ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 847
ตอนที่ 847 ความงอแงของลูกสาว
“ผมโดนตำรวจจับตามองแล้ว หลังจากนี้เกรงว่าจะทำอะไรไม่ค่อยสะดวก”
เหลียงจ้งซุนเป็นคนฉลาด เขารู้ว่าจุดประสงค์ที่หลงถิงรีบร้อนให้เข้ามาที่นี่คืออะไร
หลงถิงชื่นชมความฉลาดของเหลียงจ้งซุนอย่างมาก “นายเข้าใจก็ดี มันไม่สะดวกที่จะทำแบบเปิดเผย แต่มีอยู่บางเรื่อง ที่นายต้องทำได้ดีแน่”
เหลียงจ้งซุนเพิ่งเดินออกจากสถานกักขังที่มืดมน เขาเห็นคุณค่าของอากาศอิสระข้างนอกมาก ดังนั้นเขาจึงแสดงท่าทางประหลาดใจโดยไม่รู้ตัว “ประธานมีเรื่องอะไรครับ?”
หลงถิงเปิดลิ้นชัก หยิบเอกสารชุดหนึ่งมา “ดูนี่”
เหลียงจ้งซุนเหลือบมองหลงถิง รับเอกสารมาเปิดอย่างเคารพยำเกรง หลังจากนั้นสีหน้าเขาก็ไม่ค่อยดีนัก สุดท้ายก็สีหน้าแย่จนจะดำเหมือนถ่านไม้ “ประธาน ไม่ค่อยเหมาะหรอกมั้ง? ยังไงเธอก็เป็นแม่ที่ให้กำเนิดคุณชายรอง ให้เธอเป็นแพะรับบาป เธอจะทำไหวหรอ?”
หลงถิงลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ เดินไปสองสามก้าว เงาร่างสูงใหญ่แต่กลับอ่อนเพลียยืนอยู่ข้างเตียง เงาของเขาถูกแสงยามค่ำคืนปกปิดจนมืดสลัว มองจากมุมมองของเหลียงจ้งซุน หลงถิงจู่ๆ ก็แก่ลงไปมาก
ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ดุร้ายเด็ดเดี่ยว เปลี่ยนไปคล้ายไม้ใกล้ฝั่งอยู่เล็กน้อย
ไม่ นี่เป็นภาพลวงตา
“อาเฟินเคยจ้างนักฆ่าลอบฆ่าคน สถานีตำรวจมีบันทึกคดีความของเธอ ถ้าวันหนึ่งถูกนำมาพิจารณาคดีใหม่ อาเฟินก็จะหนีโทษทางกฎหมายไม่ได้ การประกันตัวทางการแพทย์เป็นแผนรับมือชั่วคราว แต่ไม่สามารถลบรอยด่างพร้อยบนตัวเธอได้”
หลงถิงมองไปที่ความมืดมิดยามค่ำคืนนอกหน้าต่าง คืนนี้ไม่มีดวงดาว ท้องฟ้ามืดมาก มืดจนสลัวไปหมด มองอะไรไม่ออกเลย
นิ้วหยาบหนาของเหลียงจ้งซุนกำเอกสารกองนั้นอย่างแรงที่สุด “ประธาน……จะพลีชีพคุณโฉเพื่อปกป้องคุณนายเหรอ?”
หลงถิงมือทั้งสองข้างไพล่หลัง ในพื้นที่จุดบอดที่เขามองไม่เห็น เส้นเลือดที่มองเห็นได้ชัดเจนหลายเส้นเด่นออกมาจากหน้าผากของเขา “ใช่ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้”
เหลียงจ้งซุนไม่กล้าเดินเข้าไป ยืนตระหนกทำอะไรไม่ถูกอยู่ที่เดิม “แต่ว่า จะใส่ร้ายคุณโฉ ก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายนะครับ”
“นายกลัวแล้วเหรอ?” น้ำเสียงหงุดหงิดและสงสัย
“ไม่ ไม่ใช่แน่นอน ผมอยู่ข้างๆ ประธานมาหลายสิบปีแล้ว ประธานเป็นพ่อแม่คนที่สองของผม คุณเป็นคนให้ชีวิตของผม เรื่องที่ทำแทนคุณได้ผมเต็มใจทำ” เหลียงจ้งซุนเปลี่ยนทิศทางลมแสดงความซื่อสัตย์
“ส่วนควรจะทำยังไง นายเป็นคนควบคุม ต้องการที่จะไม่มีตำหนิร่องรอย ก็ทำให้สะอาดหน่อย” หลงถิงสั่งคำสั่งนี้อย่างไวและเด็ดเดี่ยวมาก
เหลียงจ้งซุนไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธ และยิ่งไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อต้าน
“ครับ ผมจะเริ่มเตรียมลงมือ เอาข้อสงสัยทั้งหมดย้ายไปที่เธอ แต่ว่าประธาน……ถ้าเกิดเธอไม่เต็มใจแล้วแว้งกัดเราจะทำยังไง?”
“ถ้าเธอยังต้องการให้เสี่ยวจื๋อรับช่วงต่อบริษัทMBK ก็ต้องจ่ายค่าแลกเปลี่ยน ถ้าเกิดแม้แต่สำนึกตรงนี้ยังไม่มี ก็ไม่จำเป็นต้องไว้ชีวิตเธอ”
หลงถิงหันหัว ในเบ้าตาลึกที่เหนื่อยล้าคือความเย็นเยียบสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งเจตนาฆ่าอันล้นท้น
เหลียงจ้งซุนรวบเก็บเอกสาร “ประธาน ผมขอคำคุณหนึ่งคำถามได้ไหมครับ?”
หลงถิงพยักหน้า
“ท่านรักคุณนายมากจริงๆ ใช่ไหม? หรือว่า……มีแผนอย่างอื่น?” คำถามที่เหลียงจ้งซุนถามออกมา เขาใช้ความกล้าทั้งหมดในคืนนี้
หลงถิงเดินกลับมา ประคองพนักโซฟาแล้วนั่งลง ยกแก้วชาบนโต๊ะขึ้น แก้วชาเย็นชืดไปแล้ว เขาจิบชาเย็นชืดไปหนึ่งคำ
“คำถามนี้ ตอนนั้นฉันก็เคยถามตัวเอง”
เหลียงจ้งซุนฟังอย่างเคารพนอบน้อม ไม่มีการพูดขัด
กล้าถามหลงถิงขนาดนี้ เหตุผลหลักคือบรรยากาศ ณ ตอนนี้เหมาะกับการพูดคุยเรื่องในใจมาก เหลียงจ้งซุนยังอาจไปครั้งหนึ่ง
“ตอนนั้น ที่ฉันเห็นอาเฟินครั้งแรก ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องแต่งกับเธอให้ได้ หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานกับเธอจริงๆ” หลงถิงมองเหลียงจ้งซุนที่ยืนนิ่งตรง
“นี่เป็นความรักหรือเปล่า?”
คำถามนี้ทำเหลียงจ้งซุนชะงัก นี่……นี่เป็นความรักหรือเปล่า?
“หลายปีมานี้ประธานเอาใจใส่ดูแลคุณนายอย่างละเอียดอ่อน ลึกซึ้งอ่อนโยน ผมคิดว่านี่คงเป็นความรักครับ”
คนอายุเกินครึ่งร้อยสองคนเอ่ยถามเรื่องรักหรือไม่รักยามค่ำคืน ถ้าเกิดคนข้างนอกได้ยินเข้าต้องรู้สึกว่าเป็นเรื่องเพ้อพกแน่ จริงๆ แล้วตอนนี้หลงถิงก็รู้สึกว่าคุยเรื่องนี้กับเหลียงจ้งซุนไม่ค่อยเหมาะนัก
“เล่าเหลียง หลายปีมานี้ คนที่ฉันสามารถพูดเรื่องจากใจจริงได้น้อยเกินไปแล้ว นับไปนับมา ก็มีแค่นายคนเดียว”
เหลียงจ้งซุนก้มหัวพยักหน้า “นี่เป็นเกียรติของผม ประธานพูดมาได้เลย ผมจะไม่แพร่งพรายออกไปแน่”
หลงถิงชี้ไปที่ชั้นหนังสือข้างหลังเขา ในนั้นมีขวดเหล้าขาวอยู่ “เอาเหล้ามา”
น้ำเหล้าเข้าลำคอ หลงถิงดื่มจนเริ่มเมาเล็กน้อย “ฉันดีต่ออาเฟิน ก็เพื่อให้ตัวเองสบายใจ”
เหลียงจ้งซุนจิบเหล้าคำเล็ก บรั่นดีห้าสิบดีกรีแรงเกินไป เขาดื่มไปสองอึกก็แสบจนอยากไอ แต่ว่าหลงถิงกลับดื่มโดยไม่มีปฏิกิริยาใด
“ประธาน เรื่องผ่านไปนานหลายปีขนาดนั้น คนรู้ใจก็ไม่มีเหลือแล้ว พวกเราก็มาพลิกหน้ากระดาษเริ่มใหม่กันเถอะ”
“ใช่ ผ่านไปหมดแล้ว ถ้าถังจงรุ่ยตาย ฉันก็สามารถนอนตาหลับได้สักที มา ดื่มเป็นเพื่อนฉันอีกแก้ว”
เหลียงจ้งซุนใช้สองมือยกแก้วชนแก้วด้านล่างกับเขา “ประธาน ทั้งหมดจะผ่านไป คุณและบริษัทMBKจะห้าวหาญนำหน้าไปอย่างไม่กลัวเกรง”
“หืม ห้าวหาญนำหน้าไปอย่างไม่กลัวเกรง? หลงเซียวทำได้หรือเปล่า?”
“นี่……คุณชายช่วงนี้ทำอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เขามีความคิดละเอียดรอบคอบ ทำเรื่องอะไรไม่มีทางให้ฉันได้รู้”
ดื่มไปเกินสามรอบ หลงถิงก็เมาอ่อนๆ “ในชีวิตนี้อาเฟินเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ฉันรัก ฉันทำเรื่องที่ไร้คุณธรรมมามาก แต่ว่าสำหรับอาเฟิน ฉันจริงใจซื่อสัตย์”
พูดจบ หลงถิงเองพิงโซฟา ปิดตาลงแล้วสูดหายใจเข้าลึก
รีสอร์ทหยีจิ่ง
“ชูเอ๋อ วันนี้ทำไมพาลไม่ยอมนอนล่ะ?”
ลั่วหานอุ้มชูชูเดินไปมาในห้องรับแขกกว่าสิบรอบแล้ว ตอนที่อุ้ม ชูชูเชื่อฟังเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ แต่พอปล่อยมือเปลี่ยนคนอุ้ม ก็ร้องไห้เสียงดังทันที
สาวน้อยร้องไห้จนทำให้คนตกใจมาก ทั้งวิลล่าสั่นสะเทือนไปตามเสียงร้องของเธอ
หลงเซียวอยู่ข้างๆ คอยรองแขนของลั่วหาน “แบบนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้คุณปวดแขนอีกแน่”
ลั่วหานแบะปาก “คุณมีวิธีอื่นหรือเปล่าล่ะ? พอวางลงเธอก็ร้อง เปลี่ยนคนอุ้มก็ร้อง เมื่อกี้ลองแล้ว คุณอยากจะลองอีกเหรอ?”
นี่ก็……ไม่เอาดีกว่า
ร้องไห้เสียงดังไม่กลัว แต่กลัวว่าลูกสาวจะร้องจนคอแหบ จากเสียงร้องไห้ถล่มสวรรค์ของชูชู หลงเซียวก็สงสัยว่าคอจะแหบในอีกกี่นาที ลูกสาวที่รักของเขา เขาทำใจไม่ได้
“ลูกสาว หนูทรมานหม่ามี๊มีชั่วโมงกว่าแล้ว นอนหลับอย่างเชื่อฟังได้ไหม?” ลั่วหานพูดเสียงเล็กเสียงน้อยกล่อมเธอ เบบี๋ตัวน้อยใช้ดวงตากลมโตเป็นประกายที่เหมือนจะพูดได้คู่นั้นมองเธอกลับ
แต่ว่าไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด
เบบี๋ตัวน้อยชอบยู่ปาก มุมปากมีน้ำลายไหลลงมาเล็กน้อย หลงเซียวตามติดสองคนแม่ลูก เดี๋ยวก็ช่วยลั่วหานประคองแขน เดี๋ยวก็เช็ดน้ำลายให้ลูกสาว
“ชูชู แด๊ดดี้ขออุ้มหน่อยได้ไหม? ให้หม่ามี๊พักแป๊บนึง ชูชูเด็กดี เชื่อฟังนะ”
เบบี๋ตัวน้อยฟังแด๊ดดี้พูดอย่างนี้จบ ก็เบี่ยงหัวเข้าไปหลบในอ้อมอกของลั่วหาน
แอทแทคเกินไปแล้ว
ลั่วหานอดหัวเราะออกเสียงไม่ได้ “ดูท่าวันนี้ลูกสาวไม่ค่อยจะเต็มใจเล่นกับคุณ”
“ปกติสามทุ่มครึ่งก็หลับแล้ว วันนี้วุ่นจนถึงห้าทุ่มแล้วก็ไม่ยอมนอน ลูกสาวกำลังอ้อนอยู่หรือเปล่านะ?” หลงเซียวขยับเข้าไปหอมแก้มลูกสาว เขาไม่ได้รู้สึกถูกลูกสาวรบกวนกลางดึกดื่นเลยแม้แต่น้อย เขายินยอมรับความลำบากอย่างมาก
ลั่วหานเหลือบมองนาฬิกาตั้งพื้น “ดึกขนาดนี้แล้ว ถ้าตอนนี้ยังไม่นอนอีกพรุ่งนี้ไม่ตื่นแน่ๆ ถ้าเคยชินเวลาแบบนี้แล้วแย่แน่ๆ”
ป้าหลันก็ทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย “ปกติเชื่อฟังมาก ไม่ต้องกล่อมก็นอนเอง วันนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
พลันลั่วหานก็นึกเรื่องหนึ่งออก “สามี ชูชูคงไม่รู้สึกได้ว่าพรุ่งนี้จะมีแขก ก็เลยตื่นเต้นจนไม่นอนหรือเปล่า?”
หลงเซียวหลุดหัวเราะ “คุณคิดว่าลูกสาวฉลาดเกินไปแล้ว ลูกอาจจะอยากอยู่กับหม่ามี๊ ไม่งั้นคืนนี้ก็ให้ลูกนอนกับพวกเราดีกว่า”
“ได้!”
ลั่วหานไม่รีรอรีบตอบตกลง
ปกติเธออยากกอดลูกสาวนอน แต่หลงเซียวไม่เห็นด้วย กลัวว่าจะเป็นความเคยชินเอาแต่นอนที่เตียงพวกเขา ในที่สุดวันนี้ก็แตกร้าว ลั่วหานก็ต้องคว้าโอกาสนี้ไว้อยู่แล้ว
ลั่วหานวางลูกสาวไว้ตรงกลางระหว่างพวกเขา แขนก็โอบเธอไว้ หัวกลมๆ ของชูชูเบียดเข้าอ้อมกอดของเธออย่างน่าเอ็นดู แล้วก็หลับฝันหวานไปอย่างรวดเร็ว
หลงเซียวหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “ลูกสาวเล่ห์เยอะจริงๆ”
ลั่วหานง่วงแล้ว หาวไปหนึ่งที “ที่เล่ห์เยอะขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าได้มาจากใคร”
“มาจากคุณ” หลงเซียวดึงผ้าห่มคลุมให้เรียบร้อย ช่วยเธอสอดมุมผ้าห่ม ข้ามหัวลูกสาวไปหอมแก้มเธอ
ลั่วหานตีแขนเขาโดยมีลูกสาวคั่นกลาง “มาจากคุณ! ฉันบริสุทธิ์ขนาดนี้ มีเล่ห์อะไรที่ไหน”
หลงเซียว: “……”
เอาเถอะ ทุกข้อดีของลูกสาวล้วนเป็นของภรรยา ข้อเสียทั้งหมดเป็นของเขาเอง เขายอมแล้ว
วันต่อมา สนามบินเมืองหลวงนานาชาติ
กู้เยนเซินหาข้อมูลไฟลท์บิน มารับเจมส์ที่สนามบินอย่างตรงเวลา
เพื่อแสดงความมั่งคั่งและความกล้าหาญของหลงเซียว กู้เยนเซินขับรถบูกัตติของหลงเซียว ด้านหลังยังตามมาด้วยรถเบนซ์รุ่นแข็งแรงหนึ่งคัน ไว้ใช้บรรจุกระเป๋าเดินทางของเจมส์
ในรถเบนซ์มีการ์ดที่กล้าหาญองอาจอยู่สี่คน ฝีมือระดับเฟิร์สคลาส ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝีมีการต่อสู้
เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว กู้เยนเซินก็พิงรถ จัดระเบียบชุดสูทเรียบอันหล่อเหลา คิดเองว่าตัวเองหล่อจนจักรวาลระเบิด แค่ใบหน้าอย่างเดียวก็เอาชนะเจมส์ได้
เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีหนึ่งวิ กู้เยนเซินรอจนดอกไม้ร่วงหมดแล้ว สายการบินนั้นกลับยังไม่มาสักที
“ไม่หรอกน่า? ไฟลท์ของเจ้าชายจะดีเลย์เหรอ? ช่วงนี้อากาศดีมากเลยนี่ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง?” กู้เยนเซินมองท้องฟ้ามองก้อนเมฆมองพระอาทิตย์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสภาพอากาศในวันนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการแลนดิ้ง!
จัดแต่งทรงผมมาตั้งนาน ตอนนี้ทรงผมเอาไม่อยู่แล้ว กู้เยนเซินโทรหาหลงเซียว เอ่ยปากสอบถาม “เพื่อนรัก คุณให้ข้อมูลไฟลท์บินมาไม่ผิดใช่ไหม?”
หลงเซียวยืนยันข้อความที่ลั่วหานส่งให้อีกครั้ง “ไม่ผิด ไฟลท์บินไม่มีทางผิด เจมส์ส่งข้อมูลมาให้ลั่วลั่วก็คือไฟลท์บินนี้”
กู้เยนเซินจดจ่อรอคอย “แม่ง ล้อเล่นฉันอยู่เหรอ ไฟลท์บินนี้แลนดิ้งแล้ว แต่ฉันไม่เห็นแม้แต่เงาของเจมส์ ไอ้หมอนี่ไม่ได้บินไฟลท์นี้ชัดๆ!”
หลงเซียวคลึงหว่างคิ้ว “คุณรับภารกิจไปแล้ว จะทำให้สำเร็จยังไงคุณคิดเอาเอง”
“ไม่หรอกน่า อย่าขุดหลุมฉันสิคุณชายหลง คนตั้งเยอะแยะ……” ตอนที่เอ่ยบ่น พลันกู้เยนเซินก็ตาเป็นประกาย “ชิทชิท ฉันเห็นคนนึง คล้ายกับเจมส์มาก! ฉันจะตามไป!”
หลงเซียวมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสาย เงยหน้าพูดกับจี้ตงหมิง “คนที่คุณส่งไปเห็นเจมส์หรือยัง?”
จี้ตงหมิงกลั้นขำ “เห็นแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นคนที่ประธานกู้เห็นเมื่อกี้”
หลงเซียวพยักหน้า “ดี ให้คุณชายกู้เล่นกับเขาไปเถอะ”