ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 820
ตอนที่ 820 จะไม่ให้คุณได้รับความไม่เป็นธรรม
“อาการทั้งหมดผมไม่เข้าใจ แต่ว่าภรรยาของผม ผมต้องช่วยอย่างแน่นอน ไม่ว่าเป็นความรับผิดชอบของคุณหรือไม่ ผมล้วนจะทำให้คุณรอดให้ได้”
หลงเซียวเช็ดน้ำตาที่อยู่หางตาของเธอออก แต่น้ำตาของเธอกลับยิ่งเช็ดยิ่งเยอะ ไม่ว่าเช็ดยังไงก็เช็ดไม่หมด
คิ้วกระบี่ขมวดขึ้นมา หลงเซียวประคองคางของเธอคุกคาม “ลั่วลั่วถ้าคุณร้องไห้อีก ผมก็จะจูบคุณต่อหน้าเพื่อนร่วมงานของคุณคนไข้ของคุณแล้ว”
“คุณกล้า!”
ลั่วหานไม่ยอมถูกสามีจูบอยู่ต่อหน้าพวกเขา บังคับเบรกให้หยุด
หลงเซียวกลับยิ้มแล้ว “วิธีนี้ใช้ดีจริงๆ”
ลั่วหานอารมณ์ไม่ดีเหล่ตามองเขา “คุณไม่ไปหรือ?”
“จะไปก็ต้องไปด้วยกัน ปล่อยให้คุณอยู่ต่อ รอผมไปแล้วเตรียมตัวที่จะร้องไห้ต่อหรือ?” หลงเซียวจับผมที่ติดอยู่บนใบหน้าของเธอไว้ให้ดีๆทีละเส้น ใบหน้านี้ร้องไห้จนใกล้จะบวมแล้ว
ลั่วหาน ฮึ เสียงหนึ่ง “คุณคิดมากแล้ว ฉันไม่ร้องไห้อีก”
เธอไม่ร้องไห้อีกจริงๆ เพียงแค่เขาไม่อยู่ข้างกายเธอก็จะไม่ร้องไห้อีก เพียงแค่เห็นเขาก็ไม่ไหวแล้ว
“ไม่ต้องฝืนใจอีกเลย ผมพาคุณไป” หลงเซียวไม่สนใจอะไรดึงมือของเธอก็ไปเลย ไม่สนใจสายตาที่อยู่ข้างหลังสักนิดอยู่ท่ามกลางเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงพาลั่วหานไป
“รอสักครู่ จะต้องบอกกับคณบดีก่อน เรื่องเอะอะก่อกวนถึงขนาดนี้ คณบดีจะลำบากใจมาก”
“ผมจะโทรหาเขา แต่ว่าผมจะไม่ปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวต่อแน่นอน”
“ฉันไม่เป็นไร อย่างน้อยก็เป็นหมอ สิทธิมนุษยชนก็ยังมีอยู่” ในปากของลั่วหานอธิบายอย่างนี้ แต่ควบคุมจังหวะที่ก้าวใหญ่จองเขาไม่อยู่สักนิด
“สิทธิมนุษยชนหรือ?”
นึกถึงว่ามองเห็นรูปถ่ายที่เธอถูกกระชากอยู่บนข่าว ใจของหลงเซียวที่อยากจะฆ่าคนล้วนมีแล้ว เธอกลับกลายเป็นยังพูดกับเขาว่าสิทธิมนุษยชนอะไร!
คณบดีย่างก้าวอย่างเร่งด่วนวิ่งมาพอดี “ลั่วหาน!”
มองเห็นหลงเซียวก็อยู่ด้วย คณบดีเฉินลดย่างก้าวช้าลง “คุณหลง คุณก็อยู่ด้วยหรือ”
หลงเซียวพยักหน้า “ผมล้วนได้ยินหมดแล้ว ตอนนี้ภรรยาของผมไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นี่ ผมพาเธอกลับบ้านก่อน สำหรับต่อจากนี้ ทนายของผมจะเข้ามาคุยเอง”
คณบดีเฉินจะกล้าต่อต้านที่ไหนล่ะ อึกๆอักๆ “ได้…….นั้น…….ผมมาจัดการฝั่งนี้ แต่ว่า ทางโรงพยาบาลจะเรียกประชุมด้านประชาสัมพันธ์ เป็นผู้ต้องหาในเรื่องนี้ เกรงว่าลั่วหานน่าจะต้อง …….”
“ฉันจะไปประชุม” ลั่วหานคิดไปคิดมา ทิ้งทุกอย่างไปเลยไม่ได้ เธอไปแล้ว หน้าที่ความรับผิดชอบก็ต้องตกอยู่กับโรงพยาบาล คณบดีเฉินเพิ่งเกิดเรื่องไม่สบายใจกับหลงถิงมา ไม่เหมาะที่จะเกิดเรื่องอีก
คณบดีเฉินซาบซึ้งจนเกือบจะร้องไห้
แต่ใบหน้าของหลงเซียวหน้าบึ้งจนดูแย่มาก “ลั่วลั่ว?”
“แป๊บเดียวเองฉันก็เสร็จ คุณไปรอฉันอยู่ในรถ”
ลั่วหานไปห้องประชุมกับคณบดีเฉิน หลงเซียวถูกเธอทิ้งอย่างเด็ดเดี่ยว
หลินซีเหวินกับหวาเทียนจ้องหน้ากันอีก วีรบุรุษช่วยเหลือสาวงามคิดไม่ถึงว่ายังสามารถเจอกับคนแย่งกลางทาง?
หลงเซียวติดตามอยู่ข้างหลัง ก็ไปที่ห้องประชุมด้วย
คณบดีเฉินหันหน้ามองเห็นหลงเซียวตามมา คำพูดล้วนพูดไม่เป็นคำแล้ว “ลั่วหาน ถ้าไม่……..คุณกลับไปก่อนดีกว่า”
เขาตามอยู่ การประชุมนี้จะเปิดได้ยังไงล่ะ? ใครจะกล้าพูดความจริงหรือ?
ลั่วหานได้แค่ฝืนใจ “ไม่เป็นไร ให้เขาอยู่นอกห้องประชุม”
คณบดีเฉิน “……..”
เมื่อกี้เป็นใครบอกว่าหลงเซียวเตะประตูออกหรือ?
——
บริษัทMBK ออฟฟิศประธานกรรมการ
ดูข่าวจบ หลงถิงหัวเราะเย็นชา เหอะๆ ดื่มน้ำหลายคำ เงยหน้ามองไปยังเหลียงจ้งซุน “ฉู่ลั่วหานคนนี้ สู้กับผม! เธอยังอ่อนเกินไป !”
เหลียงจ้งซุนยกนิ้วโป้งขึ้น “วิธีนี้ของท่านประธานกรรมการเก่งมาก ทำร้ายชื่อเสียงของฉู่ลั่วหานโดยตรง จากนั้นเตะเธอออกจากวงการการแพทย์! ศัลยแพทย์ดังอย่างเธอคนนี้ ดูแล้วคือทำจนเบื่อแล้ว”
หลงถิงยิ้มเยาะเย้ยอย่างดูหมิ่น “เธอหรือ? หมอดังหรือ? ล้วนเป็นคนที่อยู่ข้างนอกไม่มีความรู้กลุ่มหนึ่งสร้างกระแสขึ้นมา ผมไม่เคยยอมรับนะ!”
นึกถึงลั่วหานที่มองอาการของเขาทะลุ ไฟโมโหของหลงถิงก็พุ่งจากใจขึ้นถึงสมอง!
ฉู่ลั่วหาน ฉู่ลั่วหาน!
“แต่ว่า…….การแข่งรถ…….” เหลียงจ้งซุนไม่กล้าพูดตามตรงเกินไป
ตาดำของหลงถิงโหดเหี้ยมกวาดไปหนึ่งที “จะพูดว่ารู้จักฉู่ลั่วหานดี ยังต้องเป็นคนรักเก่าของเธอตู้หลิงเซวียน การแข่งรถเป็นการวางแผนของเขาเอง”
เหลียงจ้งซุนอึ้งแล้วอึ้งอีก “เขาวางแผนหรือ?”
“อืม”
โรงแรมฮิลตัน
ผู้ช่วยจัดกระเป๋าทั้งหมดของตู้หลิงเซวียนให้ดี พูดกับตู้หลิงเซวียนที่กำลังผูกเนกไทหันหน้าไปยังหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศส “ท่านประธานกรรมการ จัดเสร็จแล้ว ไปสนามบินตอนนี้ไหม?”
ตู้หลิงเซวียนดึงมุมปากหนึ่งทีอย่างซึมเศร้า “ยังตัดใจไม่ลงเล็กน้อยที่จะไปจริงๆ ที่นี่ละครดีๆต่อเนื่องกัน พลาดไปตอนหนึ่งจะเสียดายมากขนาดไหน”
ผู้ช่วยยิ้ม “สิ่งที่ท่านประธานกรรมการพูดก็คือเรื่องที่ฉู่ลั่วหานทำให้คนตายหรือ? ตอนนี้ดังทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว ที่ฉู่ลั่วหานแข่งรถ……”
“หุบปาก!”
อยู่ดีๆตู้หลิงเซวียนโมโหดุตัดคำพูดของผู้ช่วย
“ฉู่ลั่วหานสามคำนี้คุณจะเรียกได้หรือ?”
ผู้ช่วยรีบก้มหัวยอมรับผิด “ขอโทษท่านประธานกรรมการ”
ตู้หลิงเซวียนพับแขนเสื้ออย่างประณีตให้ดีๆ ปรากฏกระดุมเพชรดำ “แอนน่าในครั้งนี้ เกรงว่าจะปัดไม่สะอาดแล้ว”
“เกี่ยวกับการแข่งรถ……ท่านประธานกรรมการไม่รู้สึกมีพิรุธหรือ? จะบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไงหรือ?” ผู้ช่วยซุบซิบในใจ
“มีพิรุธหรือ? บังเอิญเท่านั้น”
จัดการแขนเสื้อทั้งสองให้ดีๆ ตู้หลิงเซวียนหมุนตัว
“เตรียมรถ ไปสนามบิน”
ละครฉากนี้ ก็ยังเป็นดูไฟจากฝั่งโน้นดีกว่า
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
คณบดีเฉินดันแว่นตาต่อกันสองครั้ง แต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลที่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญให้
“พูดแบบนี้…….เป็นหมอฉู่ออกมาไม่ทันจริงๆ ทำให้คนไข้พลาดเวลาการรักษาที่ดีที่สุด”
คนของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมหัวใจพยักหน้าอย่างเจ็บปวดใจเหลือเกิน “คณบดี ผลที่พวกเราสืบได้ก็เป็นเช่นนี้”
ใครก็ไม่ยอมรับ แต่ใครก็ไม่สามารถปฏิเสธเช่นกัน
คณบดีเฉินถือโอกาสถอดแว่นตาออก เขาแม้กระทั่งไม่กล้ามองลั่วหาน “อย่างงั้น……..ถ้าหากเอะอะก่อกวนถึงศาล หมอฉู่ก็จะพ่ายแพ้หรือ?”
ห้องประชุมเงียบสนิทจนสามารถได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออก
ลั่วหานหลับตาลง และลืมตาอีก “คณบดี รองคณบดี ผู้อำนวยการ ครั้งนี้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของฉัน ฉันจะไม่ผลักความรับผิดชอบ ฉันจะแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล”
คณบดีเฉินสวมใส่แว่นตาขึ้นไปอีก “อย่าเหลวไหล คุณเป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาล เกิดเรื่องแล้ว พวกเราจะต้องก้าวถอยพร้อมกัน”
เขาจ้องมองไปยังตัวแทนทางกฎหมายของโรงพยาบาล “มีวิธีลดผลกระทบลงหรือไม่? หรือว่า…….จบแบบส่วนตัวล่ะ?”
ลั่วหานลืมรูม่านตาขึ้น
ทนายพูดว่า “จบแบบส่วนตัวย่อมดีที่สุดอยู่แล้ว แต่เวลาเดียวกันที่เลือกจบแบบส่วนตัวก็เท่ากับยอมรับว่าเป็นความผิดของพวกเรา อีกทั้งผมเคยคุยกับ คุณนายหลัวอารมณ์ของเธอรุนแรงมาก ยืนหยัดจะฟ้องร้อง ไม่มีห้องสำหรับการเจรจาใดๆ”
ไฟดวงน้อยๆของคณบดีเฉินที่เพิ่งจุดขึ้นมาดับอีกแล้ว “แต่ว่า…….ให้หมอฉู่ไปขึ้นศาล ถ้าแพ้คดีละก็ อาชีพมืออาชีพของเธอก็…….จบลงแล้ว”
ห้องประชุมตกเข้าสู่ความเงียบสนิทอีกครั้ง
ลั่วหานเจ็บใจจนไร้คำอธิบาย เธอจ้องมองมือของตนเองหนึ่งที หลายปีที่ผ่านมา มือคู่นี้ล้วนเขียนประวัติคนไข้ ออกใบสั่งยา จับมีดผ่าตัดอยู่
ลั่วหานไม่สามารถจินตนาการได้ ออกจากเตียงผ่าตัดจะหมายความว่าอะไร ออกจากโรงพยาบาล เธอยังทำอะไรได้อีกหรือ?
หลงเซียวรอไปครึ่งชั่วโมง ประตูของห้องประชุมปิดมิดชิดเหมือนเดิม
เขาจ้องมองนาฬิกาข้อมือหลายร้อยครั้งแล้ว นิ้วมือกดเส้นเลือดเขียวที่กระตุกอยู่ไว้
มือถือดังขึ้นแล้ว เป็นกู้เยนเซินโทรมา
“คุณชายหลง ทำการประชาสัมพันธ์ฉุกเฉินไปแล้ว แต่ว่าข่าวออกมาแล้ว ตอนนี้จะปิดไว้กลับยิ่งปิดยิ่งฉาวโฉ่ สื่อมวลชนบางที่ตั้งแต่แรกก็รายงานข่าวการแข่งรถอย่างกระตือรือร้น”
หลงเซียวบีบอัดคิ้วกระบี่ “ก่อนเวลานานเท่าไหร่หรือ?”
“ใกล้เคียงกับที่หมอฉู่ใกล้จะจบการแข่งรถ นักข่าวเหล่านี้ความเร็วในการจับข่าวเร็วเกินไปแล้วจริงๆ” กู้เยนเซินเหมือนดั่งได้กลิ่นไฟระเบิด
“เส้นทางช่วงนั้นมีคนน้อยมาก นักข่าวรู้ว่ามีการแข่งรถอย่างแม่นยำขนาดนี้ได้ยังไงหรือ?” หลงเซียวจับจุดสำคัญของปัญหาได้
กู้เยนเซินก็อึ้งไปด้วย “ผมทำไมนึกไม่ถึงเรื่องนี้ล่ะ? ใช่สิ นักข่าวจะรู้ได้ยังไงหรือ? ดังนั้นพูดได้ว่า คุณชายหลงคุณกำลังสงสัยอะไรอยู่หรือ?”
หลงเซียวพูดไปคำหนึ่งอย่างเย็นชา “ฝีมือคน”
“ฝีมือคนหรือ? การแข่งรถเป็นฝีมือคนหรือ? ไม่ใช่สิ คนที่แข่งรถกับหมอฉู่ผมหาเจอแล้ว พวกเขาก็แค่อยากจะประลองกับหมอฉู่เท่านั้น ไม่มีใครสั่งให้ทำนะ”
“ไม่มีหรือ? พวกเขารู้ว่าลั่วหานแข่งรถเป็นได้ยังไงหรือ? จะดักอยู่ระหว่างทางบังเอิญที่ลั่วหานจะไปทำงานได้ยังไงหรือ? ไม่ช้าไม่เร็ว เส้นทางก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนใดๆด้วย คุณรู้สึกว่าจะบังเอิญหรือ?” หลงเซียวโยนระเบิดระดับรุนแรงลูกหนึ่งออกมาอีก
ดังนั้นกู้เยนเซินถูกระเบิดจนมึนงงเลย “คิดให้ละเอียดน่ากลัวเหลือเกินล่ะ! มีคนตั้งใจทำร้ายจริงๆหรือ? ผมไปถามอีก!”
“ถามพวกเขาตกลงรู้ได้ยังไง สามารถถามละเอียดขนาดไหนก็ละเอียดขนาดนั้น” น้ำเสียงของหลงเซียวหงุดหงิดแล้ว
เขาจ้องมองนาฬิกาอีกครั้ง หากว่าลั่วหานไม่ออกมา เขาไม่รับรองว่าจะบุกเข้าไปหรือไม่
“ได้! ผมไปสืบ! แต่ว่าคุณชายหลงคุณอยู่ที่ไหนหรือ? คุณทิ้งพวกคณะกรรมการไว้แล้วออกไปเลย คนกลุ่มนี้จะกลืนกินคุณสดๆแล้ว!”
หลงเซียวเดินใกล้ประตูห้องประชุมอีกก้าว “บอกกับพวกเขา กินเนื้อคนดิบๆมีเชื้อไวรัส”
“อ่า?”
อยู่ตรงที่หลงเซียวใกล้จะทนไม่ไหวเกือบบุกรุกเข้าไป ประตูของห้องประชุมเปิดออกแล้ว คณบดีเฉินนำหน้า คนใส่เสื้อกาวน์เดินออกมากลุ่มหนึ่ง มองเห็นหลงเซียวยังอยู่ ทุกคนต่างคนต่างพยักหน้าทักทาย
หลงเซียวขี้เกียจสนใจ
คนที่ออกมาคนสุดท้ายจึงเป็นลั่วหาน
วิญญาณเธอล่องลอยไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเนื้อหาการประชุมเมื่อกี้ไม่ค่อยดีต่อเธอ
“ลั่วลั่ว”
ลั่วหานเงยหน้าขึ้น “ฉันไม่เป็นไร คดีเกรงว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว หลงเซียว…….” เธอยิ้มหนึ่งที ยิ้มอย่างบังคับมาก สีหน้าเกร็งๆ
“เป็นยังไงแล้วหรือ?”
“ถ้าหากว่าฉันตกงานแล้ว คุณจะ……คุณจะ ……รังเกียจฉันหรือไม่?” ลั่วหานหัวเราะขม ฮ่าฮ่า พูด
“ไม่”
ลั่วหานปากแบน บอกความคิดที่แย่ที่สุดออกมา “ถ้าหากเพราะว่าฉันผิดพลาดในหน้าที่จะต้องติดคุก คุณจะแยกกันกับฉันหรือไม่?”
“ไม่”
เขาอยากจะปิดปากที่พูดเหลวไหลมั่วซั่วของเธอจริงๆ!
ลั่วหานผิดหวังอย่างมากเหมือนเดิม “ดูแล้วครั้งนี้ฉันต้องติดคุกแล้วจริงๆ”
“ผมบอกว่า ไม่เป็น” เขาเกาะแขนของเธอไว้ กอดเธอ “คุณจะไม่ตกงาน ยิ่งจะไม่ติดคุก”
อเมริกา นิวยอร์ก
เจิ้งซิ่วหยากัดนิ้วมือ ใจไม่สงบรอสายอีก
เสียงมือถือดังขึ้นสองรอบ ในที่สุดก็ติดแล้ว
“จวงหยู่สืบได้หรือยัง? เงินกดออกมาจากที่ไหนหรือ?”
ฝั่งโน้นจวงหยู่เหนื่อยจนเป็นหมา หาวไปเรื่อยๆ “พี่ใหญ่ คุณหยุดสักพักได้หรือไม่? คืนหนึ่งโทรมาร้อยกว่าสาย แม่มึงเอ่ย ตีสองผมยังอยู่ในห้องเครื่อง ผมก็มึนเมาเช่นกันแล้ว!”
“ได้ได้ได้ คุณลำบากแล้ว เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวคุณ! มีความคืบหน้าอะไรหรือ?” เจิ้งซิ่วหยายืนอยู่ระเบียง ไม่กล้าทำให้ถังจิ้นเหยียนที่นอนหลับสนิทตกใจตื่น
จวงหยู่ตอบเธอ “สืบได้แล้ว เงินไม่ได้รับจากนิวยอร์ก มาจากธนาคารที่อยู่ลาสเวกัสแห่งหนึ่ง ปัจจุบันนี้พวกเรากำลังสืบหาผู้ถอนเงินอยู่”
“ลาสเวกัสหรือ?”
“อืม ถอนออกจากธนาคารนะ ไม่งั้นคุณคิดว่าเงินมากมายขนาดนี้ตู้กดเงินสามารถคายออกมาหมดในครั้งเดียวหรือ?”จวงหยู่ง่วงนอนจนทรมาน น้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“ให้คายออกอีกหลายครั้งก็ได้แล้ว!” เจิ้งซิ่วหยาก็อารมณ์ไม่ดีเช่นกัน
“คุณผู้หญิง คุณคิดว่า ATM เป็นหญิงตั้งครรภ์หรือ? คายออกมาอีกหลายครั้งหรือ?”จวงหยู่หาวอีกครั้งหนึ่ง
“รีบทำเถอะ อย่าตีฝีปากเลย!” เจิ้งซิ่วหยาก็ง่วงแล้วเช่นกัน อดไม่ได้แล้วจริงๆ
จวงหยู่อยู่ดีๆตื่นเต้นดีอกดีใจแล้ว “น้องสาว! เรียกพี่สักคำสิ!”
“ไปตายซะ!”
“คุณดูคุณสิ! ผมสืบได้แล้ว ยี่สิบวันก่อน……รอสักครู่ มองเห็นกล้องวงจรปิดแล้ว เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ผมให้พวกเขาดึงกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นออกมาหมด”
เจิ้งซิ่วหยาก็ตื่นเต้นดีอกดีใจขึ้นมาเช่นกัน “ใครหรือ? สามารถมองเห็นหน้าได้หรือเปล่า?”
“มองไม่ชัด มีผ้าปิดปาก คุณรอสักครู่ ผมไปถามดูผลการจับเทียบลายนิ้วมือได้หรือยัง”
“ดี! รีบหน่อย