ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 831
ตอนที่ 831 นั่งดีๆ อย่าตกใจจนล้มลงกับพื้น
เมื่องานเฉลิมฉลองดำเนิน ไปได้ครึ่งทาง หลงเซียวและลั่วหานก็ออกจากงานไปชั่วคราว แอนดี้และไป๋เวยอยู่คุมบรรยากาศในงาน ทุกคนในงานยังคงเฉลิมฉลองกันอย่างเมามันจนลืมภาพลักษณ์ของตัวเอง
ระหว่างทางกลับไปที่บ้านตระกูลหลง
ลั่วหานกล่าวอย่างไม่สบายใจเล็กน้อยว่า “แม่กำลังเตรียมตัวสร้างเรื่องขึ้นมาว่าความจำเสื่อม เพื่อให้หลงถิงเลิกกังวลสักที คุณคิดว่ามันจะได้ผลไหม? ”
หลงเซียวส่งรอยยิ้มปลอบใจให้เธอ “แม่กำลังทำตามแผน ดูเหมือนว่าเธอคิดว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ไม่ต้องกังวลนะ แม่อยู่กับหลงถิงมาหลายสิบปีแล้ว ไม่ว่าหลงถิงจะแสร้งเก่งขนาดไหน ก็คงหนีไม่พ้นสายตาเธอหรอก”
ลั่วหานยังคงกังวลใจ เธอถอนหายใจออกเบาๆ “ฉันหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี และโจมตีให้หลงถิงล้มลงในที่สุดให้ได้! ”
หลงเซียวยิ้มออกมาทันที “คนไข้ที่คุณรับมา เป็นฝีมือของหลงถิง”
“อะไรนะ? ” ลั่วหานไม่ได้เตรียมตัวสำหรับการรับรู้เรื่องนี้ และเมื่อเธอได้รู้ความจริงอย่างกะทันหันเธอก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที”ให้ตายเถอะ เขาทำทุกอย่างเมื่อมีโอกาสจริงๆ เลย! เจอหลักฐานหรือยัง?”
“เจอแล้ว ผมพบว่ามีเงินจำนวนหนึ่งโอนไปยังบัญชีคุณนายหลัว เหลียงจ้งซุนเป็นคนโอนเงินไป คนที่อยู่เบื้องหลังคือหลงถิง แต่เรื่องนี้ยังไม่เพียงพอที่จะล้มเขาลงมาได้”
ลั่วหานเข้าใจเขา “เรามองข้ามอำนาจของหลงเซียวในเมืองหลวงไม่ได้ แต่เรื่องนี้จะว่าเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็กก็ได้ และมันอาจเป็นโอกาสที่ดี อยู่ที่ว่าจะใช้มันยังไง”
ดวงตาที่เยือกเย็นนั้นมองออกไปที่วิวยามค่ำคืนนอกหน้าต่าง ลั่วหานกัดฟันด้วยความโกรธแค้น หลงถิง…..ไอ้เลว!
“ใช่ นี่เป็นโอกาสของเรา ต่อไปพวกเรายังต้องรวบรวมหลักฐานการก่ออาชญากรรมของเขาอีก ถ้าครั้งนี้เราไม่สามารถล้มเขาได้ เขารู้ตัวแล้วรู้สึกว่ามันเริ่มมีปัญหาเยอะขึ้นมา เขาอาจจะโจมตีบริษัทฉู่ซื่อโดยตรง อีกอย่างแพะรับบาปของหลงถิงมีไม่น้อยเลย ถ้าเราเร่งบีบบังคับมากเกินไป คนที่ตายก็เป็นคนที่ไม่ได้ทำผิด แต่ว่าปล่อยไปเลยก็ไม่ได้”
ลั่วหานนึกถึงผู้คนที่เสียชีวิตเพราะเป็นแพะรับบาปให้กับเขาถูกเขาใส่ร้ายในอดีต เธอก็เอามือจับที่หน้าผากอย่างเศร้าหมอง “ฉันอยากบีบคอเขาให้ตายไปเลยจริงๆ!”
เมื่อถึงบ้านตระกูลหลง รถเพิ่งจอดเสร็จแม่บ้านก็รีบวิ่งมาอย่างเร่งรีบ
“คุณชายใหญ่ คุณหญิงคะ ทุกคนอยู่ข้างในกันหมดเลยค่ะ พวกคุณรีบเข้าไปดูเถอะค่ะ ”
ทั้งสองรีบเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ หลงจื๋อกำลังเดินวนไปมาอย่างร้อนรน ทันทีที่เห็นพี่ใหญ่ราวกับว่าได้คว้าฟางช่วยชีวิตไว้ซะแล้ว
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ครับ พวกคุณมาแล้ว! หมอกำลังตรวจอาการของแม่อยู่ข้างในครับ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ก็ดูเหมือนว่าแม่จะจำอะไรไม่ได้เลย”
เมื่อฟังน้ำเสียงแล้ว หลงจื๋อดูเหมือนจะร้องไห้
สีหน้าของหลงเซียวเองดูกังวลมากเช่นกัน “ฉันเข้าไปดูหน่อย”
ลั่วหานตบไปที่ไหล่หลงเจ๋อ “เสี่ยวจื๋อ อย่าเพิ่งกังวลไปเลย สุขภาพของแม่ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรค อย่าทำตัวเหมือนเด็กสิ ร้องไห้ทำไมกัน?”
หลงจื๋อเบะปากขึ้นมา ตอนแรกเขาไม่อยากร้องไห้ แต่เมื่อเจอคนในครอบครัว เขาเกือบจะร้องไห้ออกมาจริงๆ ด้วย
ร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาก้มลงมาและกอดไปที่ไหล่ของลั่วหาน “พี่สะใภ้ครับ คุณแม่จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ? ”
เมื่อถูกเขากอดมาแบบนี้ ลั่วหานรู้สึกอยากจะขำแต่ขำไม่ออก “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไรอย่างแน่นอน”
คุณหมอตรวจให้หยวนชูเฟินเสร็จ ก็วางเครื่องตรวจฟังเสียงลง และพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ท่านประธานครับ คุณชายใหญ่ครับ ยาต้านมะเร็งที่คุณนายทานไปได้ไปกระทบกับประสาทสมอง ก็เลยทำให้เกิดผลข้างเคียงที่สูญเสียความจำไป โชคดีที่ไม่ได้มีผลร้ายต่อร่างกาย แต่……เรื่องราวในอดีต เกร็งว่าเธอคงจะจำไม่ได้แล้ว”
ณ ตำแหน่งจุดบอดที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ใบหน้าของหลงถิงก็คลี่คลายลงทันที
ส่วนลั่วหานกลับรีบวิ่งเข้าไปจับมือหยวนชูเฟินไว้อย่างกระวนกระวาย”คุณแม่คะ คุณแม่ยังจำฉันได้อยู่ไหมคะ? ฉันคือลั่วหาน เป็นลูกสะใภ้ของคุณแม่ค่ะ”
ริมฝีปากของหยวนชูเฟินปิดแน่น หลังจากสังเกตอยู่นาน เธอถึงค่อยๆ พูดขึ้นมาว่า “ลั่วหาน? คุณเป็นลูกสะใภ้ของฉันหรือ? อ๋อ ใช่ คุณเป็นลูกสะใภ้ของฉัน คุณเป็นภรรยาของเซียวเอ๋อ”
“ใช่ค่ะ ฉันเอง คุณแม่ยังจำฉันเหรอคะ! เยี่ยมไปเลยค่ะ! ”
หยวนชูเฟินแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แล้วมองไปที่ร่างสูงใหญ่นั้น หลังจากพิจารณาไปสักพักเธอก็แสดงรอยยิ้มที่เหมือนเด็กออกมา “อั๊ยย๊า เซียวเอ๋อ เซียวเอ๋อมาแล้วเหรอ”
หลงเซียวเดินเข้าไปหาเธอ “ผมเองครับคุณแม่ ผมกลับมาแล้ว”
หยวนชูเฟินเม้มริมฝีปากขึ้น และงอนนิดหน่อย “ป่านนี้แล้วถึงจะกลับมา เอาแต่ทำงานลืมแม่ไปแล้ว”
หลงเซียวรีบขอโทษเธอซ้ำๆ “ผมผิดไปแล้วครับคุณแม่ ครั้งหน้าผมจะกลับมาเร็วกว่านี้ วันนี้ดึกมากแล้ว คุณแม่ต้องเข้านอนแล้วนะครับ”
หยวนชูเฟินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “โอเค เข้านอน ฉันอยากนอนนานแล้ว แต่พวกเขาจะตรวจสุขภาพให้ฉันอย่างเดียวเลย เซียวเอ๋อนายรีบให้พวกเขาออกไป เร็วๆ!”
หลงถิงและหมอออกจากห้องไป หยวนชูเฟินเรียกหลงเซียวและลั่วหานแล้วอ้อนพวกเขา
ประตูปิดสนิทแล้ว หยวนชูเฟินแสดงสีหน้าระแวงขึ้นมา
“เซียวเอ๋อ คดีของพ่อนายในตอนนั้นไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักมากพอ ฉันพยายามเต็มที่แล้ว มีแค่วิธีนี้แล้ว ฉันแกล้งทำเป็นว่าความจำเสื่อม บางทีอาจจะได้ข่าวบางอย่างจากหลงถิงก็ได้”
สายตาของหลงเซียวเคร่งขรึมขึ้นมา “แม่ครับ……”
หยวนชูเฟินกลับยิ้มขึ้นมาอย่างผ่อนคลายและภูมิใจ “เอาหน่า อย่าเคร่งขรึมกันมากเกินไป พวกนายทุกคนกำลังคิดหาวิธีจัดการกับเขา และฉันเองก็อยากทำอะไรบางอย่างเพื่อตระกูลมู่ของเราด้วย”
ลั่วหานยิ้มออกมาและจับมือของแม่ไว้ที่แก้มของเธอ “แม่คุณคะ คุณแม่เก่งมากเลยค่ะ! ”
ด้านนอกประตูห้อง
หลงถิงส่งสายตาให้คุณหมอ คุณหมอที่พยักหน้า
“ท่านประธานครับ ระบบความจำของคุณนายรวนไปแล้วครับ ต่อไปต้องดูแลเธอให้ดี อารมณ์ของเธอไม่ค่อยคงที่ บางครั้งอาจจะอารมณ์เสียขึ้นมาอย่างกะทันหัน”
“โอเค ผมจะดูแลให้ดี ขอบคุณมากๆ ครับคุณหมอ
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ถ้ามีเรื่องอะไรคุณโทรหาผมได้เลยครับ”
หลงถิงเรียกแม่บ้านมา “ไปส่งคุณหมอหน่อย”
หลงจื๋อเงยหน้าขึ้นแล้วใช้หางตามองไปที่หลงถิงด้วย “คุณพ่อครับ คุณแม่เป็นแบบนี้ เราให้พี่ใหญ่เขากลับมาอยู่ที่บ้านดีไหมครับ?”
“นายพูดมากจริงๆ”
“คุณพ่อครับคุณพ่อจะดื้อไปถึงเมื่อไหร่กันครับ?” หลงเจ๋อโกรธก็เลยเถียงกลับไปอย่างกล้าหาญ
หลงถิงส่งเสียงอะแฮ่มต่ำๆ ออกมา ไม่ให้เขาได้พูดต่ออีก
หลังจากนั้นไม่นานประตูก็เปิดออก
“คุณแม่หลับแล้ว ช่วงนี้นายตามใจเธอหน่อย ” หลงเซียวพูดอย่างไม่แยแสและไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ
หลงถิงยังคงไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา “ภรรยาของฉันเอง ฉันต้องให้นายมาคอยตักเตือนเหรอ? ”
ลั่วหานกัดฟันไว้และพูดว่า “เสี่ยวจื๋อ พวกเราไปก่อนนะ มีเรื่องอะไรก็โทรมาละกัน”
หลงจื๋อรีบวิ่งตามออกไป แล้วหยุดทั้งสองไว้ตรงสวนหน้าบ้าน
“พี่ใหญ่ครับ พี่สะใภ้ครับ พวกคุณชนะคดีครั้งนี้ได้อย่างสวยงาม แต่ผมรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาอยู่ตลอดเวลาเลยครับ พี่ใหญ่ครับ ทางที่ดีพี่ใหญ่ควรสืบให้ดีนะครับว่ามีคนพยายามทำร้ายพี่สะใภ้ของผมอย่างลับหลังรึเปล่า”
ลั่วหานยิ้มออกมา “เสี่ยวจื๋อ นายต้องการจะพูดอะไร? ”
หลงจื๋อรู้สึกตัดสินใจยาก หลังจากที่ลังเลมาสักพักเขาก็พูดออกมาจนได้ว่า “ผมสงสัยว่าพ่อของผมเป็นคนทำครับ”
อ๋อ……
ฮ่าๆ
“จะถูกหรือผิดไม่ช้าก็เร็วเราจะรู้อย่างชัดเจนเอง กลับไปเถอะ อย่าทะเลาะกับพ่อนายเลย มันไม่ดีสำหรับนาย” หลงเซียวเป็นห่วงหลงจื๋อ กลัวว่าเขาจะใจร้อนแล้วทะเลาะกับหลงถิง
ยังไงก็ตามคุณแม่ของหลงจื๋อยังอยู่ในมือของหลงถิง
หลงจื๋อหันกลับไปมองที่วิลล่า “พี่ใหญ่ครับ ถ้าวันหนึ่งตระกูลหลงจะต้องล้มลงจริงๆ มันก็เพราะว่าทำตัวเองทั้งนั้น ผมจะไม่ข้อร้องให้พี่ให้อภัยใคร พี่เองก็อย่าปรานีใครนะครับ ”
หลังจากที่พบกับความผิดหวังจนกระทั่งสิ้นหวัง ความเป็นห่วงและความเห็นใจที่เคยมีต่อหลงถิงในตอนนั้นและความเป็นพ่อลูกที่เขาคอยคิดถึงเสมอในตอนนั้น ตอนนี้มันหายไปหมดแล้ว
มันก็เป็นแค่สถานที่ไม่มีความเห็นใจมีแต่ความเยือกเย็น สุดท้ายมันก็ไม่คู่ควรที่จะให้เขาต้องมาเสียดายและคิดถึง
หลงเซียวมองไปที่เขาอย่างลึกซึ้งโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ณ สหรัฐอเมริกา นิวยอร์ก
เจิ้งซิ่วหยาโยนสมุดจดบันทึกลงบนโต๊ะดัง “เพี๊ยะ” “นี่นายพูดอะไรออกมา? หนีไปแล้ว? หนีไปไหนแล้ว? ”
จวงหยู่ดื่มน้ำลงไปหนึ่งคำ “ คุณจะใส่อารมณ์กับผมทำไมครับ คนที่หนีไปไม่ใช่ผมสักหน่อย เหมาจู้นบอกว่าจู่ๆ คนกลางของงานนี้ก็หายตัวไป ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว แล้วผมจะทำยังไงล่ะ?
เจิ้งซิ่วหยาโกรธจนเอามือเท้าเอวไว้ “แม่มึงเอ้ย! ไม่รู้ว่าตายยังงั้นเหรอ? ตายตอนไหนไม่ตาย นี่เรากำลังจะจับคน แม่งก็ตายไปเลยเหรอ? มีประวัติการเข้าออกประเทศไหม? คนทั้งคนถ้ายังไม่เจอต้องหาให้เจอ ถ้าตายก็ต้องเจอศพสิ หายไปแบบนี้เลยเหรอ?”
จวงหยู่รู้สึกปวดหัว “คุณตะคอกใส่ผมมันมีประโยชน์อะไร? พวกเราก็รีบสืบสิ สอบปากคำเหมาจู้นต่อไป ดูซิว่าเขาจะพูดอะไรออกมาอีก”
เจิ้งซิ่วหยาโกรธจนกระทืบเท้ากับพื้น หลังจากเสียง “ตู้มตู้มตู้ม” ดังขึ้นมา “สอบสวนต่อไป! เดี๋ยวกูงัดหัวสมองมันออกมา ถามให้รู้สิ้นซากไปเลย! อีกอย่างเหล่าซื่อหายตัวไปนี้ แม้ว่าต้องใช้กำลังทั้งหมดก็ต้องหาตัวเขาให้เจอให้ได้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันสามารถบินหนีไปได้! ”
จวงหยู่ดื่มน้ำที่เหลือในแก้วจนหมดอย่างเงียบ ๆ “โอเค! สืบต่อไป!”
ขณะนี้ โทรศัพท์มือถือของเจิ้งซิ่วหยาก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดแต่ก็เป็นไปตามที่คาดไว้ หลงเซียวเป็นคนโทรมา
เจิ้งซิ่วหยาเปลี่ยนน้ำเสียง “คุณชายหลงคะ”
“ผมมีข้อมูลสำคัญที่จะให้คุณ”
หลงเซียวแจ้งเรื่องในศาลให้เจิ้งซิ่วหยารับทราบ และเน้นย้ำไปที่เหลียงจ้งซุน
เจิ้งซิ่วหยากัดไปที่เล็บของเธอ “เหลียงจ้งซุนเป็นมือวางอันดับหนึ่งของหลงถิง เรื่องที่เขาทำออกมาต้องได้รับมอบหมายจากหลงถิงอย่างแน่นอน หลงถิงอยากใส่ร้ายชื่อเสียงของคุณหมอฉู่ แต่ว่า….. ”
หลังจากหยุดไปชั่วคราว เจิ้งซิ่วหยาก็พูดอีกครั้งว่า “แต่ว่า นี่ไม่ถือผิดกฎหมายนะคะ เป็นการทำร้ายกันที่เสี่ยงเกือบผิดกฎหมาย คุณลองคิดดูนะเขาช่วยคุณนายหลัวยื่นคำร้อง ถ้าพูดตรงๆ แบบไม่น่าฟังหน่อยก็คือใช้วิธีสกปรก แต่ถ้าพูดอย่างดูดีก็เขาเป็นผู้ใจบุญ ช่วยเหลือประชาชนยากไร้ในการต่อสู้คดีและผดุงความยุติธรรมไว้ ไม่ถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรมจริงไหม?”
คิ้วของหลงเซียวก็ขมวดลงเช่นกัน “ใช่แล้วนี่แหละคือความเจ้าเล่ห์ของเขา”
“คุณชายหลง คุณบอกมาตามตรงเลยค่ะว่าคุณจะทำยังไง”
“เป็นทหารไม่เบื่อหน่ายกับการวางเล่ห์กล จับกุมเหลียงจ้งซุนไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จับตัวเขาไว้ก่อน ผมคิดว่าเจ้าหน้าที่เจิ้งต้องมีวิธีอยู่แล้วครับ”
เจิ้งซิ่วหยาครุ่นคิดไปสักพัก “โอเค เพราะเงินก้อนนี้ฉันมีวิธี อีกเรื่องหนึ่งเหมาจู้นสารภาพคนคนหนึ่งมา แต่เมื่อเรากำลังจะจับกุมตัว บุคคลนั้นก็หายตัวไปแล้ว”
“ฮื้ม? ลึกลับจัง? ดูเหมือนว่ามีใครบางคนกำลังช่วยเขาอยู่เบื้องหลังนะ” หลงเซียวหัวเราะออกมาและใบหน้าของเหลียงหยู้คุนก็ปรากฏขึ้นในความหัวของเขา
เจิ้งซิ่วหยาฟังความในของเขาออก “ใครคะ?”
“เหลียงหยู้คุน คนของมาเฟีย ตราบใดที่จับเขาได้ เรื่องนี้ก็จะกระจ่างอย่างแน่นอน” หลงเซียวหรี่ตา
เจิ้งซิ่วหยากัดเล็บของเธออีกครั้ง “เขา … ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจับเขามาได้นะ ยุ่งกับเขาแค่คนเดียวเขาจะยกกำลังทั้งหมดออกมา เขาเป็นตัวละครที่โหดร้ายที่สามารถเรียกลมเรียกฝนได้นะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตำรวจอย่างพวกคุณแล้วล่ะ”
เจิ้งซิ่วหยา: “……. ”
การโทรจบลง เจิ้งซิ่วหยากลืนลมหายใจเย็น ๆ ลงไป “จวงหยู่ ฉันจะบอกเรื่องใหญ่กับนาย นายอย่าตกใจจนล้มลงกับพื้นนะ”
“พูดมาเถอะผมกำลังนั่งอยู่” จวงหยู่โยกๆ เก้าอี้และยิ้มอย่างร้ายๆ
“มีคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ …….เอ่อ นายรู้จักเหลียงหยู้คุนไหม? รุ่นใหญ่ของมาเฟีย”
ก้นของจวงหยู่ส่ายขึ้นมา “ใครนะ?!”
“เหลียงหยู้คุนเป็นคนสั่งให้คนไปลงมือกับคุณถัง คนที่หายตัวไปนี้เกี่ยวข้องกับเหลียงหยู้คุนโดยตรง ดังนั้นเขาอาจจะซ่อนตัวนายคนนี้ไว้หรืออาจจะฆ่าไปแล้ว”
ตู้ม!
จวงหยู่เผลอล้มลงกระแทกพื้นทั้งคนและเก้าอี้
เจิ้งซิ่วหยาเอามือเท้าคางไว้ ครุ่นคิดและหายใจเข้าลึก ๆ “เหลียงหยู้คุนมักจะไปมาอยู่ในมาเก๊าและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ตลอดทั้งปี เขามีลูกน้องอยู่ทั่วโลก เป็นคนที่แม้แต่ผีมาเจอเขาก็ยังต้องเครียดเลย อย่าจะล้มเขาลงมันไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าประมาทแค่เพียงเล็กน้อยอาจจะทำให้ตำรวจได้รับผลกระทบไปด้วย”
จวงหยู่ลุกขึ้นอย่างน่าสมเพช “ผมจำได้ว่ารุ่นพี่ของผมถูกฆ่าตายในขณะที่กำลังสืบสวนคดีมาเฟีย อีกอย่าง…… เขาถูกแยกชิ้นส่วนร่างกายออกและตายอย่างอนาถและน่าสังเวช”