ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 834
ตอนที่ 834 ตอนจบของเสิ่นเหลียว
สีหน้าของลั่วหานเคร่งทันที “คุณหมอหลิน นี่คุณกำลังชมฉันหรือคุณกำลังแซะฉันเนี่ย? ทำไมฉันฟังแล้วดูเป็นคำชมที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่”
“ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอนว่าฉันกำลังชมคุณอยู่! อีกเรื่องหนึ่ง คุณรู้ไหมว่าวิดีโอแข่งรถของคุณได้รับความนิยมไปทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว? มีคนสร้างเพจสร้างเว็บบล็อกให้กับคุณ แฟนคลับของคุณก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ไอดอลเป็นเทพธิดาของประชาชนแล้วคุณรู้หรือไม่?”
หลินซีเหวินเปิดโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้เธอดู บนนั้นมีแต่แฟนคลับของลั่วหานเต็มไปหมดจริงๆ ด้วย จำนวนการดูเพจมากกว่า 100 ล้านครั้งไปแล้ว
ลั่วหานรู้สึกปวดหัวจนเอามือกุมหน้าผากไว้”ให้ช่างเทคนิคลบมันไปเถอะ”
ประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ ของวันนั้น ณ บริษัทฉู่ซื่อ
กู้เยนเซินเดินเข้าไปในห้องทำงานของหลงเซียวอย่างเร่งรีบ เอนร่างกายพิงตรงขอบประตูพร้อมท่าทีสบาย เขาจับประตูไว้ด้วยมือข้างเดียว แล้วปัดหน้าม้าที่เซ็กซี่ของเขาออก”เฮ้ ที่รัก แผนงานของชานเมืองหลวงคุณอยากดูสักหน่อยไหม? ”
หลงเซียวเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร มีเอกสารฉบับหนึ่งอยู่ในมือที่ยังไม่ได้เซ็น “คุณอ่านดูหรือยัง?”
กู้เยนเซินส่งสายตาหวานแหววไปให้เขา “ผมอ่านมาแล้วครับ ไม่น่าเชื่อว่าครั้งนี้หลงถิงกับตู้หลิงเซวียนจะเชื่อฟังอย่างมากขนาดนี้ เขาปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัดและไม่เล่นเล่ห์กลเลย”
กู้เยนเซินเปิดกองเอกสารหนา ๆ ให้เขาดู เปิดมาสองสามหน้าแล้วชี้ไปที่จุดสำคัญให้เขาดู
หลงเซียวดูคร่าวๆ ไปหนึ่งรอบ “โอเค ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ภาพพิมพ์เขียวจะออกมาเมื่อไหร่?”
“อีกประมาณครึ่งเดือน ภาพพิมพ์เขียวแรกถูกปฏิเสธไปแล้ว บริษัทออกแบบกำลังพยายามการแก้ไขอย่างเต็มที่ การออกแบบของสวนดอกไม้ของวิลล่ามีปัญหาเรื่องการใช้พื้นที่เปลืองอย่างมาก การจัดวางของที่จอดรถมันไม่ค่อยสมเหตุสมผล”
กู้เยนเซินจัดเอาปัญหาออกมาแล้วรายงานออกมาอย่างละเอียด
“คุณและไป๋เวยจับตาดูแบบร่างการออกแบบให้ดี” หลงเซียวเซ็นเอกสารเสร็จแล้วปิดปากกาลง ถึงจะมีเวลาดื่มชา
กู้เยนเซินเอามือเท้าคางอย่างร่าเริง “อีกหนึ่งปัญหาหนึ่งคือ คุณจะตั้งชื่อของหมู่บ้านวิลล่ายังไง?”
หลงเซียวครุ่นคิดไปหลายวินาที “ผมจะปรึกษากับลั่วลั่วก่อน”
กู้เยนเซินบ่นอย่างเมามัน “ปรึกษากับคุณหมอฉู่? นี่คุณชายหลง โครงการนี้เป็นการโครงการของทั้งสาม บริษัท คุณอาจจะไม่ได้เป็นคนเลือกชื่อก็ได้ คุณไม่ไปปรึกษากับหลงถิง ไปปรึกษากับภรรยาของคุณมีประโยชน์อะไร? ”
หลงเซียววางแก้วชาลงและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่มีประโยชน์เหรอ? รสนิยมของลั่วลั่วดีกว่าหลงถิงตั้งเยอะ”
กู้เยนเซินยังอยากจะบ่นอีก และแล้วก็มีคนมาเคาะประตูห้องทำงานไปสองครั้ง คนที่เข้าคือแอนดี้
“ท่านประธานครับ ผมเพิ่งได้รับข่าวเมื่อสักครู่นี้ว่าหวังคางถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำเมืองเจียงเฉิงจับกุมตัวไปในข้อหาทุจริตและติดสินบน” คิ้วของแอนดี้เลิกขึ้นอย่างมีความสุข”
มุมปากของหลงเซียวที่บางราวกับดาบที่แหลมคมก็ยิ้มขึ้น”ดูเหมือนว่าเจิ้งเฉิงหลินจะรอไม่ไหวแล้ว สำนักงานอัยการและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตร่วมจับกุมทั้งคู่เลยไหม? ”
แอนดี้พยักหน้า “ตอนนี้ตัวเขาอยู่ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่หลังจากนั้นสำนักงานอัยการคงจะตามไป ครั้งนี้หวังคางเจอศึกหนักแล้ว”
กู้เยนเซินดีดนิ้วดัง “เพียะๆ” “เยี่ยมมมาก! เมื่อหวังคางล้มลง เสิ่นเหลียวที่เกาะเขากินก็จะต้องโดนเช่นกัน ใบอนุญาตทั้งหมดที่หวังคางอนุมัติไว้ก็ไม่ได้ผลแล้วตอนนี้ เสิ่นเหลียวต้องขาดทุนอย่างหนักแน่นอน!”
แอนดี้เห็นด้วยอย่างมาก “หลักฐานการทุจริตของหวังคางในครั้งนี้ มันมาจากที่เสิ่นเหลียวติดสินบนเขา เสิ่นเหลียวอยากให้หวังคางไปพัฒนาไห่วานแบบไม่โจ่งแจ้ง แต่กลับถูกคนของเจิ้งเฉิงหลินจับได้คาหนังคาเขา ได้ข่าวว่าจับได้ทั้งหลักฐานพร้อมคม หวังคางตกอับอย่ามาก”
หลงเซียวหัวเราะเบา ๆ “หวังคางล้มลงก็ส่งผลกระทบให้เสิ่นเหลียวด้วย คราวนี้ตระกูลเสิ่นมาถึงจุดจบของชีวิตแล้ว”
ณ เมืองเจียงเฉิง ตระกูลเสิ่น
ฉู่ซีหรานตะคอกใส่เจ้าหน้าที่อย่างบ้าคลั่ง “พวกนายทำอะไรกัน? ปล่อยมือเดี๋ยวนี้! ปล่อยมือ! ฉันไม่ได้ทำผิดกฎหมายพวกนายมีสิทธิ์อะไรมาจับฉัน? ปล่อยเดี๋ยวนี้! ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้!”
ตำรวจชายร่างสูงในเครื่องแบบทำสีหน้าเคร่งเครียด และใช้แขนที่ทรงพลังของเขาจับแขนของฉู่ซีหรานไว้ “คุณนายเสิ่นครับ โปรดให้ความร่วมมือกับพวกเราด้วยนะครับ มิฉะนั้นพวกเราจะจับกุมคุณทันทีในข้อหากีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่นะครับ”
ฉู่ซีหรานดิ้นจะหลุดออกมาให้ได้จนผมยุ่งเหยิงไปหมด เธอตะโกนอย่างสุดแรง “ช่วยด้วยค่ะ! มีฆาตกรรมเกิดขึ้น! ตำรวจฆ่าคนแล้ว! ”
จ้าวฟางฟางมองดูเธออย่างเย็นชา เธอเดินตามเจ้าหน้าที่ไปอย่างเงียบ ๆ แล้วหันกลับไปมองฉู่ซีหรานพร้อมส่งรอยยิ้มเยือกเย็นออกมา”ฉู่ซีหราน เลิกตะโกนให้แล้ว ไว้ศักดิ์ศรีให้กับตัวเองบ้าง”
ฉู่ซีหรานยังคงดิ้นบิดเบี้ยวอย่างสุดแรงและปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ “ปล่อยฉัน! ฉันจะหาทนาย! เสิ่นเหลียวติดสินบนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเรา! ฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง!”
แม้ว่าฉู่ซีหรานจะดิ้นรนขนาดไหน แต่ก็หลีกเลี่ยงชะตากรรมที่ต้องขึ้นรถตำรวจไปไม่ได้
จ้าวฟางฟางนั่งรถตำรวจคันเดียวกันกับเธอ ทั้งคู่ได้รับการคุ้มกันโดยตำรวจ2คน
ผมของฉู่ซีหรานกระเซิง เครื่องสำอางบนหน้าก็เลอะเทอะไปครึ่งหน้า “จ้าวฟางฟาง เธอมองฉันทำไม! ”
จ้าวฟางฟางยิ้มรับชะตากรรมอย่างขมขื่น “มาถึงจุดนี้แล้ว อย่าพูดจาก้าวร้าวอย่างงั้นดีกว่าไหม?”
“ถุ้ย! หมายความว่ายังไง? อะไรคือมาถึงจุดนี้แล้ว? เสิ่นเหลียวถูกใส่ร้าย! เป็นเพราะไอหวังคางทั้งนั้น เขาล้มลงมาแล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเรา! ฉันจะเรียกทนาย!”
เจ้าหน้าที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม “คุณนายเสิ่นครับ คุณสามารถขอให้ทนายความยื่นอุทธรณ์ได้เมื่อเราเริ่มดำเนินคดี แต่ตอนนี้ทุกสิ่งที่คุณพูดจะกลายเป็นหลักฐานในศาลทั้งหมด โปรดใช้ความระมัดระวังในการพูดและการกระทำของคุณด้วยนะครับ”
ฉู่ซีหรานโดนสวนกลับ สายตาของเธอเย็นชา “คุณจำไว้ให้ดีว่าฉันคือคุณนายเสิ่น รอให้ฉันพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉันได้แล้ว นายเจอดีแน่! ”
จ้าวฟางฟางยิ้มออกมา เธอหลับตาและไม่พูดอะไรอีกเลย
เธอรู้สึกว่าความตายเป็นเรื่องเล็กน้อยในทันที นับประสาอะไรกับการสอบสวนล่ะ
ขณะนี้ ณ ตระกูลเจิ้ง
เจิ้งซินกอดหมอนข้างและจิบไวน์อย่างสบาย ๆ “พ่อคะ หมากตัวนี้พ่อวางได้ดีนะ แค่ครั้งเดียวก็ทำลายไปทั้งหวังคางและตระกูลเสิ่น ต่อไปนี้ก็ไม่มีใครในเจียงเฉิงที่กล้ามาขัดขวางพ่อแล้ว”
เจิ้งเฉิงหลินรินชาแล้วดื่มชา “หวังคางแพะรับบาป ฮ่าๆๆๆ …… เขาล้มลงก็คงส่งผลกระทบต่อคนไม่น้อยนะ หลุมนี้ลึกว่าที่เธอและฉันคิดไว้อีก”
เจิ้งซินรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยในเวลาเดียวกัน “พ่อคะ ถ้าเสิ่นเหลียวใจร้อนแล้วขายคุณพ่อไปด้วยขึ้นมา พ่อจะทำยังไง?”
เจิ้งเฉิงหลินหัวเราะฮ่าๆ ไปสักพัก “ลูกสาวเอ๊ย หนูยังคงไร้เดียงสามากเกินไป ตอนนี้เสิ่นเหลียวเป็นแค่หมาบ้าตัวหนึ่ง หนูคิดว่าพ่อจะปล่อยให้หมามันกัดคนอื่นไปทั่วเหรอ? ไม่ต้องกังวลนะอีกไม่นานฟันของเสิ่นเหลียวก็จะถูกถอนออกจนหมดแล้ว”
เจิ้งซินยิ้มเล็กน้อย “ถ้าอย่างงั้นก็ดี! ขอให้คุณพ่อได้รับตำแหน่งสูงสุด และดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ! ”
เจิ้งเฉิงหลินพูดอย่างเห็นด้วย “โอเค ข่าวดีขนาดนี้ หนูต้องไปแบ่งปันให้หลงเซียวรู้หน่อยรึเปล่า? ”
“พ่อ….. พ่อพูดเรื่องไร้สาระอีกแล้ว” เจิ้งซินเม้มปาก แล้วเดินจากไปอย่างเขิน ๆ
เมื่อกลับมาที่ห้องเจิ้งซินก็ทำใจแล้วโทรศัพท์ไปหาหลงเซียว
หลังจากที่เสียงรอสายดังไปสักพัก หลังจากรอคอยมานานในที่สุดเขาก็รับโทรศัพท์
“หลงเซียว หวังคางกับเสิ่นเหลียวถูกจับกุมแล้ว! ”
หลงเซียวซึ่งอยู่ในเมืองหลวงที่ห่างไกลตอบกลับไปแค่คำเดียวอย่างเย็นชาว่า — “อืม”
ไม่มีอารมณ์ขึ้นลงใดๆ เลย
ความตื่นเต้นของเจิ้งซินไม่ได้จางหายไปเลย “กรงเขี้ยวของเสิ่นเหลียวถูกจัดการไปหมดแล้ว ยินดีด้วยนะ! ต่อไปนี้ในเจียงเฉิงไม่มีใครกล้ามาขัดขวางนายอีก!”
หลงเซียวเงยหน้ามองกู้เยนเซินที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาและพูดอย่างใจเย็นว่า “ขอบคุณนะ”
“คือว่า… เมื่อก่อนคุณเคยพูดว่า……ถ้าผมช่วยคุณกำจัดเสิ่นเหลียวแล้ว คุณจะ….. ขอบคุณฉัน คุณ …. จะขอบคุณฉันอย่างไง? ” เจิ้งซินจับโทรศัพท์ไว้อย่างแน่น รอการตอบสนองของเขาอย่างตื่นเต้น