ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 884
ตอนที่ 884 สอนผม ขอแต่งงานอย่างไร
“ไม่คิดว่าจะดำเนินขั้นตอนได้เร็วขนาดนี้ ตามเวลาในการดำเนินการอนุมัติโดยปกติแล้ว เกรงว่าแค่ฝ่ายผู้บริหารของ MBK ก็จะใช้เวลาสิบกว่าวันหรือครึ่งเดือนแล้ว”
ลั่วหานจิบชาและยิ้มอ่อน แต่กำลังใส่ร้ายอยู่ในใจ แต่ MBK กลับไม่ได้มีเจตนาขัดขวาง กลับเซ็นให้ผ่านโดยตรงเลย?
ไม่ปกติ!
ถังจิ้นเหยียนไม่เคยสนใจเรื่องราวภายในที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้ จึงไม่ได้คิดมากว่ามีอะไรผิดปกติไป แต่กลับยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า“บางทีอาจจะคิดว่าตำแหน่งนี้ไม่สามารถปล่อยให้ว่างได้”
ลั่วหานสลัดความคาดเดาต่างๆในหัวออกไปชั่วคราวหา หาก MBK จงใจทำเช่นนี้ อย่างนั้นเธอก็คงต้องขอบคุณหลงถิงจริงๆ
“ขั้นตอนนั้นไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ ยินดีกับคุณด้วยรองคณบดีถัง!”ลั่วหานยื่นมือ นิ้วเรียวสะท้อนแสงแดดอ่อนๆ ซึ่งทำให้เล็บที่สะอาดและสดใสของเธอสว่างไสวราวกับคริสตัล
ถังจิ้นเหยียนจับมือกับเธอ“ระหว่างเรายังจะต้องทำแบบนี้อีกเหรอ?”
“คนละเรื่องกัน ตอนนี้คุณเป็นถึงคณบดีของเราแล้ว เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว!”ลั่วหานดึงมือกลับอย่างสง่า
ถังจิ้นเหยียนสอดมือกลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อกาวน์“ตำแหน่งนี้ คุณเป็นคนช่วยผมได้มา ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ผมเป็นรองคณบดี แต่คุณเป็นเถ้าแก่เนี้ยของผม ถ้านับจริงๆ ตำแหน่งของคุณยังอยู่เหนือผมอีกนะ”
“นั่นหมายความว่า ฉันต้องจัดเลี้ยงฉลองให้คุณใช่มั้ย?ได้สิ อาหารจีนหรืออาหารตะวันตกกลางแจ้งหรือในร่ม เมืองหลวงหรือนอกเมืองคุณเลือกเลย ฉันเลี้ยงเอง”
ดวงตาที่อ่อนโยนของถังจิ้นเหยียนฉายแวว“เรื่องนี้……ไม่ต้องแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งผมอยากจะลองฟังความคิดเห็นของคุณ”
“อืม?”
ลั่วหานเปลี่ยนขาเพื่อพยุงตัว ใช้เท้าซ้ายดันโต๊ะไว้ พื้นที่ด้านขวาถูกเว้นไว้มากกว่า ทำให้ระยะห่างของทั้งสองคนห่างกันมากขึ้นเล็กน้อย
ระยะห่างที่ไม่ดูตั้งใจแบบนี้ เป็นการให้เกียรติเขา และเป็นการให้เกียรติสามีของเธอ
ถังจิ้นเหยียนเห็นและเข้าใจ ในใจแอบยิ้ม ไม่ได้ทำปฏิกิริยาใดๆบนใบหน้า“ผมอยากจะ……ขอซิ่วหยาแต่งงานเร็วๆนี้ คุณ……มีคำแนะนำอะไรหรือเปล่า?”
เห็นได้ชัดว่าถังจิ้นเหยียนรู้สึกอายมากที่จะถาม มันเป็นเรื่องแปลกที่จะปรึกษาคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าไม่ถามเธอด ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีเป้าหมายที่ดีกว่าเพื่อขอช่วยเหลือแล้ว
“คำแนะนำ……คุณอยากฟังด้านไหน?เลือกแหวนหรือยัง?สถานที่หล่ะ?ภัตตาคาร?โรงแรม?หรือสร้างสถานที่เล็กๆขึ้นมา?”
สำหรับคำถามของเขา ลั่วหานไม่ได้ดูตกใจ แม้แต่น้ำเสียงก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้ตื่นเต้นกับมัน ปฏิกิริยาของเธอสงบนิ่ง ทำให้ความกังวลในใจของถังจิ้นเหยียนลดลงอย่างมาก ความลำบากใจเมื่อกี้ลดลงไปเกินครึ่งเลย
“แหวน……ผมอยากเลือกแบบสั่งทำได้หนึ่งครั้งในชีวิต ใช้บัตรประชาชนของผม สั่งทำหนึ่งคู่ คุณคิดว่าไง?”
ยังไง?แน่นอนว่าดีมาก!
ในชีวิตนี้สามารถสั่งทำได้แค่หนึ่งครั้งเท่านั้น ไม่มีผู้หญิงคนใดที่จะสามารถปฏิเสธแหวนแบบนี้ได้หรอก ความหมายของมันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนแหวน แต่เป็นคำสัญญาที่รอบคอบของผู้ชายคนหนึ่ง
แต่ลั่วหานไม่ได้แสดงความคิดในใจของเธอออกมา เธอรู้จักนิสัยของถังจิ้นเหยียนดี เขาจริงจังกับการทำงาน ความรัก มาตลอด
“ดีมาก สามารถทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย ฉันเห็นด้วยกับคุณ”
ถังจิ้นเหยียนถูนิ้วของเขาอย่างประหม่าในกระเป๋าเสื้อ“อีกอย่าง……ผมพูดไม่ค่อยเก่ง ตอนที่ขอแต่งงาน ผมควรจะพูดอะไรดี?”
ลั่วหานหัวเราะเบาๆอย่างไม่เข้ากับสถานการณ์“อย่าบอกว่าคุณจะให้ฉันสอนคุณนะ?เขียนบทพูดให้กับคุณ?”
ใบหน้าของถังจิ้นเหยียนแดงระเรื่อ“ผมอยากมอบพิธีขอแต่งงานที่น่าจดจำให้กับเธอ หลังจากที่เราคบกัน ผมไม่เคยให้เดทที่โรแมนติกกับเธอ แม้แต่ของขวัญก็ไม่เคยให้ ครั้งนี้……ผมอยากมอบแหวนให้เธอ และมอบพิธีให้กับเธอ”
ถังจิ้นเหยียนนึกถึงท่าทางที่เจิ้งซิ่วหยาขอของขวัญ ใจอ่อนราวกับก้อนเมฆ เธอแสดงให้เขารู้เป็นนัยๆด้วยนิ้วมือแล้ว เขาจะไม่เข้าใจการแสดงเป็นนัยๆของเธอได้อย่างไร?
เพียงแค่เขายังไม่พร้อม ไม่อยากตอบเธออย่างเร่งรีบ
ตอนนี้ตำแหน่งได้ถูกกำหนดแล้ว เขาสามารถรับประกันด้านการเงินที่ดีให้กับเธอ และยังสามารถมอบบ้านที่สมบูรณ์ให้กับเธอได้
เรื่องที่อยากทำ ก็สามารถทำได้แล้ว
ลั่วหานยกย่องว่า“คิดไม่ถึงเลยนะ คุณมันปิดเงียบแต่ทำการใหญ่ ปกติไม่ค่อยพูดอะไร แต่ระเบิดออกมาในช่วงเวลาสำคัญ ในเมื่อคุณตัดสินใจแล้ว แน่นอนว่าฉันก็จะช่วยเต็มที่ ลองพูดความต้องการของคุณมา เสนาธิการจะช่วยคุณวางแผนเอง”
——
“คุณชายรอง การโอนหุ้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว หุ้นที่คุณถืออยู่ตอนนี้เท่ากับท่านประธาน”เหลียงจ้งซุนวางเอกสารเล่มหนาเกี่ยวกับการโอนหุ้นไว้ ด้านในมีลายเซ็นของหลงถิงแล้ว ประทับตราส่วนตัวและของบริษัทเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนการถ่ายโอนได้รับการจัดการอย่างรวดเร็ว เร็วจนหลงจื๋อยังไม่ทันได้ขบคิดว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาเปิดดูสองสามหน้าและเห็นลายเซ็นที่เก่าแก่และมั่นคงของหลงถิง แล้วเก็บเอกสารเหมือนเดิม“ผู้ช่วยเหลียง พ่อผมหล่ะ?”
แม้ว่าเขาจะได้รับหุ้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้เจอบิดามาหลายวันแล้ว
เหลียงจ้งซุนยิ้มธุรกิจอย่างชำนาญ“ช่วงนี้ท่านประธานเหนื่อยเล็กน้อย อยากออกไปพักผ่อน รอเขาพักผ่อนกลับมา คุณชายรองอยากรู้อะไรก็สามารถถามเขาได้ด้วยตนเองเลย”
คำตอบของเขาไร้ที่ติและทำให้หลงจื๋อไม่สามารถถามต่อได้อีก
“วันอังคารโครงการที่ชานเมืองหลวงจะต้องปูพื้นฐานเพื่อก่อสร้าง พ่อผมจะต้องตัดริบบิ้น คุณบอกเขาว่าอย่าลืม”หลงจื๋อใส่เอกสารการโอนหุ้นลงในลิ้นชักและล็อกไว้
เหลียงจ้งซุนเอนตัวลง“โอเค ผมจะบอกต่อให้แน่นอน คุณชายรองยังมีอะไรที่อยากจะบอกกับท่านประธานอีกมั้ย?”
หลงจื๋อเงยหน้าขึ้นมองเขา“หนังสือคำร้องเกี่ยวกับรองคณบดีโรงพยาบาลหวาเซี่ย ผมเซ็นแล้ว”
“นี่เป็นสิทธิหน้าที่ของคุณ ความจริงคุณชายรองไม่จำเป็นต้องรายงานกับท่านประธาน ตอนนี้คุณเป็นท่านประธานรักษาการ มีสิทธิเทียบเท่ากับท่านประธาน ในช่วงเวลาที่ท่านประธานไม่อยู่ คุณสามารถตัดสินใจได้ตามสถานการณ์จริงและความต้องการของบริษัท
แต่ ในเมื่อคุณชายรองพูดแล้ว ผมจะบอกต่อให้”เหลียงจ้งซุนวางมือทั้งสองข้างลงตรงหน้าเขาและตอบด้วยความเคารพ
หลงจื๋อบ่นพึมพำอยู่ในใจ ทำไมคุณพ่อถึงพักผ่อนอย่างกะทันหัน?
“ไม่มีอะไรแล้ว คุณออกไปก่อน”
“ครับ คุณชายรอง”
เหลียงจ้งซุนออกไป ลินดาตามเข้ามาติดๆ ในมือเธอถือเอกสารไว้หนึ่งฉบับเหมือนกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานแม้แต่น้อย
ลินดาวางกระดาษที่พิมพ์สีสันสดใสอย่างเรียบร้อย และพูดแนะนำด้วยรอยยิ้ม “ผู้อำนวยการ นี่เป็นของขวัญหลังจากที่เราคัดสรรมาเรียบร้อยแล้ว ตามความชอบของคุณหลินและคุณนายหลิน สุดท้ายคัดเลือกสิ่งเหล่านี้มา คุณลองดูว่าจะเลือกชิ้นไหน?”
หลงจื๋อต้องไปทานอาหารตามนัดกับหลินเหว่ยเย่ อาหารมื้อนี้มีความสำคัญมาก เขาไม่สามารถไปมือเปล่าได้ และยิ่งไม่สามารถเลือกของขวัญอย่างลวกๆได้ เหล่าเลขาช่วยกันคัดเลือกตั้งนาน คัดกรองมาสิบสองชิ้นจากของขวัญที่หลากหลายมากมาย
“โอเค”
หลงจื๋อดูทุกชิ้นหลายรอบอย่างละเอียด สุดท้ายเลือกหกชิ้นจากด้านใน
ไม่มากไม่น้อย และยังเป็นสิริมงคล
“โอเคผู้อำนวยการ ฉันจะไปจัดซื้อเดี๋ยวนี้”ลินดาหยิบรายการของขวัญที่เลือกเรียบร้อย แล้วเดินถอยหลังสองก้าว“ผู้อำนวยการยังมีคำสั่งอย่างอื่นอีกมั้ย?”
หลงจื๋อปวดหัวกับกองกับเอกสารบนโต๊ะทำงาน พลางนึกถึงโฉหวั่นชิงในใจ จึงพูดว่า“ให้คนขับเตรียมรถ ผมจะออกไป”
เมื่อลินดาได้ยินว่าเขาจะออกไป จึงแสดงสีหน้าลำบากใจในการห้ามเล็กน้อย “ถ้าหากผู้อำนวยการจะไปที่สถานีตำรวจ คงจะไม่ได้ ตอนนี้คุณเพิ่งได้รับการโอนสิทธิ์ผู้ถือหุ้นจำนวนมากจากท่านประธาน เหล่านักต่างข่าวรอจะสัมภาษณ์คุณอยู่ รถของคุณถูกนักข่าวจ้องไว้แล้ว ไม่เพียงเท่านี้ ต่อไปนี้ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ก็จะทำให้เกิดความชุลมุนขึ้น ในช่วงเวลาที่อ่อนไหวนี้ สถานีตำรวจ……คุณอย่าไปเลย”
หลงจื๋อทิ้งปากกาที่ใช้เซ็นลายเซ็น นิ้วที่มีข้อต่อชัดเจนกดลงบนโต๊ะ “ทำไม?ควบคุมอิสระของผมเหรอ?ใครเป็นคนพูด?พ่อผม?”
ลินดาก้มหน้า“นี่เป็นคำสั่งของท่านประธาน แต่ผู้อำนวยการลองคิดดู ตอนนี้คุณไปได้มั้ย?วันที่ท่านประธานมอบหุ้นให้กับคุณ ก็มีข่าวด้านลบออกมาแล้ว หุ้นของ MBK ร่วงลงหนึ่งเปอร์เซ็นต์……”
หลงจื๋อเหอเหออย่างเย็นชา เอนหลังลงบนพนักเก้าอี้ นิ้วมือหมุนไปรอบๆ เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าขันและตลกมาก แต่น่าเศร้ายิ่งกว่า
“ออกไปเถอะ”
เขาได้รับสิทธิของผู้ถือหุ้น กำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธาน แต่ทำไม กลับเหมือนว่าสูญเสียอะไรไปมากกว่า?
เมื่อก่อนเขาไม่มีสิทธิ์ในการสืบทอด ไม่มีหุ้น ไม่มีออร่าที่ดึงดูดผู้คน แต่เขามีมารดา มีแม่ มีพี่ใหญ่พี่สะใภ้ มีอิสระ
ตอนนี้……
หลงจื๋อมองเอกสารที่เต็มโต๊ะ เอกสารราชการ ตารางงานที่เต็มทุกวัน และญาติที่ห่างไกลเกินเอื้อม
เขาไม่มีอะไรแล้ว
อารมณ์ที่แปรปรวนหมุนวนอยู่ในหัวใจและสมอง หลงจื๋อกดหว่างคิ้วด้วยมือข้างเดียว เหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ
ระหว่างที่สับสนวุ่นวายใจนั้น หลงจื๋อหยิบโทรศัพท์ขึ้น กดโทรหาพี่ใหญ่
ห้องทำงานท่านประธาน บริษัทฉู่ซื่อ โทรศัพท์ของหลงเซียวดังขึ้น แต่เขาไม่ว่างรับสาย
จี้ตงหมิงหยิบเอกสารที่ส่งมาจากสถานทูตและเอกสารแก้ต่างที่จัดทำโดยทนายความให้กับเขา “เจ้านาย เพิ่งได้รับ เกี่ยวกับปัญหาการอยู่หรือไปของโฉหวั่นชิงที่ประเทศMและสถานทูตจีนกำลังหารือกัน Rosaได้เขียนเอกสารการขอตัดสินคดีข้ามชาติฉบับสมบูรณ์ไว้หนึ่งฉบับ……”
หลงเซียวได้อ่านเอกสารภาษาอังกฤษล้วนจากสถานทูตอย่างละเอียด ดูทีละหน้าจนหมด แสดงรอยยิ้มที่หายไปนาน“ดูเหมือนว่าอิสซาจะมีประสิทธิภาพมากในการทำงาน เธอขอให้ลุงของเธอใช้ฐานะของกษัตริย์ในการประกันโฉหวั่นชิง สถานทูตยังมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ยอมไปอีก?”
“ก็ถูก แต่สถานทูตจีนก็มีอำนาจและมาตรฐานของตัวเองเช่นกัน เรื่องแบบนี้ เมื่อเริ่มมีแบบอย่างแล้วจะมีปัญหาไม่รู้จบ พวกเขายังต้องพิจารณา”
หลงเซียวพยักหน้า นิ้วเรียวกดที่ขมับของเขาพลางคิดว่า“อิสซาจะจัดการ รอฟังข่าวเถอะ”
โทรศัพท์ที่เงียบเหงาดังขึ้นหนึ่งครั้งแล้วตัดสายไปเอง
หลงจื๋อจ้องไปที่หมายเลขที่ไม่มีคนรับสาย รู้สึกเหมือนมีเมฆมืดอยู่ในใจ
พี่ใหญ่จะต้องกำลังโทษเขาใช่มั้ย?
ปากบอกไม่ต้องการสิทธิ์ในการสืบทอด ไม่ต้องการหุ้น แต่กลับเอาทุกอย่างที่ควรเป็นของเขาไป
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
“คำแนะนำของฉันพูดจบแล้ว เป็นไงบ้าง?”
ลั่วหานปัดเส้นผมขึ้นหนึ่งส่วน กะพริบตาให้กับเขา
ส่วนถังจิ้นเหยียนฟังจนตัวลอยไปทั้งตัว เมื่อกี้เขาได้ฟังการสารภาพรักในการขอแต่งงานท่อนหนึ่ง หรือได้ฟังละครน้ำเน่าเรื่องหนึ่งกันแน่?
“ดี……ก็ดีนะ แต่ถ้าจะทำขึ้นมาจริงๆมันจะยากไปมั้ย?”
อย่างไรฉากเหล่านั้นที่เธอพูดนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างขึ้นในความเป็นจริง
“ไม่ยาก!คุณแค่ทำตามที่ฉันพูด ฉันรับรองว่าสาวน้อยของคุณต้องไปกับคุณอย่างเต็มอกเต็มใจแน่นอน อย่าว่าแต่ขอแต่งงานเลย คุณสามารถแต่งงานกับเธอ ณ ตอนนั้นเลยก็ได้!”ลั่วหานตบแขนของเขาอย่างมั่นใจ
“อันนี้……ดี ผมเชื่อฟังคุณ”
ถังจิ้นเหยียนเพิ่งเดินออกจากห้องทำงาน ลั่วหานก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ไม่รู้ว่าข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่
หลงถิงเป็นคนส่งมา——
“ความผิดของผม ผมจะรับผิดชอบเอง อย่าทำร้ายเสี่ยวจื๋อ”