ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 862
ตอนที่ 862 อารมณ์โกรธของท่านเซียวที่วนเวียนที่เดิม
“หมายความว่าไง?”หลงเซียวพิจารณาพื้นที่ตรงนั้นอย่างตั้งใจ แต่ว่าด้วยสายตาของคนที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เขามองช่องทางไม่ออก
ลั่วหานร้อนรุ่มกลุ้มใจ เขียนบันทึกลงบนประวัติคนไข้ “เป็นเพราะว่าตอนแรกเขาทำการเปลี่ยนผ่าตัดลิ้นหัวใจที่ตีบ แต่เขามีลิ่มเลือดขัดขวาง
ฉันใช้วาร์ฟาริน ผู้เชี่ยวชาญสิบคนแปดชั่วโมงชีวิตของเขาถึงรักษาเอาไว้ได้ ขั้นตอนการผ่าตัดฉันก็ไม่ขอพูดละเอียดแล้วกัน ตอนนั้นพวกเราทุกคนกังวลว่าหลังผ่าตัดจะมีโรคแทรกซ้อนปรากฏไหม เขาเป็นเคสพิเศษ สุขภาพร่างกายไม่เหมือนคนทั่วไป คิดไม่ถึงว่าเรื่องที่พวกฉันกังวลจะเกิดขึ้นแล้ว”
หลงเซียวเข้าใจพอประมาณ แต่ไม่เข้าใจสถานการณ์ภายในจึงเอ่ยขึ้นว่า “คุณพูดผลลัพธ์มาตรงๆเลย”
ลั่วหานเขียนประวัติคนไข้เสร็จก็หลุบตาลงมองขาทั้งสองข้างของเจมส์ที่ปรากฏอยู่ด้านนอกจึงเอ่ยขึ้นว่า “ฉันต้องช่วยรักษาเขาต่อไป”
ครั้งนี้หลงเซียวเข้าใจ คิ้วขมวดขึ้นมากกว่าลั่วหาน ฝังลึกร่องก้นมหาสมุทรมาเรียนาจริงๆเลย “คุณหมายความว่า เขาต้องอยู่ประเทศจีนต่อ? คุณจะเป็นหมอส่วนตัวของเขาต่อ? จนกระทั่งเขาต้องพักอยู่บ้านพวกเราต่อ?”
ลั่วหานไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะอีกครั้ง “รอจนเขาฟื้นตัวสุขภาพแข็งแรง”
“shit!”
มือข้างหนึ่งหลงเซียวจับตำแหน่งเดิมหน้าผาก มองสิงร่างลั่วหานอีกครั้ง มือที่ยกขึ้นวางลงและยกขึ้นมาอีกสุดท้ายกดลงตรงกลางหัวของเธอเบาๆแล้วเอ่ยว่า “คุณ…..”
ลั่วหานใช้แฟ้มประวัติคนไข้มาปิดครึ่งหน้า ดวงตาใสที่ฉลาดเปล่งแสงประกาย “หมอต้องมีเมตตา……สามี……”
ใบหน้าที่หล่อเหลาของหลงเซียวแสดงอารมณ์โกรธเขาเอ่ยขึ้นมาว่า “รักษาได้ เปลี่ยนที่พัก ที่บ้านมากสุดสามวันไม่มีการต่อรอง”
ลั่วหานดึงแขนเสื้อของเขาแกว่งไปมาแล้วเอ่ยว่า “ไม่ใช่ว่าเมื่อวานไม่สามารถทำการตรวจได้หรอ? ดังนั้นสามวันไม่ได้แน่”
หลงเซียวขมวดคิ้วปลายงอนหนังศีรษะตึง “สี่วัน”
ครั้งแรกที่ลั่วหานเจอคนที่ต่อรองยาก “หนึ่งสัปดาห์ ภายในหนึ่งสัปดาห์หาที่ที่เหมาะสมให้เขาไปพักอยู่ คุณจัดงานให้อาหมิงและแอนดี้หาด้วยกัน ห้องที่ใกล้ๆเยอะมาก ความปลอดภัยเชื่อว่าต้องมีแน่นอน”
หลงเซียวตัดสินใจยอม “ที่คุณพูด มากสุดหนึ่งสัปดาห์ เส้นตายของฉัน”
“ได้ค่ะ หนึ่งสัปดาห์ ฉันขอบคุณคุณแทนเขา”
หลงเซียวกดลงตรงตำแหน่งหัวใจ “หมอฉู่ หัวใจฉันก็ไม่ค่อยดีแล้ว คุณก็เป็นหมอส่วนตัวของฉันเหมือนกัน”
ลั่วหานชะงักชั่วคราว “คุณ……”
เจมส์นอนมาตั้งนานไม่ได้ยินคนเรียกให้เขาลุกจึงเอ่ยว่า “แอนน่า ได้หรือยัง? เวลาครั้งนี้ทำไมนานจัง? พวกคุณกำลังคุยอะไรกัน? ทำไมไม่พูดภาษาอังกฤษ?”
ลั่วหานใช้นิ้วกดปุ่มคุมเครื่อง เครื่องค่อยๆยกออก “เสียงกระซิบกระซาบระหว่างสามีภรรยา คุณไม่ต้องฟัง”
เจมส์ลุกขึ้นยืนอย่างไม่มีความสุขนิดหน่อย สวมรองเท้าแล้วเอ่ยว่า “ผมไม่ได้สนใจฟัง”
ตรวจสอบทุกอย่างจนเสร็จเจมส์นั่งอยู่ข้างโต๊ะอาหารเสพสุขอาหารเช้าและกลางวันของตัวเอง
ลั่วหานดื่มกาแฟ พูดคุยเป็นเพื่อน “เจมส์ ช่วงนี้คุณมีความรู้สึกที่พิเศษอะไรไหม? ในร่างกาย”
เจมส์ดื่มนมหนึ่งจิบ หวนนึกอย่างตั้งใจ บิดขี้เกียจ ไหล่ยืดเส้นยืดสาย “ไม่มีนะ ผมรู้สึกว่าผมโอเค”
ลั่วหานเคาะโต๊ะ “คุณกินข้าวเช้าให้เสร็จก่อนเถอะ”
เจมส์จับมีดและซ้อมอยู่ ดวงตาสีฟ้าที่เหมือนอัญมณีวูบไหวแสดงสายตาเศร้าระทม “ผมต้องตายแล้วหรอ?”
“พูดเหลวไหลอะไร! คุณเป็นคนที่ฉันช่วยชีวิตเองกับมือ ฉันจะให้คุณตายได้ยังไง?!”
สำหรับความตาย ปฏิกิริยาโต้ตอบของลั่วหานรุนแรงไปหน่อย เธอกลัวสายตานั้นที่สะอาดเหมือนน้ำของเจมส์นิดหน่อย ว่าแท้จริง……จะแบกรับไม่ไหว
เจมส์เอาอาหารเข้าปากกินต่อ “งั้นก็ดี ขอเพียงไม่ใช่โทษประหาร ผลลัพธ์อื่นผมรับได้หมด ครั้งที่แย่ที่สุดไม่ใช่ว่าผ่านมาแล้วหรอกหรอ? แถมคุณอยู่ที่นี่ผมจะกลัวอะไร?”
เขาฝากฝังให้คนอื่นดูแลภาระทั้งหมดอย่างไม่กังวลใจ ให้ความเชื่อใจต่อลั่วหานอย่างมากและก็ให้ความกดดันต่อเธออย่างมากเหมือนกัน เขา……นี่คือกำลังบังคับเธอให้เดินไปจุดสูงสุดสินะ!
“กินเถอะ ไม่กี่วันนี้คุณพักอยู่ที่นี่ต่อได้”ลั่วหานไม่กล้าพูดว่าหนึ่งสัปดาห์ กลัวกระทบจิตใจที่อ่อนแอนั้นของเจมส์
ได้ครับ! แอนน่าคุณดีที่สุดเลย!”
ใบหน้าที่เคร่งขรึมของหลงเซียวกลับมาปกติ “ ลั่วลั่ว ฉันจะไปส่งคุณที่โรงพยาบาล”
เจมส์ยกยิ้มมุมปาก เสพสุขอาหารเช้าของตัวเองอย่างเต็มที่
หลังจากที่คนเดินจากไป เจมส์กินอิ่ม เขาก็นั่งอยู่ในลานบ้านผิงไฟใกล้กับฟู้กุ้ย เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา กดโทรไปสายๆหนึ่ง
หลังจากเกือบนาที ตอนที่เวลาใกล้จำกัดในที่สุดก็มีคนรับแล้ว
ทางนั้น อิสซากำลังจะเคลิ้มหลับ จึงบนพึมพำอย่างไม่ชัดเจนว่า “เวลาต่างกันแกรู้ไหม?”
“ผมไม่รู้ว่าพี่อยู่ประเทศไหน”
“แก……ฉันอยู่นิวยอร์ก ตอนนี้คือช่วงกลางคืน เข้าใจไหม?”
เจมส์เอาแขนเป็นหมอนนอนมองพระอาทิตย์และก้อนเมฆของช่วงฤดูหนาว “โอเค! พี่ ผมอยู่ประเทศจีน ที่นี่สวยมาก พี่ต้องมาดูที่นี่ให้ได้”
อิสซาลุกจากหมอนช้าๆข้ามมาระเบียง “แกพูดว่าไงนะ? แกไปประเทศจีนแล้ว? พ่อเห็นด้วยแล้วหรอ?”
เจมส์ส่งเสียงอือฮึแล้วเอ่ยว่า “ผมมาหาหมอ เขาเห็นด้วยแน่นอน”
“อ้ออ้อ ทำการตรวจแล้วรึยัง? เป็นไงบ้าง?”อิสซาเป็นห่วงอาการป่วยของเขา ไม่กล้าผ่อนคลายความกังวล
แม้ว่า……ทั้งสองคนเป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้อง แถมแม่ของอิสซายังเป็นคนจีนอีก
“ไม่เลว ต้องอยู่ที่นี่ตรวจอาการ พี่มาอยู่เป็นเพื่อนผมสิ ผมพักอยู่ในลานบ้านที่สวยงาม ที่นี่มองเห็นภูเขา มองเห็นท้องฟ้าสีครามก้อนเมฆสีขาวได้แถมยังมีอาหารจีนอร่อยๆ ใช่แล้ว พี่ยังจำรูปสิงโตที่ผมให้พี่ถ่ายได้ไหม? มันก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน”
อิสซาหาวขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “ประเทศจีน……ฉันสนใจ! แกพักอยู่ที่ไหน?”
“พี่รอแปป ผมจะส่งตำแหน่งให้พี่”
เจมส์ส่งแชร์ตำแหน่ง “เห็นหรือยัง?”
อิสซาขยายแผนที่ “รีสอร์ทหยีจิ่ง?ชื่อคุ้นจัง……เหมือนกับว่าเคยได้ยินที่ไหน”
“ที่อยู่ให้พี่แล้ว พี่ตัดสินใจเองเถอะ ที่นี่ยังมีผู้ชายหล่อเยอะมาก! อือเยอะ……เยอะมาก!!”
“มีหล่อกว่าแกไหม?”
เจมส์ลูบคางตัวเอง “ไม่มี”
กลางดึกที่อเมริการถวิ่งสวนกันอย่างไม่ขาดสายอิสซากางแขนอยู่รอบระเบียงเอ่ยขึ้นมาว่า “ประเทศจีน……ไปสักรอบแล้ว!
อิสซาโทรหาเบอร์ของตู้หลิงเซวียน เสียงกริ่งดังสองสามวิก็รับแล้ว
“เควิน ช่วงนี้วางแผนกลับประเทศจีนไหม?”
ตู้หลิงเซวียนยังทำงานนอกเวลาอยู่ เพื่อโครงการของชานเมืองหลวง กำลังวังชาที่ทุ่มเทของเขาใหญ่โตมาก “อื้ม ช่วงใกล้ๆนี้จะไป”
“นานแค่ไหน?”
“ไวสุดหนึ่งสัปดาห์ ช้าสุดสิบวัน”
อิสซายักไหล่ “OK ฉันไปก่อน”
ตู้หลิงเซวียนยิ้มเบาๆ “ทำไม?”
“ส่องผู้ชายหล่อ กินอาหารอร่อยๆ พักบ้านหรูๆ!”
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน บริษัทฉู่ซื่อ
แอนดี้และจี้ตงหมิงนำข้อมูลที่รวบรวมทุกอย่างของชานเมืองหลวงส่งมอบให้หลงเซียวพร้อมกัน
จี้ตงหมิงวางซ้อนข้อมูลกันอย่างเป็นระเบียบ “เจ้านาย หกโมงเช้าตู้หลิงเซวียนส่งแบบแผนโครงการมา ตอนนี้ทั้งสามบริษัทได้มีแนวโน้มเป็นเอกฉันท์กัน การพัฒนาของชานเมืองหลวงได้เริ่มขึ้นแล้ว”
หลงเซียวนำกระบอกม้วนส่งให้แอนดี้ “ต้นฉบับออกแบบของโรงเรียนอนุบาล เอาไปให้แผนกวิศวะเตรียมการงบประมาณ หลังจากที่ข้อมูลงบประมาณที่ใหม่ที่สุดออกมานำจำนวนตัวเลขให้ฉัน”
“ได้ครับเจ้านาย”
แอนดี้นำแบบแปลนไปให้แผนกวิศวกรรม จี้ตงหมิงแตะนาฬิกาบนข้อมือ “เจ้านาย การตรวจสอบของเหลียงหยู้คุนหนึ่งชั่วโมงก่อนได้เริ่มแล้ว เจิ้งซิ่วหยาและเฉินเจาหลังจากที่กลับจากมาเก๊ารีบออกหมายเรียก มีเพียงแค่เนื้อหา……”
“ออกหมายเรียกจบแล้ว เจิ้งซิ่วหยาจะบอกฉัน”
“เจ้านายคิดว่าเหลียงหยู้คุนจะแววกัดหลงถิงไหม?”
หลงเซียว หมุนแหวนแต่งงาน “เขาไม่กล้า”
“งั้น……เจ้านายคิดว่า……เหลียงหยู้คุนจะแวงกัดคุณไหม?
หลงเซียวยิ้มอ่อนอย่างปล่อยวาง ตั้งข้อศอกสิบนิ้วไขว้กัน “แวดกัด”