ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 919
ตอนที่ 919 เลือดออกในกระเพาะอาหาร
โรงพยาบาลหวาเซี่ย
ในที่สุดหลินซีเหวินก็มีเวลากลับมาดื่มชาที่ห้องทำงาน วันนี้ถูกคนไข้โยนทิ้งตลอดทั้งวัน หลังจากการผ่าตัดเธอก็มาช่วยผู้ป่วยสองคนตรวจร่างกาย ได้มีเวลาว่างตอนบ่ายไม่ง่ายเลย แล้วก็โดนเรียกไปแผนกฉุกเฉินไม่ทันแม้แต่หยิบโทรศัพท์
เหนื่อยจนจะเป็นหมาแล้ว
ครั้งนี้หลินซีเหวินทิ้งตัวนอนลงบนเก้าอี้อย่างสบายตัว กายใจผ่อนคลายไถหน้าจอโทรศัพท์
ไม่เห็นก็ไม่รู้ พอเห็นก็ตกใจคว่ำ!
“MBKเปลี่ยนประธาน?”
“หลงเซียวกลับสู่จุดสูงสุดของอำนาจในฐานะประธานกรรมการ!”
“เกมลิขสิทธิ์ประเทศจีน ท่านเซียวเขียนตำนานตอบโต้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุด”
“ไม่ได้เป็นลูกแท้ๆ แล้วยังไง? สิทธิ์สืบทอดอำนาจไม่ได้เป็นเพียงความสัมพันธ์ทางสายเลือด!”
หลินซีเหวินยิ่งอ่านยิ่งตกใจ อ้าปากค้างไม่หุบอยู่ครู่ใหญ่
มิน่าล่ะหลงถิงถึงมาอาการหัวใจวายแทรกซ้อน มิน่าล่ะเขาถึงเกิดอาการโรคหัวใจ มิน่าล่ะพยาบาลตัวน้อยในโรงพยาบาลวันนี้มองเธอด้วยสายตาแบบนั้น มิน่าล่ะ……มิน่าล่ะเธอถึงวุ่นใจทั้งวัน!
สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เกินกว่าความเข้าใจของเธอ MBKเป็นหนึ่งในห้าร้อยบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันเป็นกลุ่มนายทุนที่ยิ่งใหญ่ของประเทศที่ร่ำรวย ตำแหน่งประธานกลับถูกหลงเซียวพรากไปเสียอย่างนี้?
แปลกประหลาดเกินไปแล้ว!
เลื่อนลงไปด้านล่างต่อ ขาทั้งสองข้างของหลินซีเหวินก็เกร็งแน่น เธอลุกขึ้นมา!
“หลินเหว่ยเย่พยายามมีส่วนร่วมในการแย่งชิงสิทธิของMBK ใช้ประโยชน์จากลูกสาวให้แต่งงานกับหลงจื๋อเพื่อเอาหลินซื่อเข้าสู่MBK……รูป”
“โครงการของหลินเหว่ยเย่ล้มละลาย วิกฤตภายในของหลินซื่อถูกเปิดโปงในสถานประชุม หลินเหว่ยเย่รีบร้อนไปจากMBK (คลิป) ”
“ทำไมจู่ๆ บริษัทหลินซื่อที่จัดการอย่างเงียบๆ ถึงโผล่ขึ้นเหนือน้ำ? รูปแบบธุรกิจแบบดั้งเดิมถูกท้าทาย วัตถุโบราณของหลินพบกับสมรภูมิวอเตอร์ลู (รวมรูป) ”
หมอกครึ้มเต็มหัวหลินซีเหวิน คิดว่าสื่อจงใจใช้หัวข้อข่าวเพื่อดึงดูดผู้คน แต่พอคลิกเข้าไปก็ยิ่งช็อก
ไม่ว่าจะเป็นรูปหรือคลิปวิดีโอ ล้วนเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าพ่อของฉันต้องการที่จะก้าวเข้าไปที่MBKจริงๆ อยากใช้ประโยชน์จากMBK กระทั่งอยากยึดครองMBK
ไม่ ไม่ใช่หรอก!
เธอไม่เชื่อ!
แด๊ดดี้เป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว เขาไม่ต้องการชื่อเสียงเงินทองขนาดนั้น แถมยังบอกฉันกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แม่ไม่ควรอุทิศเวลาและพลังงานของเธอกับอาชีพ ต้องสนุกกับชีวิตให้มากๆ
พ่อแบบนั้นทำไมถึงใช้ความสุขของเธอเพื่อผลประโยชน์ของบริษัทได้?
แม้คนทั้งโลกจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพ่อ แต่เธอก็ยังไม่เชื่อ!
หลินซีเหวินสงบสติอารมณ์ โทรไปหาพ่อ
หลินเหว่ยเย่แค้นเคืองโกรธเกรี้ยวเดินลังเลอยู่ในห้องรับแขก คุณนายหลินรู้สึกเวียนหัวเมื่อเขาเดินไปรอบๆ “เหล่าหลิน คุณนั่งลงได้ไหม? ตาฉันพร่าไปหมดเพราะคุณเดินไปมา”
“ฉันนั่งไม่ติด”
“นั่งไม่ติดก็ต้องนั่งลง แผนที่ปรารถนาก็ล้มเหลวไปแล้ว วิกฤตการณ์ทางการเงินของบริษัทก็ถูกคนนอกรู้เข้าแล้ว การกู้เงินจากธนาคารไม่ใช่เรื่องง่าย คุณก็อย่ามาทำให้ฉันหงุดหงิดเพิ่มเลย” คุณนายหลินฮึมฮัมเดือดปุดๆ
หลินเหว่ยเย่มองไปทางเธอ อยากจะแสดงความยินดีตอบแต่ก็เก็บไว้
“จ้องฉันทำไม? โทรศัพท์ดังแล้ว ไม่รับเหรอ?” คุณนายหลินเตือนเขาอย่างไม่สบอารมณ์
หลินเหว่ยเย่ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ดูตึงเครียดมากกว่าเดิม “ลูกสาวโทรมา”
คุณนายหลินใจเย็นมาก “ยังไงเธอก็ต้องรู้ไม่เร็วก็ช้า คุณคิดเอาเถอะว่าจะอธิบายยังไง”
หลินเหว่ยเย่เงียบงันพูดไม่ออก
“แด๊ดดี้ บอกหนูสิคะว่านี่มันไม่จริง พวกสื่อเขียนมั่วๆ กันใช่ไหม? คุณไม่ได้คิดอยากจะยักยอกเงินของMBK แล้วก็ไม่ได้คิดจะใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของหนูกับหลงจื๋อใช่ไหม!”
หลินซีเหวินใจร้อนจนสะอึกสะอื้น คำถามเป็นชุดรอคำตอบของเขาอย่างเร่งด่วน
หลินเหว่ยเย่เกลี้ยกล่อมเธออย่างร่าเริง “แด๊ดดี้จะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง? พวกสื่อเขียนบังหน้า ลูกอย่าหลงกลล่ะ ไม่ต้องโมโหด้วย”
หลินซีเหวินใช้แขนเสื้อกาวน์ตัวใหญ่เช็ดน้ำตา แก้มทั้งสองข้างถูกเขาเช็ดจนแดงก่ำ “จริงนะ? พ่อไม่ได้หลอกหนูนะ?”
“ไม่แน่นอน แด๊ดดี้หลอกลูกตอนไหน?”
“อืม หนูรู้อยู่แล้วว่าแด๊ดดี้ไม่ใช่คนแบบนั้น! หนูจะต้องฟ้องร้องนักข่าวหน้าเลือด! ให้พวกเขาลบข่าวออกไปให้หมด!” หลินซีเหวินไม่พูดพร่ำทำเพลงเตรียมทำสงครามกับสื่อทันที
“ไม่จำเป็นหรอก! สื่อชอบหัวข้อที่ถกเถียงมากที่สุดแล้ว ยิ่งลูกไปสนใจพวกเขา พวกเขาก็ยิ่งกำแหง ลูกไม่ต้องสนใจเดี๋ยวมันก็หายไปเอง ถือซะว่าไม่เคยเห็น” หลินเหว่ยเย่ไม่อยากให้ลูกสาวรู้เรื่องเยอะเกิน ยิ่งไม่อยากให้เธอลงไปในน้ำโคลน
“ก็ใช่ หนูจะให้โอกาสพวกเขาอีกครั้ง แต่ไม่มีครั้งหน้า!”
ฟังคำอธิบายของพ่อ ในใจของหลินซีเหวินรู้สึกขนลุกไปครู่ใหญ่ เธอเชื่อว่าพ่อของเธอไม่ได้เป็นคนไร้ยางอาย ไม่ใช่แน่นอน!
หลินซีเหวินต้องเข้ากะพอดี พักอยู่ครู่หนึ่งก็ไปห้องกู้ชีพ หลงจื๋อยุ่งมาก ในฐานะที่เป็นลูกสะใภ้ในอนาคต เธอต้องเป็นคนกตัญญู
“หลงจื๋อ? คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ประตูห้องกู้ชีพยังไม่เปิดออก หลงจื๋อนั่งโดดเดี่ยวอยู่บนเก้าอี้ โถงทางเดินเงียบมาก กว้างขวางมาก รปภ.ขับไล่ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกไป บอดี้การ์ดของMBKเตรียมพร้อมที่จะรับมือทั้งสองข้าง
ราวกับทั้งโลกเหลือเขาอยู่คนเดียว อ้างว้าง ไร้ทางช่วยมาก
ผมของหลงจื๋อยุ่งเหยิง ผมหน้าม้าแนบอยู่บนหน้าผาก บังดวงตาไปครึ่งหนึ่ง ขอบตาแดงก่ำ “ซีเหวิน คุณยังอยู่นี่”
“วันนี้ฉันเข้ากะดึก พรุ่งนี้ต้องไปจดทะเบียนสมรสนี่ ฉันย้ายกะกลางคืนของพรุ่งนี้มาเป็นวันนี้แทน จดทะเบียนเสร็จพวกเราไปฉลองกัน” หลินซีเหวินตื่นเต้นเหมือนเด็กที่ได้รับรางวัล
หลงจื๋อรวบกอดเธออย่างรักใคร่ “อืม ดี พรุ่งนี้เราไปฉลองกัน”
เธอรู้สึกว่าอารมณ์ของหลงเจ๋อไม่ถูกต้อง หลินซีเหวินกุมคางของเขาพินิจมองอย่างละเอียด “ฉันรู้ว่าMBK…….แต่ว่าคุณวางใจเถอะ เดิมทีฉันก็ไม่สนใจประธานอะไรพวกนั้นอยู่แล้ว ที่ฉันรักคือคุณ ไม่ใช่เงินของคุณ ตอนนี้ดีแล้ว หลังจากนี้คุณก็จะได้มีเวลาให้ฉันเยอะๆ”
หลงจื๋อหายใจสะดุด “คุณไม่สนใจจริงๆ เหรอ?”
ทั้งๆ ที่เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงแท้ๆ เธอกลับคลายความกังวลให้เขาได้มากมายแทน
“ไม่สน! ใครอยากจะเป็นประธานก็เป็นไป แค่คุณเป็นผู้ชายของฉันก็พอแล้ว อนาคตก็จะเป็นพ่อของลูกเรา” ดวงตากระจ่างใสของหลินซีเหวินสะท้อนความร้อนรนของเขาออกมา เหมือนดวงอาทิตย์ที่ปัดเป่าหมอกควันในหัวใจของเขา
เขาคิดว่าเขาพ่ายแพ้อย่างยับเยินและไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง เธอกลับบอกว่าพอดีกับสิ่งที่เธอต้องการ
ในใจสั่นไหวจนแสดงออกมา ลูกกระเดือกขยับ ถูกเธอสะกิดต่อมน้ำตาอย่างคาดไม่ถึง “ซีเหวิน ได้เจอคุณช่างดีจริงๆ”
หลินซีเหวินกอดเขากลับแรงๆ “หลงจื๋อ ขอบคุณนะ ฉันขอบคุณแทนแด๊ดดี้ของฉัน”
“คุณ……รู้เรื่องแล้ว?” หลงจื๋อไม่ได้คิดจะบอกเธอ
“อืม แต่ว่าฉันเชื่อแด๊ดดี้ เขาจะไม่ทำร้ายคุณ! ฉันถามเขาแล้ว” หลินซีเหวินเล่าเรื่องที่คุยอีกรอบ ศรัทธาเต็มหัวใจว่าพ่อเป็นคนดี
หลงจื๋อเหมือนก้างปลาติดคอ “อืม……”
ในใจของลูกสาว บิดาเป็นคนเที่ยงธรรมเสมอ เธอเองก็เช่นกัน
มันโหดร้ายเกินไปที่จะทำลายจินตนาการของเธอ เขาทำไม่ได้
แป๊ก!
ในที่สุดไฟหน้าห้องกู้ชีพก็ดับลง
ทั้งคู่แยกออกจากกัน สาวเท้าพุ่งไปข้างหน้า
ศาสตราจารย์ด้านศัลยกรรมประสาทออกมาก่อน การยื้อชีวิตเป็นเวลานานทำให้ศาสตราจารย์อายุห้าสิบกว่าเหนื่อยล้า เขาถอดแมสก์ออก เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
หลงจื๋อกลืนน้ำลาย “คุณหมอ พ่อของผมเป็นยังไงบ้าง?”
ถ้าเกิดประโยคแรกที่พูดออกมาคือ——ขอโทษด้วย พวกเราพยายามที่สุดแล้ว
นั่น……ก็คือโทษประหาร
หลงจื๋อกดหัวใจไว้ โชคดีที่เขาไม่ได้ยินประโยคประหารชีวิตนั่น
น้ำเสียงของศาสตราจารย์ไม่ผ่อนคลาย “ช่วยชีวิตได้แล้ว แต่ร่างกายของพ่อคุณอ่อนแอมาก เกรงว่าจะฟื้นคืนสติไม่ได้ในเวลาอันสั้น”
ก้อนหินในใจของหลงจื๋อหล่นลง แค่นี้ก็ซาบซึ้งบุญคุณแล้ว “ขอบคุณ”
หลินซีเหวินก้มหัวให้ศาสตราจารย์ “ขอบคุณท่านศาสตราจารย์”
หลงถิงที่มีท่อสิบกว่าเส้นเสียบอยู่ในร่างกายของเขาถูกดันออก ตั้งแต่หน้าถึงมือ ทุกที่ที่มองเห็นได้ไม่มีส่วนไหนเห็นสีเลือดเลย ไม้ใกล้ฝั่งก็ไม่มีอะไรมากกว่านี้
ลั่วหานออกมาเป็นคนรองสุดท้าย หลงจื๋อเตรียมจะส่งบิดาไปที่ห้องICU
“พี่สะใภ้ใหญ่?” เขาตกใจอย่างมาก!
ลั่วหานเองก็เหนื่อยล้าไปทั้งใบหน้า เธอยิ้ม เอ่ยให้กำลังใจ “ดูแลเขาดีๆ เขาจะดีขึ้นแน่”
มีความอบอุ่นที่ไม่อาจพรรณนาได้ในหัวใจของหลงจื๋อ “อืม ขอบคุณพี่สะใภ้ใหญ่”
“ไปเถอะ”
หลินซีเหวินเข้ากอดลั่วหานอย่างซาบซึ้ง “พี่ลั่ว คนที่ฉันนับถือมากที่สุดในโลกก็คือคุณ ขอบคุณที่คุณมองข้ามความแค้นในอดีต ขอบคุณที่คุณยอมช่วยเขา”
ลั่วหานจิ้มหัวของเธอ “เพราะงั้น วิลล่าฉันก็ไม่ต้องให้เป็นของขวัญได้ใช่ไหม?”
“ไม่ได้ เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้น”
“ยัยเด็กนี่”
มองส่งหลินซีเหวินและหลงจื๋อจากไป ฝ่าเท้าของลั่วหานก็เจ็บจนต้องจับกำแพงพยุงนั่งลง
วันนี้เธอสวมรองเท้าส้นสูง ระหว่างผ่าตัดก็เปลี่ยนเป็นรองเท้ากันเชื้อ แต่ยืนอยู่หลายชั่วโมงก็มากพอแล้ว
โถงทางเดินโล่งว่าง ลั่วหานรู้สึกว่าแผ่นหลังเย็นวาบ คลึงข้อเท้าอยู่ครู่หนึ่งก็รีบกลับห้องทำงานตัวเองไป
ส้งชิงเซวี๋ยนฮัมเพลงเล็กๆ น้อยๆ ไม่ช้าก็เร็วมาร่วมสนุก “เสี่ยวลั่วลั่ว เฮะๆๆ!”
ลั่วหานท้องหิว เท้าล้า หน้ากล้ำกลืน “ลุงส้ง คุณอารมณ์ไหนเนี่ย?”
“ฉันเห็นข่าวแล้ว ฮ่าๆๆ! เซียวเซียวในที่สุดก็กลับสู่MBKแล้ว ว้าา อารมณ์ดีจังเลย! ฉันโพสต์โมเมนต์แล้ว! ได้ไลค์มาตั้งเยอะแน่ะ!” ส้งชิงเซวี๋ยนโคลงโทรศัพท์อย่างโอ้อวด ทะนงอย่างกับอะไรดี
ลั่วหานรู้สึกเสียใจในภายหลังนิดหน่อยที่สอนเขาเล่นวีแชท
อะไรนิดหน่อยก็อวด!
“ฉันขอบคุณแทนหลงเซียว คุณยังมีอะไรอีกไหม?”
“เสี่ยวลั่วลั่ว ทำไมคุณช่วยชีวิตหลงถิงกลับมาล่ะ? โง่รึเปล่า ให้เขาตายไปดีจะตาย! จะได้ไม่ต้องเป็นปีศาจมาทำร้ายคุณกับเซียวเซียว” ส้งชิงเซวี๋ยนยู่ปากอย่างไม่สบอารมณ์
“ไม่ได้ เขายังไม่ได้ชี้แจงการฆาตกรรมครอบครัวของมู่เลย กฎหมายไม่ได้ให้การลงโทษที่เขาสมควรได้รับ มาตายที่โรงพยาบาลเขาจ่ายราคาถูกเกินไปแล้ว!” ลั่วหานไม่พอใจมาก
“โว้ววว ฉันนึกว่าคุณจะบอกว่า คุณเป็นหมอที่ช่วยชีวิตคนใกล้ตายและบาดเจ็บ คิดไม่ถึงเลยว่าลั่วลั่วตัวน้อยของฉันจะมีปีศาจตัวน้อยอยู่ในใจด้วย ไม่เลวไม่เลว ฉันชอบ” ส้งชิงเซวี๋ยนยิ้มอย่างอันธพาล ไหนเลยจะมีท่าทางเหมือนคนแก่อีก
“ไม่มีเรื่องอื่นแล้วใช่ไหม? ฉันจะเลิกงานกลับบ้านแล้ว วันนี้เหนื่อยแทบตาย” ลั่วหานอยากจะรีบหลับไปหาหลงเซียว แล้วก็ลูกสาวให้เร็ว
“รอแป๊บๆ ในโทรศัพท์คุณมีรูปชูชูไหม? ฉันไม่ได้ลงรูปชูชูนานแล้ว……” ส้งชิงเซวี๋ยนขอรูปถ่ายของเด็กน้อยอย่างไร้ยางอาย
“ไม่มี มีก็ไม่ให้! ฉันต้องปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกสาว”
ครั้งที่แล้วเอารูปให้เขาไป เขาแต่งรูปซะเป็นอะไรไม่รู้
“นี่ๆๆ คุณ……คุณคุณคุณทำให้ฉันโกรธแล้วนะ!”
ลั่วหานเอียงหัว “แล้วไง? จะตีฉันเหรอ?”
“คุณ!”
จู่ๆ เสียงออกอากาศของโรงพยาบาลก็ดังขึ้น เสียงกังวลของแพทย์ที่เข้าเวรในห้องฉุกเฉินดังมาจากลำโพงตรงทางเดิน——
“แผนกอายุรศาสตร์ระบบย่อยอาหารรีบมาที่ห้องฉุกเฉิน! แผนกอายุรศาสตร์ระบบย่อยอาหารรีบมาที่ห้องฉุกเฉิน!”
“ผู้ป่วยเลือดออกในกระเพาะอาหาร แผนกอายุรศาสตร์รีบมาที่ห้องฉุกเฉินด่วน!”
ส้งชิงเซวี๋ยนแบะปาก “เลือดออกในกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่ก็เพราะดื่มเหล้ามากเกิน ช่างเถอะๆ ฉันเลิกงานกลับบ้าน ให้พยาบาลดูแลเถอะ”
เลือดออกในกระเพาะอาหาร? ดื่มเหล้ามากเกิน?
คนที่ปรากฏในสมองคนแรกคือหลงเซียว ตอนนั้นเขาก็ถูกส่งโรงพยาบาลเพราะเรื่องนี้
ลั่วหานสวมเสื้อตัวนอก “หวังเค่ยล่ะ?”
“บอกว่าตอนดึกมีธุระ พอช่วยดูเสร็จก็ออกไปอย่างปลอดภัยแล้ว ใจคนสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว!”
บรรยายอะไรเนี่ย?
ส้งชิงเซวี๋ยนสะบัดเสื้อคลุมสีขาวท่าทางราวกับเซียนกลับไปที่ห้องทำงาน ลั่วหานหิ้วกระเป๋าลงมา
พอถึงโถงฉุกเฉิน แพทย์หลายคนที่เข้าเวรที่และแพทย์อายุรศาสตร์ที่เพิ่งลงมากําลังช่วยเหลือผู้ป่วยที่เข้ามา
อ้อ ผู้ป่วยเลือดออกในกระเพาะเมื่อกี้
“หลีกหน่อยๆ!”
“ด้านหน้า หลีกทางหน่อย!”
ลั่วหานไหวไหล่ คิดจะเดินอ้อม แต่ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอมองไปที่เตียงเข็น
“ตู้หลิงเซวียน?”
แวบนั้น เธอมองเห็นชัดเจนว่าคนที่นอนอยู่คือตู้หลิงเซวียน