ประธานหยิ่งยโสของฉัน - ตอนที่ 953
ตอนที่ 953 ฉันก็คือฤดูใบไม้ผลิของคุณ
วันต่อมา
แสงอาทิตย์ที่งดงามลื่นไหลความอบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของฤดูหนาวออกมา ความหนาวจัดที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างยังคงเหน็บหนาว แต่กลับไม่ทิ่มแทงทะลุผิวแล้ว
หลงจื๋อขยับเปลือกตาเล็กน้อย แสงอาทิตย์อันอบอุ่นปลุกดวงตาของเขาให้ตื่นขึ้น
ยังไม่ได้ลืมตา หลงจื๋อก็รู้สึกได้ถึงวัตถุกำเนิดความร้อนที่นุ่มนิ่มในผ้าห่มด้านข้าง แขนยืดไปทางด้านข้าง สัมผัสเข้ากับผิวที่ละเอียดอ่อนของหลินซีเหวิน ราวกับผิวของเซรามิคสัมผัสมือดีมาก
หลงจื๋อดึงผ้าห่มครึ่งค่อนผืนที่ตกลงไปยังด้านล่างเตียงขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ห่มให้กับหลินซีเหวิน
นอนหลับชอบม้วนผ้าห่ม ช่างเป็นความเคยชินที่ทำให้คนปวดหัวจริงๆ!
หลงจื๋อแทบจะไม่ได้ห่มผ้าเท่าไร แต่ว่า กอดเธอเอาไว้ สบายกว่าผ้าห่มเยอะมาก และก็อบอุ่นกว่าผ้าห่มเยอะมากเช่นเดียวกัน
แสงอาทิตย์ยามเช้าตรู่คือมือที่อ่อนโยน หยอกล้อเส้นผมและผิวของหญิงสาว ขนตาและสันจมูก บีบนวดทุกสิ่งทุกอย่างของเธอทีละนิด
เช้าตรู่แบบนี้ งดงามมาก งดงามยิ่งกว่าแสงสีในยามค่ำคืนของเมื่อคืนนี้เสียอีก
หลินซีเหวินส่งเสียงในลำคอออกมา ยืดแขนขาอย่างเกียจคร้าน แขนยืดออกไปครึ่งหนึ่ง กระทบเข้ากับไหล่ของหลงจื๋อ
เอ่อ…
เธอลืมผู้ชายที่นอนหลับอยู่ด้านข้างไปได้ยังไงกัน?
“หลับสบายไหม?”
เสียงที่แหบพร่าไพเราะของหลงจื๋อห่อหุ้มใบหูของเธอ ไพเราะจนราวกับเสียงจากสวรรค์
หลินซีเหวินนวดคลึงดวงตา เอียงศีรษะไม่มองเขา “สบายค่ะ”
“ทำไมไม่มองผม?” หลงจื๋อยืดลำตัวครึ่งท่อนบนขึ้นสูงผ้าห่มเลื่อนลง เผยแผ่นหลังที่สะอาดทั้งยังรอยกล้ามเนื้อชัดเจน รวมไปถึงรอยข่วนที่ความลึกตื้นไม่เท่ากันเป็นเส้นๆ
หลินซีเหวินกัดริมฝีปากเล็กน้อย “ฉันตื่นมาตอนเช้ามีขี้ตา ไปล้างก่อน”
หลงจื๋อหัวเราะพรวดออกมาอย่างกะทันหัน “ผมชอบ ไม่ต้องล้าง”
หลินซีเหวินยังคงตะแคงตัวไม่มองเขา “คนโกหก!ไม่มีคนชอบขี้ตา!”
ไม่ใช่แค่ขี้ตา คาดว่าลมหายใจทางปากก็ไม่ดีเช่นเดียวกัน สำหรับผิว…เมื่อคืนนี้นอนดึกทั้งยังทานรสจัดอีก จะต้องแย่มากอย่างแน่นอน!
หลงจื๋อจับเธอให้หันตรงอย่างเอาใจ บีบบังคับให้ใบหน้าที่เขินอายนั้นหันมาทางตนเอง “ของคนอื่นแน่นอนว่าผมไม่ชอบ แต่คุณไม่ใช่คนอื่น คุณคือภรรยาของผมนะ”
ดวงตาน่ารักที่ขุ่นมัวของหลินซีเหวินกระพริบปริบๆสองที แขนราวกับเถาวัลย์ก็ไม่ปานปีนป่ายลำคอของหลงจื๋อ “พูดจาเป็นจริงๆนะคะ!พูดอีกสักสองสามประโยคให้ฉันฟัง”
“ภรรยาของผมสวยที่สุด น่ารักที่สุด มีความสามารถที่สุด น่าทำให้คนรักใคร่เอ็นดูที่สุด จิตใจดีที่สุด…” หลงจื๋อใช้คำศัพท์ไพเราะทั้งหมดที่มีอยู่ในหัว “เป็นยังไง? ภรรยาของผมสุดยอดไหม?”
นิ้วโป้งเท้าของหลินซีเหวินเกี่ยวน่องขาของเขาในผ้าห่มอย่างอยู่ไม่นิ่ง สัมผัสเอ็นน่องที่กระชับของเขา “งั้น…นอกจากพวกนี้ล่ะคะ?”
หลงจื๋อลองคิด “นอกจากนี้แล้ว สายตาก็ดีที่สุดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลือกสามีเป็น!”
“ชิ!ฮ่าๆ!”
หลินซีเหวินขดตัวเข้าไปในอ้อมแขนของหลงจื๋อ นิ้วก้อยวาดวงๆที่หน้าอกของเขา “รับมือกับพ่อของฉัน ยังมีอีกวิธีหนึ่ง”
หลงจื๋อถูกเธอยั่วเย้าจนร้อนระอุไปทั่วทั้งตัว หน้าอกชาไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะสูญเสียการควบคุมอีกครั้ง “วิธีอะไร?”
ใบหน้าอมชมพูของหลินซีเหวินแดงก่ำ “ข้าวสารหุงเป็นข้าวสวย ตั้งท้องมีลูก รอในท้องของฉันมีเบบี๋แล้ว แด๊ดดี้ของฉันไม่กล้าจะยังไงกับฉันอย่างแน่นอน!”
“จะได้หรอ?” หลงจื๋อกลับไม่ถือสาวิธีการที่ดีนี้
“คุณรอเดี๋ยว”
หลินซีเหวินเปลือยเท้าและขา…วิ่งลงไปหยิบโทรศัพท์มือถือ แผ่นหลังที่เรียบเนียนขาวใสก็มอบให้กับชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังแบบนี้
หลงจื๋อ “…”
หลินซีเหวินหยิบโทรศัพท์มือถือมาได้ เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ได้กระพริบสัญญาณแจ้งเตือนแล้ว
“มานี่ ถ่ายรูป”
…
“คุณคะ ลูกสาวไม่กลับบ้านทั้งคืน โทรศัพท์ไม่มีคนรับ หลงจื๋อก็หายไปเช่นเดียวกัน ฉันว่าทั้งสองคนหนีตามกันไปแล้ว!ฉันจะแจ้งความ!ฉันจะฟ้องหลงจื๋อลักพาลูกสาวของเราไปขาย!”
คุณนายหลินเท้าสะเอวใส่อารมณ์อย่างโมโหสุดขีด
หลินเหว่ยเย่หาวติดต่อกันหลายต่อหลายครั้ง ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ติดต่อเพื่อนของหลินซีเหวิน ตรวจสอบหาบันทึกการใช้จ่ายบัญชีธนาคารของเธอ เส้นทางการเดินทาง ที่คิดได้ต่างก็ลองไปหมดแล้ว แต่ลูกสาวยังคงไร้ร่องรอย
“แจ้งความคนหายต้องรอหลังจากสี่สิบแปดชั่วโมง ตอนนี้แจ้งความเจ้าหน้าที่เขาไม่ลงแฟ้มคดีให้ ทำได้แต่รออีกหน่อย”
“รอไปถึงเมื่อไรกัน? หรือรอให้พวกเขาหุงข้าวสารจนกลายเป็นข้าวสวย?!” คุณนายหลินโพล่งออกไป จากนั้นตัวเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน!
หลินเหว่ยเย่เบิกตาจนนูนออกมา “ซีเหวินออกนอกรีตจนเป็นนิสัยแล้ว อะไรก็ทำออกมาได้”
คุณนายหลินโมโหจนกระทืบเท้าทุบโซฟา “นังลูกบ้า!เธอกล้า!”
“หากเธอทำขึ้นมาแล้วจริงๆล่ะ?” หลินเหว่ยเย่ร้องขอความคิดเห็นจากภรรยาด้วยความไม่สงบ
คุณนายหลินอ้าปากอย่างโมโหจัด คิดจะพูดคำพูดแรงๆ แต่คำพูดมาถึงปากก็กลืนกลับลงไปอีก “ฉันไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ!”
ครืนๆ!
โทรศัพท์มือถือของคุณนายหลินดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“คงจะเป็นซีเหวิน!”
คุณนายหลินคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้น วินาทีต่อมาลูกกะตาแทบจะพุ่งทะลักออกมาจากรอบดวงตา!
บนหน้าจอคือรูปหลินซีเหวินกับหลงจื๋อนอนอยู่ด้วยกันอีกทั้งไม่มีเสื้อผ้าปิดคลุม!
ทั้งสองคนใช้ผ้าห่มผืนเดียวกัน เผยกระดูกไหปลาร้าและหน้าอกออกมา ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงหลังจากตื่นนอนกับความแดงระเรื่อที่อยู่บนใบหน้าของทั้งสองคน ต่างก็ราวกับใช้ตัวอักษรสีดำขยายใหญ่บอกกับเธอว่า พวกเขาเกิดอะไรขึ้น!
“คุณพระ…”
คุณนายหลินรู้สึกเพียงแค่หน้ามืดเวียนหัวขึ้นมาระลอก ขาอ่อนจนไม่มีแรงค้ำเอาไว้ล้มลง!
หลินเหว่ยเย่ไปประคองเธอด้วยความลนลาน “เป็นอะไรไป?ซีเหวินเกิดเรื่องแล้วใช่หรือเปล่า?”
หลินเหว่ยเย่จะไปดูโทรศัพท์มือถือ ถูกคุณนายหลินพลิกมือกดเอาไว้ “นังลูกบ้า!ฉันจะตีมันให้ตาย!ฉันจะตีมันให้ตาย!”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? คุณอย่าเพิ่งโมโหก่อน เธอเป็นอะไรไป?”
โทรศัพท์มือถือของคุณนายหลินสั่นจนราวกับกระชอนร่อนแป้ง “นังลูกอกตัญญูคนนี้!นังสารเลว!แล้วก็…แล้วก็ไอ้หนุ่มบ้านตระกูลหลง!คิดไม่ถึงว่าพวกมัน…คิดไม่ถึง…”
“พวกเขาอยู่ด้วยกันแล้ว?” เส้นเลือดบนหน้าผากของหลินเหว่ยเย่เต้นตุบๆ
เรื่องที่เขากังวลมากที่สุดก็ยังคงเกิดขึ้นแล้ว!ยังคงเกิดขึ้นแล้ว!
ครืนๆ โทรศัพท์ของหลินเหว่ยเย่ดังขึ้น
คราวนี้ก็ยังคงเป็นรูปภาพที่หลินซีเหวินส่งมา เนื้อหาง่ายและหยาบคายมาก
ทะเบียนสมรสของเธอกับหลงจื๋อแล้วก็มือที่สวมแหวนแต่งงานของทั้งสองคน
หลังจากที่หลินเหว่ยเย่ดูเสร็จคนทั้งคนก็ราวกับประทัดที่จุดชนวนติดก็ไม่ปาน ระเบิดขึ้นมาในทันที “นังลูกไม่รักดี!คิดไม่ถึงว่าเธอจะทำลงไปแล้วค่อยมารายงานทีหลัง!”
เคสด้านหลังโทรศัพท์มือถือที่คุณนายหลินใช้นิ้วมือกำเอาไว้แทบจะถูกข่วนจนเป็นรอย เธอกัดฟันเอ่ยขึ้นทีละคำว่า “เรื่องนี้ไม่จบแน่!”
“ผมโทรกลับไป”
หลินเหว่ยเย่โทรกลับ ทางนั้นแจ้งเตือนมาในทันทีว่าได้ปิดเครื่องแล้ว
“ปิดเครื่องแล้ว”
“นังลูกบ้า!เธออยากจะทำให้ฉันโมโหตาย!เธอก็คืออยากจะทำให้ฉันโมโหตาย!” อารมณ์ของคุณนายหลินได้สูญเสียการควบคุมไปแล้ว ภาพลักษณ์ผู้หญิงแกร่งที่ปกติความยินดีความโกรธไม่แสดงสีหน้าออกมาสูญสลายไปโดยสมบูรณ์แบบ ที่มาแทนที่ก็คือแม่ที่ถูกทำให้โมโหจนหัวร้อน
ส่งข้อความเสร็จ หลินซีเหวินทิ้งโทรศัพท์มือถือที่ใช้จนแบตเตอรี่หมดลง “แด๊ดดี้หม่ามี๊ของฉันจะต้องโมโหจนกลายเป็นบ้าอย่างแน่นอน คงจะอยากจะฆ่าฉัน และก็อยากจะฆ่าคุณด้วยเช่นเดียวกัน”
หลงจื๋อเมื่อครู่นี้มองเห็นความบ้าคลั่งของหลินซีเหวินด้วยตาของตัวเอง กลับไม่ได้หยุดยั้ง เพราะว่าเขาอยากจะปกป้องเธอ ไม่ว่าด้านหน้าจะคืออะไร เขาจะต้องสามารถปกป้องผู้หญิงของตัวเองให้ได้!
“ผมอยู่ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำร้ายคุณได้ นอกเสียจากบดขยี้ตัวผมไป!”
…
“ฮัดชิ่ว!ฮัดชิ่ว!”
เสียงจามที่ดังก้องปลุกสิ่งมีชีวิตเล็กๆในรีสอร์ทหยีจิ่งให้ตื่นขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่
เจมส์ตะเกียกตะกายขึ้นมาอย่างหน้ามืดตาลาย พบว่าตนเองหนักศีรษะขาอ่อนทั่วทั้งตัวไร้เรี่ยวแรง
ดันประตูให้เปิดออกอย่างกะปลกกะเปลี้ย เจมส์หนักศีรษะขาอ่อนแรง สายตาด้านหน้าเต็มไปด้วยดวงดาวสีทอง “แอนน่า ผมไม่สบายแล้ว”
ลั่วหานไม่ได้อยู่ที่ห้องรับแขก มีแต่หลงเซียวที่นั่งดูหนังสือพิมพ์บนโซฟาอยู่ กาแฟที่อยู่ข้างมือร้อนกรุ่น
“ไม่สบายแล้ว?”
เจมส์พยักหน้าอย่างน่าสงสาร “อือ ผมเป็นหวัดแล้ว”
“…” หลงเซียวมองดูร่างกายสูงใหญ่ร้อยแปดสิบกว่าคิดไม่ถึงว่าจะห่อเหี่ยวจนกลายเป็นคนแคระ “เป็นหวัด…ดื่มน้ำ”
เจมส์กลอกตามองบน ปังปิดประตูกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง
ผ่านไปสามนาที ออกมา ในจมูกยัดทิชชู่เอาไว้สองก้อน ดวงตาไร้แสงแล้วก็ไม่มีจุดโฟกัสเช่นเดียวกัน เอ่ยขึ้นอย่างหน่ายๆว่า “ผมป่วยหนักมากจริงๆ”
หลงเซียวเงยหน้าขึ้นจากด้านหลังหนังสือพิมพ์ มองเห็นภาพลักษณ์ใหม่หมดของเขา “อืม ดื่มน้ำเยอะๆ”
เจมส์พลิกมือจะปิดประตูลงอีกครั้ง ลังเลอยู่อีกเล็กน้อยไม่ยอมปิด แต่เต้นเร่าๆด้วยความโกรธแทน “ผมเป็นหวัดแล้ว!ผมไม่สบาย!ผมไม่ดื่มน้ำ ผมจะดูอาการ!ผมจะหาแอนน่า!”
ลั่วหานลงมาชั้นล่างพอดี “เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน? รีบกลับไปนอนลงฉันหยิบยาให้คุณ คุณดื่มน้ำร้อนไปหน่อยก่อน”
เจมส์ตอบรับอย่างให้ความร่วมมือดีมาก “ครับ ผมไปดื่มน้ำ!”
หลงเซียว “…”
เมื่อคืนนี้เจมส์โดนอากาศเย็นอยู่ที่ด้านนอก ไข้หวัดอาการหนักรุกราน อีกทั้งไม่สบายอะไรแบบนี้ขี้อ้อนทำตัวน่ารักได้ง่ายมาก อายุก็เลยกลับไปยังสามขวบครึ่ง ข้าวกินไม่เป็นแล้ว น้ำดื่มไม่เป็นแล้ว เตียงลุกขึ้นมาไม่ไหวแล้ว
“แอนน่า ผมคอแห้ง ผมอยากดื่มน้ำ”
ลั่วหานนำแก้วน้ำยื่นไปถึงข้างริมฝีปากของเขา “แช่วิตามินเอาไว้ ดื่มเยอะหน่อย”
เจมส์อ้าปากดื่มคำเล็กๆ ความสามารถในการดื่มน้ำยังไม่ลืมมองลั่วหาน “น้ำแช่วิตามินอร่อยจริงๆ”
อร่อยบ้านคุณสิ!เมื่อก่อนคุณไม่เคยกิน?
แน่นอน ปากไม่สามารถพูดแบบนี้ได้ “ใช่ไหมล่ะ? ดื่มเยอะหน่อย”
ผ่านไปไม่ถึงห้านาที “แอนน่า ผมอยากทานผลไม้…องุ่น”
ลั่วหานเด็ดองุ่นเม็ดหนึ่งออกมา “ไม่มีเม็ด ทานด้วยกันกับเปลือกจะดีกว่า”
เจมส์กินอย่างมีความสุขมาก แต่เปลือกผลไม้ไม่สามารถรับได้จริงๆ “แอนน่า เปลือกผลไม้เปรี้ยว…” ในขณะที่พูดยังขมวดคิ้วเหมือนเด็ก ท่าทางแบบนั้นเห็นแล้วก็น่าเอ็นดูสงสาร
ลั่วหานดึงกระดาษทิชชู่ออกมาหนึ่งแผ่น “คายลงบนนี้ค่ะ”
“อื้อๆ!”
หลังจากนั้นสามสิบวินาที “แอนน่า ผมอยากดูหนัง”
ลั่วหานให้ipadกับเขา “อยากดูอะไรเลือกเองค่ะ”
เจมส์ไม่รับ “ไม่มีแรง คุณเลือกให้ผม ผมจะดูหนัง3 idiots ”
ลั่วหานเลือกหนังให้เขาเสร็จ “ได้แล้ว ดูเถอะค่ะ”
เจมส์กินไป ดูไป “แอนน่า ผม…”
ลั่วหานในที่สุดก็หมดความอดทน “เจมส์ ฉันขอเตือนคุณ อย่าได้คืบจะเอาศอก!”
เจมส์แบะปากอย่างได้รับความไม่เป็นธรรม “คุณดุผม…ผมคือผู้ป่วย คุณยังดุผม”
ลั่วหาน “…”
นับถือจริงๆ!
เงาร่างที่สูงใหญ่ของหลงเซียวปกคลุมแสงที่อยู่ด้านนอกประตูจนมืดมิด “เจมส์ ยังอยากได้อะไรอีก ผมช่วยคุณ”
เสียงที่ไพเราะทั้งยังเยือกเย็น เติมเต็มให้กับออร่าเจ้าของเสียง แค่ท่านเซียวปรากฏตัว บรรยากาศก็เปลี่ยนไป
เจมส์ใบหน้ามืดมนอย่างรู้กาลเทศะ “ไม่ต้องแล้ว”
หลงเซียวเดินเข้าไป นี่ถึงทำให้ได้เห็นว่าในมือของเขาจูงฟู้กุ้ยอยู่
“ผมกับแอนน่าจะออกไปข้างนอก ให้ฟู้กุ้ยอยู่เป็นเพื่อนคุณ”
ฟู้กุ้ยใช้ขนที่ราวกับผ้าไหมก็ไม่ปานถูไถเข้ากับมือของเจมส์อย่างอ่อนโยน
เจมส์ถูกบิดเบือนจนพอใจ
ดูแลเจมส์เสร็จ ลั่วหานออกจากห้อง ล้างมือ
“วันนี้ผมจะบินไปหางโจว ดูศูนย์แสดงนิทรรศการด้วยตัวเอง หกโมงกลับเมืองหลวง” บนโต๊ะอาหาร หลงเซียวบอกกำหนดการเดินทางของตนเองกับลั่วหาน
“ฉันต้องทำอะไรคะ?”
“อยู่บ้านรอผมกลับมาก็พอแล้ว ให้ผมเข้าประตูบ้านแวบแรกก็มองเห็นคุณ” แขนของหลงเซียวข้ามผ่านโต๊ะ บีบนิ้วมือของเธอเล็กน้อย
ลั่วหานใช้ปลายอีกด้านของส้อมกระทุ้งมือของเขาเบาๆ “คุยเรื่องที่เป็นทางการค่ะ เรื่องของหลงจื๋อและซีเหวิน เกรงว่าตระกูลหลินจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ ฉันกังวลว่าพวกเขาสองคนรับมือไม่ไหว”
“พวกเขาจะช้าจะเร็วต้องเติบโต เรื่องที่ตัวเองทำ ตัวเองต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา”
ลั่วหานมองดูห้องน้ำทางนั้น หยวนชูเฟินยังไม่มาทานอาหาร “ที่รัก วันนี้สีหน้าของแม่ดีมาก ให้ลุงส้งออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนท่านสิคะ?”
หลงเซียวสายตาหนักอึ้ง “ลั่วลั่ว?”
“แค่กๆ ฉันไม่ได้มีความหมายอย่างอื่นสักหน่อย นี่ไม่ใช่ว่าใกล้จะฤดูใบไม้ผลิแล้วหรอกหรอ!สรรพสิ่งฟื้นคืน ฤดูใบไม้ผลิกลับคืนมาอีกครั้ง!”
หลงเซียวกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ฤดูใบไม้ผลิของคุณกับของผมไม่เหมือนกัน ฤดูใบไม้ผลิของผมยังไม่ถึง”
ลั่วหานใช้เท้าถูไถขากางเกงของเขาที่อยู่ด้านล่างอย่างซุกซน “พูดมั่ว ฉันไม่ใช่ฤดูใบไม้ผลิของคุณหรอกหรอคะ?