ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 861
ตอนที่ 861 ไม่พูดพร่ำทำเพลง
ในคืนนั้น ช่วงเวลาสี่ทุ่ม
เจิ้งซิ่วหยาที่เหนื่อยล้ามากค่อยๆตื่นขึ้นมา ในจิตใต้สำนึกเธอนึกถึงฉากสุดท้ายก่อนที่ตัวเองจะเป็นลมไป โจวจั่นยังช่วยชีวิตเธออยู่ หมอไม่ได้ตอบรับใดๆออกมา……
เธอจำได้เลือนรางว่าถังจิ้นเหยียนมาแล้ว กอดเธอเอาไว้ ใช้อ้อมอกกอดหุ้มตัวเธอ เธอรู้สึกอบอุ่น……
แต่ว่าเธอไม่กล้าลืมตา กลัวเป็นเพียงแค่ฝัน เมื่อฟื้นคืนสติ โจวจั่นตายไปแล้ว ถังจิ้นเหยียนก็ไม่ได้มา
พอคิดมาถึงตรงนี้ น้ำตาตรงหางตาเจิ้งซิ่วหยาได้ไหลมาถึงใบหูซึมเข้าในหู
ถังจิ้นเหยียนดึงมือของเธอเอาไว้แล้วแนบกับหูของเธอเบาๆ “ซิ่วหยา ฝันร้ายหรอ?”
ได้ยินเสียงของถังจิ้นเหยียน พละกำลังของเจิ้งซิ่วหยาค่อยๆฟื้นคืนสู่สภาพเดิม ดวงตาที่ประกายแวววาวกั้นน้ำตาอยู่มองไปที่ถังจิ้นเหยียน แล้วร้องไห้ฮือๆเสียงใจอย่างต่อเนื่อง
“จิ้นเหยียน โจวจั่น……”
ถังจิ้นเหยียนลูบหัวของเธอ แล้วเอ่ยว่า “หลับลืมตื่นหรอ? โจวจั่นได้ส่งตัวเข้าห้องไอซียูแล้ว กระสุนปืนไม่ได้ยิงโดนหัวใจ ทว่าช่วงฟื้นตัวจะใช้เวลานานมาก ตอนนี้ต้องติดตามดูอาการ แต่ว่าเขาฟื้นแน่นอน”
บนหลังมือเจิ้งซิ่วหยายังมีเข็มสายน้ำเกลือติดอยู่ มีเวลาไม่มาก เธอใช้สองมือคล้องคอของถังจิ้นเหยียนไว้แน่น “จิ้นเหยียน ฉันคิดถึงนาย! คิดถึงนายมาก!”
ถังจิ้นเหยียนกดหัวของเธอแนบหน้าอกเอาไว้แล้วเอ่ยว่า “อืม……ฉันก็เหมือนกัน ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว พรุ่งนี้พวกเราก็กลับประเทศได้”
เจิ้งซิ่วหยาเช็ดน้ำตาบนใบหน้า “นายมาได้ยังไง? คนไข้ของนายจะจัดการยังไง?”
“ให้ลั่วหานจัดการแล้ว ฉันรับสายของหัวหน้าเฉิน เขาบอกว่าคุณอยู่ที่นี่เกิดเหตุนิดหน่อย”ถังจิ้นเหยียนพูดความจริง
เจิ้งซิ่วหยาพยักหน้า เหลือบเห็นคราบเลือดบนเสื้อของเขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “ อ่า! นายบาดเจ็บแล้ว? นายเลือดออกได้ยังไง!”
ถังจิ้นเหยียนอยากร้องไห้เสียจริง “พวกนี้คือรอยที่คุณทำเปื้อน ลืมแล้วหรอ?”
เจิ้งซิ่วหยารีบเอามือปิดหน้า ตอนนั้นเธอคิดอะไร? บนใบหน้ามีทั้งคราบเลือดและน้ำมูกแน่ๆ นึกไม่ถึงว่าทั้งหมดจะเปรอะเปื้อนบนตัวถังจิ้นเหยียนแล้ว!
น่าขายหน้าจริงๆ! เกินไปแล้ว!
ถังจิ้นเหยียนอารมณ์ที่เย้าแหย่โล่งขึ้นมากเมื่อเห็นปฏิกิริยาที่รุนแรงของเธอ “ตอนนี้สะอาดแล้ว คุณลองดูเองสิ”
เอาโทรศัพท์เปลี่ยนเป็นแบบถ่ายตัวเองเป็นกระจก
เจิ้งซิ่วหยาทำท่าทางซ้ายขวาขึ้นลงไปมา “นายช่วยฉันเช็ดหรอ?”
ในใจรู้สึกมีความสุขนิดหน่อย……ถ้าหากแม้แต่ปากที่น่าเกลียดน่าอายของตัวเองเขาล้วนรับได้ งั้นหลังจากนี้ตื่นนอนตอนเช้าไม่ล้างหน้าแปรงฟัน ก็ไม่น่าจะรังเกียจสินะ?
หึหึ!
“อืม จริงๆแล้วฉันรู้สึกว่าตำรวจใบหน้าเปื้อนคราบเลือดก็ดูดี วีรบุรุษที่สู้รบน่าหลงใหลที่สุด”
เสียงชื่นชมนี้ของถังจิ้นเหยียนทำให้เจิ้งซิ่วหยามีความสุขมาก กอดหัวของเขาเอาไว้แถมยังจูบลงไป
เฉินเจาที่ยื่นอยู่นอกประตูรู้สึกทำตัวไม่ถูก เขาพึ่งจะผลักประตู สิ่งที่เห็นก็คือฉากแบบนี้ จริงๆ……
“ร่างกายเป็นยังไงบ้าง?”
เฉินเจาและเจิ้งซิ่วหยาสบตากัน เจิ้งซิ่วหยาแสดงสีหน้าอย่างไม่ใส่ใจปล่อยคอถังจิ้นเหยียนอย่างสง่า
แบะปากงอแงพูดอย่างไม่พอใจว่า “หัวหน้า ครูคุณไม่ได้สอนเคาะประตูก่อนเข้าห้องหรอ?”
เฉินเจาพึ่งจะพูดคุยธุระกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเก๊าเสร็จ ร่างกายสวมชุดตำรวจและบนหัวสวมหมวกตำรวจอยู่ เขาเก็บหมวกลงและเดินยิ้มเข้ามา “ฉันเคาะแล้ว คุณหมกมุ่นเกินไปเลยไม่ได้ยิน และก็ครูคุณไม่ได้สอนคุณหรอว่า ที่สาธารณะระวังส่งผลกระทบ ?”
เจิ้งซิ่วหยาแหงนหน้าต่อต้านเขาว่า “ไม่เคยสอนค่ะ!”
เฉินเจา “……”
ถังจิ้นเหยียนลุกขึ้นยืน “หัวหน้าเฉิน คุณมาแล้ว”
เฉินเจาวางหมวกลงแล้วเอ่ยว่า “อืม…..มามาเก๊าปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนิดหน่อย และมาเยี่ยมสหายของผม ดูเหมือนว่าจะมาผิดเวลา”
เจิ้งซิ่วหยาตอนนี้คือฮีโร่ ปกติไม่ได้เคารพเกรงใจต่อเฉินเจาขนาดนี้ เวลานี้ยิ่งแล้วใหญ่ “ในเมื่อรู้ว่ามาผิดเวลา หัวหน้าเชิญกลับไปสิคะ”
“ยังดีที่รู้ว่าฉันเป็นหัวหน้าคุณ? รีบนอนลง! ไม่นอนตั้งสองคืน คุณคิดจะทำอะไร?”
ถังจิ้นเหยียนที่รักอย่างสุดหัวใจกดเธอกลับลงบนเตียง “ไม่ได้นอนตั้งสองวัน?”
เจิ้งซิ่วหยาไม่บอกเขาแน่นอนว่าตัวเธอเองบ้างาน “อืม……คิดถึงนาย”
เฉินเจาปิดปากกระแอมเอ่ยขึ้นมาว่า “คือว่า……หลอดไฟของโรงพยาบาลสว่างดีนะ ผมก็ไม่อยู่ที่นี่รบกวนพวกคุณแล้ว สำนักงานจองเที่ยวบินของพรุ่งนี้ให้คุณแล้วนะ”
เจิ้งซิ่วหยาโบกมือแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ขอบคุณมากค่ะหัวหน้า หลอดไฟสว่างมาก ดังนั้นไม่ลำบากคุณส่องแสงสว่างแล้ว”
ประตูห้องผู้ป่วยปิดลง ถังจิ้นเหยียนจึงนำแก้วน้ำอุ่นยื่นให้ตรงขอบปากคุณแล้วเอ่ยว่า “คุณพูดกับหัวหน้าขนาดนี้? ไม่กลัวเขาลงโทษคุณหรอ?”
เจิ้งซิ่วหยาที่พิงหมอนและข้อพับของเขาดื่มน้ำอยู่จึงเอ่ยขึ้นว่า “เขาไม่ลงโทษฉันหรอก ฉันเป็นคนหน้าตาดีมีความสามารถมีความรับผิดชอบมาก!”
ถังจิ้นเหยียนกลั้นขำ “คุณอ่า……”
ดื่มน้ำเสร็จ เจิ้งซิ่วหยาก็เลียริมฝีปาก “พ่อนายเป็นยังไงบ้าง? ฟื้นหรือยัง?”
“ยังไม่ฟื้น” วางแก้วน้ำเสร็จก็พยุงเธอนอนดีๆ
“เหลียงหยู้คุนถูกจับ พวกเราก็สามารถหาฆาตกรตัวจริงที่ฆ่าพ่อนายได้ ครั้งนี้พวกเราจำเป็นต้องคืนความบริสุทธิ์ให้พ่อนายแน่นอน!”เจิ้งซิ่วหยาพันแขนของเขาแน่ เธอกัดปากให้คำมั่นสัญญาอย่างมั่นใจ
“อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย คุณหลับต่อก่อนเถอะ หลับสักคืน ฟื้นฟูจิตใจ”
เจิ้งซิ่วหยาก็ไม่ได้ยอมพูดถึงถังจงรุ่ยมาก ถึงยังไงข้างหลังก็ยังมีกองปัญหาใหญ่อยู่ ดังนั้นสายตาเธอได้เปลี่ยนไป เผยอปาก ดวงตาที่สดใสได้กลายเป็นหมาป่าตัวน้อย “ลุงถัง นายอยู่เป็นเพื่อนนอนด้วยกันกับฉันสิ?”
ถังจิ้นเหยียนมองประตูทางเข้า “เอ่อ…..อย่าดีกว่า”
“กลัวอะไร! นายเป็นผู้ชายของฉัน!”
ถังจิ้นเหยียนยิ้มเจื่อนๆ “เมื่อกี้คุณเรียกฉันว่าคุณอา ตอนนี้กลับพูดขึ้นว่าฉันเป็นผู้ชายของคุณอีก?”
เจิ้งซิ่วหยาหัวเราะฮ่าๆ “ไม่งั้นล่ะ? จะให้ฉันเรียกนายว่าอะไร?”
ถังจิ้นเหยียน “อืม…..เรียกอะไรก็ได้”
เจิ้งซิ่วหยาเอียงหัวคลึงคอเปลี่ยนเสียงเรียกเอ่ยว่า“ถังถัง?จิ้นเหยียน? เสี่ยวจิ้น? เสี่ยวเหยียน? เหยียนเหยียน?”
ใบหน้าของถังจิ้นเหยียนได้แดงขึ้นแล้ว “คุณ…..อย่าเรียกมั่วซั่ว”
เจิ้งซิ่วหยารักท่าทีใบหน้าขึ้นสีของเขาเสียจริงๆเลย ยิ่งไปกว่านั้นโผเข้าหาตัวเขาอย่างไม่เกรงใจ “งั้น……แฟน? ที่รัก? ดาร์ลิ่ง? สุดที่รัก……”
ถังจิ้นเหยียน “……”
คุณเรียกฉันว่าลุงถังเถอะ!
วันต่อมา รีสอร์ทหยีจิ่ง
“เมื่อคืนไม่ได้ดื่มเหล้าใช่ไหม?”ลั่วหานที่สวมชุดกาวน์สีขาว นั่งลงบนเก้าอี้ห้องทำงานราชการห่างโต๊ะไปมีเจมส์นั่งอยู่
เจมส์มือยันคาง ฝ่ามือถือแก้มทั้งสองข้าง ดวงตาใหญ่สีฟ้าเข้มดูเหมือนไอดอลจ้องมองไปที่ลั่วหาน “แอนน่า คุณสวมชุดกาวน์แบบนี้ดูดีจริงๆ”
หลงเซียวที่มุงดูอีกด้านหนึ่งสองขาไคว้กัน หนีบแก้วกาแฟเอาไว้ในมือ บนตักกางหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจการคลัง หูกลับอยู่ด้านหน้าตลอดแล้วเอ่ยว่า “เจ้าชายเจมส์ รูป……”
เจมส์นั่งตัวตรงทันที แผ่นหลังตัวตรงอย่างถูกต้องเหมือนเด็กประถมมาก “ไม่ได้ดื่มเหล้า ไม่ได้กินของมัน ของทะเล หลับพักผ่อนอย่างดี ไม่ได้ทำตัวไม่ดีเลย”
พูดถึงทำตัวไม่ดี สายตาของเขามองช้าๆไปที่กู้เยนเซิน
เขาเกือบจะพ่นกาแฟออกมา ไอ้สัส……
แอนน่ากำลังติ๊กเครื่องหมายบนแบบแผนด้านหลังเงื่อนไข “ตอนนี้ฉันจะเจาะเลือดให้คุณก่อน เจาะเสร็จพวกเราค่อยทำเอกซ์เรย์และถ่ายภาพรังสีรวมตรวจร่างกายภายนอกแปดรายการทั้งหมด เข้าใจไหมคะ?”
ตอนที่แอนน่าพูดภาษาอังกฤษหัวคิ้วขมวดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจแสดงรอยย่นที่หน้าผากออกมา
เจมส์พยักหน้าให้ความร่วมมือ “เข้าใจครับ ผมจะทำตามคุณ”
“โอเคค่ะ ยื่นแขนมา”
เจมส์ยื่นแขนขวาออกมา คิดแล้วคิดอีกก็เปลี่ยนเป็นแขนซ้าย
ลั่วหานฆ่าเชื้อ ฉีกเข็มเจาะเลือดแล้วแทงเข็มเข้าไปค่อยๆดูดเลือดขึ้นมา กลัวเขาแสร้งตะโกนเจ็บเลยเปลี่ยนไปพูดคุยกับเขา
“ไม่ได้สูบเยอะ ซ้ายขวาได้หมด ทำไมต้องเปลี่ยนเป็นแขนซ้ายคะ?”
เจมส์เจาะเลือดจนชินแล้ว ตั้งแต่ป่วยเพียงแค่ทำการตรวจเลือดที่เจาะเพิ่มขึ้นมาไม่ต่ำกว่า200CC “ไม่เหมือนกัน แขนขวาต้องเหลือไว้ใช้ มีประโยชน์”
“ประโยชน์อะไร?”
“ยิงเครื่องบินไง(หมายความชักว่าว)!”
ตึง!
มือของลั่วหานเกือบจะลื่น……เวลานี้ถ้าหากว่าหัวเข็มเอียงเจมส์ต้องร้องไห้อย่างน่าเวทนา!
หลงเซียวขมวดคิ้ว มองไปที่กู้เยนเซินหมายถึงหาหลักฐานพิสูจน์ว่าช่วงดึกทั้งสองคนอยู่ในห้องทำอะไรกันแน่
กู้เยนเซินยักไหล่อย่างไม่มีความผิด “มองผมทำไมขนาดนี้? ช่วงดึกพวกเราต่างคนต่างเล่นโทรศัพท์ตัวเอง!”
เจาะเลือดเสร็จ ลั่วหานปิดภาชนะใส่ของเตรียมส่งไปตรวจสอบ “เจ้าชาย ฉันจำเป็นต้องใช้ฐานะหมอรักษาโรคของคุณเตือนสติคุณ บาง…..พฤติกรรมไม่เหมาะสมกับคนเป็นโรคหัวใจ!”
เจมส์กดสำลีเอาไว้แบะปากอย่างไม่มีความผิด “เกมส์โทรศัพท์ก็ไม่ให้เล่นหรอ?”
ลั่วหาน “……”
หลงเซียว “……”
กู้เยนเซินที่หัวเราะก๊ากคดตัวกลายเป็นหนอนผีเสื้อหลังค่อม “ไอ้นี่ ที่นายพูดคือเกมส์ยิงเครื่องบินในโทรศัพท์? ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า”
เจมส์งงงวยนิดหน่อยที่ถูกพวกเขาหัวเราะจึงเอ่ยว่า “ไม่งั้น? เกมที่ผมพึ่งจะเจอสนุกมากจริงๆ รถถังยิงเครื่องบิน…..”
ลั่วหานรู้ว่าตัวเองคิดไม่ดีแล้ว จริงๆตามสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตและกลุ่มคบค้าสมาคมของเจมส์เขาจะรู้คำที่หนุ่มวายสาววายใช้ในประเทศจีนได้ยังไงกัน
“เล่นได้สิค่ะ ตรวจเสร็จก็เล่นได้ค่ะ!”
ไม่มีทางเลือกแล้วเหมือนปีนั้นที่แลกเปลี่ยนกับเจมส์!
เจมส์กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ รายการต่อไปคือเอกซเรย์ “แอนน่า ตรวจเสร็จแล้ว……คุณชักว่าวเป็นเพื่อนผมหน่อย!”
“พรวด!!”
ครั้งนี้กู้เยนเซินอดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ!
สี่คำสุดท้ายเจมส์ใช้ภาษาจีนพูด เชื่อมโยงกันเลยจริงๆ……ทนฟังไม่ไหว!
ลั่วหานหน้าดำคร่ำเคร่งแล้ว “ตีน้องคุณสิ!”
หลงเซียวยิ้มอย่างพอใจ เปิดหนังสือพิมพ์ดูด้านหลัง
เจมส์งุนงงอีกครั้งจึงเอ่ยว่า “WHY?ทำไมคุณต้องตีน้องสาวผม? อ้อ ผมไม่มีน้องสาว ผมมีเพียงแค่พี่สาว พี่สาวผม……”
“ตีทวดคุณสิ! หุบปาก! นอนลง!”
เจมส์นอนลงบนเครื่องมือการแพทย์อย่างน้อยใจดวงตาที่บริสุทธิ์เต็มไปด้วยความอยากรู้เอ่ยขึ้นมาว่า “แอนน่า คุณอยากตีใครกันแน่และทวดคืออะไร?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่ไหวแล้วไม่ไหวแล้ว คุณชายหลงผมไปสงบสติอารมณ์ข้างนอกนะคุณ รักษาสุขภาพด้วย ยังดีที่ในนี้ไม่มีพรม ตลกจะตายห่าแล้ม”
เจมส์มองตามหลังกู้เยนเซินที่คล้ายกับมนุษย์ต่างดาวเดินจากไปแล้วจึงเอ่ยต่อว่า “แอนน่า คุณรู้จักพี่สาวผมไหม? พี่สาวผมเก่งมาก! แต่ว่าตอนที่คุณมาตรวจผมเธอไม่อยู่บ้าน เธอมักจะออกไปที่อื่น”
เครื่องมือดำเนินการ นำเจมส์เข้าไปในเครื่องเอกซเรย์ แอนน่าได้ตั้งใจดูสถิติข้อมูลตัวเลขและกราฟจึงเอ่ยขึ้นว่า “ฉันไม่ได้สนใจพี่สาวคุณ เพียงแค่อยากรักษาอาการป่วยของคุณให้หายไวๆ ดังนั้นตอนนี้คุณเงียบปากให้ฉันจะดีที่สุด อย่ากระทบอารมณ์ของฉัน OK?”
เจ้าชายเจมส์ได้รู้สึกสมบูรณ์แบบแต่ไม่ถึงกับรู้สึกภาคภูมิใจตัวเองในฐานะเจ้าชาย เจ้าชายเปลี่ยนเป็นกบก็คือประมาณคลับคล้ายเหมือนเดจาวู
หลงเซียวไม่ได้เข้าใจต่อเครื่องมือการแพทย์ แต่เข้าใกล้กวาดตามองด้วยความอยากรู้ ด้านบนมีภาพสเก็ตช์ของหัวใจ โค๊ดการแพทย์ที่ซับซ้อน
ลั่วหานขมวดคิ้ว นิ้วแตะไปที่พื้นที่แผ่นเล็กอยู่และใช้ภาษาจีนพูดเสียงต่ำกับหลงเซียวว่า “เห็นตรงนี้แล้วหรือยัง? พื้นที่การเปลี่ยนแปลงโรคของเขา”
หลงเซียวพยักหน้าพยักหน้า สีด้านนั้นมืดกว่าบริเวณรอบๆ “เป็นยังไง?”
“อาการกำเริบแล้ว”