ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 897
ตอนที่ 897 เอาเด็กออก
ครืด ครืด
โทรศัพท์ของหลงเซียวบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสารสั่นขึ้นมาสองครั้ง
อิสซา :โฉหวั่นชิงขึ้นเครื่องแล้ว เรื่องที่รับปากคุณฉันทำมันสำเร็จแล้ว เรื่องที่คุณรับปากฉันล่ะ”
มือเรียวยาวกดลงไปบนหน้าจอ “ภายในหนึ่งวัน ผมจะให้คำตอบที่คุณต้องการ”
ส่งข้อความเสร็จแล้ว หลงเซียวก็กดต่อสายภายใน “อาหมิง เข้ามาหน่อย”
——
“มีบุหรี่ไหม” อิสซาโยนโทรศัพท์ทิ้ง ถามจางหย่งน้ำเสียงขี้เกียจ
“อะไรนะ”
อิสซากลอกตา “หูหนวกหรือไง บุหรี่น่ะมีไหม”
จางหย่งเบ้ปาก “ไม่มี”
“ไปซื้อ”
จางหย่งมองอิสซาตั้งแต่หัวจรดเท้า “คุณสูบบุหรี่เหรอ”
อิสซาไม่ตอบ ใช้ปลายคางชี้ไปที่ร้านสะดวกซื้อข้างหน้า “บุหรี่อะไรก็ได้”
“สูบบุหรี่ไม่ดี ยิ่งผู้หญิงยิ่งจะไม่สวย”
ให้ตายสิ เขากำลังพูดอะไรอยู่
คุณจะมายุ่งอะไรกับคนอื่นจะสวยไม่สวย เกี่ยวอะไรกับคุณ
บ้า
อิสซาใช้นิ้วกรีดกรายเบาๆที่ปลายคางของเขา “คุณเป็นห่วงฉันเหรอ”
ว้าว
ที่แท้เขาก็บ้าไปแล้ว
“ได้ แล้วแต่คุณ”
จางหย่งเถียงไม่สู้เธอ จึงต้องไปซื้อบุหรี่ผู้หญิงมาหนึ่งซอง ไม่กี่นาทีก็กลับมา
เคาะกระจกเบาๆ ขณะกระจกเลื่อนลงก็ส่งบุหรี่เข้าไป บนกล่องมีไฟแช็คหนึ่งอัน “ผมจะไปห้องน้ำ”
อิสซากลอกตา “เมื่อกี้ก็ไม่ไป”
“คุณจะเอาบุหรี่ ผมก็รีบเอามาให้นี่ไง”
จางหย่งใบหน้าหน้าไม่พอใจ โห้ จริงๆเลย เขาจะว้าวุ่นใจไปทำไม ยุ่งทำไม ขนาดตัวเองยังไม่ห่วง ยังมาดูแลเธอก่อน
อยากจะเอาหัวมุดน้ำไปเลย
ไม่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น เมื่อมานึกถึงเรื่องหน้าด้านไร้ยางอายที่ตัวเองทำในช่วงนี้แล้ว จางหย่งอยากจะชกเข้าไปในหัวของตัวเองสักที บัดซบ เขาโดนของหรือสมองมีปัญหาแล้วนะ
ทำไมผู้หญิงคนนี้ให้เขาทำอะไรเขาก็ยอมทำให้ไม่หือไม่อือ
ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน จางหย่งมองลอดผ่านหน้าต่างเข้าไปเจอผู้หญิงคนนั้น รีบไขข้อข้องใจในหัวของตัวเอง
อิสซามองแผ่นหลังของเขาเดินจากไป ดวงตาไร้ซึ่งอุณหภูมิใดๆ จุดบุหรี่ วางลงบนริมฝีปากบาง สูดเข้าเต็มที่
รอยยิ้มเย็นและการเย้ยหยันของโฉหวั่นชิง ดวงตาสิ้นหวัง ใบหน้าที่น่าสงสาร ฝั่งลึกอยู่บนใบหน้าของเธอ
ผู้หญิง…เป็นได้แค่เพียงหมากให้ผู้ชายจริงๆน่ะเหรอ เมื่อหมดคุณค่า ก็โยนทิ้งเหมือนขยะ
แม่ของเธอ เพราะเกิดมาต่ำต้อย ไม่ถูกยอมรับจากราชวงศ์ พ่อไปฟังใครแล้วแต่งงานกับแม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรักเปลี่ยนแปลง ตัวตนของแม่เริ่มไร้น้ำหนัก ค่อยๆถูกพ่อละเลย
ตอนที่เธออายุสิบขวบ ลูกสาวผู้มีอำนาจร่ำรวยเดินเข้าประตูราชวงศ์มา
พ่อบอกกับเธอโดยไม่มีความรู้สึกผิด “จากนี้ เธอจะเป็นแม่ของลูก”
และแม่แท้ๆของเธอ ได้รับเงินชดเชย ถูกไล่ออกจากราชวังตลอดชีวิต
อิสซาปิดตาทั้งสองข้างลงด้วยความเศร้า ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ เจ็บปวด แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา
ตอนที่จางหย่งกลับมา อยากระบายความอัดอั้นที่มี แต่ภาพตรงหน้าทำให้เขาไม่กล้าแม่แต่จะยกมือขึ้นมา
ด้านใน อิสซากำลังพิงหน้าต่าง นิ้วมือเรียวสวยคีบบุหรี่สีขาว ปากแดงพ่นควันขาวออกมา หมอกขาวปกคลุมไปทั่ว ล่องลอย ใบหน้ามัวเมา เธอกำลังหลับตา คิ้วขมวดมุ่น
โดดเดี่ยวคล้ายกับนางฟ้าที่ถูกโลกทั้งโลกละทิ้ง
ลูกกระเดือกของจางหย่งเลื่อนขึ้นลง เสียงทุ้มต่ำเอ่ย “คุณไม่เป็นอะไรนะ”
อิสซาตื่นขึ้นมา ดวงตาคมเข้มเบิกกว้างขึ้น “ซื้อบุหรี่อะไร สำลักตายพอดี”
จางหย่งจ้องมองดวงตาเธอ มองดวงตาที่แดงก่ำ คงจะเข้าใจผิดสินะ เขานึกว่าเธอจะร้องไห้ซะอีก
“ผม…โห้ บุหรี่ผู้หญิงไง”
“ขยะจริงๆ”
เธอไม่ได้ด่าบุหรี่ แต่เป็นคนที่กำลังอ้อยอิ่งอยู่ในหัวของเธอ
——
จี้ตงหมิงยัดกระดาษไม่กี่แผ่นลงในซองสีน้ำตาล ปิดให้เรียบร้อย ส่งให้ขนส่ง
ด้านบนเขียน : “ถนนเหรินหมิน 23 เจิ้งซิ่วหยา (รับ)”
เมื่อส่งของเสร็จ จี้ตงหมิงเคลื่อนไหวโดยไว
เรียนแบบท่าทางของหลงเซียวในวันนั้น เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและเมฆขาว “อืม อากาศดีจัง”
“ผู้ช่วยจี้ ชมวิวอยู่คนเดียวเหรอ”
กู้เยนเซินจบไหล่จี้ตงหมิง มองฟ้าไปพร้อมกับเขา ไม่รู้สึกว่าวันนี้ต่างจากเมื่อวานอย่างไร
จี้ตงหมิงหัวเราะออกมา “ทำไมประธานกู้มาอยู่ที่นี่ล่ะครับ”
กู้เยนเซินยู่ปาก ถอนหายใจอย่างเจ็บปวด “ผมเลี้ยงเหล้า ไปไหม”
“ตอนนี้เหรอครับ”
ดื่มเหล้าตอนเที่ยงวันเนี่ยนะ แปลกใหม่เกินไปหรือเปล่า
“จะดื่มเหล้าทำไมต้องเลือกเวลา อยากดื่มก็ดื่มสิ”
จี้ตงหมิงยังคงไม่เข้าใจ “คุณชายกู้ คุณไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมครับ”
กู้เยนเซินโยนกุญแจรถให้เขา “มี หิวแล้ว กินข้าว”
เอ่อ…
บางทีเวลาอาหารกลางวัน แต่…ไม่เกี่ยงใช่ไหมนะ
ไม่รอให้จี้ตงหมิงไปขับรถ สายตาพลันเหลือบไปเห็นไป๋เวยและแอนดี้กำลังเดินออกมาจากประตูกระจกหมุน ทั้งสองกำลังพูดคุยสนุกสนาน โดยเฉพาะไป๋เวย เสียงหัวเราะดังชัดมาถึงตรงนี้
ที่น่าแปลกก็คือ เมื่อมองเห็นคุณชายกู้ ไป๋เวยก็หุบยิ้มทันที เปลี่ยนเส้นทางการเดิน ลากแอนดี้อ้อมไปถนนเส้นเล็กด้านข้างแทน
“ประธานกู้ครับ คุณทะเลาะกับประธานไป๋เหรอครับ”
จี้ตงหมิงรับคำ “ครับ ไม่ถาม เราไปดื่มกันดีกว่า”
คิดว่าเขาจะไม่มีทางรู้หรือไง
ถามจากแอนดี้ก็รู้เรื่องแล้ว
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ตอนเช้าลั่วหานช่วยตรวจเจิ้งเฉิงหลิน เวลาอื่นนั้นสบายว่างมากทีเดียว
หลังจากถังจิ้นเหยียนรับตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ทั้งโรงพยาบาลเปรียบเสมือนได้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ทุกๆที่มีดอกท้อปลิวไสว ใบหน้าเหล่าคุณหมอสาวและนางพยาบาลต่างก็ใบหน้าสดใส เอ่ยชื่นชมคุณหมอถังอย่างนั้นดีอย่างนี้ไม่หยุดปาก
ลั่วหานนึกขึ้นได้ คงต้องไปทานข้าวกับคุณหมดถังสักมื้อแล้วล่ะ
ก๊อก ก๊อก
ก่อนที่เธอจะได้โทรศัพท์ ประตูห้องทำงานก็ดังขึ้น
คงไม่บังเอิญขนาดนั้นมั้ง
ลั่วหานยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋า น้ำเสียงสบายๆ “เชิญค่ะ”
ไม่คิดว่าจะเป็นไป๋เวยและแอนดี้ที่เดินเข้ามา
น้ำเสียงของลั่วหานตกใจชัดเจน “ทำไมเป็นพวกคุณ ไม่สบายตรงไหน ใครคะ”
แอนดี้ชี้มาที่ไป๋เวย “เขา…แต่ก็ไม่ถือว่าป่วย อืม หนักกว่าป่วย”
นี่มันคำตอบอะไรเนี่ย
ลั่วหานลุกขึ้นหยิบหูฟังขึ้นมาแขวน “ไม่สบายตรงไหนคะ คุณนั่งก่อน ฉันจะตรวจดูให้ละเอียด”
ไป๋เวยอาย ยิ้มแห้งๆ “ไม่ได้ป่วยค่ะ แต่ว่ามีน้อง”
หูฟังแพทย์ยังไม่ได้ถึงตัวเธอด้วยซ้ำ ก็ได้ดึงกลับมา สายตาสงสัยมองไปยังหน้าท้องของเธอ อยากเพ่งมองลงไปที่หน้าท้องใต้กระโปรงนั่น “มีน้อง คุณเหรอคะ”
ไป๋เวยพาตัวเองล้มลงที่เก้าอี้ “อืม ฉันท้องแล้ว พึ่งรู้วันนี้เองค่ะ”
แอนดี้เม้มปาก หัวเราะแปลกๆ หึหึหึ…
ลั่วหานเห็นท่าทาง ลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับพวกเธอ “นานแค่ไหนแล้วคะ ได้ตรวจBแล้วหรือยัง”
ไป๋เวยส่ายหน้าอย่างไม่เต็มใจ “ยังค่ะ ไม่อยากทำ”
ลั่วหานเท้ามือกับเข่า จ้องมองเธอ “ทำไมไม่ทำ คุณต้องรู้อายุครรภ์นะคะ ง่ายต่อการจัดการ เดี๋ยวฉันต่อสายหาสูตินรีแพทย์ ไม่สิ เดี๋ยวฉันพาไปเอง ไปเถอะ”
มือจับจูงไป๋เวย แต่ถูกอีกฝ่ายดึงออก “ลั่วลั่ว ช่วยฉันนัดหมอสูติดีกว่า”
แอนดี้เบี่ยงหัวมาข้างๆ แสร้งทำท่าทางตั้งใจมองหัวไชเท้าของลั่วหาน
“เธอพูดบ้าอะไร แน่นอนว่าฉันต้องช่วยเธอหาแพทย์และพยาบาลที่ดีที่สุดอยู่แล้ว อายุครรภ์ฉันก็จะจัดการตรวจให้ละเอียด คุณแค่ทำตาม ระหว่างที่ตั้งครรภ์ห้ามดื่มเหล้า ห้ามนอนดึก ห้ามทำงานหนัก อีกอย่าง คุณจะทานอาหารคลีนไม่ได้แล้ว ต้องกินของบำรุง…”
“ลั่วลั่ว…” ไป๋เวยเอ่ยขัดเธอ พูดออกไปไม่มีปีไม่มีขลุ่ย “ฉันจะเอาออก”
สายตาแอนดี้นิ่งขึ้น “คุณหมอฉู่ ฉันพูดกับเธอไม่ได้ คุณคุยเถอะ”
ลั่วหานโกรธจนไม่ทันได้ตอบโต้เธอในทันที “ห๊ะ เอาออก ไป๋เวย คุณจะเอาลูกของคุณกับคุณชายกู้ออกเหรอ”
“ใช่ ฉันไม่อยากมี” ไป๋เวยตอบกับเสียงเรียบ คล้ายกับตอนนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา
“ไม่ได้ ฉันไม่เห็นด้วย ถึงฉันจะเห็นด้วย คุณชายกู้เองก็คงไม่ยอม ไป๋เวย ในท้องเธอคือสายเลือดของคุณชายกู้นะ เป็นพยานรักของคุณกับคุณชายกู้ และเขาก็เป็นอีกหนึ่งชีวิต ในฐานะหมอ ฉันไม่เห็นด้วย ในฐานะเพื่อน ฉันยิ่งไม่เห็นด้วย”
ไป๋เวยพอรู้อยู่แล้วว่าเธอจะมีปฏิกิริยายังไง จึงไม่ได้ตกใจ “ลั่วลั่ว ฉันมาหาคุณ เพื่ออยากให้คุณช่วยฉันเลือกหมอที่เชื่อถือได้ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าฉันจะมาทำที่หวาเซี่ย ทำที่อื่นก็ได้”
“บัดซบ”
ลั่วหานโกรธกับคำตอบของเธอจนแทบจะโยนหูฟังแพทย์ลงบนโต๊ะ ร่างบางในชุดกาวน์สีขาวเดินอ้อมไป๋เวยไปหนึ่งรอบ อาศัยสัดส่วนความสูงในตอนนี้เพ่งมองบนหัวเธอ “คุณชายกู้ล่ะ”
“ไม่รู้”
“พวกคุณเป็นอะไรกัน ทะเลาะกันเหรอ เลิกกัน มือที่สามเหรอ”
“ไม่ใช่ทั้งหมดนั่นแหละ ฉันไม่อยากมีลูก ง่ายๆแค่นี้”
“เธอกล้ามากนะ”
ดวงตาของไป๋เวยคลอเป็นแอ่งน้ำใส ไร้ซึ่งอุณหภูมิ “ลั่วลั่ว คุณรู้จักนิสัยฉันดี เรื่องที่ฉันตัดสินใจแล้ว ใครก็เปลี่ยนมันไม่ได้”