ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 89
ตอนที่ 89 การแสดงความรักเต็มร้อยคะแนน
เสียงแสนหยิ่งและไม่พอใจนั้นดังขึ้น ทำให้ทั้งสองคนในห้อง ถึงกับสะดุ้งตกใจ
ถังจิ้นเหยียนที่ตรวจเสร็จแล้วสอดมือกลับเข้าไปใน กระเป๋าเสื้ออย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรที่หลง
เชียวเข้ามาอย่างกะทันหัน
แต่ฉู่ลั่วหานนั้นเบิกตากว้างอย่างตกใจ ดึกขนาดนี้เขามา ที่นี่ทำไม?
ฝีเท้าของหลงเชียวก้าวช้าลง เมื่อเขาเข้ามาใกล้ก็กลิ่นอา กาเว่โชยเข้าจมูกเธออย่างชัดเจน ทำให้ใจเธอเต้นเร็วขึ้นเอง โดยอัตโนมัติ
ความจำสุดท้ายของเธอคือตอนอยู่บนหลังของเขา ยังจำ ได้ว่าเธอหลับไปบนแผ่นหลังอบอุ่นที่ก้าวเดินไปอย่างช้าๆ ได้สูดดมกลิ่นหอมของเขาจนชื่นใจแล้วยังมีภาพเหล่าดอก กุหลาบข้างทางอีก
หมดสติไปไม่กี่ชั่วโมงและร่างกายเธอยังทำงานได้ไม่เต็ม ที่ทำให้ลืมเรื่องราวช่วงนั้นไป แต่ว่าเขาตอนนี้แค่เพียงเข้า ใกล้เธอคงต้องเสียเอกราชไปอีกแน่ๆ
คู่ลั่วหานขมวดคิ้ว “คุณมาได้อย่างไร?”
สายตาล้ำลึกของหลงเซียวไม่ได้มองไปที่เธอ แต่จ้องไปที่ ถังจิ้นเหยียนไม่วางตา “หมอถังปฏิบัติกับคนไข้แบบนี้เป็น ปกติ?”
ใช่แล้ว อาหารบนโต๊ะนั่น เป็นสิ่งที่แพทย์ธรรมดาควร เตรียมให้คนไข้หรือไม่? เห็นได้ชัดว่าถังจิ้นเหยียนปฏิบัติกับ เธอเป็นพิเศษ ถังจิ้นเหยียนไม่ได้ตกใจ เขายิ้มให้หลงเชียว เล็กน้อย “แน่นอนว่าไม่”
พอเขาพูดแบบนั้นคู่ลั่วหานได้แต่หลับตาลง ขออย่าได้ ทะเลาะกันตอนนี้เลย หลงเชียวตอนนี้ราวกับควบคุมอารมณ์ ไว้ไม่ได้แล้ว หมออย่างถังจิ้นเหยียนจะสู้เขาได้อย่างไร?
หลงเชียวลมหายใจเย็นเยียบ
ถังจิ้นเหยียนยังพูดต่อ “เพราะว่าหมอฉู่ไม่ใช่คนไข้ทั่วไป เธอเป็นพนักงานของโรงพยาบาลที่มีทั้งความสามารถ พรสวรรค์ แน่นอนว่าต้องดูแลเป็นพิเศษ”
น้ำเสียงและคำอธิบายที่มีเหตุผลของถังจิ้นเหยียนช่างไร้ที่ ติ หลงเชียวไม่ได้ใส่ใจคำพูดที่ดูสูงส่งของเขา
คิดจะเอาค่ำพูดพวกนั้นโจมตีเขา?
ดูถูกท่านเซียวเกินไปแล้ว
หลงเชียวก้าวขาเดินไปที่หน้าต่างมองอาหารสำหรับสอง คนบนโต๊ะ เขายิ้มมุมปากอย่างเป็นธรรมชาติ “ดูแลเป็นพิเศษจริงๆ ไม่ได้เตรียมอาหารค่ำให้แค่คนป่วย แต่ยัง
เตรียมให้ครอบครัวเขาด้วย”
คู่ลั่วหาน “หลงเชียว นั่นมัน..”
“ทำไม? กลัวไม่ถูกปากผม? ที่นี่โรงพยาบาลผมเข้าใจ”
เขาพูดจบก็ใช้นิ้วเรียวยาวหยิบตะเกียบไม้ขึ้นมาคืบ อาหารส่งเข้าปากพลางมองไปที่ถังจิ้นเหยียนที่พยายามเก็บ อารมณ์ “หมอถัง ทำไมไม่เตรียมของตัวเองมาด้วย กินด้วย กันก็ได้”
ฉู่ลั่วหานคิดว่าหน้าตัวเองตอนนี้คงมืดสนิท เธอลอบมอง ถังจิ้นเหยียนรู้สึกเหมือนเขาพยายามข่มอารมณ์บางอย่างอยู่
กับข้าวที่ถังจิ้นเหยียนเตรียมไว้ให้เธอกับตัวเขาเอง หลง เซียวเรียนเอาวิธีกะล่อนปลิ้นปล้อนนี่มาจากไหน? เอาแต่ใจ จริงๆ
“ไม่ต้องหรอก ผมยังมีธุระ คุณทานเถอะ” เสียงอ่อนโยน ของถังจิ้นเหยียนแข็งขึ้นเล็กน้อย
“อย่างนั้นเหรอ..หลงเชียวถือตะเกียบคีบขนมปังขึ้น มา “ซิมดู อร่อยไหม?”
ฉู่ลั่วหานราวกับโดนฟ้าผ่าจ้องไปที่ขนมปังตรงหน้า กิน? ลิ้นเธอเจ็บมากและถังจิ้นเหยียนจะไม่สบายใจ ไม่กิน? ท่าน เชียวจากเหมือนมีรอยยิ้มบางเบาในดวงตาของเขาวาววับหายไป
“คุณชายหลง หมอจู่เธอมีแผลที่ลิ้น เกรงว่าคงกินไม่ สะดวก ตอนเดี้ยวอาจจะไปโดนลิ้นได้” ถังจิ้นเหยียนอธิบาย
หลงเชียวขมวดคิ้วทันที ตวงตาฉายแววความประหลาด ใจ “เกิดอะไรขึ้นกับลิ้น?”
เพราะแบบนี้เมื่อกี้เขาช่วยเธอตรวจดูลิ้น?
ฉู่ลั่วหานบอกปัด ไม่มีอะไร เผลอกัด โดนตอนทานข้าว”
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว แผลเธอหนักเกินกว่าจะเกิดจาก การเคี้ยวพลาดไปโดน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้…
หลงเชียวใช้ซ้อนคันเล็กดักโจ๊กรากบัวขึ้นมาเปล่าแทน แล้วยื่นไปที่จ่อที่ปากเธอ “ไม่ร้อนแล้ว กินสักคำไม่ต้อง เคี้ยว”
คู่ลั่วหานลอบมองท่าทางของถังจิ้นเหยียน รู้สึกเหมือน หมอถังตอนนี้ปวดใจเหลือเกิน ต่อหน้าถังจิ้นเหยียนหลง เชียวแสดงได้เกินจริงเกินไปแล้ว
เขาตั้งใจแสดงความรัก เพื่อให้เขาลำบากใจ?
เขาทำได้ แต่เธอทำไม่ได้
“หลงเชียว คุณทานเองเถอะ ฉันไม่อยากกินแล้ว” เธอผลักข้อนออกตัดสินใจไม่กิน
ท่านเซียวยังคงวางซ้อนลงบนริมฝีปากของเธอ เสียงทุ้ม ต่ำราวกำลังล่อหลอกเด็กเล็ก “เด็กดี ทานสักคำ ไม่ทานแล้ว จะหายดีได้อย่างไร?”
คู่ลั่วหานหน้าคล้ำลง ท่านเซียวคุณไม่จำเป็นต้องแสดงถึง ขั้นนี้ก็ได้!
มือของถังจิ้นเหยียนที่อยู่ในกระเป๋ากำหมัดแน่น ใครก็ มองออกว่าหลงเชียวทำเป็นอ่อนโยนแสดงตัว แต่เขาเป็น สามีของเธอไม่ว่าเขาทำยังไงก็จะเหมาะสม
ฉู่ลั่วหานไม่มีทางเลือก อ้าปากกินไปหนึ่งคำ โจ๊กเย็นแล้ว ไม่ได้ลวกลิ้นแต่อย่างไร ตอนกลืนยังมีกลิ่นหอมหวาน เธอคง หิวจริงๆ อยากกินต่ออีกสักค่า
“ฉันทานเอง” เธอยื่นมือไปรับถ้วย ไม่ให้แถมยังตักส่งให้ เธออีกคำแทน “คุณตอนนี้ร่างกายอ่อนแอ ฉันป้อนเอง”
เมื่อเห็นแบบนั้นถังจิ้นเหยียนก็ก้าวขาเตรียมออกไป “พวก คุณค่อยๆ ทาน ผมคงต้องไปก่อน มีธุระ”
ใครจะรู้ว่าเขายังไม่ไป หลงเชียวเหลือบไปเห็นนาฬิกา แขวนบนผนังแล้วเอ่ยเสียงขรึมอย่างเป็นธรรมชาติ “รบกวน หมอถังเปิดทีวีให้ด้วย”
คู่ลั่วหานเอ่ยเสียงลอดไรฟัน “คุณจะจบไม่จบ?”
เขาจ้องกลับ “ทำไม? สงสารมัน?”
ถังจิ้นเหยียนหยิบรีโมทขึ้นมา “จะดูรายการอะไร?” หลงเชียวตอบปัด “ซ่องรายการซ่องหนึ่งของเมืองหลวง”
ถังจิ้นเหยียนเลือกช่อง…
“ข่าวด่วนล่าสุด ตระกูลคางที่ตอนนี้เป็นผู้นำด้าน เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ประกาศว่าMBKได้เทคโอเวอร์ กิจการแล้ว เมื่อตอนแถลงข่าว คนจากตระกูลคางไม่ได้มีการ อธิบายใดๆ”
ทันใดนั้นตาของคู่ลั่วหานก็เป็นประกายด้วยความ ประหลาดใจ “MBKเทคโอเวอร์กิจการแล้ว!”
แต่ประธานของMBKคือหลงเชียว ที่ตอนนี้ถือซ้อนป้อน อาหารผู้หญิงอยู่ในโรงพยาบาลด้วยท่าทางไม่ยี่หระ “อืม
ไม่คิดว่าจะออกข่าวเร็วขนาดนี้”
เขาขมวดคิ้วดูเหมือนว่าวันนี้มีแต่เรื่องวุ่นวายไม่เป็นอันทำ อะไรอย่างอื่นเลย
ต่อด้วยข่าวที่สอง
“หลังจากเข้าเทคโอเวอร์กิจการของตระกูลคางแล้ว บน ทางหลวงหมายเลข1013 มีคนแจ้งว่าพบอุบัติเหตุรถยนต์ครั้งใหญ่ แลมโบกินีพลิกคว่ำจนเกิดการระเบิดขึ้น คางเฉิง เจี้ยและผู้หญิงที่นั่งมาด้วยหนึ่งคนเสียชีวิตคาที่”
จู่สั่วหานงไปหมด
เมื่อกี้ตระกูลคางถูกเทคโอเวอร์ก็คิดว่าเป็นเพียงการต่อสู้ กันทางธุรกิจ แต่เห็นข่าวที่คางเฉิงเจี๊ยตายแล้วนั้นเธออดที่จะ คิดไม่ได้
เธอเข้าไปในคลับเห็นคางเฉิงเจี้ยเรื่องวางยาแม้ว่าจะไม่มี หลักฐาน แต่โดนหลงเชียวจัดการขนาดนี้แล้วละก็
ถ้าอย่างนั้นเรื่องลักพาตัวก็คงเป็นฝีมือมัน!
อู่ลั่วหานมองหลงเชียวอย่างเหลือเชื่อ “คุณ…ทำไม…”
คุณรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเขา? เขาตายคงไม่ใช่คุณทำหรอก ใช่ไหม?
เธอมีข้อสงสัยมากมาย แต่หลงเชียวพูดอย่างเฉยเมย “อ้า ปาก เย็นแล้วเดี๋ยวไม่อร่อย”
เธออ้าปากพะงาบๆ เขาป้อนโจ๊กเข้ามาแต่เธอลืมความ เจ็บปวดที่ลิ้นไปจนหมด คางเฉิงเจี๋ยตายแล้ว!
ถังจิ้นเหยียนไม่เข้าใจเพราะเขาไม่รู้เรื่องที่เธอถูกลักพาตัว เพราะหลงเชียวสั่งให้ปิดข่าวไว้
เขายิ่งไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับทั้งคู่มาก่อนเพราะหลง
“คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้ รองคณบดีคุณอ่อน
โยนกับคุณเสียจริง!” หลงเชียวประชด “ผมว่าคุณคงภาวนา ให้ได้อยู่ในอ้อมกอดเขาทุกวัน”
“หลงเชียวฉันไม่เข้าใจ ฉันต้องการกินข้าว แล้วดูท่าคงไม่ ถูกปากคุณ ไม่สู้กลับไปซะ!”
จู่ลั่วหานยกชามขึ้นมา มือไม้สั่น
พยายามกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่ พอยกชามเข้าใกล้ใบหน้า
น้ำตาก็หยดลงในชาม
ผู้หญิงไม่รักดี!
“คางเฉิงเจี้ยเป็นคนบงการวางยาคุณ ลักพาตัวคุณ” อยู่ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่อง
“ขอบคุณ.”
ที่คุณเสี่ยงชีวิตมาช่วยฉัน
“ท่านเซียวที่จัดการแทน คนดีแบบคุณควรอยู่ในอันดับ
ต้นๆ ของพลเมืองดีเด่น”
เธอฝืนน้ำตาดื่มโจ๊กทั้งน้ำตา
“ผมกำจัดมัน แค่เพราะ..
มันทำร้ายคุณ! !
“ไม่เข้าตา คุณคิดว่าผมทำให้ใคร?” หลังจากพูดอย่างเย็นชาเขาก็ผุดลุกขึ้นยืน “ในเมื่อคุณดีขึ้นแล้ว พรุ่งนี้ออก จากโรงพยาบาลให้กลับวิลล่า”
คู่ลั่วหานกินไม่ลงแล้ว “ฉันไม่กลับ ถ้าท่านเขียวต้องการ ฉันแสดงละครเมื่อไหร่ฉันยินดีร่วมมือ ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วย กัน คุณไม่สบอารมณ์ฉัน ก็อย่าหาเรื่องให้ตัวเองเลย”
เสียงเรียกเข้าที่เสียงเรียกเข้าที่คุ้นเคยดังขึ้นขัดจังหวะ สนทนาทั้งสองคน
สายเรียกเข้าจากคนตระกูลหลง ไม่รับก็ไม่ได้
“เชียวเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
น้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยวของหยวนซูเฟินดังจนฉู่ลั่วหานยัง ได้ยิน
“ทิ้งคนท้องอย่างโม่หรูเฟยไว้มัวแต่ไปเทคโอเวอร์อะไร ตระกูลคาง! แกไม่ได้ฟังฉันเลยใช้ไหม!”
“ผมว่าคุยกันเข้าใจแล้วนะ ตอนนี้แม่ไม่ได้ยุ่งอะไรก็ดูแล โม่หรูเฟยไปก่อน”
“อีกอย่าง คู่ลั่วหานคนนั้น แกจะเตะมันออกจากตระกูล หลงเมื่อไหร่? ฉันไม่รอนะท้องของโม่หรูเฟยมันรอไม่ได้ หลานของตระกูลหลงยิ่งรอไม่ได้!”
เตะลู่ลั่วหานออกไป.. เธอไม่รอ. พวกเขารอไม่ได้?เหอะ….