ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 776
ตอนที่ 776 สิ่งที่ฉันทำมันไม่ดี
ผู้ถือหุ้นที่ไม่สบายใจกับข่าวดังกล่าวได้เรียกร้องให้หลงเซียวออกหน้า ต้องการยืนยันสภาพความเจ็บป่วยของเขาให้เห็นกับตา ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงประเด็นร้อนใน Weibo ก็ถูกหัวข้อ “หลงเซียวได้โปรดชี้แจง” นั้นครองพื้นที่ไปหมด
ตามติดมาด้วย ฟอรั่ม เทียปา และสื่อหลักเผยแพร่ข่าวสารที่เกี่ยวข้อง หรือการร้องทุกข์ของนักลงทุน บริษัทฉู่ซื่อกับหลงเซียว หรือคำพูดเรื่องความผันผวนของราคาหุ้นได้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น ข่าวด้านลบเกี่ยวกับบริษัทฉู่ซื่อก็แพร่ระบาดขยายไปทุกมุม
จี้ตงหมิงเห็นแล้วเวียนหัวเล็กน้อย “เหี้ยอะไรวะ ล้มบริษัทฉู่ซื่อ และช่วยบริษัทอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก นี่จะเพิ่มปริมาณการใช้งานให้พวกเขาขนาดไหน? คืนนี้ราคาหุ้นของบริษัทอินเทอร์เน็ตคงขึ้นไปถึงพันล้านแน่!”
กู้เยนเซินทางนี้กำลังดูหุ้นของบริษัทฉู่ซื่อซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับจี้ตงหมิง “ใช่น่ะสิ พวกสื่อรายใหญ่พวกนั้น กล้าที่จะเข้ามามอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับบริษัทฉู่ นายดูเว็บไซต์บริษัทเราสิ ถูกบุกในเสี้ยววินาที ทั้งหมดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว แม่งเอ๊ย คนพวกนี้มีพลังจริงๆและพวกเขาก็เต็มที่”
ไป๋เวยจิบกาแฟและยิ้มขึ้นอย่างใจเย็น “พูดแบบนี้ ฉันกลับพบโอกาสทางธุรกิจใหม่ ทำไมบริษัทของเราไม่พัฒนาเว็บไซต์ใหม่อีกเว็บ เมื่อการเข้าชมไม่ดี ก็เพียงแค่สร้างหัวข้อและจะคืนทุนในชั่วพริบตา ปุ๋ยจะได้ไม่ไหลไปที่นาคนอื่นและจะไหลเข้ากระเป๋าพวกเรากันเองทั้งหมด”
กู้เยนเซินเห็นด้วยอย่างไม่ใส่ใจ “ความคิดดีนี่! ให้ฝ่ายเทคนิคพัฒนา ฉันคิดว่าความคิดนี้ไม่เลว ประธานไป๋ฉลาดเป็นกรดจริง ๆ เพราะฉะนั้นเดี๋ยวไปกินข้าวด้วยกันนะ?”
หัวเข้าเรื่องทั้งสองมันเกี่ยวกันไหม?
ไป๋เวยง่วนอยู่กับการเขินอายอย่างหนักจะมีใจไปกินข้าวอะไรจึงพูดออกไปอย่างตามใจปาก “ไม่ออกไปหรอก กินอะไรง่าย ๆ ก็ได้ ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาต้มก็พอ”
พอกู้เยนเซินได้ยินแล้วก็วิตกกังวล “กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอะไร! ของพวกนั้นกินได้ที่ไหน! อยากกินหมี่ผมจะทำให้เอง!”
จี้ตงหมิงโผล่หัวของเขาจากด้านหลังคอมพิวเตอร์โดยจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง “โอ้ว คุณชายกู้ทำบะหมี่ให้ประธานไป๋กิน? ดีขนาดนี้?”
กู้เยนเซินหยิบเอกสารและทุบจี้ตงหมิง “เฮ้ย! ยังจะคุยอะไรอีก!”
ไป๋เวยเลิกคิ้ว “ได้ คุณไปทำบะหมี่ ทำส่วนของผู้ช่วยจี้ด้วย ให้ผู้ช่วยจี้ชิมว่าคุณทำอร่อยรึเปล่า”
ในหัวของจี้ตงหมิงเต็มไปด้วยภาพ ในสมองมีแต่ภาพน่าขยะแขยงจนแทบจะทำให้อาเจียนอาหารเมื่อคืนออกมา “เฮ้ย คนไร้สาระสองคน ผมไปหาแอนดี้ ผมดูแล้วห้องทำงานของประธานไป๋ ต่อคงต้องมาน้อย ๆ หน่อยน่าจะดี เสียเรื่องจริง ๆ”
เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร จี้ตงหมิงจัดการกับข้อมูลเรียบร้อยและกำลังจะไปหาแอนดี้เพื่อรับประทานอาหาร และพูดคุยเกี่ยวกับความคืบหน้าของงานตามลำดับ
เขายังไม่ทันได้ออกจากประตูแอนดี้ก็ผลักประตูเข้ามาพอดี “ประธานไป๋ ข่าวล่าสุด MBK ใช้เงินทุนจำนวนมากไหลบ่าเข้าบริษัทฉู่ซื่อ เสียงซุบซิบจากตลาดซื้อขายเมื่อกี้ ฝ่ายการเงินของMBK ทุ่มเงินจำนวนมากเตรียมทิ้งระเบิดหุ้นบริษัทฉู่ซื่อเป็นครั้งที่สอง ดูแล้วหลงถิงคงจะไม่ยอมรามือถ้าไม่ได้บริษัทฉู่ซื่อ”
จี้ตงหมิงเปิดคอมพิวเตอร์อีกครั้งแล้วใช้มือเคาะแป้นอย่างรวดเร็วเพื่อใส่รหัสผ่านและหน้าเว็บหน้าหนึ่งก็โผล่ขึ้นมา “การแสดงข้อมูลภายในชัดเจน ตอนนี้ผู้ถือหุ้นจำนวนที่มากที่สุดยังเป็นฝั่งของเจ้านาย แต่การเข้าถือหุ้นของหลงถิงนั้นก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ตราบใดที่เจ้านายยังปล่อยให้ไป หลงถิงจะเป็นผู้ถือครองที่มีอำนาจรายใหญ่ ขั้นต่อไปของเขาคงจะเป็นการเข้ายึดครองหุ้นเดิมที่มีจำนวนมากที่สุดในมือของเจ้านาย”
กราฟหุ้นทางนี้ของกู้เยนเซินกำลังกะพริบเคอร์เซอร์ เขาจ้องดูหุ้นของMBK “หุ้นของMBK สองวันมานี้มีการตั้งราคาสูงสุด หลงถิงคงจะดีใจมากแน่ ตอนนี้ทั้ง MBK คงจะคึกคักเหมือนช่วงปีใหม่แน่”
ส่วนไป๋เวยดูหุ้นของบริษัท จดทะเบียนที่สำคัญหลายแห่งเช่นบริษัทซุนซื่อและบริษัทอึนเคอ “ตามคาดเมื่อบริษัทฉู่ซื่อล้ม กลุ่มปลาซิวปลาสร้อยก็จะขึ้นมา อย่างบริษัทซุนซื่อที่เป็นหุ้นแย่ ๆ ยังขึ้นมาตั้งยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ซุนปิงเหวินคงดีใจแย่แล้ว”
แอนดี้พูดขึ้น “หัวหน้าเลขานุการของเกาจิ่งอานโทรมาตอนนี้โดยบอกว่าอึนเคอจะช่วยบริษัทฉู่ซื่อเอาชนะความยากลำบาก เกาจิ่งอานบินไปสหรัฐอเมริกาในวันนี้ จึงไม่สามารถติดต่อเขาขณะอยู่บนเครื่องบินได้ แต่เขาได้สั่งให้ผู้ช่วยและเลขานุการของเขา ถ้าต้องการอะไรก็บอกได้เลยทันที”
จี้ตงหมิงกับกู้เยนเซินยิ้มให้กัน “พวกเราอิจฉาคุณชายใหญ่หลงที่สุด เขามีน้องชายที่ยังคงซื่อสัตย์ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ต้องพูดถึงว่าจะต้องเสียเงินแม้แต่ชีวิตก็ยอมให้ได้ พี่สาวแท้ ๆ ตัวเองรักษาตัวอยู่ที่สหรัฐ เขาก็ยังมีแก่ใจคิดถึงพี่ใหญ่ในระหว่างทางอย่างคิดไม่ถึงด้วย”
แอนดี้พูด “แล้วยังไง? จะให้อึนเคอเข้าร่วมด้วยไหม?”
จี้ตงหมิงใคร่ครวญ “พวกเราโทรไปถามเจ้านายก่อน ก่อนจะดำเนินการเจ้านายต้องเห็นด้วยเสียก่อน”
“ดี! นายโทร พวกเราจะทำตามคำสั่ง”
รีสอร์ทหยีจิ่ง
หมอซุนเปลี่ยนยาให้ที่หลังหลงเซียว เขาถอนหายใจและพูดขึ้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก “ขอบคุณฟ้าดิน ในที่สุดก็อาการคงที่แล้วที่เหลือก็เพียงแค่ดูแลรักษาให้ดี จะไม่เหลือสาเหตุของโรคและรอยแผลเป็นที่หลังอีก หลังจากแผลหายแล้ว ก็สามารถทำการซ่อมแซมส่วนที่เป็นแผลเล็กน้อย และกำจัดรอยแผลเป็นได้”
หลงเซียวนอนอยู่บนเตียงหลังจากเปลี่ยนยาคางของเขากดกับหมอนและพูดอย่างงัวเงีย “เป็นแผลเล็กน้อยไม่ต้องหรอก แผลภายนอกเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว”
ลั่วหานล้อเขา “ค่ะ ทิ้งรอยแผลเป็นไว้บ้าง ต่อไปจะได้เตือนสติตัวเองบ่อย ๆ ว่าทำอะไรก็ต้องรู้จักระวังเอาไว้”
หลงเซียวกลับยิ้มและไม่โกรธ “ใช่ ต้องเชื่อฟังคำสั่งสอน ไม่กล้าลืมแน่”
หมอซุนเก็บกล่องยาและยกภูเขาออกจากอกและรู้สึกสบายตัว “ไม่ทำแผลก็ได้ ผมให้ยาคุณเพื่อทาที่แผล ขอเพียงใช้ทุกวัน สองเดือนก็สามารถลบเลือนรอยแผลไปได้มาก เพียงแต่ว่าแผลอยู่ที่หลังเกรงว่าจะต้องรบกวนคุณนายแล้ว”
หลงเซียวพูดขึ้น “ได้ เอาแบบนี้แหละ”
ลั่วหาน: “…”
หมอซุนยิ้ม “ผมขอตัวกลับก่อน มีอะไรติดต่อผมได้ทันที สแตนด์บายยี่สิบสี่ชั่วโมง”
ลั่วหานส่งหมอซุนที่ประตูห้องนอนพร้อมกำชับ “คุณหมอซุน อาการป่วยของหลงเซียว หวังว่าคุณจะไม่แพร่งพรายให้ใครรู้ชั่วคราวนะคะ”
หมอซุนพยักหน้า “คุณนายวางใจได้ ผมเป็นแพทย์ส่วนตัวให้คุณชายมานานหลายปีขนาดนี้ ผมไม่เคยแม้แต่จะหลุดออกไปแม้เพียงครึ่งคำเกี่ยวกับความลับของเขา”
คนรับใช้ไปส่งหมอซุน ลั่วหานหันหลังกลับและปิดประตู หลงเซียวยังคงนอนอยู่บนเตียงราวกับว่ามีความสุขกับท่านี้
“สถานการณ์หุ้นของบริษัทฉู่ซื่อตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” ลั่วหานช่วยเขาดึงผ้าห่ม และตรวจเปิดดูผ้าพันแผลที่หลังของเขาด้วยความไม่ไว้ใจ อาการบวมรอบ ๆ แผลหายและสีผิวก็หายดีสามารถเอาผ้าก๊อซออกได้ในอีกไม่กี่วัน
หลงเซียวหลับตาและพูดขึ้นอย่างเอื่อยเฉื่อย “เกือบแล้วล่ะ ตอนนี้หุ้นในมือหลงถิงกับผมต่างกันไม่มากแล้ว ช่วงบ่ายผมจะทำให้เขาต้องประหลาดใจ”
ลั่วหานดึงผ้าห่มขึ้นใหม่อีกครั้งและห่มให้เขา และเอาหมอนที่นุ่มที่สุดอีกอันมาหนุนใต้คางของเขาทำให้ยกขึ้นได้ง่ายขึ้น
“เรื่องประหลาดใจอะไรคะ?”
“หุ้น”
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของหลงเซียวก็ดังขึ้น เป็นสายของจี้ตงหมิงโทรเข้ามา
หลงเซียวหยิบโทรศัพท์ “พูดมา”
จี้ตงหมิงเล่าเรื่องที่เกาจิ่งอานแสดงความภักดีและขอคำแนะนำ “เจ้านายรู้สึกว่าจะต้องใช้เงินทุนของอึนเคอไหมครับ?”
หลงเซียวเม้มมุมปาก “อยากได้อะไรมันก็มาจริง ๆ ได้ ในเมื่อเขามีเงินเหลือ ถ้างั้นก็ไม่ต้องเกรงใจ อีกยี่สิบนาที ฉันจะขายหุ้นระลอกสุดท้ายและซื้อหนึ่งล้านหุ้นให้จิ่งอาน”
จี้ตงหมิงหางตากระตุก “เจ้านายครับ ช่วยเขาซื้อ? หมายความว่ายังไงครับ?”
หลงเซียววางบนหมอนขยับและพบท่าทางสบาย ๆ “หมายความว่าให้จิ่งอานกลายเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท”
“เอ๊ะ? เจ้านายไม่คิดจะให้เขาเข้ามาในแผนการ?” จี้ตงหมิงยังคิดว่าเจ้านายจะใช้อึนเคอเป็นเหมือนเฮเลนแบบนั้น
“ไม่ต้อง ทุกคนมีฐานะของตนเอง ความรับผิดชอบของจิ่งอานไม่ใช่ที่นี่” หลงเซียวอธิบายง่าย ๆ แต่ไม่ได้ถกลงลึก
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
ทั้งสองคนจบการสนทนา ลั่วหานพูดขึ้น “คุณไม่ให้เกาจิ่งอานช่วยหลอกหลงถิงเหรอคะ? ทำไมล่ะ?”
คิ้วรูปดาบยาวของหลงเซียวขมวดเข้าที่ขมับ “เพื่อช่วยจิ่งอานให้สร้างสมบุญบารมี สิ่งที่ผมทำไม่ใช่เรื่องโปรดสัตว์ดีเด่นอะไร ให้เขาเข้ามาร่วงวงด้วยไม่เหมาะสม พี่สาวของเขาอยู่ในระหว่างช่วงสำคัญในการรักษาตัว ทำเรื่องแย่ ๆ ให้มันน้อย ๆ หน่อยก็ดี”
ลั่วหานตกตะลึงกับคำอธิบายของเขา “ดีล่ะ! คำอธิบายนี้ถือเป็นการเปิดประสบการณ์สำหรับฉันเลย”
หลงเซียวยิ้มแล้วพูด “คุณเข้าใจผิดว่าทำไมผมไม่กำจัดเหลียงหยู้คุนเสียแต่เนิ่น ๆ? สถานการณ์ของพวกเราในตอนนั้น อยากจะทำให้เขาตายไปไม่ใช่เรื่องยาก แต่ภรรยาและลูกของผมจะได้รับผลกระทบไปด้วย ความสูญเสียของผมมันไม่ง่ายเหมือนกับการได้รับบาดเจ็บ”
ที่แท้…เป็นแบบนี้เอง
ลั่วหานเพิ่งจะรู้ การอดกลั้นและการถอยหนีเป็นเพียงเพื่อช่วยให้พวกเธอแม่ลูกสะสมคุณธรรม หลงเซียวผู้ไม่เคยเชื่อในคำสอนของเทพเจ้า คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีความคิดรอบคอบถึงเพียงนี้ จะไม่ให้เธอประทับใจได้อย่างไร?
หลังจากนั้นสามสิบนาที…
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของMBK ก้าวเข้าไปในห้องทำงานของหลงถิงและยิ้มอย่างเบิกบาน “ท่านประธาน ดูเหมือนหลงเซียวจะเดินมาสุดทางแล้ว เพื่อจะอุดช่องว่างด้านการเงิน เขาปล่อยหุ้นออกมาอีกรอบ ดูจากจำนวนแล้ว ตอนนี้ท่านเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัทฉู่ซื่อแล้ว ซึ่งมีอำนาจในการถือครองมากกว่าหลงเซียวถึงร้อยละห้าสิบ ได้ครอบครองความได้เปรียบอย่างแท้จริง!”
หลงถิงลืมตาขึ้นและเดินออกจากเก้าอี้เจ้านายอย่างสบาย ๆ “ความต่างร้อยละห้าสิบ เขาไม่มีทางตามทัน พอแล้ว”
“ครับ! มีอีก ตอนนี้ท่านประธานเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทฉู่ซื่อแล้ว การประชุมคณะกรรมการของบริษัทฉู่ซื่อในวันพรุ่งนี้ ท่าน…”
หลงถิงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด “ฉันจะเข้าร่วมด้วยตัวเองอย่างแน่นอน”
“ได้! ฉันจะจัดเตรียมเอกสารผู้ถือหุ้นไว้ให้พร้อม เมื่อถึงเวลานั้นนั้นประธานสามารถนั่งในตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการได้โดยตรง หลงเซียวจะต้องยอมสละที่นั่งให้กับคุณอย่างว่าง่าย!”
หลงถิงเปล่งเสียงหัวเราะและไม่พูดอะไร
บริษัทฉู่ซื่อ
กู้เยนเซินลูบท้องหิว “ตอนนี้ไม่รู้ว่าหลงถิงดีใจถึงไหนแล้ว ความต่างถึงร้อยละห้าสิบ่ นี่คงทำให้เขามีความสุขกับชัยชนะมาก!”
จี้ตงหมิงใช้มือทั้งสองข้างท้าวหลังศีรษะและพิงเก้าอี้ด้วยความอ่อนล้า “ยิ่งสูงเวลาตกก็ยิ่งน่าเกลียด พรุ่งนี้ได้เห็นของจริง!”
ไป๋เวยปิดคอมพิวเตอร์ “ทั้งสองท่าน ประธานจะชวนไปกินข้าว ไปไหม?”
เหนื่อยมาทั้งวัน ถึงแม้ว่าอาหารเที่ยงจะยังไม่ถึงกับต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่ข้าวกล่องพวกนี้ กู้เยนเซินเคยกินที่ไหน! คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะได้กิน!
“ได้สิ แต่ผมประกาศเลยนะ ผมไม่กินหมี่ ผมชอบกินข้าว” จี้ตงหมิงประกาศล่วงหน้าอย่างหวาดผวา
ไป๋เวยดุ “นายฝันไปเถอะ! อยากกินก็ไม่มีใครให้ คืนนี้กินเนื้อย่าง เรียกแอนดี้กับโจวโร่หลินมาด้วย หลายวันมานี้ทุกคนเหนื่อยแย่แล้ว ฉันจะชดเชยให้ทุกคน!”