ สามารถเข้าใจว่าหลงถิงจะต้องชดใช้ ไม่ใช่เพราะเขาทำร้ายหลงเซียว แต่เป็นเพราะเรื่องที่เขาทำมันสมควรที่จะได้รับโทษทางกฎหมาย ก็ควรได้ชดใช้ในสิ่งที่ต้องชดใช้
ไม่เอาผิดเขา นั่นเท่ากับว่าปล่อยคนทำผิด ละเลยนักโทษ เป็นการไม่คำนึงถึงความเป็นธรรม!
จนถึงตอนนี้ ลั่วหานก็เข้าใจเจตนานี้ของหลงเซียวแล้ว
หลงจื๋อเช็ดน้ำตา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่สะอึกสะอื้น “พี่ใหญ่ ผมผิดไปแล้ว ผมนึกว่าผมสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้ ผมนึกว่าผมจะสามารถเปลี่ยนเขาได้ แต่ว่าจนถึงตอนนี้ผมกลัวว่า จะเป็นตัวผมเองที่ถูกเขาล้างสมอง ผมกลัวมากจริงๆ”
“พี่ใหญ่ ผมขอโทษ ผมไม่ควรอภัยให้เขาเพียงเพราะว่าเขาคือพ่อ และปกป้องเขา สิ่งที่ผมทำนี้เป็นการปล่อยคนผิด ผมทำแบบนี้เป็นการกระทำที่ผิด”
หลงจื๋อพูดด้วยความตระหนก พูดไปพูดมาน้ำตาก็ไหลลง
ด้านหลงเซียว ในใจก็เบาลง เสี่ยวจื๋อ……นายคิดได้แบบนี้ก็ดีแล้ว ดีมากจริงๆ
“พี่ใหญ่ วันหน้าพี่คิดจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ผมจะไม่ขอร้องให้พี่ใจอ่อนอีก ผมรู้หมดแล้ว…….เมื่อก่อนล้วนแต่เป็นความผิดของผม”
หลงจื๋อเช็ดน้ำตา นำกระเป๋าเงินจากกระเป๋าออกมา นำบัตรเครดิตทั้งหมดวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง “นี่เป็นเงินทั้งหมดที่ผมมี ถึงแม้จะไม่มาก แต่ผมก็หวังว่าจะช่วยบริษัทฉู่ซื่อก้าวข้ามผ่านมรสุมครั้งนี้ได้”
หลงจื๋อหากระดาษและปากกาเขียนรหัสของบัตรลงไป แล้วทับมันไว้ใต้แจกันดอกไม้
“ผมไปก่อนนะ พี่ใหญ่.