ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 925
ตอนที่ 925 ออกกำลังกายก่อนนอนกันหน่อยเถอะ
อาเซียงตกใจจนมือสั่น เธอกำลังจะบอกกับลั่วหานว่าล้างผักเสร็จหมดแล้ว แต่เธอเงยหน้าไปเห็นเจมส์และคุณหญิง แล้วก็เห็นใบหน้าที่หล่อวัวตายความล้มแต่เยือกเย็นราวกับน้ำค้างในฤดูหนาว ………
“คุณ…..คุณหญิง”
เสียงของอาเซียงสั่นสะท้าน และเธอรู้สึกได้ถึงแรงสังหารจากหลงเซียวที่อยู่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร
“ล้างเสร็จแล้วเหรอ? ” ลั่วหานหมายถึงผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ
อาเซียงอยากจะเตือนเขาทั้งสองคน แต่ถูกสายตาของหลงเซียวหยุดไว้ เธอจึงทำได้แค่ตอบไปแบบอื้อๆ อ้าๆ ว่า”ล้าง … ล้างเสร็จแล้วค่ะ”
เจมส์ยังคงตั้งใจช่วยลั่วหานจัดทรงด้วยความเต็มใจ แค่มัดผมหางม้ามัดมาตั้งนานก็ยังทำไม่เสร็จ ลั่วหานเริ่มสงสัยคำพูดของเขาที่บอกว่าเคยช่วยลูกพี่ลูกน้องมัดมาก่อนแล้ว!
ไม่สิ ไม่ควรให้เขาทำให้ตั้งแต่แรกเลย
ขณะที่เจมส์กำลังสงสัยว่าจะทำยังไงถึงมัดหนังยางได้อีกรอบหนึ่ง ทันใดนั้นก็มีร่างกายที่สูงใหญ่กดทับลงมาที่เขา ความเยือกเย็นที่เผยออกมาทำให้อุณหภูมิของเครื่องทำความร้อนส่วนกลางดับลง รอบข้างล้อมรอบด้วยถ้ำน้ำแข็งที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง
เจมส์ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มือคู่หนึ่งที่สวยงามดั่งหยกก็ปัดมือของเขาออกไป ผมที่นุ่มลื่นของเธอก็ร่วงลงมาอยู่ในฝ่ามือของหลงเซียว
เจมส์ตะลึงไปชั่ววินาที จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วสบตากับหลงเซียว ดวงตาสีฟ้าของเขาเบิกกว้างมาก แต่ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็พ่ายแพ้ให้กับต่อความโหดเหี้ยมของหลงเซียวที่ไม่แสดงออกมา
เจมส์กัดฟันแล้วทำรูปปากท้าทายเขา แต่ไม่ได้ทำอะไรออกมา แล้วเขาเดินจากไปอย่างเงียบๆ
หลังจากที่ผมของเธอไปตกอยู่ในมือของหลงเซียว ทุกอย่างมันก็ดีขึ้นมาทันที นิ้วเรียวยาวของเขาถอดยางรัดผมออกมาแล้วม้วนไปสองรอบ จากนั้นก็ดันออกด้วยนิ้วสองนิ้วแล้วพันเข้าไปที่ผมของเธอ ผมหางม้าที่สวยงามก็ห้อยลงมาอยู่ตรงหลังเธอโดยไม่มีผมยุ่งเหยิงเลยแม้แต่เส้นเดียว
ลั่วหานยังสงสัยอยู่ว่าทำไมเจมส์ถึงดูอ่อนโยนขึ้นกว่าเดิม และกลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่คุ้นเคยไปแตะที่ปลายจมูกของเธอทำให้เธอกระจ่างในทันที
หลงเซียวกลับมาแล้ว!
เพราะฉะนั้นเมื่อสักครู่นี้เขาไม่ได้เห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น……ใช่ไหม!
และเขาคงไม่ได้คิดมากในเรื่องที่ไม่ควรคิด… ใช่ไหม?
ไม่ได้คิดถึงสิ่งที่ไม่ควรคิด … ใช่ไหม?
เธอร้อนตัวขึ้นมาทันที!
ก่อนที่ลั่วหานจะเอ่ยปากพูดออกมา หลงเซียวก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “คุณเกร็งทำไม? ”
มือของเขาวางอยู่บนไหล่ของเธอ เขาสัมผัสถึงความตื่นเต้นและความตกตะลึงของเธอในวินาทีนั้นได้อย่างชัดเจน ที่แท้แล้วตัวเธอเองก็รู้ดีว่าสิ่งที่เจมส์ทำเมื่อสักครู่นี้มันไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่
“ฉันดูเกร็งเหรอคะ? ตาข้างไหนของคุณเห็นว่าฉันเกร็งคะ?” ลั่วหานร้อนตัวมาก แต่พอมาคิดดูแล้วดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา?!
“ผมเห็นด้วยตาทั้งสองข้างเลย ผมสัมผัสได้ผ่านมือของผมด้วย ” คนที่อยู่ข้างหลังเธอตอบออกมาอย่างมีพลังและนิ่งเฉย
ลั่วหานหันหลังกลับไปอย่างชาญฉลาดและหนีออกมาจากมือของเขาจนได้ “มันเป็นแค่ภาพลวงตา ฉันจะไปทำอาหาร คุณไปนั่งพักที่ห้องนั่งเล่นสักพักหรือไม่ก็ไปเล่านิทานให้ลูกสาวฟังหน่อย อีกสักพักก็กินข้าวได้แล้ว”
หลงเซียวไม่ได้ไปหาชูชู แต่เดินตามลั่วหานไปที่ห้องครัว สูทราคาแพงของเขายังไม่ได้ถอดออก
เขายืนอยู่กลางห้องครัวที่กว้างขวางโดยไม่มีความเข้ากันเลย
หลังจากเขาเห็นวัตถุดิบอาหารแล้วเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “ฉันบอกคุณแล้วว่าอย่าทำอาหาร ถ้าจะทำก็ทำให้ผมกินได้แค่คนเดียวเท่านั้น”
ลั่วหานยิ่งรู้สึกผิดไปใหญ่ เมื่อสักครู่เธอใจอ่อนเผลอรับปากเจมส์ไป เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าที่บ้านมีคนขี้หึงมากๆ อยู่หนึ่งอัตรา ฉะนั้นเธอก็เลยยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้นมา “ฉันกำลังจะทำอาหารให้คุณกินนี่แหละค่ะ! ตอนนี้คุณได้รับตำแหน่งท่านประธานของMBKคืนมาแล้ว ฉันอยากทำอาหารฉลองให้กับคุณด้วยมือของฉันเองมาสักพักแล้ว แต่ช่วงนี้ฉันยุ่งเกินไปไม่มีเวลา แล้ววันนี้ฉันก็ว่างหลังเลิกงานพอดี”
หลงเซียวเหลือบมองเธอ แล้วจ้องมองไปที่หน้าของเธอ “หื้ม?”
ลั่วหานเปิดก๊อกน้ำมาแล้วล้างมือ “ส่วนเจมส์เขาได้กินอาหารฝีมือฉันก็เพราะคุณนี่แหละ คุณดูเขาสิดูเหมือนเด็กไร้เดียงสาเลยอยากได้อะไรก็ต้องได้ จริงไหม?”
หลงเซียวยังคงขมวดคิ้วอยู่เช่นเคย เขาไม่เห็นด้วยที่จะบอกว่าผู้ชายที่กล้าที่จะให้ดอกกุหลาบกับหญิงสาวที่แต่งงานแล้วนั้นดูเป็นเด็กไร้เดียงสานะ!
ลั่วหานเห็นว่าเขาไม่ได้ตอบอะไร ก็เลยเดินเข้าไปหาเขาแล้วเขย่งเท้าจุ๊บไปที่ริมฝีปากของเธอ “ที่รักคะ คุณคิดเสียว่าเจมส์เป็นเด็กไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่องอะไรก็พอแล้ว อย่าหึงไปซะทุกอย่าง เดี๋ยวคุณจะกลายเป็นคนขึ้หึงมากเกินไป จะป่วยง่ายเอานะ”
จูบเมื่อสักครู่นี้ได้ผลดีมาก คิ้วของหลงเซียวคลายลงเล็กน้อย แต่เขายังรู้สึกไม่พอใจเขาก็เลยเอามือโอบท้ายทอยเธอไว้แล้วจูบลงไป
“ผมป่วยมานานแล้ว นอกจากคุณแล้วไม่มีใครสามารถรักษาผมได้”
ลั่วหานโดนเขาเต๊าะอย่าไม่ทันได้ตั้งตัว เธอรู้สึกอุ่นใจแล้วใช้แขนดันเขาออกไปอย่างเขินอาย “รีบไปได้แล้ว คุณอยู่ที่นี่มันทำให้ฉันไม่สามารถตั้งใจทำอาหาร”
เขายั่วยวนภรรยาของตัวเอง ทำให้หัวใจของแม่ครัวนั้นกระสับกระส่าย
“ครับ…..” หลงเซียวเอามือไปลูบที่ปลายผมของเธอด้วยความเอ็นดู
ตอนที่หลงเซียวออกมาจากห้องครัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข แต่พอหันไปเจอเจมส์ที่อยู่ในห้องนั่งเล่น สีหน้าที่มีความสุขของเขาก็กลับมาเยือกเย็นอีกครั้ง
เจมส์ทำเป็นไม่เห็นเขาแล้วอ่านหนังสือภาษาจีนของตัวเองต่อไป
หลงเซียวก็ทำเหมือนเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วก็เดินเข้าไปที่ห้องทารกไปดูชูชู
ไม่นานเจมส์ได้ยินหลงเซียวใช้ภาษาสเปนเล่านิทานให้ชูชูฟัง เขาหูผึ่งขึ้นมาทันที
ภาษาสเปนของหลงเซียวดีมาก เขาออกเสียงชัดและเป็นธรรมชาติทุกคำ ไพเราะยิ่งกว่าสำเนียงบริติชเสียอีก เจมส์เคยเรียนภาษาสเปนมาก่อน
ครูที่เขาเรียนด้วยเป็นครูที่มีชื่อเสียงมากในประเทศM แต่พอเอาทั้งคู่มาเปรียบเทียบกันแล้ว ครูภาษาของเขานั้นสู้ไม่ได้เลย
เจมส์กำลังตั้งใจฟังเนื้อหาที่เขาพูด เขาเพิ่งจะฟังคำว่าเจ้าเป็ดขี้เหร่ออก หลงเซียวก็เปลี่ยนไปพูดภาษาฝรั่งเศสซะงั้น
แม่เจ้า!
เจมส์ฟังไม่ออกเลยสักคำ
“นี่ หลงเซียว ทำไมนายเล่านิทานไม่ใช้ภาษาเดียวเล่าให้มันจบล่ะ ทำไมต้องเปลี่ยนภาษากะทันหันด้วย?”
เจมส์ทนไม่ไหวก็เลยยืนตำหนิเขาอยู่หน้าประตู
หลงเซียวอุ้มเด็กทารกไว้อย่างอ่อนโยน เขานั่งไขว้ขาอยู่บนโซฟาอย่างเกียจคร้านและดูสง่างาม ส่วนเสี่ยวชูก็กำลังฟังนิทานของเขาอย่างเคลิ้มเคลิ้ม
“เพราะว่าผมพูดได้หลายภาษาไงครับ”
คำตอบของหลงเซียว……เฉียบมาก
เจมส์:” ………..”
เขาอ้าปากราวกับว่าจะพูดอะไรสุดท้ายก็ไม่ได้พูด นี่เขาไม่สามารถโต้เถียงกลับไปได้! ไม่สามารถโต้แย้งได้เลย
มีแอนน่าคอยกดขี่เขาก็ว่าพอแล้ว ตอนนี้หลงเซียวก็จะมาทำร้ายเขาอีก ทุกข์ใจจริงๆ
จากนั้นเจมส์ก็พิงไว้ตรงประตู แล้วฟังหลงเซียวใช้ภาษา5ภาษาเล่านิทานเรื่องลูกเป็ดขี้เหร่กลายร่างเป็นหงส์ขาวจนจบ โดยใช้5ภาษาเลยนะ!
ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาสเปน ภาษาเยอรมันและภาษาละติน!
แต่ไม่มีภาษาจีน
เจมส์คิดว่าตัวเองเจอจุดด้อยของเขาแล้ว “ทำไมนายถึงไม่พูดภาษาจีน? เธอฟังรู้เรื่องเหรอ?”
“นายถามเธอดูสิ” หลงเซียวยิ้มออกมา
เจมส์ : “………..”
นี่เขากำลังดูถูกไอคิวของเขา หรือกำลังดูถูกไอคิวของเขากันแน่ๆ?
อาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เวลามีจำกัดมากลั่วหานก็เลยทำแค่4อย่าง คนรับใช้ทำ4อย่าง รวมแล้วเป็นกับข้าว8อย่าง น้ำซุป2อย่าง
เจมส์วิ่งเข้าไปพร้อมตาที่ส่องแสงประกาย เขาใช้ช้อนตักเนื้อสันนอกตุ๋นเข้าปากไป1คำ แล้วก็นั่งกินอย่างเงียบๆ จนหมด
ลั่วหานและหลงเซียวถือตะเกียบไว้ยังไม่ทันได้ลงมือกิน พวกเขาก็เห็นเจมส์กินซี่โครงแกะผัดเปรี้ยวหวานหมดไปอีก1จาน หลังจากนั้นเขาก็จะไปกินซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงต่ออีก….
ลั่วหานเห็นว่ากับข้าว4อย่างที่เธอทำเหลืออยู่แค่ปลานึ่ง เธอก็รีบตักให้หลงเซียวแล้วยิ้มให้เขา “คุณสามีคะ อันนี้ของคุณค่ะ”
สีหน้าของหลงเซียวไม่สามารถใช้คำพูดอธิบายออกมาได้ในขนาดนี้
เจมส์กินกับข้าวทั้ง3อย่างไปจนหมด แม้แต่น้ำซอสเขาก็ยังใช้ขนมปังจิ้มกินจนไม่เหลือสักหยด “แอนน่า ยังมีอีกไหม?”
ลั่วหานมองไปที่อาเซียงพร้อมรอยยิ้ม “ไปเอาหม้อหุงข้าวที่ห้องครัวมา”
เจมส์ : “หม้อหุงข้าว?”
“ใช่ ข้าวหม้อใหญ่มาก ฉันเป็นคนหุงเองกับมือนะ”
หลงเซียวหัวเราะออกมาด้วยความอารมณ์ดี แล้วก็เริ่มกินปลาของตัวเองไปอย่างสง่า เขาเกลี่ยก้างปลาออกแล้วเอาเนื้อปลาที่ขาวนุ่มให้ลั่วหาน แล้วก็ส่งยิ้มที่หล่อเหลาและอบอุ่นให้เธอด้วย
ลั่วหานรับมาพร้อมเขินหน้าแดง “ขอบคุณค่ะคุณสามี”
เจมส์ใช้ช้อนตักข้าวขึ้นมาแล้วใส่เข้าปากของตัวเอง พร้อมพูดอย่างโกรธเล็กน้อยว่า “คุณเกลี่ยก้างปลาไม่เป็นเหรอ?”
หลงเซียวเกลี่ยเนื้อปลาไปให้เธออีกหลายชิ้น จนกองเต็มจานไปหมด “เธอทำเป็นแต่ผมไม่อยากให้เธอเหนื่อย”
เจมส์ : “……….”
ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี แต่เขารู้สึกหงุดหงิดใจอย่างมาก
อาเซียงถือหม้อหุงข้าวไว้ แล้วรู้สึกสงสารเจมส์อย่างเก้อกระดาก
เธอต้องสอนคำศัพท์ออนไลน์ยอดฮิตให้กับเขาหน่อย คำว่า “อาหารหมา” อืม เพิ่มอีกหนึ่งคำ คำว่า “สุนัขผู้โสดเฉา” (ประเทศจีนนิยมใช้เรียกคนโสด)
เช่นนี้ต่อไปตอนที่เจมส์รู้สึกหงุดหงิดใจปวดใจเขาก็จะรู้ว่าควรใช้คำไหนมาบอกความรู้สึกของตัวเองแล้ว
หลังจากกินข้าวเสร็จ เจมส์ก็เดินเข้าห้องทารกไปหาเบบี๋ชูชูเพื่อร้องขอความอบอุ่นจากเธอ “เบบี๋Angel แด๊ดดี๊ของเธอน่ะร้ายและน่าหงุดหงิดที่สุดเลย เขาแกล้งผม อีกอย่างเขาไม่ยอมสอนภาษาจีนให้หนูใช่ไหม ก็ได้ข้าจะเป็นคนสอนเอง!”
จากนั้นเจมส์ก็หยิบหนังสือเทพนิยายของAndersen แล้วใช้สำเนียงภาษาระดับ0ของเขา……
อาเซียงคิดอยู่ในใจว่าแย่แล้ว ต่อไปนี้ภาษาที่แย่ที่สุดของเจ้าหญิงต้องเป็นภาษาจีนแน่ๆ เลย
ณ ชั้นสอง ห้องนอนหลัก
หลังจากที่กินอิ่มลั่วหานก็นอนอยู่บนตักของหลงเซียว ใช้ขาของเขาเป็นหมอนไว้พักผ่อน “ทำไมวันนี้คุณกลับมาดึกจัง?”
หลงเซียวเปิดเอกสารมา มือข้างหนึ่งของเขาเปิดดูเอกสาร อีกข้างหนึ่งลูบไปที่ผมของเธออย่างอ่อนโยน “หลังจากที่ผมเลิกงานผมไปพบคนคนหนึ่งแล้วรับของมา”
เขาไปพบจ้าวไห่เซิงมา ไปเอาของที่เธอเอาไปจำนำกลับมา
“อาเซียงบอกว่าวันนี้คุณแม่ไปหาเสี่ยวจื๋อ ที่จริงแล้วฉันรู้สึกว่าคุณแม่ดีกับเสี่ยวจื๋อมากๆ เลยนะ เสี่ยวจื๋อเองก็รักแม่มาก ถ้าต่อไปเขาสองคนสามารถอยู่ด้วยกันเหมือนแม่ลูกกันจริงๆ มันก็คงจะดียิ่งขึ้น” ช่วงนี้ลั่วหานพักผ่อนเพียงพอ สีหน้าของเธอแดงก่ำมีชีวิตชีวา เหมือนจะอ้วนขึ้นเล็กน้อยด้วย
หลงเซียวตอบกลับไปว่า อืม แต่เขาไม่ได้สนใจมันมาก “ลั่วลั่ว……”
“คะ?”
“คุณไม่มีอะไรจะบอกผมเหรอ?”
เช่น ทำไมถึงเอาเครื่องประดับพวกนั้นไปจำนำ
ทันใดนั้นลั่วหานก็นึกถึงเช็ค50ล้านในกระเป๋าขึ้นมา เธอส่ายหน้าด้วยความกังวลใจ “ไม่มีนะคะ”
“ไม่มีจริงๆ เหรอ?”
ลั่วหานร้อนตัว แล้วเธอก็เอาหัวมุดเข้าไปที่ใต้วงแขนของเขา “ไม่มีจริงๆ นะคะ”
หลงเซียวไม่ได้ถามอะไรต่อ “มีเรื่องอะไรต้องบอกผมก่อนนะ อย่าลืมว่าผมเป็นสามีของคุณ เรื่องของคุณก็ถือว่าเป็นเรื่องของผม”
ลั่วหานรู้สึกอุ่นใจจนใจละลาย เธอเงยหน้าแล้วปัดเอกสารของเขาออก แล้วสบตาไปที่สายตาคู่นั้นที่มองตรงลงมาที่เธอ “ค่ะ คุณสามี”
แม้ว่าหลงเซียวไม่ได้พูดมันออกมา แต่เรื่องนี้จะยังคงติดอยู่ในใจ
“ต่อไปถ้าแบตโทรศัพท์ใกล้จะหมดก็ชาจไว้ก่อน” อยู่ดีๆ เขาก็พูดขึ้นมา
ลั่วหาน : “…….”
เรื่องแบบนี้ก็รู้ด้วยเหรอเนี่ย?! เขารู้ได้อย่างไร? แล้วเขายังรู้อะไรอีก?
ก่อนนอนทั้งคู่ไปดูเสี่ยวชูชูก่อน เบบี๋นอนหลับไวมากเธอเข้าฝันอันแสนหวานไปแล้ว หลังจากที่มองดูแก้มที่น่ารักของเสี่ยวชูชู ลั่วหานก็ควงแขนของหลงเสียวไว้แล้วมองดูเขาอย่างอ่อนโยน
คนที่เห็นชูชูต่างก็บอกว่าลูกสาวเธอหน้าตาเหมือนเธอเลย ถ้าอย่างงั้นต่อไปเขาสองคนมีลูกชายอีกคนจะเหมือนหลงเซียวไหมนะ?
หล่อและดูดีเหมือนหลงเซียวและขอให้ชาญฉลาดเหมือนเขาด้วย
แล้วก็อ่อนโยนเหมือนเขา
อ๊าย……ถ้าอย่างงั้นจะเพอร์เฟคมากเลยนะ!
ลั่วหานรู้สึกตื่นเต้น เธอเอามือสอดเข้ามือของหลงเซียว “คุณสามีคะ เราไปพักผ่อนกันเถอะ”
“ได้ครับ”
“อืม วันนี้ฉันไม่ค่อยเหนื่อย คุณล่ะ?” สายตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนของแสงจันทร์ของลั่วหานมองไปที่เขา
สายตาเธอทำให้หลงเซียวหวั่นไหว ลูกกระเดือกของเขาเคลื่อนที่ไปมาราวกับว่าพลังบางอย่างมาจับต้อง เสียงของเขาก็แหบและทุ้มมากขึ้น “ผมไม่เหนื่อยเลยครับ…..ก่อนจะนอนเรามาออกกำลังกายกันหน่อยไหม”
ลั่วหาน : “……….” เธอเขินจนหน้าแดงและพูดอะไรไม่ออก