ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 819
ตอนที่ 819 ภรรยาจ๋าอย่าร้องไห้
ออฟฟิศที่เงียบสนิท ประตูปิดมิดชิด หน้าต่างบานเกล็ดก็ดึงลงมาหมดด้วย ห้องที่ปิดมิดชิดกดดันอึดอัดใจ แม้แต่แสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่างล้วนแฝงไว้ด้วยความโศกเศร้าที่เจ็บปวดอย่างเข้มข้น
มือทั้งสองของลั่วหานดันหน้าผากอยู่ หางตาหย่อนลง ยืนอยู่หน้าหน้าต่างในสมองย้อนคิดถึงคำพูดที่เสียสติของ คุณนายหลัวครั้งแล้วครั้งเล่า
“คุณเป็นหมอ ทำไมเวลาทำงานไม่อยู่โรงพยาบาล!”
“…….สามีของฉันก็จะไม่ตาย! เขาก็จะไม่ตาย!”
“ล้วนเป็นคุณทำร้าย คุณทำให้สามีของฉันตาย!”
ระหว่างคิ้วของลั่วหานขมวดหดกลายเป็นปมตายปมหนึ่ง ลมหายใจที่หนักเจ็บปวดทำให้เธอเป็นตะคริวเล็กน้อยทั้งตัว
ใช่…….
ทำไมเธอไม่อยู่โรงพยาบาล ทำไมเธอไม่อยู่โรงพยาบาลหรือ?
ถ้าหากว่าเธอไม่ได้รับปากจะแข่งรถ ถ้าหากว่าเธอไม่ได้บุ่มบ่ามในทันทีนั้น ถ้าหากว่าเธอสามารถกลับไปที่ช่วงเช้าแล้ว บอกกับพวกเขายอมแพ้โดยตรง……..
ถ้าหากว่าเธอมาโรงพยาบาลเร็วหน่อย อยู่ตอนที่คนไข้หัวใจหยุดเต้นกะทันหันครั้งแรกก็ร่วมกันช่วยเหลือชีวิต
ถ้าหากว่า…….
ก็อาจจะไม่เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้อีก
นิ้วของลั่วหานดันหน้าผากไว้อย่างรุนแรง แต่ว่ากดเส้นเลือดเขียวที่กระตุกอย่างบ้าคลั่งไว้ไม่อยู่
ก๊อกก๊อก
เสียงเคาะประตูตัดความคิดของลั่วหาน ลั่วหานไม่ได้ตอบรับ
เสียงของหวาเทียน “หมอฉู่ พวกเราส่งเขาไปที่ห้องดับจิตแล้ว เมื่อกี้ คุณนายหลัวอารมณ์รุนแรงเกินไป เป็นลมไปสักพัก ให้น้ำเกลือฟื้นขึ้นมาแล้ว”
ลั่วหานฟังจนถึงตรงนี้ ตาเมื่อยบวมยิ่งรุนแรง
เสียงหวาเทียนเข้มต่ำพูดเบาๆว่า “อีกอย่างหนึ่ง คุณนายหลัวยืดหยันจะฟ้องร้องคุณ อีกทั้ง…….ตอนนี้มีหลักฐานหนึ่งไม่ดีมากสำหรับคุณ กระจายทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว”
หลังของลั่วหานตึงแน่นอย่างมาก สูดลมหายใจหลายทีจึงไม่ทำให้อารมณ์ของตนเองพังทลาย
“ฉันรู้”
เธอตอบไปประโยคหนึ่ง แต่ว่าไม่ได้เปิดประตู
หวาเทียนมองไปซ้ายขวา บริเวณนั้นไม่มีคน “หัวข้อสร้างกระแสยังไม่ร้อนแรง แต่ว่าขึ้นลงใหญ่มาก ผมคิดว่าน่าจะเป็นคุณหลงกดลงไปอยู่ แต่ว่าก็มีคนตั้งใจอยากจะสร้างกระแสขึ้นมา”
สมองลั่วหานว้าวุ่นมาก ว้าวุ่นจนแบ่งใจที่จะไปคิดปัญหาที่ซับซ้อนมากมายขนาดนั้นไม่ได้
เธอเป็นหมอ รักษาโรคช่วยเหลือคนเป็นหน้าที่เดิมของเธอ แต่ว่าเธอทำอะไรไปล่ะ? ช่วงนี้เธอล้วนทำอะไรอยู่ล่ะ?
ให้ตายสิ!
กลัดกลุ้มกับสำนึกเสียใจดั่งฝ่ามือมารที่มีขนาดใหญ่จับหัวใจของเธอไว้ กดเข้าอย่างรุนแรง จะบีบหัวใจแตกเละแล้ว
“หมอฉู่ ถ้าหากว่าเอะอะก่อกวนจนถึงศาลจริงๆ เรื่องนี้จัดการยากจริงๆ พวกเราได้แค่จากมุมมองการแพทย์บอกอาการของคนไข้ให้กับทนาย ถึงแม้ว่าคุณอยู่ที่นี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่ว่าพวกเรากลัวคณะลูกขุนจะเอียงไปเห็นใจฝั่งคนตายฝ่ายเดียว”
“ไอ้ควย! หวาเทียนคุณพูดอะไรอยู่! คุณไม่รู้หรือตอนนี้ในใจเธอเสียใจทรมานมาก? คุณยังพูดสิ่งเหล่านี้ตั้งใจแหย่เธอ!” หลินซีเหวินเอาแฟ้มเอกสารที่อยู่ในมือ ปุ้งปุ้ง ตีหวาเทียน
หวาเทียนถูกเธอตีจนร้อง อ่าอ่า
“ผมกำลังพูดความจริงกับเธออยู่ สภาพการณ์ในตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้ หลบหนีล้วนไม่มีประโยชน์ พวกเราต้องรีบคิดวิธีก่อนที่ยังไม่กระจายขึ้นมา”
“คุณจะรู้อะไร! ตอนนี้พี่ลั่วที่จะคิดไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ เป็นเพราะว่าเธอช่วยชีวิตคนไข้ไม่ได้ในใจเจ็บปวดทรมาน ซื่อบื้อเอ่ย นี่เป็นคนไข้ของหมอถัง คุณเป็นผู้ชายคนหนึ่งเข้าใจหัวอกของผู้หญิงหรือไม่?”
เรื่องนี้พูดจนหวาเทียนหุบปากแล้วจริงๆ เขาไม่รู้หัวอกของผู้หญิงจริงๆ “คุณก็ใจเย็นหน่อย อย่าเพิ่งตีผมก่อน จะจัดการยังไงหรือ? มีแผนการไหม?”
หลินซีเหวินก็จิตใจหดหู่ด้วยเช่นกัน “โรงพยาบาลมีคนตาย ถึงแม้ว่าไม่ได้เกิดจากการรักษา ก็ล้วนมีคนไข้โยนความผิดให้กับพวกเรา อีกทั้งตอนนี้ คุณคิดว่าจะจัดการง่ายหรือ?”
คำพูดของคนทั้งสองลั่วหานล้วนได้ยินอยู่ในหูไม่พลาดแม้แต่ตัวเดียว ทุกๆคำดั่งเข็มทิ่ม
บริษัทฉู่ซื่อ ในเหตุการณ์ของการประชุมคณะกรรมการ
จี้ตงหมิงมองเห็นเนื้อหาที่อยู่บนมือถือ พิจารณาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ว่าสมควรเข้าไปบอกกับท่านประธานกรรมการในตอนนี้หรือไม่
การประชุมคณะกรรมการที่กำลังดำเนินการอยู่กำลังคุยกันถึงการพัฒนาของชานเมืองหลวง อย่างรุนแรง คณะกรรมการบางส่วนเสนอข้อคิดเห็นต่างกัน ทำให้ข้างในบริษัทเกิดเสียงสองแบบขึ้นมา
“ท่านประธานกรรมการ ท่านเคยพูดออกจากปากเองว่างานในอนาคตของบริษัทฉู่ซื่อเน้นความสำคัญอยู่ที่พัฒนายาทางการแพทย์กับธุรกิจรักษาสิ่งแวดล้อม ตอนนี้เข้าร่วมอสังหาริมทรัพย์อย่างถี่ยิ่ง เกรงว่าวางลำดับความสำคัญสลับกันแล้วล่ะ?”
“กรรมการหวังพูดไม่ผิด พวกเราลงทุนบริหารบริษัทฉู่ซื่อ ก็เป็นเพราะว่ามองเห็นทัศนคติด้านธุรกิจของบริษัทฉู่ซื่อ ไม่ใช่หน่วยดำเนินการลงทุนทั่วไป คือลงมืออย่างแท้จริงที่อยากจะทำโครงการที่มีความหมายต่อสังคม แต่ว่าตอนนี้…….”
“ก่อนเป็นการปรับปรุงของเขตเมืองเก่าเจียงเฉิง เห็นแก่ว่าเป็นการรักษาปกป้องวัตถุโบราณ พวกเราก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าอยู่ในเวลาที่เงินลงทุนของบริษัทฉู่ซื่อคับขัน ขยายพัฒนาตลอดอสังหาริมทรัพย์หยิบ 3 หมื่นล้านออกมาในครั้งเดียว ใช่หรือไม่…….”
กู้เยนเซินเหล่ตาจ้องมองหลายคนที่ออกความคิดเห็น ยิ้มเย็นชา “ทุกคน ให้ผมพูดหน่อย จิตสติของทุกคนล้วนดีมาก ความคิดก็ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ว่าพวกคุณลองคิดดู ถ้าหากว่าบริษัทฉู่ซื่อฐานะไม่รีบมั่นคงตั้งแต่แรก ถูกบริษัทMBK หรือบริษัทอื่นๆกลืนกินแล้ว พวกคุณจะเอาโครงการอะไรมาทำสิ่งที่มีความหมายล่ะ?”
ไป๋เวยพูดต่ออีกว่า “สรรพสิ่งไม่มีพื้นฐาน สรรพสิ่งนั้นก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้? ทุกคนล้วนเป็นอาวุโสของห้างสรรพสินค้าท่าทีที่บริษัทMBK มีต่อบริษัทฉู่ซื่อพวกคุณจะไม่รู้หรือ? พูดได้อีกว่า เงินที่บริษัทฉู่ซื่อลงทุนชานเมืองหลวง พวกคุณเอาตาข้างไหนมองเห็นว่าหยิบออกจากเงินทุนของบริษัทฉู่ซื่อล่ะ?”
เธอพูดจบ ข้างล่างซุบซิบกันขึ้นมา
หลงเซียวนั่งอยู่ที่นั่งของประธานกรรมการ “บริษัทฉู่ซื่อเข้าร่วมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นเพราะว่าจับกุมหางเสือปกป้องธุรกิจอื่น ไม่มีเงินทุนวิจัยทางวิทยาศาสตร์จะต้องสั่งให้หยุด ด้านเภสัชกรรมของบริษัทฉู่ซื่อก็จะไม่คงอยู่ จำนวนตัวเลขสูงที่ทุกท่านมองเห็นเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดของแต่ละอุตสาหกรรมในช่วงสามปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน นอกจากอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่หลายแห่ง คือผู้นำในอุตสาหกรรมอะไรหรือ?”
พวกเขาเงียบไปไม่พูด
เพราะว่าอยู่แถวหน้าทั้งสามลำดับล้วนเป็นอสังหาริมทรัพย์ ลำดับแรกเป็นบริษัทMBKเหมือนเดิม
การประชุมยังต่อเนื่องกันอยู่ จี้ตงหมิงเบรกไม่อยู่เล็กน้อยแล้ว เขาผลักประตูเข้าไป ก้มตัวกระซิบอยู่ข้างหูหลงเซียวพูดไปประโยคหนึ่ง
สีหน้าหลงเซียวแปรเปลี่ยนอย่างมาก!
“ทำไมเพิ่งพูดในตอนนี้ล่ะ?”
จี้ตงหมิงหน้าขมอย่างลำบากใจ “การประชุมเปิดมาถึงอย่างนี้ เถ้าแก่คุณคงไม่ไปตอนนี้มั้ง?”
หลงเซียวออกจากที่นั่ง “ทุกคน การประชุมในวันนี้จบเพียงแค่นี้ เนื้อหาต่อไปนี้ผมจะคุยรายละเอียดกับทุกคนอีก”
กู้เยนเซินสายตามึนงงส่งหลงเซียวออกจากห้องประชุม “ไอ้ควยเกิดเรื่องอะไรอีกแล้วหรือ? เพิ่งพักผ่อนไม่กี่วัน”
ไป๋เวยประกาศหยุดการประชุม ปลอบใจกรรมการที่มีความคิดเห็นต่างกันกว่าหลายคน
เลิกประชุมแล้ว กู้เยนเซินพบเห็นว่า WeChat ระเบิดแล้ว
“ไป๋เวย เกิดเรื่องจริงๆแล้ว”
“ไม่น่าล่ะสีหน้าของท่านประธานกรรมการเมื่อกี้แย่ขนาดนั้น เขาไม่ฆ่าคนก็ถือว่าดีแล้ว” ไป๋เวยหาเวลาว่างดูข่าว หลังจากดูเสร็จล้วนรู้สึกไม่ดีทั้งตัวเลย
กู้เยนเซินจ้องมองข่าวการแข่งรถ “อีเหี้ยยยยย! หมอฉู่ความสามารถน่าทึ่งจริงๆ! การปล่อยเงินกู้ให้ลงทุน! ช่วยคน! แก้แค้นคนเลว คิดไม่ถึงว่ายังแข่งรถเป็น เธอยังมีอะไรไม่เป็นหรือ! ความสามารถครบทุกด้านล่ะ!ไอ้ควย ผู้หญิงแบบนี้ยังต้องการผู้ชายอยู่หรือ?”
ไป๋เวยเหล่ตามองเขา “ฉันให้พวกเขาทำการประชาสัมพันธ์เร่งด่วนหน่อย สิ่งเหล่านี้ต้องกดทับลงไป”
ตาของกู้เยนเซินกระตุกขึ้นมา “คุณก็ให้พวกเขาลบรูปถ่ายที่หมอฉู่ ถูกญาติคนไข้กระชากก่อนเถอะ ผมกลัวว่าคุณชายหลงจะระเบิดโรงพยาบาลหวาเซี่ยไปเลย”
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
การมาของหลงเซียวทำให้ระเบียงทางเดินเดิมทีที่ถูกเคลียร์สถานการณ์แล้วครึกครื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกครั้ง หมอพยาบาลกับคนไข้ล้วนออกมารุมล้อมมองดู แม้ว่าได้แค่มองเห็นหลงเซียวเดินหนึ่งทีก็รู้สึกว่าได้รับมากมายแล้ว!
หลงเซียวลุกขึ้นแสดงความทะเยอทะยานมากขึ้นโดยใช้ย่างก้าวที่ใหญ่ที่สุดเดินไปยังออฟฟิศของลั่วหาน เริ่มจากออกจากบริษัทไปถึงโรงพยาบาล เขาใช้เวลาเพียงแค่สิบห้านาที
หวาเทียนกับหลินซีเหวินมองเห็นหลงเซียวเข้ามา ต่างคนต่างปิดปาก ทั้งสองคนถอยหลังหนึ่งก้าว
“เธอล่ะ?”
เสียงของหลงเซียวตึงแน่น เพราะว่ากังวลเสียงแหบเล็กน้อย
“อยู่ข้างในล่ะ แต่ว่าพวกเราพูดไปสักพักแล้วเธอไม่ยอมเปิดประตู” หลินซีเหวินตอบกลับเสียงเบา
มือใหญ่ของหลงเซียวบิดลูกบิดประตูอย่างรุนแรง แต่ว่าไม่มีผล “มีกุญแจสำรองไหม?”
“อ่า? กุญแจหรือ? ฉันจะไปแผนกรักษาความปลอดภัยหยิบกุญแจ น่าจะมีนะ” หลินซีเหวินไม่กล้าจ้องมองหลงเซียว ยกเท้าก็วิ่งไป
ลั่วหานได้ยินเสียงของหลงเซียว อารมณ์ที่พยายามควบคุมไว้แล้วพังทลายในทันที อยากพึ่งพาเขาตามนิสัย อยากจะแสดงความอ่อนโยนกับเขา โผล่อีกหน้าหนึ่งที่หมดหนทางออกมา
เช็ดหน้าเช็ดแล้วเช็ดอีกอย่างมั่วๆ กลัวถูกเขามองเห็นน้ำตาของตนเอง จากนั้นเตรียมตัวที่จะเปิดประตู ตอนเวลาหมุนตัวไม่ทันระมัดระวัง แก้วน้ำที่อยู่ข้างโต๊ะถูกเธอ “ปั้ง” จนคว่ำแล้ว
“เพี้ยง!” แก้วน้ำที่ยังมีน้ำครึ่งแก้วตกอยู่บนพื้นแตกกระจาย!
ได้ยินการเคลื่อนไหวข้างใน ตาของหวาเทียนตรงแล้ว!
ไม่ใช่มั้ง ไม่ใช่มั้ง หมอฉู่คงไม่ทำร้ายตนเองหรอกมั้ง?
กล้ามเนื้อบนใบหน้าหลงเซียวหดเข้าอย่างรุนแรง “ลั่วลั่ว!”
ลั่วหานตกใจจนไม่ทันมีปฏิกิริยา เศษแก้วที่เต็มพื้นทำให้เธอสมองว่างเปล่าในทันที
เห็นไม่มีคนตอบรับ หลงเซียวใจร้อนดั่งไฟเผา หางตาเหล่มองสองข้าง ถอยไปยังข้างหลังสองก้าว ต่อจากนั้นออกแรงช่วยแรงหนึ่ง ขาข้างขวาเล็งโฟกัสประตูจุดหนึ่ง——
“โป้ง!”
เขายกเท้าถีบอย่างรุนแรงหนึ่งที ประตูถูกถีบออกทั้งบาน
หวาเทียน “…….”
หมอพยาบาลที่มองอยู่ข้างๆ“……”
ฟ้าของผม! ดินของผม!
ปู่ของผม!
หลงเซียวบุกเข้าไปในออฟฟิศ ใบหน้าที่ราวกับมีน้ำแข็งตกสะเก็ดอยู่ดีๆ ปรากฏรูม่านตาของเธอออกมา
ลั่วหานอึ้งเลย “คุณ……..”
หลงเซียวปล่อยแรงออกทันที “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“อ่า?”
ลั่วหานยืนอยู่ในเศษแก้ว ไม่ได้พูด
หลงเซียว “……..”
“ฉัน…….ไม่ทันระวังทำให้แก้วน้ำตกแตกเลย เมื่อกี้อยากไปเปิดประตูให้คุณ แต่ว่าไม่ทัน” ลั่วหานต่อเหตุการณ์คืบหน้าต่อไปนั้นตื่นตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
หลงเซียวหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ก็ไม่ออก “คุณไม่เป็นไรก็ดี ไม่เป็นอะไรก็ดี”
ขอบตาของลั่วหานแดงขึ้น ขอบตาที่เปียกดูเหมือนจะหลั่งน้ำตาออกมาอีก “หลงเซียว ฉันก่อเรื่องแล้ว”
หลงเซียวกอดเธอไว้ในอ้อมอก ปลอบใจอย่างเบาๆ “ไม่เป็นไร ผมช่วยคุณจัดการ”
“คนไข้ของฉันตายแล้ว…….” น้ำตาที่ลั่วหานอดกลั้นจนถึงตอนนี้ ในที่สุดก็กลั้นไม่ไหวแล้ว ติ๊งติ๊ง ตกอยู่หน้าอกของเขา เหมือนเด็กคนหนึ่งที่ทำผิดแล้วไม่รู้จะทำยังไง
หลงเซียวเจ็บใจจนหายใจไม่ออก “ไม่ต้องกลัว ผมอยู่ที่นี่ จะไม่เป็นอะไร อย่าร้องไห้ ภรรยาจ๋า” ทันทีที่เธอร้องไห้ ถึงแม้ว่าหัวใจเขาเป็นเหล็กกล้าก็ละลายแล้วเช่นกัน
“กุญแจ!”
หลินซีเหวินหยิบกุญแจวิ่งกลับมาอีกครั้ง ผลสุดท้ายเห็นประตูของออฟฟิศถูกเปิดออกแล้ว ทั้งสองคนกำลังกอดกันอยู่……
หลินซีเหวินยกกุญแจไว้อยู่ ไม่ขึ้นไม่ลงนิ่งอยู่กลางอากาศ “เหตุการณ์…….อะไรหรือ?”
หวาเทียนกระแอม “น่าจะไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ”
หลินซีเหวินกลืนน้ำลาย “ท่านเซียวถีบประตูออกแล้วหรือ?”
“อืม…….”
“…….ไอ้ควย manมากล่ะ!”
ลั่วหานฟื้นฟูความสงบ ลุกขึ้นจากอ้อมอกของเขา “ข่าวคุณเห็นแล้วหรือ?”
“มองไปหน้าหนึ่ง ยังไม่ทันตั้งใจดู” ขับอย่างรวดเร็วตลอดทาง ไม่สามารถดูมือถือ
“ฉันแข่งรถกับคน พลาดเวลาการรักษาที่ดีที่สุด การตายของคนไข้คนนี้ ฉันมีความรับผิดชอบที่ปัดไม่ออก” ลั่วหานยิ้มขมหดหู่
เป็นหมอหลายปีขนาดนี้ ครั้งแรกเพราะว่าตัวเองผิดพลาดในหน้าที่ทำให้คนไข้ตาย ลั่วหานไม่รู้ว่าจะผ่านด่านอันนี้ได้ยังไง
แม้กระทั่งเธอรู้สึกว่า “ฉันน่าจะผ่านด่านนี้ไม่ได้แล้วล่ะ”